กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 919 ความลับอะไร
ความเพราะรู้จักถึงได้คิดทบทวนอยู่นานมาก อาจเป็นเพราะแบบนี้ เธอถึงไม่ได้บอกกับตน
กู้เสียนก็รู้ว่าตัวเองร้อนรนเกินไป เขาจึงค่อยๆ ผ่อนอารมณ์ “คุณบอกเถอะ ผม…พร้อมแล้ว”
จงเหยียนซีเกาศีรษะ และพูดเสียงอ้อมแอ้มว่า “ก่อนที่เขาจะแต่งงาน ชีวิตส่วนตัวสกปรก”
กู้เสียน “???”
“สกปรกขนาดไหน” เขาสงบจิตใจแล้ว คนคนนั้นเขาทำตัวแบบไหน วันไนท์สแตนด์เหรอ หรือว่าซื้อกิน
“ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว และแคร์ครอบครัวปัจจุบันมาก เย็นนี้ฉันนัดเขาทานข้าว ถ้าคุณอยากรู้จักเขา เย็นวันนี้เป็นโอกาส พรุ่งนี้เขาอาจ
จะกลับแล้ว” กู้เหยียนซีพูดตรงๆ
กู้เสียนยังไม่ได้คิดให้ดี ถ้าเขาไม่ยอมรับ หรือว่าไม่เต็มใจล่ะเขาจะทำยังไง
แล้วถ้าตนไม่ใช่ลูกชายของเขาล่ะจะทำยังไง
และถ้าไม่สามารถพึ่งแค่รูปใบเดียวไปสรุปว่าเขาเป็นพ่อตัวเอง ไม่ใช่ว่าสุดแสนจะน่าขายหน้าหรอกเหรอ
เมื่อว่ากันตามจริงขึ้นมา เขาก็ค่อนข้างใจฝ่อ
“คุณกับเขาเกี่ยวข้องกันเหรอ” กู้เสียนถาม
จงเหยียนซีพูดให้ชัดเจนก่อนเป็นอันดับแรก “คุณมีอะไรก็พูดตรงๆ ฉันสามารถช่วยคุณได้ ช่วยแน่นอน แต่หากเขาเสียเปรียบ ฉันจะต้อง
พิจารณา พวกเรามีความสัมพันธ์นดีต่อกัน เขาติดตามคุณพ่อของฉันมาตลอดหลายสิบปี เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”
กู้เสียนถาม “แล้วผมกับคุณล่ะ”
“เพื่อน” เธอตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด
แต่กู้เสียนไม่พอใจในคำตอบนี้
“เราเป็นแค่เพื่อนเหรอ”
“แล้วก็อาจจะ…. เยหน้ามองสายตากู้เสียนที่ทั้งผิดหวังและปรารถนา เธอจึงรู้สึกลำบากใจ “ลึกซึ้งมากกว่าเพื่อนนิดหน่อยล่ะมั้ง”
“ลึกซึ้งมากกว่าเพื่อนนิดหน่อย มันคืออะไร คนรักเหรอ ไม่เชิง คนในครอบครัวไม่ใช่ คุณพูดให้ชัดหน่อยได้ไหม” กู้เสียนไม่ยอมจบง่ายๆ
เหมือนว่าเธอจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน
จงเหยียนซีไม่ได้พูดอะไร และก้าวเดินไป
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเปลี่ยนเรื่อง
กู้เสียนรีบดึงเธอไว้ “อย่าไป”
“ไม่ไป แล้วอยู่ที่นี่ถูกคุณวุ่นวายใส่เหรอ” เธอหันหน้ากลับไปมองเขา
กู้เสียนสีหน้าเป็นปกติ เขาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนี้ ใจเขาสับสนและไม่รู้วิธีจัดการปัญหานี้
“งั้น คุณช่วยผมอย่างหนึ่ง ผมอยากตรวจDNAเขา ถ้าเขาเป็นพ่อผมจริง ผมจะคิดอีกทีว่าอยากรู้จักเขาหรือไม่”
จงเหยียนซีมองเขาแล้วพูดว่า “คุณก็มีช่วงเวลาที่อยากผัดวันประกันพรุ่งเหมือนกันนะ”
“ไม่ใช่ว่าผมผัดวันประกันพรุ่ง แค่ไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิด ถ้าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ถึงตอนนั้นมันก็ขายขี้หน้า”
จงเหยียนซีครุ่นคิดครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้คุณอากวน ยิ่งไปหว่านั้นเขาก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์ แค่เอาDNAของ
เขากับกู้เสียนไปตรวจเท่านั้น เธอจึงตกลง “ได้ เย็นนี้คุณไม่ไปทานข้าวกับฉันเหรอ”
“ไป” กู้เสียนพูด
“ทำไมเปลี่ยนความคิดอีกแล้ว” เธอไม่เข้าใจความหมายของเขา
“แค่พบหน้ากันบนโต๊ะอาหาร ไม่รู้จัก” เขาตอบ
จงเหยียนซีพยักหน้า “ฉันเคารพการตัดสินใจของคุณ”
