กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 935 ลูกสะใภ้ที่เลือกเองกับมือ
เจียงโม่หานเอาแต่ใจ เอาแต่ใจจนชนิดที่จงเยียนซีหมดคำจะพูด เธอเดินตามเขาอย่างเงียบ ๆ และเดินมายืนต่อคิวด้านหลังเคาน์เตอร์แคชเชียร์
“เมื่อก่อนผมกับอดีตภรรยาผมก็เป็นแบบนี้ ผมเข็นรถเข็น เธอยืนอยู่ข้างๆผม”
เธอเกิดมาในพื้นฐานที่ดี เรื่องแบบนี้ความจริงเธอไม่จำเป็นต้องทำ แต่เธอมักจะตื้อให้เขามา บอกว่าอยากจะเหมือนคนปกติทั่วไป มีชีวิตที่เรียบง่าย จากนั้น
ก็ควงแขนของเขาแล้วกล่าวว่า “ความสุขที่เรียบง่ายต่างหากคือความสุขที่แท้จริง”
ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจความหมายประโยคนั้นด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่าเธอในตอนนั้นรักเขามากจากใจ
แต่เขากลับไม่รู้จักรักษา
ในหัวสมองมีแต่แม่ที่จากไป
“ประวัติความรักของประธานเยงฉันไม่อยากจะสนใจ” จงเยียนซีมองไปด้านหน้าด้วยจิตใจที่นิ่งสงบ เธอไม่มีการหลบเลี่ยงแต่อย่างใด
อาจเป็นเพราะว่าไม่แคร์แล้ว ก็เลยไม่รู้สึกกลัว ก่อนหน้านี้เพราะคำพูดเหล่านั้นของเขาทำให้กังวล เพราะกลัวว่าเขาจะรู้ตัวตนของตัวเอง
เธอพบว่าการเอ่ยถึงอดีตภรรยาของเขานั้นเป็นเรื่องปกติ
บางทีต้องให้ตายจากกันก่อน ถึงจะทำให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่รู้ซึ้งถึงความดีของเธอ
ไม่นานก็ถึงคิวพวกเขา เจียงโม่หานนำสิ่งของจากรถเข็นมาวางไว้ที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ผ่านไปครู่หนึ่งแคชเชียร์ก็ได้สแกนสินค้าเสร็จทั้งหมด
หลังจากที่เจียงโม่หานจ่ายเงินแล้ว พวกเขาก็เดินออกมา
มาถึงด้านหน้ารถ เขานำสิ่งของที่ซื้อมาไว้ด้านหลังกระโปรงรถ จากนั้นก็ขึ้นรถขับจากไป
ขับรถมาได้สักพัก จงเหยียนซีพบว่าทิศทางที่เขาขับไปนั้นเป็น ทางไปบ้านคฤหาสน์ เธอถามขึ้น “ประธานเจียง นี่พวกเราจะไปไหนกันคะ”
“บ้านผม” เจียงม่หานกล่าวโดยที่สายตาจดจ่ออยู่ด้านหน้าบ้าน?
ตอนนี้จงเหยียนซีเริ่มสงสัยแล้วว่าเขาไปรู้อะไรมาหรือเปล่า ตามที่เธอรู้มา บ้านหลังนั้นถูกปล่อยให้’รกร้าง’แล้วไม่ใช่เหรอ
ขณะที่กำลังครุ่นคิดรถก็ได้ขับมาถึงจุดหมาย แม้ว่าจะอยู่แค่หน้าประตู แต่จงเหยียนซีก็สังเกตเห็นว่าที่นี่ได้ถูกจัดการทำความสะอาดแล้ว ซึ่งแตกต่างจากครั้งก่อนที่เธอมาอย่างสิ้นเชิง
เธอสงบสติไว้ แสร้งทำเป็นผ่อนคลายแล้วกล่าวขึ้น “ประธานเจียงที่นี่เป็นบ้านของคุณเหรอ”
หลังจากที่เจียงโม่หานตอบว่าใช่แล้ว ก็เปิดประตูลงจากรถ แล้วเปิดกระโปรงรถเพื่อหยิบสิ่งของมาถือไว้ในมือ จากนั้นกล่าว “ไปกันเถอะ”
จงเหยียนซีเดินตามไป
ระหว่างทางเธอแกล้งทำเป็นหมือนเป็นการมาครั้งแรก กวาดมองแล้วกล่าว “บ้านสวยดีนะคะ เพียงแต่การตกแต่งธรรมดาเกินไป”
ทุกอย่างที่นี่เกือบจะเป็นเธอที่จัดแจงตกแต่งทั้งหมด ทุกต้นไม้ต้นหญ้าล้วนมาจากความอุตสาหะของเธอ
