กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 890 สิ่งที่เปลี่ยนไปคือใจคน
“คุณหลิน ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เจียงโม่หานยังนึกว่าตนมองผิดไปเสียอีก
มือทั้งสองข้างของจงเหยียนซีกำหมัดแน่น ข่มกลั้นอารมณ์ที่ปั่นป่วนอยู่ภายในใจเอาไว้อย่างสุดกำลัง กว่าจะสามารถรักษาความสงบนิ่งบนใบหน้าได้
“ฉัน…” เสียงของเธอแหบแห้งไปเล็กน้อย “ฉันหลงทาง”
“ผมไปส่งคุณเอง ขึ้นรถมาสิ” เขามองเธอพลางเอ่ยออกมา
จงเหยียนซีคลายหมัดที่กำแน่นลง ยิ้มพลางเอ่ยออกไป “งั้นก็รบกวนประธานเจียงแล้ว”
เจียงโม่หานเงียบจนไม่มีคำพูดอะไรออกมา
เธอเปิดประตูเบาะหลังรถขึ้นไปนั่ง
“ไม่ทราบว่าเรื่องของประธานเจียงจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ?” ในความหมายที่เธอพูดออกไปได้มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงไปด้วย “ในช่วงที่พวกเราร่วมงานกัน ฉันไม่หวังให้มันเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาหรอกนะคะ”
เจียงโม่หานยังคงเงียบ เขาสตาร์ทรถขับออกไป
เรื่องเมื่อคืนวาน มันเป็นอุบัติเหตุ ถูกคนที่วางแผนใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้จงใจหาเรื่องกลับดำเป็นขาวกลับขาวเป็นดำเผยแพร่ลงอินเทอร์เน็ต เขาได้จัดการไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้มันก็ทำให้เขาไม่พอใจเหมือนกัน
“คุณหลินยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงใช่มั้ยครับ? ผมเลี้ยงเอง” จู่ๆเจียงโม่หานก็โพล่งออกมา
จงเหยียนซีคิดอยู่แป๊บนึง “น้ำใจของประธานเจียง ฉันจะปฏิเสธได้ยังไงกันคะ”
เจียงโม่หานมองเธอจากกระจกมองหลัง ทุกครั้งที่เจอเธอ มักจะทำเรื่องที่นอกเหนือความคาดหมายของเขาอยู่เสมอ
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
บนร่างของเธอเหมือนกับมีพลังลึกลับบางอย่างที่ดึงดูดเขา มักจะทำให้เขาอยากเข้าใกล้อยู่เสมอ
ภายในใจของเขาก็ไม่ได้ชอบความรู้สึกแบบนี้หรอก
เขาไม่ชอบเพราะว่าผู้หญิงทำให้ตัวเองทำเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมของตัวเองออกมา
รถขับมาจอดอยู่ที่หน้าร้านอาหารร้านหนึ่ง
จงเหยียนซีเห็นร้านอาหารชัดเจนแล้ว อารมณ์ที่ได้สงบลงไปก็ได้ปั่นป่วนขึ้นมาอีกครั้ง ที่นี่เป็นร้านอาหารร้านที่เมื่อก่อนเธอชอบมากินมากที่สุด และก็ชอบตื้อให้เจียงโม่หานมาด้วยกัน ที่นี่มีเมนูที่เธอชอบกิน
ทำไมเขาถึงได้พาตนมาที่ร้านนี้?
เขารู้อะไรมา?
