กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 888 ได้รู้ความจริง
เจียงโม่หานเดินเข้ามาแล้วมองไปทางโปสเตอร์หนังหลายเรื่องที่ติดอยู่ที่ประตูทางเข้าโรงหนัง
“มาดูหนังคนเดียวเหรอครับ?” เขาถาม
จงเหยียนซียิ้มออกมา “ที่นี่มันก็ไม่มีใครที่จะมาดูหนังเป็นเพื่อนฉันได้เหมือนกันมั้ยล่ะคะ?”
“ดูเรื่องไหนครับ?” จู่ๆเขาก็อยากรู้ขึ้นมา เรื่องที่เธอจะดูคนเดียวเรื่องนั้น
เดือนนี้มีหนังเข้าฉายอยู่สามเรื่อง มีทั้งหนังแบบไซไฟและก็มีหนังเกี่ยวกับความรักด้วย
จงเหยียนซีหันไปมองพลางพูดออกมา “เรื่องหวานนักวันรักแรกค่ะ”
“คุณหลินมีแฟน?” เขาถามออกมาอีกครั้ง
“ทำไมคะ ประธานเจียงสนใจเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของฉันเหรอคะ?” เธอยิ้มสวยออกมา
เจียงโม่หานเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้ถามออกไปมากมายอย่างนี้
คำพูดพวกนี้เหมือนกับพูดออกไปโดยไม่ผ่านสมองเลยก็ไม่ปาน
“เสียมารยาทแล้ว” เขาเก็บสีหน้า “ดึกมากแล้ว คุณหลินรีบกลับไปพักผ่อนเถอะครับ”
พูดจบเขาก็เดินไปที่รถ
จงเหยียนซียืนอยู่ตรงที่เดิม มองเงาร่างที่เดินออกไปของเขา จู่ๆก็ได้เอ่ยออกไป “ประธานเจียง เคยรักใครมาก่อนหรือเปล่าคะ?”
ฝีเท้าของเจียงโม่หานได้หยุดชะงักไปอย่างกะทันหัน ค่อยๆหันกลับมาช้าๆ
“นี่มันไม่เกี่ยวกับงาน ประธานเจียงจะไม่ตอบก็ได้นะคะ เพียงแต่หนังวันนี้ไม่เลวเลยทีเดียว ถ้าประธานเจียงมีเวลา ก็สามารถดูเพื่อความบันเทิงสักหน่อยก็ได้นะคะ” พูดจบเธอก็ผันร่างเดินออกไปยังทิศทางที่ตรงกันข้ามกับเขา
ในนาทีนั้นเอง เธอเพียงแค่อยากรู้ว่าในช่วงเวลาที่เขากับเธออยู่ด้วยกัน เคยหวั่นไหวกับเธอบ้างหรือเปล่า
จะเคยหวั่นไหวมาบ้างหรือเปล่าแล้วมันจะยังไง? มันสามารถเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?
เธอยิ้มเยาะตัวเอง เงยหน้าขึ้นไป แผ่นหลังเหยียดตรง
เจียงโม่หานยืนอยู่ตรงที่เดิม สายตาเลื่อนไปที่บนโปสเตอร์หนังเรื่องหวานนักวันรักแรกเรื่องนั้น
ก็คงจะเป็นเรื่องที่บรรยายเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคู่รักวัยเด็ก ดังนั้นแล้วบนโปสเตอร์ก็เลยใช้ภาพเด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงมาเป็นภาพหลัก
เขามองจ้องเงาร่างที่เดินออกไปของหลินลุ่ยซี แต่กลับเอาไปเงาร่างของเธอมารวมกับผู้หญิงอีกคนอย่างอธิบายไม่ถูก
ทั้งๆที่เธอไม่ใช่เธอ ทำไมถึงได้เอาเธอกับเธอมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันตลอดเลยนะ?
เขาไม่ได้ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย เธอก็คือเธอ ไม่ชอบให้เธอถูกใครมาแทนที่!