ตอนนั้นเธอหวังว่าเธอกับเขาจะสามารถมีบ้านที่เรียบง่ายและอบอุ่น ไม่ใช่ที่ข้างนอกงดงามแต่ข้างในเป็นโพรง
และความจริงได้พิสูจน์แล้ว บ้านที่เธอใช่ใจในการตกแต่งนั้น ‘ด้านนอกงดงามแต่ด้านในเป็นโพรง’จริง ๆ คนอื่นต่างว่ากันว่าพวกเขานั้นหนุ่มก็หล่อสาวก็งาม ช่างเหมาะสมกันจริงๆ
แต่แล้วทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ภายนอก ความคิดของเขาลุ่มลึก ไม่เคยรักเธอไม่เคยเห็นที่นี่เป็นบ้านจริง ๆ คนอื่นคิดว่าพวกเขามีความสุข แต่ความจริงแล้ว
ทั้งหมดล้วนเป็นหลุมพรางของเขาที่ใช้ในการแก้แค้น
และเธอก็ตกลงไปในหลุมพรางนั้นอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ โง่ๆอยู่อย่างนั้น และคิดว่านี่คือความรัก เหอะๆน่าขำชะมัด
เจียงโม่หานมองเธอแล้วยิ้ม “ผมคิดว่าคุณจะชอบที่นี่เสียอีก”
“จะชอบได้อย่างไร ที่นี่ไม่ได้เป็นบ้านของฉัน”
“บางทีอาจจะใช่” เขาพูดน้ำเสียงเบาๆ
จงเหยียนซีได้ยินไม่ชัดเจน จึงกล่าวถามขึ้น “ประธานเจียง คุณพูดว่าอะไรนะ”
เจียงโม่หานกล่าว “ผมบอกว่าคุณหลินมาถึงบ้านผมไม่ต้องเกรงใจ คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเองก็แล้วกัน”
จงเหยียนซีจงใจลากแบ่งเส้นกั้นแล้วกล่าว “บ้านคือท่าเรือ บ้านคืออ้อมกอดของแม่ ที่นี่ไม่มีท่าเรือให้ฉันได้หลบภัยลมลมพายุ ไม่มีอ้อมกอดของแม่ จะเป็น
บ้านได้อย่างไร ฉันคงไม่กล้าที่จะเห็นที่นี่เป็นบ้านหรอก”
เจียงโม่หานมองเธอย่างลุ่มลึกโดยไม่ได้ตอบกลับ เพียงแต่กล่าวประโยคเรียบง่าย “คุณหลินสามารถชมได้ตามสบายเลยนะครับ”
เมื่อพูดจบเขาก็ถือของเข้าไปที่ห้องครัว
จงเหยียนซียืนอยู่ที่ห้องรับแขก ที่นี่ยังคงเป็นเหมือนเดิมทุกประการ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หากบอกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงน่าจะเป็นคนไม่มีสภาพจิตใจในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว
เธอไม่ได้ไปจับสัมผัสทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ นั่งอยู่บนโซฟาอย่างเงียบๆ เธอล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความหาจวงเจียเหน ถามเขาว่า (กลับมาหรือยัง]
เวลานี้เขาคงน่าจะดูโทรศัพท์อยู่ เพราะว่าไม่กี่วินาทีเขาก็ตอบกลับมา (ยัง]
และก็ตามมาติดๆด้วยรูปภาพใบหนึ่ง
อากาศที่นั่นดีมาก ในรูปถ่ายมีใบไม้ที่เขียวขจื ดอกไม้สวยสดงดงาม เห็นแล้วพวกเขาน่าจะอยู่ในศาลาอาคารไม่
ม่านสีขาวบนศาลาพัดปลิดปลิวไสวตามแรงลม บนพรมโต๊ะเหลี่ยมทรงต่ำวางไว้ ด้านบนโต๊ะมีพวงมาลัยที่ทำจากดอกไม้สดวางอยู่
หลินซินเหยียนที่กำลังสอนเสิ่นซินเหยาร้อยพวงมาลัย
เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นมานาน จึงเรียนรู้วัฒนธรรมของที่นั่นมากมาย และก็คุ้นเคยกับชีวิตและขนบธรรมนียมพื้นบ้านที่นั่น
