กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 934 ขึ้นอยู่กับผม
ในมือของจงเหยียนซีถือเอกสารไว้ เห็นเธอยิ้มแล้วกล่าวทักทาย “ประธานเจียง”
เจียงโม่หานพยักหน้ารับ
เธอเดินอ้อมด้านหลังรถมา แล้วหันไปกล่าวกับกู้เสียนว่า “คุณกลับไปก่อน ฉันจะคุยเรื่องงานกับประธานเจียง แล้วฉันจะเรียกรถกลับไปเอง”
“ข้างๆคุณไม่มีใครผมไม่ไว้ใจ ผมจะรอคุณอยู่ด้านล่างตึก เพื่อหลีกเรื่องการเกิดข่าวบ้าๆแบบนั้นอีก” กู้เสียนแดกดัน
เจียงโม่หานราวกับไม่ได้ยิน หันหลังแล้วเดินไปทางตึก ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ แต่เมื่อสังเกตดูดี ๆ สองมือของเขาได้กำไว้แน่น และใบหน้าที่
ตึงเครียดบ่งบอกถึงอารณ์ของเขาที่ไม่ได้สงบเยือกเย็นเหมือนภายนอก
จงเหยียนซีมองกู้เสียนครู่หนึ่ง
กู้เสียนไม่กลัวว่าเรื่องจะลามใหญ่โต องแผ่นหลังของเยงโม่หานแล้วกล่าว “ประธานเจียงพูดกันแบบแมนๆ อย่าทำให้ผู้หญิงลำบากใจ
โปรเจกต์งานนั้นเกรงว่าประธานเจียงคงจะหาข้อผิดพลาดไม่ได้ เลยจงใจกลั่นแกล้งผู้หญิง เป็นการกระทำที่ไม่แมนเลย”
เจียงม่หานที่เดิมทีไม่อยากจะต่อล้อต่อคำกับเขา แต่เวลานี้การกระทำของเขาทำให้ขุ่นเคืองสายตา จึงได้หยุดชะงักเท้าแล้วหันหลังมา
มองเขา กล่าวถามขึ้น
“ผมจะกลั่นแกล้งเธอ คุณจะทำอะไรผมได้”
กู้เสียน
เขาผลักประตูอยากจะลงจากรถ จงเหยียนซีรีบห้ามไว้ แล้วกล่าวปรามเบาๆ “อย่าทำให้ฉันเสียการได้ไหม”
หางตากู้เสียนกระตุกเล็กน้อย แล้วกล่าวด้วยความโมโห “เขา เขาเป็นแบบนี้ ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม”
“คุณไม่ได้จะแต่งงานกับเขาสักหน่อย คุณจะไปสนใจทำไมว่าเป็นลูกผู้ชายหรือไม่ คุณอยู่นิ่งๆอย่าทำให้ฉันเสียการ”
เมื่อกล่าวห้ามปรามแล้วก็มองเขาครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบเดินตามเจียงโม่หานไปเพื่อกล่าวอธิบาย “ประธานเจียงอย่าไปถือสาเลยนะคะ เขา
แค่โมโหข่าวเมื่อสองสามวันก่อนค่ะ”
เจียงโม่หานไม่พูดไม่จา แล้วขึ้นลิฟต์อย่างเงียบ ๆ
จงเหยียนซีตามเข้าไปติดๆแล้วกล่าวถามขึ้น “ประธานเจียงโกรธเหรอคะ”
“อืม” เจียงโม่หานหันหน้ามามองเธอ “แต่ว่าไม่ได้โกรธเขา คนอื่นไม่สามารถทำให้ผมโกรธได้ ผมแค่โกรธตัวเอง”
คำพูดของเขานี้เหมือนมีความหมายอื่น แต่จงเหยียนซีนั้นไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น ทำแค่เพียงยิ้มแล้วกล่าว “ฉันได้ทำโปรเจกต์งานมาใหม่ค่ะ”