เขาขึ้นรถไปแต่ก็ไม่ได้สตาร์ทรถไปโดยทันที แต่ได้หันหน้าไปมองโปสเตอร์แผ่นนั้น
ตอนที่เจอเธอครั้งแรก เธอเองก็มีอายุน้อยๆอยู่เหมือนกัน
ยิ้มขึ้นมาแล้วจะทำให้คนอื่นรู้สึกอบอุ่นและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาขึ้นมา
สายตาของเขาล้ำลึกลงไปอีกหลายส่วน และได้ประดับไปด้วยความรู้สึกที่แท้จริงที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่สังเกตเห็น
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ยิ้มของเธอได้เข้าไปอยู่ในใจของเขาเรียบร้อยแล้ว หยั่งลึกแตกหน่อออกมา โดยที่ไม่ว่าเขาจะไปทำเป็นไม่สนใจมันแค่ไหน มันก็ไม่อาจลืมไปได้เลย
ทุกครั้งที่คิดขึ้นมา หัวใจก็รู้สึกเจ็บไปหมด
ผ่านไปนาน กว่าเขาจะสงบอารมณ์ของตัวเองลงได้แล้วสตาร์ทรถขับออกไป
วันต่อมา
จงเหยียนซียังอยู่ในห้วงความฝัน ก็ได้ถูกเสียงริงโทนโทรศัพท์ดังปลุกขึ้นมา เขาคว้าโทรศัพท์มารับสาย เสียงกู้เสียนดังเข้ามาจากทางปลายสาย “รีบดูข่าวเร็ว”
“ข่าวอะไร?” เธอตื่นขึ้นมาบ้างแล้ว
“ข่าวฉาวของสามีเก่าของเธอไง” เสียงทางปลายสายที่ดังเข้ามามีการเย้าหยอกออกมาเล็กน้อย
เธอลุกขึ้นมานั่ง ขยี้ตาออกมาเล็กน้อย
“ตกลงแล้วมันเป็นข่าวฉาวอะไรกันแน่?”
ทางกู้เชาได้วางสายไป แล้วเอาข่าวของวันนี้ส่งมาที่โทรศัพท์ของเธอ เธอกดเปิดลิงค์ เขียนพาดหัวข่าวตัวโตๆเอาไว้ว่า 【ท่านประธานของเหิงคังกรุ๊ป ‘แสดงพฤติกรรมติดเรท’กับสาวสวยที่ร้านกลางคืน】 ด้านล่างยังมีภาพเจียงโม่หานเตะผู้หญิงประกอบมาด้วย
กู้เสียนส่งข้อความเข้ามา เย้าหยอกออกมาว่า 【สามีเก่าของเธอทำไมแม้แต่ผู้หญิงก็ยังทำร้ายได้? อารมณ์ร้อนอะไรขนาดนั้น เคยทำร้ายเธอมาก่อนหรือเปล่า? 】
จงเหยียนซีไม่ได้สนใจ อ่านข่าวนี้ต่อไป ปกติแล้วอย่างข่าวจำพวกนี้ล้วนแล้วจะใส่สีตีไข่เอาทั้งนั้น เพื่อเรียกความสนใจจากเหล่าผู้คนมา
เนื้อหามีความหมายประมาณว่าหลังจากหลับนอนกับสาวสวยแล้ว ตกลงราคากันไม่ได้เลยลงไม้ลงมือกัน
บนใบหน้าของจงเหยียนซีไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา เพียงคิดว่ามันน่าตลก
เจียงโม่หานในตอนนี้ขาดแคลนเงินเหรอ? ถึงต้องลงมือต่อหน้าผู้คนมากมายเพราะเงิน
【เธอคงไม่ได้เสียใจอยู่หรอกใช่มั้ย? 】กู้เสียนไม่เห็นเธอตอบข้อความกลับมา ก็ได้ส่งข้อความมาอีก
จงเหยียนซีตอบเขาไปข้อความนึง 【ทำไมฉันถึงต้องเสียใจด้วย? 】
【สามีเก่าของเธอตกต่ำถึงขนาดที่ไปหาผู้หญิงที่ร้านกลางคืนแล้ว? เธอไม่เสียใจ? 】
【นายก็พูดอยู่นี่ว่าสามีเก่าไม่ใช่หรือไง? 】
ในเมื่อเป็นสามีเก่าก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว
【เอาเถอะ ขอให้วันนี้เธอผ่านไปอย่างมีความสุขแล้วกัน】
จงเหยียนซีวางโทรศัพท์ลง ลุกขึ้นจากเตียง วันนี้เธอยังมีเรื่องที่ต้องทำ
เธอล้างหน้าแปรงฟันสวมใส่เสื้อผ้า ออกจากบ้านไป ตอนนั้นเป็นหลิงเวยทำร้ายเธอ อยากให้เธอได้รับบทลงโทษที่สมควรจะได้รับ ก็ต้องหาหลักฐานที่เธอทำร้ายคนของเมื่อตอนนั้นให้เจอ
แต่เธอไม่มีเบาะแส และก็ไม่กล้าจะติดต่อคนพวกนั้นด้วย กลัว เธอกลัวว่าจะถูกพ่อแม่รู้
เธออยากแก้แค้นด้วยตัวเอง ตอนนี้ทำได้แค่ใช้วิธีที่โง่เง่าที่สุด
บ้านที่เธอกับเจียงโม่หานอยู่เมื่อก่อน ระบบป้องกันขโมยของที่นั่นทำงานได้ดีมาก ทุกคนที่เข้าออกล้วนมีการบันทึกเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหน เธอเองก็อยากจะไปดูสักหน่อย ถ้าเกิดมีล่ะ?
ดังนั้นแล้วกินข้าวเช้าเสร็จแล้วเธอก็ไปที่บ้านเก่าที่เคยอยู่กับเจียงโม่หาน
เพียงแค่หนึ่งปี ที่นี่ก็เงียบเหงารกร้างจนไม่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว ในลานบ้านมีใบไม้ร่วงอยู่เต็มพื้น สนามหญ้าเนื่องจากที่ไม่มีคนมาตัดแต่งก็เลยงอกยาวมาก ใบไม้แหลมออกมาเหมือนกับเม่นที่ทั้งบางและทั้งแหลมคม
เธอลองใช้รหัสเดิมปลดล็อก แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอหย่ากับเจียงโม่หานไป เจียงโม่หาน ก็ได้ย้ายออกไปจากที่นี่เหมือนกัน ทั้งยังไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนรหัส แป๊บเดียวก็เปิดออก เธอผลักประตูเดินเข้าไป
ยืนอยู่ภายในลานบ้าน เธอเกิดความรู้สึกเหมือนอยู่คนละโลกขึ้นมา เมื่อก่อนเธอเคยคิดว่าตนจะอยู่ที่นี่กับเขาอย่างมีความสุขไปจนแก่เฒ่า
แต่มาตอนนี้ มันกลับเป็นความโหดร้ายเสียอย่างนั้น
เธอเก็บความรู้สึกเอาไว้ เดินไปที่หน้าประตูวิลล่าแล้วเปิดประตูออก รหัสไม่ได้เปลี่ยนไปเหมือนกัน ยังคงเป็นรหัสเดิมอยู่
ประตูบานใหญ่เปิดออก ภายในบ้านเย็นยะเยือก ข้าวของทั้งหมดภายในบ้านล้วนแล้วแต่จะมีฝุ่นเกาะหนาเตอะไปแล้วทั้งนั้น
ตอนที่แต่งงานกับเขา บ้านที่เธอใฝ่ฝันในตอนนี้มันกลับมีสภาพอย่างนี้ไปแล้ว
จู่ๆดวงตาก็เหมือนจะร้องไห้ขึ้นมา อยากจะร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว
ร้องไห้กับความโง่งมของตัวเอง ร้องไห้ให้กับความไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรของตัวเอง!
