กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 939 นายเป็นคนของใคร
หญิงสาววแม้ว่าจะกลัวแต่ก็ยืนนิ่งไม่ขยับ เธอมองเวลาแวบหนึ่ง เธอเพิ่งจะอยู่ในห้องแค่เกือบสองชั่โมงเท่านั้น
เธอกลัวจะไม่ได้ค่าจ้าง
เจียงโม่หานเวลานี้ไม่เพียงแต่ร่างกายทรมานเท่านั้น เขายังโมโหจนเจ็บปวดใจ
เขาคิดไม่ถึงว่าจงเหยียนซีจะทำกับเขาแบบนี้
เขาหลับตาลง ข่มความโกรธเอาไว้ แล้วลุกขึ้นมาคว้าแก้วที่อยู่บนโต๊ะตีไปที่ศีรษะของหญิงสาวผู้นั้น หญิงสาวหลบไม่ทันจึงถูกตีเข้าอย่างจัง
ร้องเสียงโอดโอ๊ยแล้วกุมศีรษะไว้ ส่วนหญิงสาวที่ถูกเตะล้มกองไปกับพื้นก็ได้ลุกขึ้น ไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ ห้นไปพูดกับหญิงสาวที่กุมศีรษะว่า “พวกเราไปกันเถอะ ค่าจ้างนี้คงได้ยาก เห็น
ชัดเจนว่าชายคนนี้มีความรุนแรง!”
ผู้หญิงที่กุมศีรษะของเธอไม่เต็มใจ แต่เมื่สบสายตากับเจียงโม่หานที่แดงก่ำเนื่องจากความโกรธ จึงต้องยอมแพ้
เจียงโม่หานคิดว่าพวกเธอยังไม่อยากจากไป นั่งอยู่บนเตียง จ้องมองไปที่หญิงสาวสองคนอย่างดุดัน “อยากตายเหรอ”
หญิงสาวสองคนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นอีก สักพักเก็บข้าวของเสร็จแล้วก็ออกไป ครั้นแล้วเมื่อพวกเธอเปีดประตูห้อง ก็เห็นดวงตาหลายคู่ต่างจ้องมองมาทางพวกเธอ
“เกิด เกิดอะไรขึ้น” หญิงสาวทำหน้างง
ส่วนสื่อที่อยู่หน้าประตูก็ถ่ายภาพรัวๆใส่พวกเธอ คิดในใจประธานเหิงงกรุ๊ปมีรสนิยมพิเศษ? เรียกมาพร้อมกันถึงสองคนในขณะเดียวกันแล้ว แต่ละคนยังจะได้รับบาดเจ็บอีก นี่เล่นกันมัน
ขนาดไหนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ สื่อเหล่านี้รู้สึกว่าตัวเองมีเรื่องให้เขียนแล้ว
ยิ่งกำเริบ หญิงสาวสองคนนี้ไม่สามารถสนองความอยากรู้ของพวกเขาได้อีก และก็ยิ่งต้องการเห็นเจียงโม่หานในเวลานี้
ประธานคนนี้คนที่ไม่เคยยอมให้สัมภาษณ์ อีกทั้งยังเย็นชา เวลานี้ที่อยู่บนเตียงจะมีททางอย่างไร คิดๆแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจัง และกล้องก็ค่อยๆยื่นเข้าไปในห้อง
เจียงโม่หาน “……
เขาใช้แรงจับผ้าปูที่นอนที่อยู่ใต้ร่างตัวเอง ไม่สนใจว่าร่างกายจะทรมานแค่ไหน ก็พยายามลุกขึ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี กวาดสายตามองคนที่อยู่หน้าประตูอย่างเยือกเย็น สุดท้ายตกกระทบไปที่
ร่างของหญิงสาวที่อยู่ปลายสุดทางระเบียงทางเดิน
คนเหล่านี้คงน่าจะเป็นเธอที่เรียกมา
เจียงโม่หานถึงแม้จะโมโห แต่สิ่งที่ทิ่มแทงจิตใจเขาที่สุดคือการหาผู้หญิงมาให้!
เขาค่อยๆเดินผ่านไป เข่าค่อนข้างจะอ่อนกำลัง แต่ก็พยายามทำให้ตัวเองปกติที่สุด
สื่อต่าง ๆ ตามถ่ายรูปของเขาเพื่อให้ได้ข่าวของวันนี้ แค่หญิงสาวสองคนที่เสื้อผ้ายับยู่ยี่ก็เพียงพอที่ทำให้พวกเขาเขียนข่าวได้ร้อนแรงแล้ว
จงเหยียนซีไม่อยากจะคุยกับเจียงโม่หานตอนนี้ ต้องการที่จะเดินจากไป แต่กลับถูกเขาคว้าข้อมือเอาไว้ “ผมคิดว่าหญิงสาวสองคนที่คุณหามาไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นสนใจเลยสักนิด คุณขึ้นเอง
เลยดีกว่าไหม”
จงเหยียนซีหน้าถอดสี
จ้องเขม็งเขาด้วยความโกรธ “คุณ……”.
เจียงโม่หานหัวเราะ “ถึงอย่างไรวันนี้ผมก็อับอายขายขี้หน้าหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องรักษาอะไรอีก”
คำพูดของเขายังไม่ทันพูดจบ มือก็ดึงจงเหยียนซีเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนแล้วกอดไว้แน่น และล็อกศีรษะของเธอไว้ จากนั้นประหับรอยจูบลงไป
“อุ้บ–”
จงเหยียนซีต้องการจะขัดขืน
เวลานี้เจียงโม่หานก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหน แขนโอบกอดเธอราวกับคีมคีบเหล็ก เธอจึงดิ้นไม่หลุด
แชะๆ
รอบข้างเต็มไปด้วยเสียงถ่ายรูป
เหมือนกับเรื่องราวมีการหักเห
เมื่อเถียนฉีเฟิงได้สติก็รีบเดินมาข้างหน้า และเตือนสื่อเหล่านั้นว่า “ห้ามถ่าย!”
“ทำไมถึงห้ามถ่าย” เจียงโม่หานปล่อยตัวจงเหยียนซี แล้วมองไปยังผู้คนแล้วประกาศขึ้น “นี่เป็นแฟนของผม อาศัยโอกาสนี้ในการแนะนำให้กับทุกคนได้ทราบ หลินลุ่ยซี คุณหลิน เป็นแฟนของ
ผมเจียงโม่หาน”
จงเหยียนซี “……”
“ฉันไม่ใช่!” จงเหยียนซีจ้องเขาด้วยความโกรธ “ผู้ชายที่สกปรกแบบคุณ ฉันไม่ชอบ!”
“ผมเคยนอนกับคุณคนเดียว จะสกปรกได้อย่างไร” เจียงโม่หานชี้ไปยังหญิงสาวสองคนที่อยู่หน้าประตู “เป็นคุณที่พยายามยัดเยียดหญิงสาวสองคนนี้มาทำให้ร่างกายของผมสกปรก”
เดิมที่คิดว่าเป็นแค่ข่าวซุบซิบนินทา ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพัวพันทางความรู้สึกอย่างชัดเจน
เป็นการเปิดเผยความรู้สึกของเจียงโม่หาน
เถียนฉีเฟิงปฏิกิริยาตอบสนองเร็ว ให้จงเหยี่ยนซีเข้าไปในห้องก่อน ส่วนสื่อนั้นเขาจะจัดการเอง
เวลานี้ทำได้เพียงเท่านี้ จงเหยียนซีรีบกลับเข้าห้องในทันใด
เจียงโม่หานก็ต้องการที่จะเข้าไปที่ห้องของจงเหยียนซี แต่จงเหยียนซีไม่ยอม เขาจึงข่มขู่ “คุณไม่ให้ผมเข้าไป ไม่กลัวว่าผมจะอยู่ด้านนอกพูดอะไรต่อหน้าพวกเขาเหรอ”
จงเหยียนซีจับลูกบิดประตูไว้แน่น แล้วพูดอย่างเย็นชา “คุณข่มขู่ฉันเหรอ”
“เป็นคุณที่บังคับผมก่อน” เจียงโม่หานฝืนยืนไว้
จงเหยียนซีมองสื่อที่อยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง จึงได้ให้เขาเข้ามา และเมื่อเขาเข้ามาในห้องแล้วก็สลบลัมลงไปกองกับพื้นทันที
เขาฝืนยืนไม่ไว้แล้ว ร่างกายถึงสุดขีด
จงเหยียนซีลนลานอยู่สองวินานที่ แล้วก็รีบคุกเข่าลงไปตรวจลมหายใจของเขา ยังมีลมหายใจอยู่ เพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น เขาหยิบโทรศัพท์โทรหาเถียนฉีเฟิง ให้เขารีบไล่คนข้างนอกออก
ไปให้หมด
และเธอก็หาโทรศัพท์ของเจียงโม่หาน โทรศัพท์ของเขามีการตั้งรหัสไว้ เธอลองใส่รหัสเมื่อก่อน ซึ่งเป็นรหัสที่เธอตั้งไว้ให้กับเขา เธอกล่าว “รหัสนี้ นอกจากคุณก็มีฉันเท่านั้นที่รู้”
รหัสหกหลัก เป็นวันเดือนปีเกิดของเธอ
เธอแค่รีบร้อนใสรหัสเดิมเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าเขาไม่เคยเปลี่ยน
เธอรีบค้นหาหมายเลขของหนานเฉิงจนเจอแล้วก็โทรออก
ไม่นาน หนานเฉิงก็รับสายโทรศัพท์ขึ้น “ประธานเจียง……”
“เขาเป็นลมสลบไปแล้ว คุณรีบมาเร็ว ๆ” จงเหยียนซีกล่าว
ทางฝั่งหนานเฉิงลังเลครู่หนึ่ง เสียงนี้ “คุณคือ……”
“รีบมาเร็วๆ” จงเหยียนซีไม่ได้อธิบายให้เขาฟังและวางสายหลังจากแจ้งที่อยู่ไป
ระหว่างทางที่หนานเฉิงมา เถียนฉีเฟิงก็ได้รีบจัดการกับคนด้านนอก
จงเหยียนซีให้หนานเฉิงพาคนออกไป
“เขากลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร” หนานเฉิงมองดูชายที่นอนอยู่บนพื้นที่ไม่สามารถตอบสนอง
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“รีบส่งคนไปโรงพยาบาลเถอะ”
จงเหยียนซีกล่าวเบาๆ
หนานเฉิงจ้องมองเธอ”ประธานเจียงเขา……
“ฉีเฟิงนายช่วยเขาประคองคนขึ้นรถ” จงเหยียนซีไม่ต้องการที่จะเอ่ยถึงเรื่องนี้
หนานเฉิงก็ไม่ได้คาดคั้นอีก ตอนนี้สำคัญที่สุดคือพาคนไปโรงพยาบาลก่อน คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้อยู่ ๆ หมดสติไป ชางทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เถียนฉีเฟิงขึ้นมาบอกกับเธอว่า “ได้นำคนไปส่งโรงพยาบาลแล้วครับ”
จงเหยียนซีตอบอิ่มเมาๆ ตั้งแต่ที่สถานะของทั้งคู่ถูกเปิดเผย เธอก็ไม่ปิดบังความเกลียดที่มีต่อเขา
ใบหน้าก็ไม่ต้องฝืนยิ้มอีก
เถียนฉีเฟิงกล่าวถาม “คุณไม่ไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลเหรอ อาการโคม่าเลยนะ ไม่รู้ว่าจะนตรายถึงชีวิตหรือเปล่า”
จงเหยียนซีกล่าวอย่างไม่เป็นห่วงว่า “ความเป็นความตายของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน อีกอย่าง เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ คนเหล่านั้นจะเขียนมั่วหรือเปล่า ฉันไม่อยากจะเป็นข่าว”
เถียนฉีเฟิงกล่าว “คุณสบายใจได้เลย ไม่มีคุณเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน”
ก่อนหน้านี้ตระกูลจงทำกิจการอยู่เมืองBนานหลายปี ยังพอมีคอนเน็คชั่นอยู่บ้าง
กวนจิ้งให้ลูกน้องพวกเขาสองคนอยู่ข้างๆจงเหยียนซี ก็เพื่อคอยปกป้องช่วยเหลือเธอ
เรื่องแค่นี้เขาทำได้ดีอยู่แล้ว
จงเหยียนซีพยักหน้า “ข่าวอื้อฉาวของเขา ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“ข่าวอื้อฉาวของเขา ไม่ใช่คุณเป็นคนสร้างขึ้นเหรอ” เถียนฉีเฟิงกล่าว
จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้นมองเขา “นายอยู่ข้างใครกัน นายเป็นคนของใคร”
“ผมย่อมอยู่ข้างคุณอยู่แล้ว ผมเป็นคนของคุณสิ” เถียนฉีเฟิงรีบแสดงความจงรักภักดีทันที “เขาทำร้ายคุณ ตายแล้วก็สมควร!”