กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 866 ผมจะให้ในสิ่งที่คุณต้องการ
เสิ่นเผยซวนก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อได้รับโทรศัพท์จากซางหยูก็รีบมาในทันที
ตอนนี้เขาก็ตื่นตระหนกเช่นกัน
“อย่ามัวเสียเวลาเลย พวกเราต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้” เสิ่นเผยซวนเอ่ย
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ” หลินซินเหยียนเพียงแค่สังเกตเห็นได้ว่าเหมือนจะเกิดเรื่องยุ่งๆขึ้น แต่ไม่ได้ยินคำพูดของเสิ่นเผยซวนที่กระซิบข้างหูจงจิ่งห้าว
“พวกเรากลับกันก่อนเถอะ” จงจิ่งห้าวเอ่ย
หลินซินเหยียนพยักหน้า สีหน้าเธอค่อนข้างซีด เห็นได้ชัดว่าตรอมใจเป็นพิเศษ ไม่กี่วันที่จงฉีเฟิงจากไป เธอก็ไม่ค่อยได้กินข้าว และพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ สีหน้าท่าทางจึงดูแย่เป็นอย่างมาก
ตอนที่ลงบันได เป็นเพราะฝนตกพื้นจึงลื่น เธอไม่ทันระวังเหยียบบริเวณริมขอบมากเกินไป เท้าเลยเคล็ด ร่างกายเอียงล้มลงไป โชคดีที่จงจิ่งห้าวเห็นแล้วรับเธอเอาไว้ได้ทัน จึงไม่ได้ล้มลงบนพื้น
ตัวเธอเองก็สะดุ้งตกใจ ภาพเบื้องหน้ามืดเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
เธอเอามือตบหน้าผาก
จงจิ่งห้าวโอบเอวเธอเอาไว้ขณะเดินออกจากสวนมรกต เขาเปิดประตูรถแล้วประคองเธอให้ขึ้นไปนั่งบนรถ จากนั้นก็อุ้มเด็กทั้งสองคนเข้าไป
“ซูจ้าน ฉินยา”
จงจิ่งห้าวมองไปทางพวกเขาสองคน “พวกนายช่วยพาพวกเขากลับไปยังคฤหาสน์หน่อย”
“คุณจะไปไหนหรือคะ” หลินซินเหยียนลดกระจกลง พลางเอ่ยถาม
“ผมกับเผยซวนมีธุระเล็กน้อย” จงจิ่งห้าวสีหน้าสงบนิ่ง เอ่ยกับเธอ “ผมเกรงว่าตอนที่พวกคุณกลับบ้านแล้วจะเกิดความสะเทือนใจ ไปพักที่คฤหาสน์สักสองวันก่อนเถอะ”
หลินซินเหยียนเอ่ย “ลูกน้อยยังอยู่ที่บ้าน ฉันไม่วางใจค่ะ”
เธออยากกลับไป
มือของจงจิ่งห้าวกำแน่นในทันที ลมหายใจปั่นป่วนพลุ่งพล่าน แต่บนใบหน้ายังคงไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ “วันนี้ไปที่คฤหาสน์ก่อนเถอะ”
เอ่ยจบแล้วก็ไม่ให้เวลาหลินซินเหยียนปฏิเสธ “พาลูกทั้งสองคนไปพักผ่อนให้ดี ฉินยา รบกวนเธอช่วยดูแลหน่อย”
“นายวางใจเถอะ” ฉินยาโค้งตัวขึ้นรถ
ซูจ้านเอ่ยว่า “พวกนายมีธุระเรื่องอะไรกัน ฉันไปกับพวกนาย…”
“นายก็ไปที่คฤหาสน์ด้วย” ล้วนมีแต่ผู้หญิงกับเด็กอยู่ที่คฤหาสน์ เขาไม่วางใจ จึงให้ซูจ้านตามไปด้วย
ซูจ้านเอ่ย “อย่างนั้นก็ได้”
หลังจากพวกเขาขึ้นรถไปแล้ว จงจิ่งห้าวกับเสิ่นเผยซวนก็รีบมุ่งหน้าตรงกลับบ้านในทันที
ซางหยูร้อนใจจนร้องไห้แล้ว
เดินไปเดินมาอยู่ในห้องรับแขก
เมื่อเห็นพวกเขากลับมาก็วิ่งมาหาทันที เมื่ออ้าปากก็ขอโทษไม่หยุด “ขอโทษนะ ขอโทษนะคะ…”
“อย่าเพิ่งเอ่ยขอโทษเลย ลูกน้อยหายไปได้อย่างไรกัน” เสิ่นเผยซวนยื่นมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าให้เธอ
“ฉันอยู่ดูแลลูกน้อยที่ชั้นบนตลอดเวลา ไม่มีใครมาทั้งนั้น แต่ประมาณก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ฉันลงมาดื่มน้ำที่ข้างล่างแล้วขึ้นไป ลูกน้อยก็หายไปแล้ว” ซางหยูเอ่ยอย่างเร่งรีบ
“คิดดูให้ละเอียดว่าไม่มีใครเข้ามาเลยหรือ” เสิ่นเผยซวนสอบถาม
เขากลัวซางหยูตื่นตระหนกมากเกินไปแล้วจะหลงลืมผู้น่าสงสัยไป
ซางหยูตื่นตระหนกมาก เธอดูแลลูกน้อย ลูกน้อยก็หายไปแล้ว นี่เป็นความรับผิดชอบของเธอ ถ้าหากว่าหาลูกน้อยไม่เจอ เธอจะเผชิญหน้ากับหลินซินเหยียนและจงจิ่งห้าวได้อย่างไร?
“ไม่ ไม่มี…” ซางหยูไม่เห็นว่ามีใครมา
จงจิ่งห้าวมองซางหยูแวบหนึ่ง รู้ว่าตอนนี้เธอตื่นตระหนกมาก ถามไปก็ไม่ได้อะไร จึงเดินตรงเข้าไปในห้องหนังสือ หน้าประตูบ้านมีกล้องวงจรปิด น่าจะสามารถเห็นว่ามีใครเข้าออกที่นี่บ้าง
เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ หน้าจอก็ดำมืด เห็นได้ชัดว่าถูกทำลายลงแล้ว
เสิ่นเผยซวนที่ยืนอยู่ข้างๆจึงเห็นด้วยเป็นธรรมดา “ดูท่าจะเป็นคนที่คุ้นเคยมาก” แม้ว่ากล้องวงจรปิดในบ้านจะมีตัวเดียวแต่ว่าถูกซ่อนเอาไว้อย่างดี ถ้าไม่ใช่คนที่เข้าออกบ้านบ่อยๆนั้นไม่สามารถค้นพบได้แน่นอน “จิ่งห้าว ขอโทษนะ”
เขากับซางหยูเป็นสามีภรรยากัน วันนี้เด็กหายไปแล้ว เขาก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
จงจิ่งห้าวหรี่ตาลงมองภาพดำมืดในหน้าจอ ไม่ได้สนใจเสิ่นเผยซวน ในใจก็คาดเดาว่า การที่จงหยุนเฉียงมาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ในพิธีศพเขาก็ยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลบ้าน ลูกน้อยก็หายไปแล้ว จะคิดอย่างไร เขาก็รู้สึกว่ามีความเกี่ยวข้องกัน
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ขณะที่กำลังจะโทรออกไปนั้น ซางหยูก็ผลักประตูเข้ามากะทันหัน
“ตอนบ่ายคนขับรถมา และยังมาดูลูกน้อยด้วย” ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่ได้คิดมาก ถึงอย่างไรก็เป็นคนจากคฤหาสน์ที่ติดตามมาที่นี่ น่าจะเป็นคนสนิทของจงจิ่งห้าว คุ้มค่าที่จะไว้วางใจ ตอนนี้คิดๆดูแล้ว เขาจะขึ้นมาที่ชั้นบนได้อย่างไรกัน?
มือที่ถือโทรศัพท์ของจงจิ่งห้าวสั่นเล็กน้อย ถามว่า “ประมาณตอนไหน”
“วันนี้ค่ะ” ซางหยูนึกย้อนความทรงจำ “ประมาณบ่ายสองกว่า ตอนนั้นเขาบอกว่า คุณให้เขาขึ้นมาดู”
เขาไม่ได้ให้คนกลับมาดูลูกน้อยเลยแม้แต่น้อย
“ฉันจะไปตามหาคน” ชายหนุ่มที่เป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดข้างกายจงจิ่งห้าวมาตลอดน่าสงสัยมาก
เสิ่นเผยซวนสีหน้าจริงจัง “ถ้าเขาทำจริงๆ ฉันจะจัดการเขาให้ตาย!”
ซางหยูเพิ่งเคยเห็นท่าทางเหี้ยมโหดเช่นนี้ของเสิ่นเผยซวนเป็นครั้งแรก จึงกลืนน้ำลายอึกหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
จงจิ่งห้าวไม่ได้หยุดเขา ตอนนี้ต้องตามหาคนก่อนจริงๆ ถึงจะหาเบาะแสเจอ
เสิ่นเผยซวนเดินไปถึงประตู เปิดประตูออก ก็เห็นว่าคนขับรถกำลังเดินมาทางนี้ เสิ่นเผยซวนรู้สึกประหลาดใจ ถ้าหากว่าเขาเป็นคนทำ ทำไมถึงยังกล้ามาปรากฏตัวในตอนนี้อีก?
“ผมอยากพบกับประธานจงครับ” คนขับรถเดินมาถึงด้านหน้าเสิ่นเผยซวน
เสิ่นเผยซวนพาเขาเข้าไปในห้องหนังสือโดยไม่พูดอะไร
ประตูห้องหนังสือไม่ได้ปิดสนิท ปิดไว้ครึ่งหนึ่ง เสิ่นเผยซวนไม่ได้เคาะประตูก็เปิดเข้ามาเลย จงจิ่งห้าวกำลังรับโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น ตอนที่มองไปทางคนขับรถก็มีไอสังหารพาดผ่านเบื้องลึกของนัยน์ตา
“นายกับฉันก็แซ่จง คุณปู่นายกับคุณปู่ฉันก็ปีนออกมาจากท้องแม่เดียวกัน อาศัยอะไรที่พวกนายได้ครอบครองหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนฉันมีเพียงแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์? อยากได้ลูกชายนาย ง่ายๆ มอบหุ้นที่เหลือมาให้ฉัน ฉันจะคืนลูกชายให้นาย”
ก่อนหน้านี้จงหยุนเฉียงไม่กล้าทำเช่นนี้ เป็นเพราะเขากลัวจงฉีเฟิง ให้ใครมาสะกดจิตเขาก็ไม่กล้ามีความคิดเล่นเล่ห์ ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน จงฉีเฟิงตายไปแล้ว!
“ผมจะให้ในสิ่งที่คุณต้องการ” จงจิ่งห้าวไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ในใจของเขา ลูกของเขาสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด
“ดี ให้เวลานายหนึ่งวัน เจอกันคืนพรุ่งนี้”
จงจิ่งห้าววางสายโทรศัพท์
เมื่อเสิ่นเผยซวนเดินออกไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ไม่ต่างจากการคาดเดาของจงจิ่งห้าวเลยแม้แต่น้อย
จงหยุนเฉียงเป็นคนใช้เล่ห์ร้ายลับหลังอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
“ประธานจง” คนขับรถคุกเข่าลงตรงหน้าโต๊ะทันที ผู้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล “ผมไม่มีทางเลือก พวกเขาจับภรรยาและลูกของผมมาขู่ผม ถ้าหากว่าผมไม่ทำ ภรรยากับลูกก็ไม่มีชีวิตแล้ว”
เดิมเขาใช้ลูกน้อยแลกภรรยากับลูกคืนมาแล้วก็สามารถจากไป ซ่อนตัวเอาไว้ หรือไม่ก็หนีไปให้ไกล ทว่าเขาไม่ได้ทำ และกลับมาสารภาพกลับจงจิ่งห้าวแทน
ตอนที่เขาตกอับที่สุด จงจิ่งห้าวให้โอกาสกับเขา ถึงได้มีชีวิตที่ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหารการกินอย่างในวันนี้ สามารถสร้างครอบครัวมีภรรยาและลูกชายอยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ เขารู้จักการสำนึกในบุญคุณ แต่ว่า ผู้อื่นใช้ชีวิตคนในครอบครัวมาข่มขู่ เขาจำเป็นต้องทำ
คนที่จงจิ่งห้าวกล้าให้อยู่ในบ้าน ก็เป็นคนที่เขาไว้ใจ ให้ค่าตอบแทนที่ดี ไม่เคยปฏิบัติต่อเขาอย่างขาดความยุติธรรม
ในวันนี้ถูกคนข้างกายหักหลัง จึงมีโทสะมากกว่าที่จะเข้าใจ
“มีคนข่มขู่นาย ทำไมไม่บอกฉัน?” เขาสีหน้าเฉียบขาด “ฉันจะไม่สนใจหรือไง”
“ผม…ไม่กล้าพูดครับ เพียงแค่ผมเอ่ยกับคุณ ภรรยาและลูกของผมล้วนจะไม่มีชีวิตอยู่” คนขับรถหมอบตัวโขกศีรษะอยู่บนพื้น
จงจิ่งห้าวถามเสียงเข้ม “วันที่พ่อฉันเสียชีวิตวันนั้น นายโทรศัพท์บอกเขา?”
“ครับ” คนขับรถไม่กล้าเงยหน้าขึ้น “เขาให้ผมจับตามองพวกคุณเอาไว้ เมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ให้บอกเขา”