กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 904 เลอะเลือน
หนานเฉิงผลักประตูเดินเข้ามา
หลี่เฉิงเจี๋ยลุกขึ้นยืน “ดูท่าทางประธานเจียงก็ไม่มีอะไรอยากจะถามผมแล้ว อย่างนั้นผมไปก่อนล่ะ”
เจียงโม่หานไม่ได้แสดงให้เห็นว่าเห็นด้วยหรือปฏิเสธ จึงถือว่าเป็นการอนุญาตโดยปริยาย
รอจนหลี่เฉิงเจี๋ยออกไปแล้ว หนานเฉิงก็ถามว่า “เขาพูดอะไรหรือ”
“เรื่องที่ผมให้คุณตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้าง” เจียงโม่หานตอบไม่ตรงคำถาม ตอนนี้เขายิ่งอยากรู้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหลินลุ่ยซีคนนี้หรือไม่
หนานเฉิงส่ายหน้า “ข้อมูลที่หาได้โดยพื้นฐานนั้นเหมือนกับประวัติส่วนตัวของเธอครับ”
ส่วนอย่างอื่นล้วนหาไม่พบ
“เหมือนกัน?” เห็นได้ชัดเจนว่าเจียงโม่หานไม่เชื่อ เขาหรี่ตา “คุณไปสถานีตำรวจกับผม”
หนานเฉิงหลุบตาลงเล็กน้อย ตอบว่าครับโดยไม่ถามอะไรอีก
พวกเขาออกจากบริษัท หนานเฉิงเปิดประตูรถ มองเจียงโม่หานผ่านกระจกมองหลัง ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นนั้นมีมาโดยตลอด ผู้ชายคนนั้นพูดอะไรกับเขาในห้องทำงานกันแน่
จงเหยียนซีไม่ได้ฆ่าตัวตายจริงๆหรือ
เช่นนั้นตายได้อย่างไร
“ประธานเจียงผู้ชายคนนั้นเป็นใครหรือครับ” หนานเฉิงถาม
เจียงโม่หานสีหน้าเย็นยะเยือก ก้นบึ้งนัยน์ตาแอบซ่อนความเดือดดาลที่ยากต่อการสังเกตเห็น
เขาเหลือบตาขึ้นมองช้าๆ “คุณรู้สึกว่าเธอจะฆ่าตัวตายไหม”
หนานเฉิงไม่รู้สึกถึงนัยยะในทันที ทว่าก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าเขาหมายถึงอะไร
ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว หัวข้อสนทนานี้ก็เป็นหัวข้อต้องห้ามมาโดยตลอด ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ต่อหน้าเขา
คราวนี้ จู่ๆเอ่ยถึงเพราะคำพูดของผู้ชายคนนั้น?
เขาครุ่นคิด “ผมไม่ทราบครับ”
เขาไม่ทราบชัดเจน
“ก่อนหน้านี้ผมคิดว่า เธออาจจะทำเพราะว่าผมทำให้เธอเสียใจมากเกินไป…”
เมื่อเอ่ยถึงตอนท้าย น้ำเสียงเขาก็แหบพร่า “หนานเฉิงผมเคยเสียใจในภายหลัง”
หนานเฉิงเม้มริมฝีปาก เขารู้ถึงความทุกข์ทรมานของเขาในหนึ่งปีนี้ เขาล้วนทราบดี
มีบางเรื่องที่ทำไปแล้ว ก็ไร้ซึ่งหนทางในการชดเชย
คราแรกเขาก็เคยพูดไปว่าไม่สู้ปล่อยวาง
แต่เขาในตอนนั้น มองไม่เห็นอะไรในสายตาทั้งนั้น
มุ่งมั่นที่จะแก้แค้นเพียงอย่างเดียว
ในวันนี้ไม่ว่าอะไรเขาก็ล้วนมีหมด แต่ว่า เขากลับไม่มีความสุข
บนใบหน้าก็ไร้ซึ่งรอยยิ้ม
บนโลกใบนี้ไม่มีคำว่าเสียใจในภายหลัง
“มันผ่านไปแล้ว ก็ไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้วครับ” หนานเฉิงเอ่ยปลอบ
เขาคิดออกเพียงแค่ประโยคเดียว เรื่องดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว เสียใจก็ไม่มีประโยชน์อะไร
รถยนต์จอดอยู่หน้าประตูสถานีตำรวจ