เธอเพลิดเพลินกับชีวิตที่เงียบสงบแบบนั้น
(แม่กำลังสอนว่าที่สะใภ้ร้อยพวงมาลัย)
มองดูรูปถ่าย มองดูข้อความของจวงเจียเหวิน จงเหยียนซีก็ยกริมฝีปากขึ้นเบาๆ (เห็นแล้วแม่ดูพอใจกับลูกสะใภ้คนนี้มาก)
ฝั่งนั้นเงียบไปสักครู่ …. …แม่เลือกเอง มีหรือจะไม่ชอบ)
จงเหยียนซีรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว (พี่จำได้ว่าน้าซางจองเธอก่อน)
(พี่ทำไมเห็นผมเหมือนเป็นสิ่งของเลย)
(ฮ่า ๆ)จงเหยียนซีส่งรูปอิโมจิหัวเราะ (เดิมที่นายก็ใช่อยู่แล้วนิ)
(ตอนนี้พี่อยู่ไหน ทำไมถึงว่างมาคุยกับผม]
จงเหยียนซีชะงักไปชั่วครู่ แล้วตอบกลับ (คิดถึงนายไง ไม่ได้เหรอ)
ฝั่งนั้นส่งรูปอิโมจิตกใจ
(พี่ค้นพบมโนธรรมแล้วเหรอ]
จงเหยียนซี [..
คำพูดนี้ราวกับว่าเธอไม่มีมโนธรรมอย่างนั้นแหละ
(ผมคิดว่าพี่คิดแต่เรื่องแก้แค้นเจียงม่หาน จนลืมครอบครัวไปแล้วเสียอีก)
จงเหยียนซีไม่ได้มีความกระฉับกระเฉงเหมือนเมื่อสักครู่ เจียงโม่หานสามคำนี้ เพียงพอที่จะทำให้ความสุขของเธอมลายไป
(ห้ามให้นายเอ่ยถึงเขา ในโลกของพวกเรา ไม่มีคนคนนี้อีกแล้ว]
(พ่อมาแล้ว ไม่คุยกับพี่แล้วนะ ) หลังจากที่จวงเจียเหวินส่งข้อความนี้แล้ว ก็ไม่ได้ส่งข้อความอื่นอีก
จงเหยียนซีจ้องหน้าจออยู่นานสองนาน เธอก็คิดถึงพวกเขาแล้วเช่นกัน
ในห้องครัว เจียงโม่หานบังเอิญเห็นจงเหยียนซีนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟา
เขาวางของในมือลงแล้วเดินเข้ามา “หากคุณหลินรู้สึกเบื่อ สามารถไปนั่งที่ห้องหนังสือได้นะครับ ตรงนั้นมีหนังสือมากมาย บางทีอาจจะมีเล่มที่คุณชอบ”
ความจริงแล้ว ที่นั่นมีหนังสือมากมายที่จงเหยียนซีเคยชอบ
ได้ยินเสียงของเขา จงเหยียนซีก็เก็บอารมณ์ขึ้นทันใด แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขานั้น ใบหน้าผุดรอยยิ้มขึ้น “ประธานเจียงไม่ต้องเกรงใจ ฉันมาบ้านคนอื่น ไม่
ชอบแตะต้องของของคนอื่น”
“พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน คุณหลินอย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่นสิ” แววตาของเจียงโม่หานขยับเล็กน้อย “พวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็น
ครอบครัวเดียวกัน คุณหลินคิดว่าไง”
จงเหยียนซีตอบกลับเบาๆ “แต่ไหนแต่ไหนสำหรับฉันงานก็ส่วนงาน ชีวิตส่วนตัวก็คือชีวิตส่วนตัว ไม่ปะปนสองอย่างเข้าด้วยกันเด็ดขาด”
และเธอก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “ประธานเจียงพูดถูกค่ะ ฉันเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทรุ่นเหม่ย ถ้าหากบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่างนั้นก็คง
ต้องเป็นเหิงคังกรุ๊ปกับบริษัทรุ่นเหม่ย”
เจียงโม่หานยิ้ม “คุณแยกความสัมพันธ์แบบนี้กับผม ทำให้ผมเข้าใจผิดคิดว่าคุณคืออดีตภรรยาที่กำลังงอนผมอยู่”