เจียงโม่หานกล่าวถาม “คุณเห็นความสำคัญกับการร่วมมือครั้งนี้มากเลยเหรอ”
เธอตอบกลับ “แน่นอน นี่ไม่ใช่ว่าฉันอยากนะ แต่นี่เป็นความร่วมมือที่วินๆกันทั้งคู่ ๆ
“เหรอครับ” เขายิ้ม “คุณแน่ใจเหรอว่าหลังจากที่ผมเซ็นสัญญาไปแล้ว ผมจะยังสามารถวินได้อีก
หัวใจจงเหยียนซีบีบรัดขึ้นทันใด คำพูดของเขานี้ราวกับเหมือนไปรู้อะไรบางอย่างมาอย่างนั้น
เธอรีบสงบสติตัวเองแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูประธานเจียงพูดเข้าสิ พวกเราร่วมมือกัน แน่นอนว่าพวกเราต้องได้ผลประโยชน์ร่วมกันสิ”
เจียงโม่หานหรี่ตาลงเบาๆ ปิดซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้
สักพักลิฟต์ก็หยุดลง เขาเดินออกมา จงเหยียนซีเดินตามอยู่ด้านหลัง แล้วกล่าวถามขึ้น “ประธานเจียงไม่พอใจกับโปรเจกต์งานที่ฉันทำมา หรือว่ามีความคิดเห็นอย่างอื่นคะ”
เจียงโม่หานกล่าว “ผมไม่มีความคิดเห็นอะไร ผมยินดีมาก…..·
เขาชะงักหยุดทันที จ้องมองเธอ แล้วกล่าวทีละคำ ๆ “ผมยินดีมากที่จะร่วมมือกับคุณหลิน”
จงเหยียนซีถอนหายใจโล่งอก เธอนึกว่าเจียงม่หานจะพบเจออะไรที่ทำให้ไม่เต็มใจที่จะทำการร่วมมือแล้วเสียอีก
เธอยิ้ม “ฉันก็ยินดีมากที่ได้ร่วมมือกับประธานเจียง”
เจียงม่หานยกริมฝีปากขึ้นที่ข้างในซ่อนความผิดหวังที่คนอื่นไม่สามารถสังเกตเห็นได้
ร่วมมือ นี่หมายถึงว่าเขาจะตกหลุมพรางที่เธอได้สร้างขึ้นไว้สำหรับเขา จนอาจจะไม่เหลืออะไรสักอย่าง
เมื่อถึงหน้าประตูห้องทำงาน เขาผลักประตูออก
เมื่อเข้าไปในห้องทำงานแล้ว จงเหยียนซีได้นั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ แล้ววางเอกสารลงบนโต๊ะ จากนั้นผลักไปยังด้านหน้าของเจียงโม่หาน
“ประธานเจียงอ่านดูนะคะ มีตรงที่ไม่ยังไม่เหมาะ ฉันสามารถแก้ได้ค่ะ”
เจียงโม่หานไม่ดู แล้วกล่าว “ผมเชื่อในความสามารถของคุณหลิน”
เขาหยิบปากกาอกมาหนึ่งด้ามจากกล่องปากกา แล้วเปิดเอกสารที่อยู่ตรงหน้าที่เธอผลักมาให้ จากนั้นก็เซ็นลงตรงจุดที่เซ็นชื่อ
จงเหยียนซีกลับรู้สึกแปลกใจ ก่อนหน้านี้ยังจงใจกลั่นแกล้ง ครั้งนี้กลับเซ็นอย่างง่ายดาย
เธอนั้นดูไม่ออกถึงความคิดของเขาแล้วจริงๆ
“ประธานเจียงนั้นเชื่อมั่นฉันหรือไม่เชื่อมั่นกันแน่” ครั้งก่อนนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่มีความเชื่อมั่น แต่ครั้งนี้กลับง่ายดายเหมือนกับเชื่อมั่นเธอมาก
“แน่นอนว่าผมนั้นเชื่อมั่นคุณ” เจียงม่หานผลักเอกสารที่เซ็นเสร็จแล้วไปที่ด้านหน้าเธอ “ดำเนินการตามโปรเจกต์งานของคุณหลินแล้วกัน”
จงเหยียนซีจ้องมองเขา เวลานี้เจียงโม่หานก็จ้องมองเธอเช่นกัน ทั้งคู่สบตากัน ภายนอกดูสงบนิ่ง แต่ความจริงต่างคนต่างมีความคิดในใจ
จงเหยียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ ฉันนจะไม่ทำให้ประธานเจียงผิดหวังกับการเชื่อมั่นในตัวฉันอย่างแน่นอนค่ะ”
ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอได้เน้นเสียงหนักประโยคนี้
เจียงโม่หานยกมือขึ้นดูเวลาแวบหนึ่ง “อีกสักครู่ก็จะเที่ยงแล้ว ตอนนนี้พวกเราก็บรรลุความร่วมมือสำเร็จแล้ว อย่างนั้นพวกเราไปฉลอง
กันหน่อยไหม ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงคุณหลิน”
ไม่รอให้จงเหยียนซีได้พูด เขาพูดเสริมขึ้นอีก “ถือโอกาสเป็นการขอโทษกับข่าวเมื่อสองสามวันก่อนด้วยครับ”
เมื่อพูดจบเขาก็ลุกขึ้น ไม่ได้ให้เวลาจงเหยียนซีได้ตัดสินใจเลยแม้แต่น้อย “ไปกันเถอะ”
จงเหยียนซี”
เธอมองไปยังโปรเจกต์งานที่เซ็นชื่อเสร็จแล้ว จึงตอบรับคำชวนเบาๆของเขาอย่างเฉยเมย “ก็ได้ค่ะ”
ทั้งคู่จากบริษัทไปพร้อมกัน
เจียงโม่หานขับรถ
พวกเขาไม่ได้ไปร้านอาหาร เจียงโม่หานพาเธอไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
“ประธานเจียง…
“ผมคิดว่าต้องมีความจริงใจ จึงอยากจะทำด้วยมือตัวเอง” เขาจอดรถแล้วไปเปิดประตูให้เธอ “คุณหลินลงมาเถอะครับ”
ได้รับปากแล้ว มาถึงขนาดนี้ จงเหยียนซีก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้อีก จึงจำยอมลงจากรถ
พวกเขาได้เข้าไปในซูปอร์มาร์เก็ต เจียงโม่หานไม่ได้ถามเธอว่าเธอชอบทานอะไร เพราะเขารู้ดีถึงความชอบและความรักของเธอ
ตอนแรกจงเหยียนซีก็ไม่ได้อะไร แต่หลังจากนั้นทุกอย่างที่เขาซื้อล้วนเป็นสิ่งที่เธอชอบทาน จึงกระสับกระส่ายเล็กน้อย ไม่เข้าใจเขาจะสื่ออะไร
“ประธานเจียง คุณชวนฉันมาทานข้าว ยังไม่ได้ถามว่าฉันชอบทานอะไรเลย” จงเหยียนซีกล่าว
“ผมรู้ว่าคุณหลินชอบทานอะไร” เจียงโม่หานหยิบขนมอีกถุงมาวางไว้ที่รถเข็น
จงเหยียนซีเริ่มลนลาน “ประธานเจียงรู้ได้อย่างไรว่าฉันชอบทานอะไร”
“ผมเคยบอกแล้วว่าคุณกับอดีตภรรยาผมเหมือนกันมาก ผมคิดว่าพวกคุณคงน่าจะชอบอะไรที่คล้าย ๆ กัน ถ้าหากว่าคุณหลินไม่ชอบ ก็
ช่วยไม่ได้ ในเมื่อผมเป็นคนเลี้ยง จะทานอะไรก็ขึ้นอยู่กับผม” เจียงโม่หานเข็นรถเข็น “ไปกันเถอะ ไปจ่ายเงินกัน”
จงเหยียนซี”