ในใจของจงเหยียนซีมีความร้อนรนอยู่บ้างเล็กน้อย
เจียงโม่หานลงจากรถ ไม่เห็นเธอลงมา ก็ช่วยเปิดประตูรถให้เธอ “คุณหลิน”
จงเหยียนซีนั่งอยู่ไม่ขยับ “ฉันไม่ค่อยหิว ประธานเจียงไปส่งฉันกลับโรงแรมดีกว่า”
“มาถึงแล้ว คุณหลินลงมาดีกว่านะครับ” เจียงโม่หานไม่ได้มีท่าทีจะส่งเธอกลับไป บ่งบอกชัดเจนแล้วว่าให้เธอลงจากรถ
จงเหยียนซีกัดริมฝีปากออกมาเล็กน้อย โค้งตัวลงจากรถไป เจียงโม่หานเดินอยู่ข้างหน้า เขาเป็นลูกค้าเก่า พอเข้ามาผู้จัดการร้านก็ได้เข้ามาต้อนรับด้วยตัวเอง “ประธานเจียง”
เจียงโม่หานพยักหน้าทักทาย
“ทางนี้มีที่ว่าง และก็เงียบด้วยครับ” ผู้จัดการได้นำเจียงโม่หานมายังที่นั่งริมหน้าต่างโซนแขกวีไอพี
จงเหยียนซีหลุบตาลงเดินตามเข้าไป
“คุณผู้หญิงท่านนี้เชิญครับ” ผู้จัดการได้ดึงเก้าอี้ให้เธอ
เธอบอกขอบคุณไปคำนึง จากนั้นก็นั่งลง
“เอาเหมือนเดิม” เจียงโม่หานนั่งลงแล้วพูดออกมา
ผู้จัดการตะลึงงันไปเล็กน้อย เมื่อก่อนเขาจะมาด้วยกันกับภรรยา ทุกครั้งล้วนแล้วแต่จะเป็นสองสามเมนูนั้นตลอด เพราะว่าภรรยาของเขาชอบกิน มาตอนนี้นี่เป็นผู้หญิงอีกคน ก็ยังจะเอาอย่างเดิม?
เจียงโม่หานเงยหน้าขึ้นไป ชำเลืองมองไปทางผู้จัดการ “ผู้จัดการหลี่?”
“อ้อ ผมจะไปให้ห้องครัวเขาเตรียมให้เดี๋ยวนี้เลยครับ ได้โปรดรอสักครู่นะครับ” ผู้จัดการรีบยิ้มให้เพื่อเป็นการขอโทษพลางเอ่ยออกไป
ผู้จัดการไปให้ห้องครัวจัดเตรียม จงเหยียนซีหยิบน้ำเปล่าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม พลางเอ่ยถามออกไป “ประธานเจียงชอบอาหารร้านนี้?”
“อืม” เขาเอ่ยออกมาโดยที่แทบจะไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่พูดจบถึงได้ตระหนักขึ้นมาได้ว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านที่เขาชอบกิน แต่เป็นร้านที่เธอชอบกันต่างหาก
เขามาหลายครั้งมาก จึงเคยชินไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นชอบหรือว่าเคยชิน แต่สรุปแล้วก็คือชอบมา
จงเหยียนซีตาปรือเหมือนจะหลับออกมาเล็กน้อย ขนตางอนเด้งได้สั่นไหวออกมาเล็กน้อย
“อันที่จริงเป็นภรรยาเก่าของผมที่ชอบน่ะครับ” ร่างของเจียงโม่หานเอนไปข้างหลัง มองเธอไป แสงอาทิตย์ทแยงเข้ามาจากด้านนอกหน้าต่าง ปกคลุมร่างของเธอไปอย่างเลือนราง เขาตกตะลึง เหมือนกับเห็นเธอเลย
เขาชี้นิ้วออกไป “คุณเหมือนกับเธอ”
จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้นไปมองเขาโดยทันที คิ้วอดไม่ได้ที่จะย่นออกมาเล็กน้อย เขาค้นพบอะไร?
เธอคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป “ฉันเหมือนกับภรรยาเก่าของคุณ?”
เธอยื่นมือออกไปจับหน้าตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ หน้านี้ เกรงว่าพ่อแม่เธอคงจำไม่ได้เหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าเขาจะสังเกตเห็น?
