กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 889 สิ่งที่ได้มาเยอะมาก
เธอเดินเข้าไป ถือโอกาสเอาโทรศัพท์มาตั้งโหมดเงียบเอาไว้ เผื่อว่าถ้าเกิดกู้เสียนโทรเข้ามา
เดินอยู่บนถนนมันเห็นชัดเกินไป เธอเดินเข้าไปใกล้รถสีแดงคันนั้นจากในพงหญ้าที่อยู่ตรงตีนเขา
ตอนนี้เธอจึงได้สังเกตเห็นตรงหน้ารถคันสีแดงว่ายังมีรถออฟโรดคันสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ด้วย
“คุณนัดมาที่บ้าอะไรกันเนี่ย?” ชายคนนั้นสวมแว่นกันแดดอันใหญ่มาก ในน้ำเสียงได้มีความหงุดหงิดอยู่หลายส่วน
หลิงเวยเอ่ย “ฉันต้องการกำลังคน จะยืมคนสักสองสามคน นายสบายใจได้ เงินไม่ใช่ปัญหา”
ชายคนนั้นส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา “ฉันไม่กล้าให้เธอยืมคนไปอีกแล้ว เมื่อปีที่แล้ว สองคนที่ฉันให้เธอยืมไป หายสาบสูญไปจนถึงตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอเลย ฉันไหนเลยจะไปกล้าให้เธอยืมอีก?”
“คนของนายหายสาบสูญไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน อีกอย่าง ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้เงินนายเสียหน่อย ทำไม มีงานแล้วจะไม่ทำ?” หลิงเวยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากอดอก “ครั้งนี้ฉันจ่ายให้มากกว่าเดิม”
ชายคนนั้นถอดแว่นกันแดดออก มองไปทางหลิงเวย “ครั้งนี้เธอทำไปทำไมอีก?”
“นี่เป็นเรื่องของฉัน นายไม่ต้องมายุ่ง แค่ยืมคนมาให้ฉันก็พอแล้ว” เธอเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจอย่างมาก “ฉันกับนายยังไม่วางใจกันอีกเหรอ?”
ชายคนนั้นไม่ได้ตอบรับออกมาโดยทันที ยังคงครุ่นคิดอยู่
เรื่องเมื่อหนึ่งปีก่อน เขามักจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่ตลอด สองคนนั้นที่ให้เธอยืมไป หายสาบสูญไป ไม่ว่าเขาจะหายังไงก็ไม่เจอเบาะแสอะไรเลย
“ครั้งนี้ล้านนึง” หลิงเวยเพิ่มเงินต่อรองขึ้นมา
เมื่อปีที่แล้วแค่ห้าแสน
จงเหยียนซีที่หลบอยู่ในพงหญ้าจู่โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็สว่างออกมา กู้เสียนมาถึงที่อยู่ที่เธอบอกไปแล้ว แต่ผลกลับไม่เจอใครเลย
จงเหยียนซีเห็นหน้าจอโทรศัพท์สว่างออกมา ก็กุมอกเอาไว้ ใจหายใจคว่ำไปหมดแล้ว โชคดีที่เธอปิดเงียบเอาไว้ก่อนแล้ว ไม่อย่างนั้น…
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ กดวางสายไปแล้วมองดูพวกเขาต่อ
ชายคนนั้นเหมือนกับว่าจะสับสนเล็กน้อย เงื่อนไขที่หลิงเวยให้มามันดึงดูดใจมาก แต่ก็กลัวจะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก ครุ่นคิดอยู่ครู่นึง “ได้ แต่คนของฉันเธอต้องคืนกลับมาในสภาพที่สมบูรณ์ด้วย”
หลิงเวยตอบรับออกไป “ได้”
“พรุ่งนี้ฉันจะส่งคนสองคนไปให้เธอ” พูดจบเขาก็เปิดประตูรถขึ้นรถไป
หลิงเวยมองหน้าหลังเล็กน้อย เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครก็ได้ขึ้นรถไปเหมือนกัน เพียงไม่นานจงเหยียนซีก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถ
รอจนพวกเขาออกไป เธอก็ได้เดินออกมาจากพงหญ้า
บทสนทนาของพวกเขาเธอได้ยินมันทั้งหมด
ความหมายคร่าวๆคือเมื่อหนึ่งปีที่แล้วคนที่ปลอมตัวเป็นคนที่เจียงโม่หานส่งมา เป็นคนที่หลิงเวยหามาผ่านทางผู้ชายคนนี้
ครั้งนี้ เธอหาคนมาเพื่อที่จะทำร้ายใครอีก?