หนานเฉิงลงจากรถไปเปิดประตูรถให้เขา รอจนเขาเดินมาถึงหน้าประตูรถ เจียงโม่หานก็เปิดประตูรถเรียบร้อยแล้ว ความอ่อนแอที่ปรากฏบนรถเมื่อครู่นี้ถูกเก็บซ่อนเอาไว้จนไม่เห็นเงาแล้ว ตอนนี้เขามีท่าทางเย็นชาเป็นอย่างมาก
หนานเฉิงเอ่ย “ก่อนหน้านี้ผมโทรศัพท์มาแล้ว”
เขาตอบอืมเรียบๆครั้งหนึ่ง “ไปเถอะ”
หนานเฉิงเดินไปข้างกายเขา ก้าวเท้าเข้าไปด้านใน
หนานเฉิงได้ติดต่อคนล่วงหน้าแล้ว จึงเลี่ยงกระบวนการอันยุ่งยากไปได้ไม่น้อย ในไม่ช้าก็ถูกจัดการให้พบหน้า
ห้องประชุมของสถานีตำรวจ ภายในห้องไม่มีคน มีเพียงแค่คนที่เฝ้าอยู่หน้าประตู บนมือหลิงเวยถูกใส่กุญแจมือเอาไว้
เมื่อเห็นว่าเจียงโม่หานมาเยี่ยมตัวเอง ก็ตื้นตันใจเสียจนหน่วยตาแดง
“โม่หาน…”
เจียงโม่หานนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางเย็นชา
เธอคิดจะเดินเข้ามา แต่ถูกหนานเฉิงขวางเอาไว้ “นั่งลงคุยเถอะ”
หลิงเวยมองไปที่เจียงโม่หาน “คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้ฆ่าคนนะคะ ทุกอย่างล้วนถูกหลินลุ่ยซีคนนั้นใส่ร้าย เธออยากจะทำร้ายฉัน คุณจะต้องประกันตัวฉันนะ…”
“หลิงเวย!” เจียงโม่หานตัดบทเธอด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ดูคลิปวิดีโอนั้นมาก่อน ตอนนี้ก็อาจจะเชื่อคำพูดของเธอ แต่ว่าเขาดูไปแล้ว เห็นท่าทาง ความดุร้าย ความเลวร้ายที่ไม่เคยแสดงต่อหน้าตนเองมาก่อน
หลิงเวยชะงักไปครู่หนึ่ง “โม่หาน”
“ตำรวจควบคุมตัวเอาไว้โดยไม่มีหลักฐานหรือ” เสียงของเจียงโม่หานเคร่งขรึม “ผมจะถามคุณ เหยียนซี ถูกคุณทำร้ายจนตายหรือ”
หลิงเวยเบิกตากว้างในทันที
ในเวลาเดียวกันหนานเฉิงก็มองไปทางเจียงโม่หานอย่างไม่อยากจะเชื่อ จงเหยียนซีถูกหลิงเวยทำร้ายจนตายหรือ
“คุณ…ฟังหลินลุ่ยซีคนนั้นพูดอะไรมาใช่ไหมคะ” หลิงเวยกำมือแน่น ในใจยังอยากจะอธิบาย เธอไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด “เธออิจฉาที่ฉันอยู่ข้างกายคุณ คิดจะใส่ร้ายฉัน”
“เธออิจฉาคุณหรือ” เจียงโม่หานเย้ยหยัน “ทำไมเธอต้องอิจฉาคุณด้วย”
“เธอ…” หลิงเวยลนลานเล็กน้อย “เธออาจจะชอบคุณ…”
“ดังนั้นคุณจึงคิดจะทำร้ายเธอให้ตาย?” สายตาเย็นเยียบของเจียงโม่หานมองมาทางเธอนิ่งๆ “ผมจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เหยียนซีถูกคุณทำร้ายจนตายใช่ไหม!”
“ฉันเปล่า…”
เจียงโม่หานคว้าหมับเข้าที่ปกคอเสื้อเธอ แม้จะถูกโต๊ะตัวหนึ่งที่ไม่กว้างมากขวางเอาไว้ ก็เกือบจะยกขาเธอให้ลอยจากพื้นทั้งสองข้าง
เจียงโม่หานใบหน้าทะมึน นัยน์ตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดง “ก่อนหน้านี้ทำไมผมถึงไม่ค้นพบนะว่าคุณอำมหิตเช่นนี้?!”
ปกคอเสื้อรัดแน่นเกินไปจนเธอเกือบจะหายใจไม่ออก สีหน้าอึดอัดจนแดงก่ำ ยังคงยอมตายแต่ไม่ยอมรับ “ฉันเปล่า!”
เธอกลับปากแข็งถึงขนาดนี้!