คิดพิจารณาจากรอบด้านแล้ว เธอก็ไม่อาจหาเจอได้เลยว่าตัวเองได้เผยช่องโหว่อะไรออกไปที่ตรงไหน
สีหน้าดูย่ำแย่ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ใช่ว่าหน้าเหมือน มันเป็นความรู้สึกที่มอบให้กับคนอื่น” เจียงโม่หานมองเธอพลางเอ่ยกับเธอออกไป “อันที่จริงมันก็ไม่ได้เหมือนกันหรอก”
ในใจของจงเหยียนซีไม่แน่ใจในความหมายของเขา กำลังหยั่งเชิงเธออยู่? หรือว่าจะอาศัยความรู้สึกเพียงอย่างเดียว?
“คุณหมายความว่าอะไร?” เธอถาม
“คุณหลินสวยมาก แต่ไม่ได้มีชีวิตชีวาเท่าเธอ เธอชอบยิ้มมาก ตอนที่ยิ้มให้ผมดวงตาโค้งออกมา มักจะทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจอยู่เสมอ” ตอนที่พูดถึงเธอขึ้นมา ใบหน้าของเขาอ่อนลงหลายส่วน สายตาจรดอยู่ที่ร่างของหลินลุ่ยซี ความอ่อนโยนเหล่านั้นก็ได้หายลับไปอีกครั้ง “คุณค่อนข้างจะมืดมน ตรงกันข้ามกับเธอไปหมด ถึงแม้ว่าคุณหลินจะยิ้มตามระเบียบออกมา แต่มันก็ปลอมเกินไป ไม่จริงใจเลย”
มือของจงเหยียนซีจับชายเสื้ออยู่ใต้โต๊ะแน่น ปลอมเกินไป? ไม่จริงใจ?
เมื่อก่อนตอนที่เธอเผยรอยยิ้มออกไปให้เขาอย่างเต็มที่ ทั้งหัวของเขาเอาแต่คิดอยู่ว่าจะวางแผนทำร้ายเธอยังไงดีล่ะมั้ง?
“เมื่อก่อนฉันก็คงจะเหมือนกับภรรยาเก่าของคุณล่ะมั้ง สำหรับคนที่ตัวเองชอบแล้วจะทุ่มเทไปหมดทุกอย่างไม่มีเหลือไว้ให้ตัวเองเลยแม้แต่น้อย ให้ความจริงใจ แต่แฟนเก่าของฉันรังแกฉัน หลอกลวงฉัน ทำร้ายฉันจนบาดเจ็บไปหมดทั้งตัว ฉันจึงไม่กล้าที่จะยิ้มอย่างนั้นอีก ฉันกลัวว่าจะเจอผู้ชายสารเลวอีก ถึงแม้ว่าดวงตาของคนจะมี576 ล้านพิกเซล แต่กลับมองใจคนไม่ออก” เธอกดมุมขอบตาลงส่งยิ้มขมขื่นออกมา
“เกลียดแฟนเก่าของคุณหรือเปล่า?”
จู่ๆเจียงโม่หานก็นึกได้ขึ้นมา ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ อย่างนั้นแล้วเธอจะเป็นยังไงกัน?
จะเกลียดเขาหรือเปล่า?
เกลียด?
จงเหยียนซีเพียงคิดว่าคำนี้มันอธิบายความรู้สึกภายในใจของเธอไม่ได้
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าฉันจะสามารถฆ่าเขาด้วยมือตัวเองได้” ตอนที่พูด สายตาของเธอก็ได้สบเข้ากับดวงตาของเขา
เจียงโม่หานสบเข้ากับดวงตาของเธอ งงงวยไปเล็กน้อย “คุณ…”
ตอนนี้ผู้จัดการกับพนักงานคนหนึ่งได้เดินเข้ามาด้วยกัน เขาก็ได้หุบปากไป
ผู้จัดการให้พนักงานเอาอาหารวางลงไปบนโต๊ะ “ประธานเจียง อาหารมาครบแล้วครับ”
เจียงโม่หานส่งเสียงอืมกลับไปนิ่งๆ
“งั้นก็ค่อยๆกินให้อร่อยนะครับ” พูดจบผู้จัดการกับพนักงานก็ได้เดินออกไป
อาหารอันโอชะเต็มโต๊ะ แต่เขากลับไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย ได้พูดประเด็นเรื่องเมื่อกี้นี้ออกมาต่อ “คุณทำลงเหรอครับ? กับคนที่ตัวเองเคยรัก?”
