กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 870 ไร้ซึ่งเสน่ห์ดึงดูดของผู้หญิง
เสิ่นเผยซวนกับกวนจิ้งแทบจะหลุบตาลงต่ำในเวลาเดียวกัน แกล้งทำเป็นเหมือนว่าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
หญิงสาวยิ่งกำเริบเสิบสาน ยื่นมือออกไปโอบเอวเขาเอาไว้ แนบร่างชิดเข้าไป “การแลกเปลี่ยนนี้ คุณไม่ได้เสียเปรียบ”
หญิงสาวมีความเชื่อมั่นว่าขอเพียงแค่เป็นผู้ชายที่ได้ผ่านประสบการณ์บนเตียงกับเธอมา ก็ล้วนหนีไม่พ้นเงื้อมมือเธอ
และไปจากเธอไม่ได้แน่นอน
“หนึ่งคืนแลกกับลูกชายคุณ คุณได้กำไรนะ ฉันให้คุณนอนกับฉัน ลูกชายของคุณก็หาเจอแล้ว เรื่องน่ายินดีขนาดนี้ทำไมถึงไม่ทำกันล่ะ? จากที่ฉันเห็น ภรรยาของคุณแห้งเหี่ยวจืดชืด ไร้ซึ่งเสน่ห์ดึงดูดของผู้หญิงจริงๆ ไม่สู้อยู่กับฉัน…ตึง…”
เธอยังเอ่ยไม่ทันจบ ทั้งร่างก็กระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับก้อนอิฐกองหนึ่ง หญิงสาวขดตัวกุมเอว เจ็บจนใบหน้าบิดเบี้ยว เอ่ยอย่างโหดเหี้ยมว่า “คุณมันไม่รู้จักดีชั่ว!”
“เผยซวน แงะปากเธอ” จงจิ่งห้าวเย็นชาเหี้ยมโหด
ดวงหน้างดงามของหญิงสาวซีดเผือด “คุณกล้า! หรือว่าคุณไม่อยากรู้ที่อยู่ของลูกชายคุณแล้ว?”
“ผู้หญิงอย่างคุณ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ให้เกียรติคุณ คุณก็ไม่คิดจะสนใจแล้วยังทำท่าได้ใจด้วย! ไม่รู้จักดีชั่ว!” กวนจิ้งรู้สึกว่าเธอน่ารังเกียจ มารดามันเถอะ มีผู้หญิงที่ไหนเห็นผู้ชายแล้วก็อยากจะขึ้นเตียงกัน? เห็นตัวเองเป็นสัตว์หรือไงกัน?
เสิ่นเผยซวนให้คนมัดหญิงสาวเอาไว้ใหม่ หญิงสาวดิ้นรน “พวกคุณกล้าแตะต้องฉัน ฉันสาบานว่า ชั่วชีวิตนี้ของคุณจะหาลูกชายคุณไม่พบ!”
ไม่รู้ว่าเสิ่นเผยซวนหยิบมีดออกมาเล่มหนึ่งตั้งแต่เมื่อไร ขนาดเล็กกว่ามีดผลไม้เล็กน้อย ทว่ามองดูแล้วคมมาก ใบมีดสะท้อนความเยียบเย็น
เขาแนบใบมีดเข้ากับใบหน้าของหญิงสาว ความเย็นยะเยือกของมีดแนบอยู่บนผิวหนังนั้นทำให้ความหวาดกลัวรินไหลออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หญิงสาวตัวสั่นไม่หยุด “คุณกล้า!”
“คุณว่าผมกล้าหรือไม่กล้า?” เสิ่นเผยซวนออกแรงหลายส่วนกดมีดลงบนใบหน้าเธอ
หญิงสาวตกใจจนน้ำตาใกล้จะร่วงหล่นออกมา “อย่า…”
แต่ว่าสายไปแล้ว เสิ่นเผยซวนกรีดลงไปแล้ว เลือดจากปากแผลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวเนียนของหญิงสาว คนประเภทนี้ต้องให้บทเรียนเธอสักหน่อย ไม่เช่นนั้นเธอจะคิดว่าพวกเขาไม่กล้าแตะต้องเธอ!
“อ๊า!” หญิงสาวกรีดร้องเสียงดัง
กวนจิ้งหาถุงมือข้างหนึ่งที่คนงานเคยใส่แล้วทิ้งเอาไว้บนพื้นมายัดปากเธอ
“คุณมีต้นทุนอะไรที่ใช้ยั่วยวนผู้ชาย วันนี้พวกเราจะทำลายมัน ผมอยากจะเห็นว่า จงหยุนเฉียงยังจะชอบคุณอยู่หรือไม่!” กวนจิ้งหยิบมีดมาจากมือของเสิ่นเผยซวน แล้วนำใบมีดสอดเข้าไปทางปกคอเสื้อของเธอ
ต้นทุนที่เธอใช้ยั่วยวนผู้ชาย นอกชายใบหน้ารูปไข่แล้วก็คือร่างกาย เมื่อทำลายใบหน้าและร่างกายไปแล้ว ดูสิว่าเธอยังจะมีอะไรไปยั่วยวนคนอีก!