เหิงคังกรุ๊ปในเวลานี้
หนานเฉิงรีบกลับบริษัทมาอย่างรวดเร็วที่สุด ก่อนเข้าออฟฟิศ มีการไปถามที่โต๊ะเลขาก่อน “มีใครมาหาประธานเจียงไหม”
เลขาส่ายหน้า “ไม่มี ประธานเจียงก็เพิ่งกลับมา”
หนานเฉิงฟังจากน้ำเสียงของเจียงโม่หานทางโทรศัพท์ ดูแล้วไม่ค่อยชอบใจเท่าไร จึงถามอีกครั้ง “สีหน้าเขาดูดีไหม”
เลขาส่ายหน้าอีกครั้ง “เขาไม่ได้ยิ้มมานานแล้วไม่ใช่เหรอ”
อย่างน้อยก็ตั้งแต่ก่อตั้งเหิงคังกรุ๊ปที่เขาไม่เคยยิ้มเลย
หนานเฉิงพยักหน้า เป็นอย่างนั้นจริง “เขาไม่ได้ยิ้มมานานแล้ว”
เพราะเขาไม่มีความสุข
เขาสูญเสียคนที่ทำให้เขามีความสุขไปแล้ว
หนานเฉิงถอนหายใจเล็กน้อย แล้วหันเดินไปทางออฟฟิศ เขายืนหน้าประตูและยกมือขึ้นเคาะ ด้านในมีเสียงดังมา เขาจึงผลักประตู
เข้าไป
เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานของเจียงโม่หาน เพิ่งคิดจะเอ่ยปากว่าเขารียกหาตัวเองทำไม ก็ได้ยินเขาพูดว่า “นายไปหาหลินลุ่ยซีมาเหรอ”
หนานเฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง แปลกใจมากที่เจียงโม่หานรู้เรื่องเร็วขนาดนี้
“…ครับ”
“เพื่ออะไร” เจียงโม่หานเงยหน้าขึ้นมอง
หนานเฉิงเม้มริมฝีมาก “ผมคิดว่าถ้าคุณกับเธออยู่ด้วยกันคุณจะมีความสุขครับ ผมแค่อยากใช้เรื่องงานบังหน้าให้เธอมาที่บริษัท ให้พวก
คุณมีโอกาสพบหน้ากันครับ”
เจียงโม่หานเลิกคิ้ว “ฉันกับเธออยู่ด้วยกันฉันจะมีความสุขงั้นเหรอ”
หนานเฉิงพยักหน้า “นอกจากนายหญิง เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้คุณสนใจ”
เจียงโม่หานเอนหลังพิง และแหงนเงยหน้าเล็กน้อย “หนานเฉิง ฉันรู้สึกว่าตัวเธอมีความลับ”
หนานเฉิงเบิกตากว้าง “ความลับอะไรครับ”
“ฉันไม่รู้” เจียงโม่หานพูดโทนเสียงต่ำ “นายเคยไปสืบเธอมา นายไม่รู้สึกว่าอดีตของเธอสะอาดหมดจดเกินไปเหรอ”
หนานเฉิงไตร่ตรองครู่หนึ่ง “ใช่ครับ สะอาดมาก”
เพราะเขาสืบไม่พบอะไร นอกจากประวัติดยย่อแล้ว ไม่มีอะไรอื่นที่เขาสามารถค้นหาได้
“หนานเฉิง นายหาคนไปทำความสะอาดวิลล่าหน่อย” เจียงม่หานลุกขึ้นเดินไปยังหน้าต่างผนังกระจกบานยาว หันหลังให้หนานเฉิง “ฉัน
หวังว่าเธอจะเป็นคนที่ฉันคาดเดาไว้”
หนานเฉิงมีท่าทีนิ่งงันไปครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงว่าเขาจะให้ไปทำความสะอาดวิลล่า เพราะท้ายที่สุดแล้วตั้งแต่จงเหยียนซีเสียชีวิตไป เขาก็ไม่
ไปที่วิลล่าอีกเลย
“ประธานเจียง…คุณ คุณหมายความว่าอะไรครับ คุณสงสัยว่าหลินลุ่ยซีคือจงเหยียนซี่เหรอครับ”
“แม่ของเธอแซ่หลิน” เจียงโม่หานหันหน้าไปมองหนานเฉิง “นายไม่คิดว่ามีความเกี่ยวข้องกันเหรอ”
หนานเฉิงยังค่อนข้างไม่อยากเชื่อ ถึงแม้ว่าเมื่อลองคิดดูให้ดีแล้วก็เหมือนกับจะเกี่ยวข้องกัน แต่ว่า “ตอนนั้นที่นายหญิงเสียชีวิต คุณก็เคย
ยืนยันในภายหลังแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
ยืนยันว่าเป็นจงเหยียนซี
และคำตอบที่ตำรวจระบุให้ก็คือ บุคลคลนั้นเสียชีวิตแล้ว
เจียงโม่หานแค่อาศัยสัญชาตญาณ เขาไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าหลินลุ่ยซีคือจงเหยียนซี
“ไปทำตามที่ฉันบอกเถอะ” เจียงโม่หานพูดจบก็หันกลับไป เห็นได้ช้ดว่าไม่อยากตอบเท่าไร
“งั้น.. .” หนานเฉิงลังเลครู่หนึ่ง “ผมมีเรื่องบางอย่างต้องรายงานคุณครับ”