คิดไปแล้วในใจของเธอก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาชั่วขณะ เมื่อก่อนทำไมเธอถึงไม่สังเกตเห็นเลย? นึกไม่ถึงว่าหลิงเวยจะเป็นคนมีจิตใจโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้?
ตอนนี้หน้าจอโทรศัพท์ของเธอก็สว่างออกมาอีกครั้ง เธอรีบกดรับไปทันที น้ำเสียงร้อนใจของกู้เสียนที่อยู่ทางปลายสายดังเข้ามา “ตัวเธออยู่ไหนล่ะ?”
“ฉันใกล้จะถึงแล้ว” เธอรีบเดินไปยังปากทางทันที
กู้เสียนยืนอยู่ข้างๆรถร้อนใจจนเดินวนไปมา “เธอไปไหนมา?”
“ฉัน…ถูกเรื่องนิดหน่อยมาทำให้เสียเวลาไปน่ะ”
จงเหยียนซีเอ่ยออกไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างมาก
“เธอทันใจหายใจคว่ำไปหมด รู้หรือเปล่า?” กู้เสียนมองเธอ “เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
เธอส่ายหน้าออกมา “ไม่เป็นไร”
“ฉันยังนึกอยู่เลยว่าเธอจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นมาอีก เห็นเธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รีบขึ้นรถเถอะ” กู้เสียนเปิดประตูรถให้เธอ
จงเหยียนซีเดินเข้าไปข้างหน้าเขา เอ่ยออกไปด้วยใจจริง “กู้เสียน ขอบคุณนายนะ”
“กระตุ้นความรู้สึกคนอื่นเขาให้รู้สึกไม่ดีให้มันน้อยๆลงหน่อย ขึ้นรถ สถานที่นี้มันเปลี่ยวมากจริงๆ” กู้เสียนพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
จงเหยียนซีรู้ว่าเขาไม่ได้โกรธจริงๆ โค้งตัวขึ้นรถไป
กู้เสียนสตาร์ทรถแล้วถามออกมา “เธอมาทำอะไรในที่เปลี่ยวๆห่างไกลผู้คนอย่างนี้ตามลำพัง?”
“มาจัดการธุระบางอย่าง” เธอเอ่ยออกมานิ่งๆ
“แล้วจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า?” กู้เสียนถาม
จงเหยียนซีพยักหน้าออกมา “สิ่งที่ได้มาเยอะมากเลยล่ะ”
สิ่งที่เธอต้องการหาไม่เจอ แต่สิ่งที่ได้บังเอิญพบเข้าก็ไม่น้อยเลย
กู้เสียนมองเธอจากในกระจกมองหลัง “เธอไม่เป็นอะไรจริงๆใช่มั้ย?”
จงเหยียนซีแปลกมาก “ฉันยังสบายดีอยู่”
“งั้นก็ดี” กู้เสียนยิ้มพลางเอ่ยออกมา
จงเหยียนซี “…”
“เฮ้ กู้เสียน นายหมายความว่าอะไร?”
“ฉันไม่ใช่ว่ากลัวว่าเธอจะเสียใจหรือไงกัน สามีเก่าของเธอไปหาสาวที่ร้านกลางคืน…”
“เขาไปหาสาว มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?” จงเหยียนซีหมดคำที่จะพูดจะตายอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงยังวุ่นอยู่กับประเด็นนี้อยู่อีก?
กู้เสียนมองเธอจากทางกระจกมองหลัง “ไม่สนใจจริงๆ?”
จงเหยียนซีคร้านจะไปสนใจเขาแล้ว
กู้เสียนยิ้มออกมาเล็กน้อย “เอาเถอะ เป็นฉันที่ไม่ควรถามเอง จริงสิ จะบอกเธอเรื่องหนึ่ง วันนี้ที่ข้างนอกเหิงคังกรุ๊ปมีนักข่าวเยอะมาก ล้วนแล้วแต่อยากจะสัมภาษณ์เจียงโม่หานกันทั้งนั้นเลย”
“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องเขาเสียหน่อย นายยังจะให้ฉันกินข้าวอยู่มั้ย? บอกเอาไว้ก่อนเลยว่าเรื่องบางเรื่องมันจะทำลายความอยากอาหารฉันเอาได้” จงเหยียนซีไม่สามารถเข้าใจเขาได้เลยจริงๆ ทำไมจะต้องดึงประเด็นนี้ขึ้นมาตลอดเลย
“โอเคๆ ฉันไม่พูดแล้วๆ” กู้เสียนเองก็คิดว่ามันน่าเบื่อมากเหมือนกัน ก็แค่คิดว่าเมื่อตอนนั้นเธอแต่งงานกับเจียงโม่หานจะต้องชอบเขามากแน่ๆ ไม่ค่อยจะแน่ใจความคิดในตอนนี้ของเธอเท่าไหร่นัก
จงเหยียนซีหันหน้ามองไปนอกหน้าต่าง ภาพวิวผ่านไปด้วยความรวดเร็ว จู่ๆเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ควักโทรศัพท์ออกมา ส่งรูปของผู้ชายคนนั้นไปให้กู้เสียน
“คนคนนี้นายช่วยฉันตรวจสอบดูหน่อย”
กู้เสียนได้ยินโทรศัพท์มีเสียงข้อความเข้า ก็ได้หยิบขึ้นมาเปิดดู แล้วก็ได้วางโทรศัพท์กลับไปอีกครั้ง จากนั้นก็เอ่ยถามออกมา “ตรวจสอบเขาไปทำไม?”
“เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายฉันเมื่อตอนนั้น”
“เข้าใจแล้ว” กู้เสียนตั้งใจขับรถไป
เพียงไม่นานรถก็ได้เข้ามาถึงเขตเมือง เดิมทีก็ได้ตกลงกันเอาไว้แล้วว่าจะกินมื้อเที่ยงด้วยกัน แต่ผลสุดท้ายกู้เสียนกลับได้รับสายจากเลขาของบริษัทมาว่ามีงานด่วนที่ต้องการให้เขากลับไปจัดการ
“นายจอดให้ฉันลงที่นี่เถอะ” จงเหยียนซีได้ยินโทรศัพท์ที่เขารับสายเมื่อกี้นี้
“เฮ้อ เดิมทีก็อยากจะกินมื้อเที่ยงด้วยกันกับเธอ”
“หลังจากนี้ยังมีโอกาส” จงเหยียนซีพูด
กู้เสียนคิดๆไปแล้วมันก็ใช่ “งั้นฉันจอดให้เธอลงแล้วนะ”
“อืม งานสำคัญกว่า”
กู้เสียนเอารถเข้าไปจอดชิดริมถนน จงเหยียนซีเปิดประตูรถลงจากรถไป “นายขับรถดีๆล่ะ”
เขาตอบรับออกมาเล็กน้อยแล้วขับรถออกไป
จงเหยียนซีคุ้นเคยกับที่นี่เลยทีเดียว ข้างหน้าคงจะมีป้ายรถเมล์อยู่ป้ายนึง และเส้นทางก็จะผ่านทางโรงแรมที่เธอพักอยู่
เธอเดินไปตามถนน
จู่ๆก็มีรถคันสีดำคันหนึ่งมาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างรถร่นลงมา “คุณหลิน?”
จงเหยียนซีหันหน้าไป ก็เห็นใบหน้าที่ได้สัดส่วนงดงามนั้น ในตอนนี้ดวงตาลุ่มลึกอ่านยากคู่นั้น กำลังมองเธออยู่
รู้ว่าตอนที่เขาแต่งงานกับตน คำพูดที่บอกรักตนล้วนเป็นแผนที่วางเอาไว้ มาเจอเขาอีกที เธอรู้สึกเพียงแค่ว่าในมันเจ็บขึ้นมามากกว่าเดิม
ตอนที่เธอออดอ้อนบอกรักเขาอยู่ที่รงหน้าเขานั้น เขาคิดอยู่ในใจใช่มั้ยว่าผู้หญิงคนนี้มันโง่จริงๆเลย?