กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 937 เธอรู้ทุกอย่างแล้ว
จงเหยียนซีลุกยืนขึ้นทันใด จากนั้นกล่าวเบาๆ “คุณชอบคิดไปเอง ฉันไม่พนันกับคุณ เพราะว่าไม่ชอบคนแบบคุณ คุณไม่ใช่สัตว์ประหลาดกินคนสักหน่อย
ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย อีกอย่างฉันก็ไม่ชอบฟังความรักเก่าๆของคุณ ดังนั้นต่อไป ก็อย่าคุยกับฉันเรื่องอดีตภรรยาคุณอีก ฉันรู้สึกเบื่อมาก พูดตรง ๆ การทาน
อาหารครั้งนี้ฉันทานอย่างไม่มีความสุข”
เมื่อพูดจบเธอก็ดึงเก้าอี้ออกลุกขึ้นหันหลังเดินออกไป
เจียงม่หานนั่งนิ่งไม่ขยับ สายตาทอดไปตามฝืเท้าเดินของเธอที่เดินออกไปด้านนอก
เธอโกรธเหรอ
เป็นเพราะเขากดนเธอมากเกินไปเหรอ
มือที่วางอยู่บนโต๊ะของเขาค่อยๆกำแน่นขึ้น
หรือว่าเขาควรจะเปลี่ยนวิธี
จงเหยียนซีที่เดินออกมาจากบ้านได้ทำการโทรศัพท์
เจียงโม่หานเซ็นโปรเจกต์งานแล้ว อย่างนั้นการซื้อกิจการครั้งนี้ก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ในรอบแรกจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล เพื่อโจมตีหุ้นของบริษัทที่ถูกซื้อไป
แม้ว่าทั้งสองบริษัทจะลงทุนเงินพร้อมกัน แต่ก็เป็นก้อนจำนวนเงินที่มหาศาล
เจียงม่หานรู้ทั้งรู้ว่าเงินจำนวนนี้ออกไปแล้วไม่มีทางได้กลับคืน อนาคตต่อให้ซื้อกิจการสำเร็จ ก็เกรงว่าอาจเป็นบริษัทที่สูญเปล่า เขาจะต้องขาดทุน
ย่อยยับ แต่ก็ยังลงทุนเงินก้อนแรกไป
แต่แล้วเวลานี้ กู้เสียนกลับมาบอกลากับจงเหยียนซี เขาต้องกลับบ้าน สำหรับเขาแล้ว ประเทศจีนคือที่ทำงานของเขา เขาติดตามแม่เติบโตที่ต่างประเทศ
และนั่นคือที่ที่เขาเติบโตคือบ้านของเขา
จงเหยียนซีไม่ได้ถามว่าทำไมถึงกลับบ้านกะท้นหัน ในฐานะเพื่อนจึงได้ไปส่งเขาที่สนามบิน
เขากับแม่ของเขาต่างพึ่งพาอาศัยกัน คำพูดของแม่เขาจะต้องเชื่อฟัง
มองดูกู้เสียนเช็กอินเข้าไปในประตูขึ้นเครื่องแล้ว จงเหยนซีถึงได้หันหลังออกจากสนามบิน เถียนฉีเฟิงเปิดประตูรถให้กับเธอ
จงเหยียนซีโน้มตัวเข้าไปในรถ
“เรื่องที่คุณให้ไปสืบมีความคืบหน้าแล้วครับ คนที่ชื่อหนานเฉิงกำลังสืบการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งหนึ่งที่นานมาแล้วครับ” เถียนฉีเฟิงก็ได้นั่งเข้าไปในรถแล้วกล่าว