เธอสูดจมูกเล็กน้อยแล้วเดินไปที่ห้องทำงาน มอนิเตอร์สังเกตการณ์และระบบป้องกันขโมยทั้งหมดของวิลล่าจะมีการควบคุมอยู่ที่ห้องทำงานทั้งหมด
เธออาศัยอยู่ที่นี่มาสามปี เธอรู้เค้าโครงการทำงานทั้งหมดดี
เปิดประตูห้องทำงานแล้วเธอก็เดินเข้าไป เดินเข้าไปยังหน้าคอมพิวเตอร์บนโต๊ะหนังสือ แล้วเปิดเครื่อง
เจียงโม่หานไม่อยู่ที่นี่ น้ำไฟที่นี่เชื่อมผ่านไปหมดแล้ว นอกจากจะมีฝุ่นเกาะ ทั้งหมดก็ดูเหมือนเก่า
เพียงไม่นานหน้าจอคอมก็สว่างออกมา
เธอกดเปิดระบบมอนิเตอร์กล้องวงจรปิด ในการค้นหาช่วงเวลา แล้วก็กรอกช่วงเวลาที่เธออยากดูไป
แต่กล้องวงจรปิดในวันนั้น มีเพียงตอนที่เธอถูกพาตัวไปตรงช่วงนั้นที่ถูกลบไป
ตอนนี้คิดขึ้นมาแล้วมันก็ใช่ หลิงเวยทำเรื่องชั่วๆ จะให้ไม่สะสางเช็ดล้างสิ่งที่ได้ทำไม่ดีเอาไว้ให้เกลี้ยงได้ยังไงกันล่ะ?
ขอเพียงแค่เธอทำเรื่องชั่วๆลงไป ก็จะต้องสามารถเจอเบาะแสได้อย่างแน่นอน เบาะแสนี้ไม่มี ก็ยังมีคนที่หลิงเวยจ้างไปลักพาตัวเธอเมื่อตอนนั้นอยู่
มันจะต้องหาเบาะแสอะไรได้อยู่แล้ว
เธอปิดคอม ตอนที่กำลังเตรียมที่จะไป ก็ไม่ระวังไปชนเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงลงไป
ตกลงพื้นไปเสียงดังปัง ฝุ่นฟุ้งขึ้นมา
เธอก้มลงไปเก็บขึ้นมา แต่ด้านในกลับมีภาพภาพหนึ่งร่วงลงมา ตอนที่เธอเห็นภาพ ดวงตาก็มีความประหลาดใจออกมา เธอหยิบขึ้นมาบนภาพเป็นภาพที่ผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่
สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจเลยก็คือนึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคุณน้าหวาง แต่คนที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอนั้นเป็นเจียงโม่หานตอนเด็ก
เธอทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้
เธอเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าความเกลียดที่เจียงโม่หานมีต่อเธอมันมาจากไหน
เขานึกว่าบ้านของพวกเธอเป็นคนทำร้ายแม่ของเขางั้นเหรอ?!
เขาคิดอย่างนี้?
ก็เลยมาแต่งงานกับเธอ ตั้งแต่แรกก็คือเขาได้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว?
ทั้งหมด ล้วนแล้วเป็นแผนแก้แค้นของเขาทั้งนั้น?
ส่วนเธอก็เป็นหมากตัวหนึ่งในแผนการนี้?
สิ่งที่เธอเรียกว่าความรัก มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาจงใจสร้างมันออกมา เพื่อให้เธอได้เป็นเหยื่อในการโดนหลอก?
เหอะๆ——
“เจียงโม่หานหนอเจียงโม่หาน คุณหลอกฉันเสียเจ็บมากเลย ตกลงแล้วฉันมันโง่ขนาดไหนกัน ถึงได้เชื่อใช่คุณได้ถึงขนาดนั้น? ถึงได้คิดอยากจะคลอดลูกคุณสักคน?”
