กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 884 สามร้อยสามสิบล้าน
ของประมูลชิ้นแรกราคาสูงอย่างนี้ ไม่มีใครตะโกนราคากันออกมาเลยสักพักนึง
กู้เสียนรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของจงเหยียนซีผิดแปลกไป เอ่ยถามออกไปเสียงเบา “เธอเป็นอะไรไป?”
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ก็แค่จู่ๆก็เจอของที่ไม่ได้เจอมานาน ภายในใจก็เลยสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้นเอง เพียงแค่สั่นไหวออกมานิดหน่อย ไม่มีความรู้สึกอื่นใด
ในเวลานี้ที่ชั้นสองก็ได้มีเสียงของผู้ชายเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “สามสิบล้าน”
ในนาทีนั้นเองก็ได้ทำลายสถานการณ์ที่ทุกอย่างได้หยุดนิ่งไปในตอนนั้นไปทันที
สิ่งที่ยิ่งทำให้คนอื่นตกใจกันขึ้นมาก็คือ มันได้เพิ่มขึ้นมายี่สิบล้านทันทีเลย
เจียงโม่หานกำมือแน่น “ห้าสิบล้าน”
หลิงเวยเงยหน้าขึ้นไปมองเขา แล้วก็มองแหวนที่อยู่บนมือของนางแบบไปอีกที สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปย่ำแย่ขึ้นมาช้าๆ
เธอเองก็จำได้ว่าสิ่งนี้มันเป็นของของจงเหยียนซีด้วยเหมือนกัน
ที่ชั้นสองก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง “ร้อยล้าน”
อูววว~
เสียงคร่ำครวญดังขึ้นมา นี่มันบ้าไปแล้วหรือไง?
“สองร้อยล้าน” เจียงโม่หานมีสายตาจริงจัง วิธีการพูดที่แน่วแน่จะต้องเอามันมาให้ได้
ไม่มีใครตะโกนราคาออกมาเลย ราคานี้ออกมาจากพวกคนรวยที่มาร่วมงานเลี้ยง ถึงแม้ว่าจะมีเงิน แต่เงินพวกนั้นก็ไม่ได้เป็นเงินที่พายุพัดเข้ามาให้เสียหน่อย
พิธีกรเองก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาเหมือนกัน ของประมูลชิ้นแรกก็คึกคักขนาดนี้แล้ว เสียงดังกังวานออกมา “สองร้อยล้าน ยังใครให้สูงกว่านี้อีกมั้ยครับ?”
ไม่มีใครส่งเสียงออกมา
พิธีกรเอ่ยปากพูดออกมาอีกครั้ง “สองร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง สองร้อยล้านครั้งที่สอง สองร้อยล้าน…”
“สามร้อยล้าน” คนที่ข้างหลังตึกก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเวลาที่สำคัญ
ทุกคนต่างก็อยากจะลองดูสักหน่อยว่าคนที่อยู่ชั้นสองนี้เป็นใคร? เงินได้มาจากพายุพัดเข้ามา? สุดยอดขนาดนี้เลย? เงินพวกนี้มันเกินมูลค่าของแหวนวงนี้ไปตั้งนานแล้ว
“โม่หาน นี่มันไม่คุ้มค่าเลย คนที่อยู่ชั้นบนแม้แต่หน้าก็ไม่เปิดเผยออกมา ไม่แน่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการประมูลครั้งนี้จะต้องจงใจโก่งราคาการประมูลขึ้นมา…”
“สามร้อยสามสิบล้าน”
คำพูดโน้มน้าวของหลิงเวยยังไม่ทันได้พูดออกมาจนจบ ก็ได้ถูกเสียงของเจียงโม่หานเอ่ยตะโกนราคาขัดออกมาเสียก่อน
“ประธานเจียงช่างมั่งคั่งมากจริงๆ” มีคนยิ้มพลางพูดออกมา
แหวนวงนึงประมูลได้ถึงราคาที่สูงเสียดฟ้าได้อย่างนี้ พรุ่งนี้จะต้องออกข่าวอย่างแน่นอน
สายตาของจงเหยียนซีจรดอยู่ที่ร่างของชายที่ตะโกนราคาที่อยู่ข้างหน้าคนนั้น เขาคิดอะไรอยู่?
คนที่ได้สังเกตมองไปอย่างชัดเจนต่างก็รู้กันว่านี่มันเกินราคาของตัวสินค้าไปไกลแล้ว
หรือว่าเขาจะยังมีใจอยู่งั้นเหรอ?
ไม่ เขาไม่มีใจ
ถ้ามี ไม่มีทางปล่อยให้เธอตายหรอก!
ในตอนนี้มันก็แค่ทำให้ตัวเองสบายใจไปก็เท่านั้นเอง
เพียงแต่เธออยากรู้ว่าคนที่ตะโกนราคาที่ชั้นสองนั้นเป็นใครกันแน่? เธอเงยหน้าขึ้นไป ด้านบนตึกก็ไม่ได้มีการเปิดออกสู่ข้างนอก เธอจึงไม่ได้เห็นคนที่ตะโกนราคาออกมา
“ด้านในนี้จะต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ” กู้เสียนเองก็คิดว่านี่เป็นแผนที่ทางผู้จัดได้จงใจจัดเตรียมเอาไว้ด้วยเหมือนกัน
“เบื้องหลังอะไร?” จงเหยียนซีถามออกไป
“จงใจตะโกนราคา โก่งราคาประมูลให้สูงขึ้นไง”
“แต่ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ” คนที่ไม่มีจิตใจจดจ่อกับอะไรเลยเหมือนกับลิงคนนั้นเนี่ยนะ? จะมาแข่งกับคนที่อยู่ชั้นบนงั้นเหรอ?
เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้ คนที่อยู่ชั้นบนเหมือนกับว่าจะคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเจียงโม่หานจะต้องตะโกนราคาออกมาแน่ๆ จึงได้ตะโกนราคาออกมา
“สามร้อนสามสิบล้านครั้งที่หนึ่งสามร้อยสามสิบล้านครั้งที่สอง…” ยิ่งตะโกนไปถึงท่อนหลัง เสียงของพิธีกรก็ยิ่งช้าลง “สามร้อยสามสิบล้าน…ครั้งที่สาม! ยินดีกับประธานเจียงด้วยครับ! ในขณะเดียวกันก็ขอขอบคุณประธานเจียงที่ได้ทำบุญเพื่อการกุศลในเย็นวันนี้ด้วยครับ ตอนนี้ขอเชิญนางแบบส่งแหวนวงนี้ให้กับประธานเจียงด้วยครับ”
นางแบบถอดแหวนในมือออก วางลงไปในกล่องกำมะหยี่กล่องนึง ถือถาดประคองเอาไว้บนฝ่ามือ เดินไปทางเจียงโม่หาน
หลิงเวยกำมือแน่น มันตายไปแล้ว ทำไมยังตามมาหลอกหลอนเขาอีก?
“ประธานเจียง” นางแบบประคองถาดมายังตรงหน้าเธอ
เจียงโม่หานยื่นมือไปหยิบแหวนขึ้นมา กำอยู่ในมือ แล้วเก็บเข้ากระเป๋าไป
บนใบหน้าของเขาสงบนิ่งสุดๆ จะมีก็แต่มือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋าได้กำแน่นเข้าด้วยกัน แหวนอยู่ในกำมือของเขาแน่นจนราวกับว่าจะฝังเข้าไปในเนื้อของเขา
“ของประมูลชิ้นต่อไป ขอเชิญนางแบบมาครับ”
เพียงไม่นานในมือของนางแบบก็ได้ถือภาพภาพหนึ่งขึ้นมา
พิธีกรแนะนำเบื้องหลังของภาพภาพนี้ ว่าใครเป็นคนวาด
ผลงานภาพเขียนของคนมีชื่อเสียงราคาขั้นต่ำมันก็สูงอยู่แล้ว กู้เสียนไม่มีความสนใจ เขาเป็นตัวแทนบริษัท ไม่ได้มาเป็นการส่วนตัวจะไปประมูลซี้ซั้วไม่ได้ ต้องเจอของที่มีราคาที่เหมาะสมก่อนถึงจะตะโกนราคาออกไป
จงเหยียนซีเป็นคนที่มาเป็นเพื่อนเขา แน่นอนว่าไม่ได้มีความสนใจด้วยเช่นกัน ลากเขาไปยังจุดที่มันเงียบๆ
“นายเคยเห็นแหวนวงนั้นมาก่อนมั้ย?”
กู้เสียนส่ายหน้าออกมาตามตรง
จงเหยียนซีคิดในใจว่าหรือว่าจะถูกใครเก็บได้ แล้วไม่ยึดเป็นของตัวเองเลยเอาไปบริจาคแทนงั้นเหรอ?”
ไม่งั้นแล้วเธอก็คิดหาคำอธิบายอื่นไม่ออกแล้ว
“คนที่ตายไปเมื่อตอนนั้น นายยังสืบหาไม่เจอว่าเป็นใครใช่มั้ย?” เมื่อตอนนั้นเธอจำเป็นต้องออกไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ จึงใช้ตอนที่กู้เสียนยังไม่ได้ทำอะไรให้ชัดเจน เธอก็ได้ไปเสียแล้ว
หลังจากนั้นก็ไม่ได้เอ่ยขึ้นมาอีก
กู้เสียนพยักหน้า “ไม่เจออะไรเลย”
จงเหยียนซีขมวดคิ้วออกมา ไม่เกี่ยวกับเธอ แต่กลับมาตายอยู่ในกองเพลิงที่ครอกเธอ?
เธอมักจะคิดว่าในเรื่องนี้มันมีจุดที่แปลกๆ ว่ากันตามหลักแล้ว ทางฝั่งตำรวจจะประกาศตัวตนของผู้ตาย แต่กลับไม่มี
“ของประมูลชิ้นนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่สามแสนครับ”
ได้ยินเสียงกู้เสียนมองเข้ามา ราคาต่ำเหมาะกับการตะโกนประมูลราคา ไม่อาจมาแล้วไม่ประมูลอะไรเลยสักอย่างได้
“ฉันไปห้องน้ำก่อน” จงเหยียนซีมองออกว่าเขาสนใจ จึงได้จบการสนทนาไป เหยียบรองเท้าส้นสูงเดินไปทางห้องน้ำ
ในตอนนี้ภายในห้องน้ำหลิงเวยได้มองตัวเองในกระจก ใบหน้าที่สวยหยดย้อย รูปร่างผอมเพรียว เธอคิดว่าตัวเองไม่ได้แย่ไปกว่าจงเหยียนซีตรงไหนเลย ทำไมในสายตาของเจียงโม่หานจึงมองไม่เห็นเธอ?
“จงเหยียนซี แกก็ได้ตายไปแล้ว ทำไมยังจะมาแย่งกับฉันอีก?!”
เธอไม่ยอม ไม่ยอมเลยจริงๆ ทำไปตั้งมากมายสุดท้ายก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
“ฉันควรจะฆ่าไปให้เร็วสักหน่อย! อย่างนี้แล้วแกจะได้ไม่มีโอกาสเข้าไปอยู่ในใจของเขา!”