กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 924 หาคนมาแทนที่เธอ
แผนการนี้เป็นแผนการของเธอ ตอนนั้นที่เธอเจรจากับบริษัทรุ่นเหม่ยนั้น เธอให้บริษัทรุ่นเหม่ยเปีนหมากในการร่วมมือกับบริษัทหลัก
ทรัพย์ซินไฮ่ ให้บริษัทรุ่นเหม่ยเข้าสู่ตลาดในประเทศ
ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้ว ตอนนั้นที่บริษัทรุนเหม่ยตอบรับอย่างง่ายดาย ความจริงแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเสียเลย
ที่แท้ผู้รับผิดชอบฝั่งนั้นคือกวนจิ้งนี่เอง ประธานที่เธอเห็นก็เป็นเพียงการลวงตา
เธอรู้ดีว่าว่านเยว่กรุ๊ปแอบมีการลงทุนโครงการมากมาย แต่ธอไม่รู้เลยว่าคุณพ่อของเธอนั้นมีการวางแผนไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ตอนนี้เธอไม่ได้สนใจแล้วว่าจะต้องแก้แค้นด้วยตัวเอง ขอเพียงสามารถเอากลับคืนมาในสิ่งที่เธอถูกแย่งไป ต่อให้ต้องอาศัยความช่วย
เหลือจากคุณพ่อก็ไม่เป็นไร
จวงเจียเหวินพูดถูก เธอหลบมานานมากพอแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่เธอเป็นห่วงมาหนึ่งปีแล้ว เธอจะต้องกลับไปอย่างสมบูรณ์
เธอยื่นมือไปจับใบหน้าตัวเองขณะที่ครุ่นคิด ที่แท้เธอก็เหมือนกับคุณพ่อมาก ตอนนั้นเธอเพื่อต้องการแก้แค้นเจียงโม่หาน และไม่
ต้องการให้คุณพ่อเข้ามาแทรกแซง ถึงตั้งใจเปลี่ยนแปลงโฉม
แต่ว่ามีหลายจุดที่ทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย สันจมูกและหนกแก้มถูกเสริมเติมขึ้น ทำให้รูปลักษณ์เดิมเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อรอให้เจียงโม่หานชดใช้แล้ว เธอก็คืนสูใบหน้าเดิมเพื่อกลับไปเจอคุณพ่อคุณแม่
ร่างกายผิวหนังพ่อแม่เป็นผู้ให้ เธอจะไปเปลี่ยนง่ายๆได้อย่างไร!
“ถึงแล้วครับ” เถียนฉีเฟิงนำรถไปจอดเทียบที่หน้าประตูโรงแรม
จงเหยี่ยนซีรู้สึกตัวขึ้น “นายรอฉันอยู่ในรถ” เมื่อพูดจบเธอก็ผลักประตูแล้วลงจากรถ กลับไปที่ห้องหยิบโปรเจกตังานที่เธอได้ทำเสร็จไว้
แล้ว
ไม่นานเธอหยิบเอกสารเสร็จก็เดินกลับมาที่รถ แล้วให้เถียนฉีเฟิงมุ่งหน้าไปที่เหิงคังกรุ๊ป
เถียนฉีเฟิงมองเธอผ่านกระจกมองหลั่ง “คุณมีอะไรให้พวกเราทำก็รับสั่งได้เลยนะครับ”
“ตอนนี้ยังไม่มี”
จงเหยียนซีกล่าว
ทั้งหมดนี้เป็นแผนการที่ทำเสร็จไว้แล้วก่อนหน้านี้
เถียนฉีเฟิงตอบรับแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ
ผ่านไปประมาณยี่สิบนาที รถยนต์ได้มาจอดอยู่ที่ด้านล่างตึกของเหิงคั่งกรุ๊ปจงเหยียนซีผลักประตูแล้วลงจากรถ
“ผมจะรอคุณอยู่ที่นี่ มีอะไรติดต่อผมได้ตลอดเวลา” เถียนฉีเฟิงกล่าว
เขามีหน้าที่ปกป้องดูแลความปลอดภัยของจงเหยียนซี หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ เขามีส่วนในการรับผิดชอบ
จงเหยียนชีพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว” พูดจบเธอก็ถือเอกสารมุ่งหน้าเข้าไปในตัวอาคาร
เธอไม่ได้มาครั้งแรก รู้ว่าเธอคือตัวแทนที่มีการมาร่วมมือกับบริษัท พนักงานต้อนรับหน้าเคาน์เตอร์จึงไม่ได้รั้งไว้ และโทรศัพท์แจ้งไปยั่ง
เลขาฯของท่านประธานให้ทราบ
จงเหยี่ยนซีไปถึงชั้นห้องทำงาน ขณะที่เตรียมตัวจะไปในห้องทำงานของเจียงม่หานนั้นก็ถูกเลขาฯขวางไว้ “ขออภัยค่ะคุณหลิน วันนี้
ประธานเจียงของพวกเราไม่ต้องการพบแขกค่ะ”
“ฉันมาเพื่อเจรจาเรื่องงานกับเขา” จงเหยียนซีกล่าว
เลขาฯอธิบาย “เกรงว่าวันนี้เรื่องงานคงจะไม่สะดวกแล้วค่ะ หรือคุณหลินกลับมาพรุ่งนี้ดีไหม”
“ไปแจ้งว่าฉันมา ไม่อย่างนั้นฉันจะบุกเข้าไปเดี่ยวนี้” จงเหยียนซีดึงดัน
ก่อนหน้านี้เร่งรัดเธอ ตอนนี้กลับมาปฏิเสธเธอให้อยู่นอกประตู นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน
เลขาฯลำบากใจ “วันนี้มีคนมาก่อกนที่บริษัท จิตใจของประธานเจียงค่อนข้างแย่มาก บอกว่าวันนี้ไม่พบใครทั้งนั้น พวกเราเพียงแค่ทำ