จงเหยียนซีกลับมาจากคฤหาสน์ก็รู้สึกเหมือนเจียงโม่หานไปรู้อะไรมาบางอย่าง จึงได้ให้น้องชายของเถียนฉีเฟิงติดตามหนานเฉิง ว่าช่วงนี้เขายุ่งอยู่กับอะไร
คนที่เจียงโม่หานเชื่อใจมากที่สุดก็คือหนานเฉิง ติดตามเขาจะต้องได้เบาะแสอย่างแน่นอน
และก็เป็นไปตามคาด เขานั้นไปสืบเรื่องราวในอดีต อย่างนั้นก็แปลว่า เก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไปสืบเรื่องนี้
อย่างกะทันหัน
สายตาของเธอมองออกไปด้านนอก
ใบหน้าไร้อาการใด ๆ แต่ในใจเกิดความสงสัยว่าเขารู้ได้อย่างไร
เธอคิดไม่ออกว่าตัวเองนั้นตรงไหนที่ทำให้เขาเกิดความสงสัย
เถียนฉีเฟิงมองผ่านกระจกหลังที่เห็นท่าทางที่สงสัยของเธอ จึงกล่าวขึ้น “ประธานกวงเคยไปปรากฏตัวที่บริษัทหลักทรัพย์ซินไฮ” จงเหยียนซีขมวดคิ้ว
“นายพูดว่าอะไรนะ”
เถียนฉีเฟิงกล่าว “ดูเหมือนประธานกวงจะตั้งใจไปให้เขาเห็น”
จงเหยียนซีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำลังจะโทรออก สุดท้ายก็วางโทรศัพท์ลง
ในที่สุดเธอก็เข้าใจเสียดี เธอไม่สามารถที่จะทำตามแผนการของเธอจริง ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ของเธอมักจะแอบช่วยเธอเสม
เธอยกริมฝีปากยิ้มเศร้าขึ้น
เกียนฉีเฟิงอธิบาย “ความจริงแล้วประธานกวงอยากจะรู้ว่าเจียงโม่หานยังมีใจให้กับคุณอยู่หรือเปล่า”
ดังนั้นจึงได้ตั้งใจไปปรากฏตัวที่บริษัทหลักทรัพย์ซินฮพี่อให้เจียงโม่หานเห็น
เขาต้องการทดสอบความรู้สึกผิดของเจียงโม่หานนั้นมีมากแค่ไหน รู้ทั้งรู้ว่านี่เป็นหลุมพราง ดูสิว่าเขาจะกล้าโดดลงหรือไม่
กวนจิ้งนั้นอาบน้ำร้อนมาก่อน ทำอะไรจะไม่ระแวดระวังได้อย่างไร ให้เจียงโม่หานเจอตัวง่ายๆ นั่นคือความตั้งใจของเขา
ตอนนั้นเขาเล็งเจียงโม่หานไว้ คิดว่าเขาจะดีกับจงเหยียนซี แต่คิดไม่ถึงว่า…..
จงเหยียนซีรู้สึกว่าเรื่องนี้ช่างตลกมาก คนที่จิตใจเต็มไปด้วยความแค้น ถึงแม้จะยังมีความรัก จะอธิบายอะไรได้
ในใจของเขาความแค้นแรงกว่าความรัก
ต่อให้เขาจะเสียใจ สำนึกผิด เธอก็ไม่ได้รักเขาอีก
นี่มันไม่มีความหมายใด ๆเลย
แต่ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็คงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้
แบบนี้ เจียงโม่หานก็ยังเซ็นโปรเจกต้งานอย่างเต็มใจ อย่างนั้นก็น่าจะรู้ว่านี่เป็นหลุมพรางถึงได้โดดเข้ามา
ในเมื่อเขาเต็มใจ อย่างนั้นก็รีบสะสางให้มันจบ ๆไป!
เธอเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินที่ต้องลงทุนจากเดิม ในเมื่อเขายินดีที่จะตกหลุมพราง อย่างนั้นเธอก็จะใช้ประโยชน์จากจุดนี้ก็แล้วกัน
จงเหยียนซียื่นใบสัญญาใหม่วางไว้ตรงหน้าเขาอีกครั้ง เจียงโม่หานไม่ได้ถามว่าทำไมถึงได้แก้ไขโปรเจกตังาน และก็ไม่ได้ดูเนื้อหา เซ็นอย่างเต็มใจเหมือน
กับครั้งก่อน
จนกระทั่งเงินทุนรอบที่สองเริ่มต้นขึ้น เจียงโม่หานถึงได้รับสายจากแผนกการเงิน
จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องนั้นมหาศาล ทางฝั่งนั้นไม่กล้าที่จะโอนเงินนี้ออกไปอย่างง่ายๆ
ต่อให้เจียงโม่หานจะเซ็นตกลงแล้วก็ตาม ทางฝั่งนั้นก็ยังต้องการการยืนยันอีกครั้ง เพื่อกันความผิดพลาด
เจียงโม่หานยืนอยู่ที่ริมหน้าต่าง มองออกไปด้านนอก นี่คือสิ่งที่เขาค้างเธอไว้ คงต้องชดใช้เธอ
เขากล่าว “ผมอนุมัติ”
ทางฝั่งนั้นจึงไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
ณ โรงแรม
เงินรอบที่สองได้เข้ามาแล้ว เธอได้รับข้อความแล้ว
เธอรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ก็ดี
จะได้จบเร็วๆ เธอก็จะได้จากไป
เธอได้คิดไว้แล้ว ไปเมืองนอกสักระยะหนึ่ง ไปเปลี่ยนใบหน้าตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิม จากนั้นค่อยไปหาพ่อกับแม่
ยังมีน้องชายอีก น้าฉินหยาพวกเขาด้วย
เวลาหนึ่งปีบอกนานก็นาน บอกสั้นก็สั้น
ติ๊งต่อง–
ประตูห้องดังขึ้น เธอเดินไปเปิดประตู เจียงโม่หานยืนอยู่ที่หน้าประตู
เมื่อเห็นเขาแล้ว จงเหยียนซีไม่รู้สึกแปลกใจ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ประธานเจียงมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
ตอนนี้เธอรู้ว่าเจียงโม่หานรู้ตัวตนของเธอแล้ว แต่ว่าเจียงโม่หานยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นรู้เรื่องแล้ว
“แค่อยากจะมาเจอคุณหลิน จะไม่เชิญผมเข้าไปสักหน่อยเหรอ”
สีหน้าภายนอกเจียงโม่หานดูราบเรียบ แต่ว่าในใจนั้นสับสนวุ่นวาย เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะทำอย่างไรถึงจะรั้งเธอให้กลับม
ครั้งก่อนเห็นได้ชัดว่าเธอโกรธจริง ๆ เขาไม่กล้าใช้วิธีแบบนั้นอีก
“ข้างในรกมาก” จงเหยียนซีกล่าว
“ผมไม่ถือสา”
“อย่างนั้นก็ดี เชิญค่ะ” จงเหยียนซีหลบให้เขาได้เข้ามา
เจียงโม่หานเดินเข้ามาแล้ว ก็มองดูรอบ ๆ “ผมเช่าบ้านให้คุณหลินพักดีไหม โรงแรมผู้คนพลุกพล่านจะไม่สะดวก”
“ไม่ต้อง ฉันคิดว่าฉันคงจะพักที่นี่อีกไม่นาน” จงเหยียนซีปิดประตูแล้วเดินเข้ามา
เจียงโม่หานหันไปมองเธอ “ทำไมถึงจะไปแล้วล่ะ”
“ที่นี่เดิมทีก็ไม่ใช่บ้านของฉัน เมื่องานสิ้นสุดลง ฉันก็ต้องจากไป” จงเหยียนซีนั่งลงบนโซฟา และเชิญเจียงโม่หานให้นั่งลง
เจียงโม่หานจะนั่งติดก้นอีกได้อย่างไร ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรเซ็นโปรจกตังานนั้นไปแบบง่ายๆ เช่นนั้นแล้วเขายังสามารถรั้งเธอไว้ได้