เจียงโม่หานสะบัดคนออกไป!
หลิงเวยล้มลง กระแทกเข้ากับเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลัง เสียงความเคลื่อนไหวดังเกินไป เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูจึงผลักประตูเปิดเข้ามา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น…”
หนานเฉิงรีบเดินเข้าไป เอ่ยยิ้มๆ “ไม่มีเรื่องอะไรครับ”
“ไม่สามารถเกิดเรื่องขึ้นกับผู้ต้องสงสัยที่กระทำความผิดได้” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นเหลือบมองเข้าไปในห้องครู่หนึ่ง คนคนนี้ยังไม่ได้ถูกตัดสินพิจารณาคดี ไม่สามารถเสียชีวิตโดยไม่มีสาเหตุได้
“ผมรู้ครับ คุณวางใจเถอะ จะไม่ทำให้คุณลำบากหรอก” หนานเฉิงเดินออกมาแล้วปิดประตูลง เอ่ยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้น “ประธานเจียงเพียงแค่ถามเธอเล็กน้อย อารมณ์รุนแรงไปหน่อย แต่จะไม่ทำให้คนบาดเจ็บหรอก”
ภายในห้อง เจียงโม่หานเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าหลิงเวย เขาย่อตัวลง หลิงเวยกำมือ ความเจ็บปวดทางร่างกายไม่ได้ทำให้เธอกลัว แต่กลับวางแผนที่จะสะกดจิตเขา “โม่หาน เธอเป็นศัตรูของคุณ เธอตายไปแล้ว เพียงแค่ต้องรับโทษชดใช้กรรม เธอสมควรตาย ทำไมหรือคะ หรือว่าคุณหลงรักศัตรูคุณเข้าแล้ว ไม่กลัวว่าคุณแม่ของคุณที่อยู่ในปรโลกจะไม่สงบหรือ”
“คุณหุบปาก!” เจียงโม่หานเดือดดาลจนไม่อาจควบคุมได้ บีบคางเธอแน่น “หลิงเวย ฆ่าคนต้องชดใช้ด้วยชีวิต คุณต้องตาย!”
เมื่อได้ยินคำว่าตาย ในที่สุดหลิงเวยก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเอ่ยถึงมารดาของเขา เขาจะสูญเสียความเยือกเย็น และถูกคำพูดของเธอควบคุม
ครานี้ ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทำให้เขาสะเทือนใจได้
เขาโกรธจริงๆหรือ
มีโทสะเพื่อจงเหยียนซีหรือ?!
“เธอตายไปแล้ว!” หลิงเวยเจ็บปวด หัวใจใกล้จะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ “ฉันรักคุณขนาดนี้ ทำทุกอย่างเพื่อคุณ ทำไมคุณถึงมองไม่เห็นกัน ทำไมในสายตาถึงได้มีเพียงแค่ผู้หญิงที่ฆ่าคุณแม่ของคุณตาย คุณเลอะเลือนไปแล้วหรือ”
“ใช่ ผมมันเลอะเลือนไปแล้ว รู้สึกเสียใจในภายหลังไปหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้ผมไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ต้องการเพียงแค่ให้เธออยู่ข้างกายผม!”
เขาคิดถึงเธออย่างบ้าคลั่ง คิดจะให้เธออยู่ข้างกายเขา อยู่ในอ้อมแขนเขาแล้วพูดว่ารักเขา
เธอที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนขนาดนั้น
แต่เขากลับไม่ได้เห็นมันอีกแล้ว สูญเสียมันไปตลอดกาล
“หลิงเวย ผมจะให้คุณถูกฝังไปพร้อมกับเธอ!” เอ่ยจบแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืน
หลิงเวยตื่นตระหนกแล้ว คว้าหมับเข้าที่ขากางเกงของเขา “โม่หาน เธอเป็นศัตรูของคุณนะคะ…”
เธอยังเอ่ยไม่ทันจบ ก็ถูกเจียงโม่หานสะบัดออกแล้วก้าวเท้าเดินไปทางประตู ตอนนี้เขาไม่อยากได้ยินหลิงเวยพูดมากกว่านี้อีกสักคำ
ประตูเปิดออก หนานเฉิงเห็นเขาออกมาแล้วก็เอ่ยว่า “ประธานเจียง”
เขาเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ไปเถอะ”
หนานเฉิงพยักหน้า เหลือบมองเข้าไปในห้องครู่หนึ่ง ตอนนี้หลิงเวยหมอบอยู่ที่พื้น ตะโกนเสียงดังมาทางประตู “เจียงโม่หาน!”