“อื้อๆ…”
หญิงสาวสีหน้าซีดเผือด เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่า คนเหล่านี้จะโหดร้ายขนาดนี้
บนใบหน้ามีความเจ็บปวดเป็นระยะ
ถ้าหากว่าเธอถูกทำลายลง ก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าในปากมีเพียงแค่เสียงอื้อๆลอยออกมา
เธอส่ายหน้าสุดชีวิต คิดอยากจะพูด
กวนจิ้งกับเสิ่นเผยซวนแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น คนประเภทนี้ ไม่ให้บทเรียนกับเธอสักหน่อย เธอก็จะไม่พูด
“คุณพูดสิว่า ผมคว้านเนื้อชิ้นหนึ่งแล้วทิ้งรูโหว่เอาไว้ตรงนี้ จงหยุนเฉียงจะยังชอบคุณอยู่ไหม” กวนจิ้งจงใจจิ้มปลายมีดแหลมคมไปที่ผิวหนังของเธอ
หญิงสาวตกใจจนสติหลุด ทั้งร่างสั่นระริกไม่หยุด
“พูดหรือว่าไม่พูด” กวนจิ้งถามเสียงดังด้วยความเฉียบขาด
หญิงสาวพยักหน้า
เขาสบตากับเสิ่นเผยซวนแวบหนึ่ง ดึงสิ่งที่อยู่ในปากเธอออกมา “พูดเถอะ”
หญิงสาวมองไปทางกวนจิ้ง ถุยสิ่งสกปรกใส่หน้าเขา “ต่อให้ฉันตายก็ไม่พูด!”
เธอขึงตาใส่จงจิ่งห้าวด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “คุณอย่าได้คิดว่าจะเจอลูกชายคุณไปตลอดกาล!”
การกระทำของเธอนั้นอยู่นอกเหนือความคาดการณ์ของกวนจิ้งและเสิ่นเผยซวน
ปากแข็งจริงๆ!
หญิงสาวรู้ว่า ถ้าเธอพูดก็ออกมานั่นก็เป็นตอนที่จะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว รอจนพวกเขาหาเด็กเจอ ก็จะไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงอีก ตอนนี้ยังปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่ คิดอยากจะได้ข้อมูลจากปากเธอ
“ฉันหายตัวไปนานขนาดนี้ จงหยุนเฉียงจะต้องรู้ว่าฉันถูกแน่นอน เขาก็จะซ่อนเด็กไว้ในที่ที่ลึกลับยิ่งกว่าเดิม คุณก็หาไม่เจอ ฮ่าๆๆ…” หญิงสาวที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ราวกับคนบ้า!
ครืดๆ ในตอนนี้เองที่โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าของจงจิ่งห้าวสั่นขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา มองเบอร์ที่โทรเข้ามาก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของหลินซินเหยียน เขาเดินไปรับโทรศัพท์อีกทางหนึ่ง
เมื่อโทรศัพท์ถูกรับสาย หลินซินเหยียนก็ถามว่า “ลูกน้อยหายไปใช่ไหมคะ”
จวงจื่อจิ่นไปที่คฤหาสน์ในช่วงกลางวัน หลินซินเหยียนถามเธอว่าทำไมมาที่คฤหาสน์คนเดียว ใครดูแลลูกน้อย
จวงจื่อจิ่นพูดว่าลูกน้อยอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ
ก็เป็นแบบนี้ เรื่องที่จงจิ่งห้าวปิดบังเอาไว้ จึงถูกพวกเธอค้นพบเขา
“ทำไมคุณถึงไม่พูดล่ะคะ?!” หลินซินเหยียนที่เดิมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่เป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ จึงไม่มีพลังมากพอที่จะทำให้คนหวาดกลัว
เธอรู้ว่าไม่ควรทำแบบนี้ แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ใครก็ไม่อยาก แต่ว่าเธอเป็นห่วงมากเกินไป ลูกน้อยยังเล็กขนาดนั้น เธอถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “คุณอยู่ที่ไหนคะ”
“ข้างนอก” จงจิ่งห้าวหลุบตาลง
“สืบว่าลูกน้อยหายไปได้อย่างไรได้ชัดเจนแล้วใช่ไหมคะ” เธอถาม
“อืม”
“คุณอยู่ที่ไหนคะ” หลินซินเหยียนถามอีกครั้ง
“พักผ่อนอยู่บ้านดีๆ ผมจะหาลูกน้อยเอง…”
“ฉันจะสงบใจได้อย่างไรคะ” ตอนนี้เธอควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แม้แต่น้อย
“เยือกเย็นหน่อย”
“ลูกของฉันหายไป คุณจะให้ฉันเยือกเย็นได้อย่างไรกันคะ?” เป็นครั้งแรกที่เธอพูดจาเสียงดังขนาดนี้กับจงจิ่งห้าว เป็นเพราะได้รับความสะเทือนใจมากเกินไปจนหลุดการควบคุม “คุณอยู่ที่ไหนกันแน่คะ ฉันจะไปหาคุณ!”
“เวลาของพวกเรามีไม่มากแล้ว” เสิ่นเผยซวนเดินเข้ามา ผู้หญิงคนนี้ยินยอมตายไม่ยอมพูด
พวกเขาล้วนประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไป
“อีกครู่หนึ่ง ผมจะโทรกลับไป” เอ่ยจบจงจิ่งห้าวก็วางสายโทรศัพท์ ตอนนี้หลินซินเหยียนอยู่ในสภาพที่สะเทือนใจมากเกินไปอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่มีหนทางในการพูดคุยกับเธอ
“ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี” เสิ่นเผยซวนไม่มีความเห็นแล้ว “พวกเราจับเธอมานานขนาดนี้ เกรงว่าจงหยุนเฉียงคงจะพบนานแล้ว จะไม่เป็นผลดีต่อลูกน้อยหรือไม่”