เธอเงยหน้าขึ้นไป อยากจะบังคับให้น้ำตามันไหลกลับไป แต่ว่าไม่ว่ายังทำยังไงมันก็ควบคุมเอาไว้ไม่อยู่เลย “คุณใช้ชีวิตอยู่กับฉันสามปี คุณไม่รู้จักฉันสักนิดเลยเหรอ? คุณรู้หรือเปล่าว่าฉันเกือบตายในอุบัติครั้งนั้นแล้ว? คุณอาเสิ่นเองก็หนีตายออกมาได้ด้วยนี่? ทำไมคุณถึงได้คิดว่าพวกเราเป็นคนทำร้ายแม่ของคุณกันล่ะ?!”
เธอกุมหัวใจเอาไว้ ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีวิธีที่จะสงบลงเป็นปกติได้รับรู้ความรู้สึกที่แท้จริง เธอเจ็บปวด เจ็บที่เขาไม่ได้รู้จักเธอเลยสักนิดเดียว เจ็บที่เขาคิดไปว่าตนเป็นอย่างนั้น
“ฉันกลับไปมีความเชื่อใจให้ผู้ชายที่ไม่เคยมีความเชื่อใจฉัน เคยรักฉันมาก่อนเลย คิดเพ้อฝันไปว่าอยากจะอยู่คู่กับเขาไปตลอดชีวิต?”
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่เต็มไปด้วยฝุ่นอยู่นาน นานจนน้ำตาบนหน้าของเธอแห้งไปหมดแล้ว เธอเอาภาพสอดกลับลงไปในหนังสือ วางกลับไปที่เดิม ลุกขึ้น สุดท้ายก็มองไปที่ห้องแห่งนี้ พลางแสยะริมฝีปากออกมาเบาๆ จบแล้ว ทั้งหมดมันจบแล้ว
นับตั้งแต่นี้ไป คุณฉันเราเป็นศัตรูกัน!
เธอเหยียดตัวตรงก้าวเดินออกไป
ตอนที่ปิดประตูโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา เป็นสายที่กู้เสียนโทรเข้ามา
เธอรับสาย “มีธุระเหรอ?”
“โทรหาเธอไปกินข้าวด้วยกัน”
“นายว่างขนาดนั้นเลยเหรอ?” จงเหยียนซีเดินไปพลางคุยไปพลาง
“เฮ้ ฉันกลัวว่าเธอเพิ่งกลับประเทศมาแล้วยังปรับตัวไม่ได้ ก็เลยอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเธอสักหน่อย แต่ผลคือเธอกลับไม่เห็นความหวังดีของคนอื่นเขา ช่างเถอะ ถือเสียว่าฉันไม่ได้โทรมาแล้วกัน…”
“ฉันผิดเอง” จงเหยียนซีขอโทษออกมาก่อนทันที “ฉันอยู่ นายมารับฉันหน่อย”
เธอบอกที่อยู่ไป
ที่แห่งนี้อยู่ไกลไปบ้าง ตัววิลล่าสร้างอยู่ในที่ที่ติดกับภูเขาหันหน้าไปทางทะเล เงียบสงบ บรรยากาศดี วิวดี อย่างเดียวที่มันไม่ดีก็คือห่างจากตัวเมืองไกลไปหน่อย
กู้หลีพูดว่ารอก่อนมาคำนึง ฉันจะไปถึงอีกไม่นาน หลังจากนั้นก็วางสายไป
เธอเดินอยู่ตามขอบถนน
บนถนนสายนี้มีคนน้อยมาก เงียบวิเวกมาก
ตอนที่ผ่านรงทางแยกมา เธอก็เห็นรถของหลิงเวย ยังเป็นรถพอร์เชอสีแดงคันนั้นของเมื่อหนึ่งปีก่อนอยู่ เธอมาปรากฏตัวที่นี่ทำไมกัน?