ตามคำสั่ง ขอคุณหลินอย่าทำให้ดิฉันลำบากใจเลยนะคะ”
จงเหยียนซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ใครกล้ามาก่อกวนที่เหิงคั่งกรุ๊ปเหรอ”
เลขาฯกล่าว “เป็นเรื่องส่วนตัวของประธานเจียง ไม่สะดวกที่จะพูดกับคุณหลินค่ะ”
“ในเมื่อไม่สะดวกพูดฉันก็จะไม่ฝืน อย่างนั้นเธอช่วยไปแจ้งให้ฉันหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะบุกเข้าไปเดี๋ยวนี้”
วันนี้เธอจะต้องพบคนให้ได้
ส่วนเรื่องที่เกิดในวันนี้ เธอลัวงโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้เถียนฉีเฟิง ให้เขาไปสืบว่าวันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเหิงคังกรุ๊ป
เลขาฯคิดไม่ถึงว่าเธอจะสื่อสารยากขนาดนี้ สิ่งที่เธอควรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว เธอก็ยังอยากจะพบประธานเจียงอีก รู้ว่าเธอนั้นมีการ
ร่วมมือกับเหิงคั่งกรุ๊ป ก็ไม่กล้าที่จะทำขัดใจเธอ จึงทำได้เพียงทำการโทรศัพท์
เธอเชื่อมต่อกับสายภายใน
ผ่านไปสักพักสายโทรศัพท์ถึงถูกรับขึ้น เสียงฝั่งนั้นค่อนข้างทุ้มต่ำเคร่งขรึม
“ประธานเจียงคะ คุณหลินมาค่ะ และต้องการจะพบท่าน บอกว่าจะมาเจรจาเรื่องงาน หากดิฉันไม่แจ้งให้ทราบเธอก็จะบุกเข้าไป……
“ให้เธอเข้ามา”
เมื่อพูดจบก็วางสายลง
เลขาฯวางโทรศัพท์แล้วมองมาทางจงเหยี่ยนซี่ “เชิญค่ะคุณหลิน”
จงเหยียนซีหันหลังเดินเข้าไป
ผลักประตูห้องทำงานออก เธอก็เห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเยงม่หานนั่งอยู่หน้าต๊ะทำงาน เสื้อสูทบนตัวนั้นได้ถอดออกแล้ว บนตัวเหลือ
เพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว และคอเสื้อก็เปิดออก
จงเหยียนซีก้าวเดินเข้ามา และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ประธานเจียงไม่สบายเหรอคะ”
เจียงโม่หานมองมาทางเธอ เมื่อรับสายของเลขาฯแล้วเขารู้สึกแปลกใจที่เธอมาหาในเวลานี้
สีหน้าไม่เย็นชาเหมือนยามปกติ แววตาซ่อนความอาวร คำพูดของเจียงโเซียนถูกเขานำเข้ามาใส่สมอง
เขามีทุกอย่างแต่ไม่มีความสุข
โดยเฉพาะหลังจากที่สูญเสียจงเหยียนซี
โลกของเขาได้กลับไปสู่ก่อนหน้าที่จะขอเธอแต่งงาน มืดมนและหนาวเหน็บ ไม่หลงเหลือความอบอุ่นอีก เขาอยากได้ความรู้สึกนั้นกลับ
คืนมา
และคนที่สามารถให้ความรู้สึกนี้แก่เขาได้ก็มีเพียงหลินลุ่ยซีเท่านั้น
เขาต้องการให้ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวแทนของจงเหยียนซี
“หากว่าผมไม่สบาย คุณหลินจะเป็นห่วงผมไหม”
“แน่นอน พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน หากคุณเป็นอะไรไป ความพยายามฉันที่ทุ่มเทมาทั้งหมดก็จะไม่สูญเปล่าไปหรอกเหรอ”
จงเหยียนซีดึงเก้าอี้หน้าโต๊ะมาแล้วนั่งลง
เจียงโม่หานเอนร่างไปด้านหลัง “น้ำเสียงของคุณหลินฟังแล้วเหมือนไม่ค่อยจริงใจนะ”
จงเหยี่ยนซีจ้องแล้วมองเขา “คุณรู้เหรอว่าจริงใจคืออะไร”
เธอเคยแบกความจริงใจมาไว้ตรงหน้าเขา เขาเคยรักษาไว้ไหม
เจียงโม่หานจับราวนักก้าอี้ไว้ จ้องมองเธอด้วยเววตาลุ่มลึก “รู้สึกว่คุณหลินจะอคติไม่ค่อยเป็นมิตรกับผมเลยนะครั่บ เมื่อก่อนพวกเรา
เคยมีความแค้นต่อกันหรือเปล่า”
“ประธานเจียงพูดตลกอะไรกัน” จงเหยียนชีวางเอกสารลงบนโต๊ะ “พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน เป็นเพื่อนกัน จะเป็นศัตรูได้อย่างไร”
เธอผลักเอกสารไปที่ด้านหน้าของเจียงโม่หาน และจงใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนาขึ้น “ก่อนหน้านั้นถูกเร่งรัด ตอนนี้ไม่ต้องเร่งรัดแล้ว ฉันถือ
โปรเจกต์งานมาด้วยแล้ว เชิญประธานเจียงเปิดอ่านดูได้เลยค่ะ”
เจียงโม่หานไม่ได้ต้องการอยากดู แต่ต้องการอยากจะสนทนาหัข้อเมื่อสักครู่ต่อ “คุณหลินดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงการสนทนาหัวข้อนี้นะ
กำลังกลัวอะไรอยู่หรือเปล่า”