“คนที่รังแกคุณ หลอกลวงคุณคนหนึ่ง มีอะไรให้ต้องใจอ่อนกัน? รัก? มันได้มลายหายไปตั้งแต่ตอนที่เขาทำร้ายฉันแล้ว เหลือเพียงแค่ความแค้นเท่านั้น” จงเหยียนซีโน้มไปข้างหน้าเข้าไปใกล้เขา “ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะควักหัวใจของเขาออกมาดูสักหน่อยว่าคุณไปทำร้าย หลอกลวงคนคนนึงอย่างนั้นได้ยังไง”
ลูกกระเดือกของเจียงโม่หานขยับขึ้นลงเล็กน้อย ในตอนที่หลินลุ่ยซีพูดคำพูดประโยคนี้อยู่นั้น เขานึกถึงตัวเองขึ้นมาเลย
จากนิสัยของเธอแล้ว เธอจะเป็นอย่างนี้ด้วยหรือเปล่า?
ในนาทีนี้เขาคิดว่าถ้าเธอยังอยู่บนโลกนี้ ถึงแม้ว่าจะเกลียดเขา เหมือนที่หลินลุ่ยซีเกลียด มันก็ดี
แต่ว่าตอนนี้เธอได้จากเขาไปจากโลกนี้ไปโดยสมบูรณ์แล้ว
“ได้ยินประธานเจียงพูดถึงภรรยาเก่าขึ้นมา แล้วทำไมประธานเจียงถึงได้หย่าล่ะคะ?” จงเหยียนซีเลิกคิ้วถามออกมา
ความคิดของเจียงโม่หานไม่มีการแสดงออกมา เบื้องหน้าดูสงบนิ่งไม่ได้สนใจอะไรเลย “จู่ๆผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีธุระต้องทำ คุณหลินทานให้อร่อยนะครับ”
พูดจบเขาก็ลุกยืนขึ้นก้าวเดินออกไป
จงเหยียนซีนั่งอยู่ที่โต๊ะไม่ได้ขยับไปไหน แผ่นหลังเหยียดตรง
นี่คือร้อนตัวขึ้นมาเหรอ?
แม้แต่คำตอบก็ยังไม่ให้กันเลย?
เจียง,โม่,หาน!
เธอหลับตาลงไปช้าๆ เพียงครู่เดียวก็ได้ลืมตาออกมา อารมณ์ทั้งหมดได้ถูกเธอเก็บซ่อนเอาไว้ลึกๆ หยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร คีบเมนูที่เธอชอบกินที่สุดจานนั้นมาวางเข้าไปในปากแล้วค่อยๆเคี้ยวไปอย่างช้าๆ
ไม่รู้ว่าสภาพจิตใจเปลี่ยนไปหรือเปล่า หรือไม่ก็เชฟที่ทำเมนูนี้เปลี่ยนคนไปแล้ว รสชาติจึงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ทั้งหมดมันได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่ใช่เธอคนเดิมอีกแล้ว
เธอคีบเข้าปากต่อ “เจียงโม่หาน คุณฆ่าลูกของฉัน ฉันจะต้องทำให้คุณชดใช้มาให้ได้”
วางตะเกียบลง เธอเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าข้างนอก แสงอาทิตย์กำลังส่องสว่างอยู่อย่างนั้น
เธอหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดปากเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นเดินออกไป
สถานที่แห่งนี้เรียกรถง่ายแล้ว แต่เธอไม่อยากกลับโรงแรมไปตอนนี้ เดินไปตามริมถนน ช่วงเวลาหนึ่งปี ไม่ได้ยาวนานเลย ทั้งหมดมันไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
ต้องบอกว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือใจคน