กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 955 คุณมีเรื่องอยากจะถามผม
พอเปิดประตูแต่ในห้องกลับไม่มีใครอยู่เลย
เตียงนอนว่างเปล่า
เขาไม่แปลกใจ เหมือนรู้ว่านียาจะไม่อยู่ในห้อง เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปที่หน้าประตูห้องของจงเหยียนชี ประตูห้องปิดสนิท เขายกมือขึ้นตั้งใจจะเคาะประตู แต่นึกขึ้นได้ว่า
มันดึกแล้ว มือของเขาค้างอยู่ในอากาศสองวินาที ก่อนจะเก็บมือกลับ ไม่เข้าไปรบกวน
“คุณกลับมาแล้วเหรอคะ”
ในตอนที่ซงเก้นหันหลังกลับ ประตูห้องก็เปิดออก จงเหยียนซียืนอยู่ที่หน้าประตู
ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเธอนอนหลับไม่ลึก แค่ได้ยินการเคลื่อนไหวก็ตื่นแล้ว
“ผมทำให้คุณตื่นหรือเปล่า?” ซงเก้นหันกลับมา “เพราะอยู่ที่นี่ถึงนอนไม่สนิทเหรอครับ?”
จงเหยียนซีก้มหน้าลงเท่ากับยอมรับคำพูดของเขา
ถึงแม้เธอจะเหนื่อยมากแค่ไหน แต่จะให้นอนหลับสนิทได้ในบ้านที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้คงจะทำไม่ได้
“ข้อเท้าของคุณดีขึ้นบ้างไหม” เขาพูดพร้อมกับสายตาที่เลื่อนลงไปที่ข้อเท้าของเธอ
จงเหนียนซีหุบข้อเท้าของเธอโดยไม่รู้ตัว
“ขอบคุณที่ดูแลนียาแทนผม”
“คุณก็ให้ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ฟรีไม่ใช่เหรอคะ” จงเหยียนซียกยิ้มเล็กน้อย “คุณกลับมากลับมาดึกขนาดนี้ กินอะไรมาหรือยังคะ?”
ซงเก้นตอบว่ายัง
แซลลี่เตรียมอาหารเรียบร้อย จึงเดินเข้ามาหา “คุณชายคะ อาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ”
“ไปกินข้าวด้วยกันไหมครับ” เขาชวน “ตอนนี้ถึงเวลาอาหารดึกแล้ว”
จงเหยียนซียกยิ้ม “ในประเทศของเรา มีคำพูดหนึ่งบอกไว้ว่า “ทานข้าวไม่พูด นอนหลับไม่คุ# นั่นหมายความว่าเวลามีอะไรเคี้ยวอยู่ในปากไม่ต้องพูด ถึงเวลานอนให้นอนตรง
เวลา ห้ามส่งเสียงดีงรบกวนคนอื่น ตอนนี้ถึงเวลานอนของฉันแล้ว คงจะกินข้าวกับคุณไม่ได้”
สีหน้าของซงเก้นมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา เหตุผลของเธอทำให้เขาไม่สามารถหักล้างเหตุผลของเธอได้
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฉันไปพักผ่อนก่อน นี่ยา ฉันจะดูแลเธอเอง”
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” ซงเก้นพูดเสียงทุ้ม
จงเหยียนซีปิดประตู ส่วนซงเก้นเดินไปที่ห้องอาหาร
นียานอนหลับสนิทอยู่บนเตียง เธอไม่รู้ว่าจงเหยียนซีตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่ง
เธอยืนอยู่ข้างเตียง รู้สึกแปลกใจมากซงเก้นที่เป็นชายโสด ทำไมถึงรับเลี้ยงเด็กสาว แทนที่จะส่งไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ถ้าเขาแต่งงานแล้ว มีภรรยา มีครอบครัว จะรับ
เลี้ยงบุตรบุญธรรมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เขายังไม่ได้แต่งงานกลับรับเลี้ยงลูกบุญธรรม ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ค่อยปกติ
เธอเดินไปที่ห้องอาหาร ด้วยความสงสัยที่มีอยู่เต็มอก
เธอเทน้ำใส่แก้ว แล้วนั่งที่เก้าอี้
ซงเก้นเงยตาขึ้นเหลือบมองเธอ
เธอยกยิ้ม “ฉันไม่พูดค่ะ”
ซงเก้นยังคงกินต่อไป หลังจากกินเสร็จ เขาหยิบผ้าเช็ดปากมาเช็ดที่มุมปาก แล้วพูดว่า “คุณมีอะไรอยากจะถามผมใช่ไหม”
จงเหยียนซีคิดว่าผู้ชายคนนี้ฉลาดมาก สามารถอ่านความคิดของเธอออกได้เสมอ
“ค่ะ” เธอเม้มปากแล้วถาม “คุณยังไม่แต่งงาน ทำไมคุณถึงรับนียามาเลี้ยงคะ นิสัยของผู้ชายส่วนใหญ่คงไม่ทำแบบนี้ ใช่ไหมคะ”
“ไม่มีเพราะอะไร ผมแค่อยากจะเลี้ยงดูเธอ” ซงเก้นตอบอย่างเรียบง่าย ตอนที่เห็นนียาครั้งแรก ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยดินโคลน ถูกลักพาตัวมาโดยพวกค้ามนุษย์ เธอกับ
เด็กคนอื่นๆ มุดตัวอยู่ในมุมห้องที่เรียบง่าย
ตอนที่เธอได้รับการช่วยเหลือ เด็กคนอื่นๆ มีใบหน้าแบบไทยแท้ มีเพียงใบหน้าของเธอเท่านั้นที่ต่างไปจากคนอื่น ก่อนจะกล่าวขอบคุณผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
เด็กคนอื่นๆ มีคนมารับตัวไปหมดแล้ว จนเหลือเธอเพียงคนเดียว ตอนที่ถามว่าพ่อแม่ของเธอไปไหน เธอตอบว่พ่อแม่ของเธอตายไป เป็นเด็กกำพร้า
ตำรวจเตรียมจะส่งเธอไปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
“ครอบครัวคุณไม่คัดค้านเหรอคะ” จงเหยียนซีถามขึ้นมาอีกครั้ง
เธออยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว แต่ไม่เคยเห็นคนในครอบครัวของเขาเลย
ซงเก้นดื่มน้ำ ก่อนจะวางแก้วน้ำลง แล้วพูดว่า “พวกท่านจากไปหมดแล้ว”
สีหน้าของเขานิ่งสงบมาก ทำให้ยากที่จะคาดเดาอารมณ์ของเขา “แม่ของผมจากไปเพราะอาการเจ็บป่วย”
ไม่นานหลังจากที่แม่ของเขาจากไป พ่อของเขาตามไป พ่อแม่ของเขารักกันมาก
ตั้งแต่เขาจำความได้ พ่อแม่ของเขาไม่เคยทะเลาะกันสักครั้ง
เขาเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น ถ้าพูดถึงข้อบกพร่องคงมีอยู่ข้อเดียว คือพ่อแม่ของเขามีเขาเป็นลูกเพียงคนเดียว ทั้งสองจากไปเร็วเกินไป
ปล่อยให้เขาปกป้องบ้านหลังใหญ่นี้คนเดียว
นียาทำให้ชีวิตที่น่าเบื่อของเขา มีสีสันมากขึ้น
เขาอยู่ในเครื่องแบบทหารจะดูเคร่งเครียดมาก แต่ในเวลาปกติ เขาเป็นคนที่อ่อนโยนมาก
ที่เขาเป็นแบบนี้เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาเป็นอย่างมาก
“ขอโทษค่ะ ฉัน…..”
“ไม่เป็นไรครับ” ซงเก้นไม่ใส่ใจ เรื่องผ่านไปนานแล้ว ใจของเขาก็สงบลงแล้ว แต่พอพูดถึง ทำให้เขานึกถึงเท่านั้นเอง
“อืม ฉันไปนอนแล้วนะคะ” จงเหยียนซีเหลือบมองดูเวลาแล้วลุกขึ้นยืน
ซงเก้นพูด “ไปเถอะครับ”
จงเหยียนชีพยักหน้า แล้วเดินกลับไปที่ห้อง
“คุณจงครับ” จู่ๆซงเก้นก็เรียกเธอไว้
จงเหยียนซีหันกลับมา แล้วถามว่า “มีอะไรคะ?”
“เสื้อผ้าของคุณ”
เสื้อผ้า?
จงเหยียนซีมองดูตัวเอง แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ
“ข้างหลั่ง” ซงเก้นพูดเตือนสติ
จงเหยียนซีหันกลับไปมอง ถึงรู้ว่าเสื้อที่เธอสวมนั้นมัวนขึ้น เผยให้เห็นผิวบอบบางของเธอ เธอรีบดึงมันลง รู้สึกเขินอายเล็กน้อย รีบเดินกลับห้องอย่างรวดเร็ว
ข้อเท้าของเธอยังไม่หายดี พอเธอเดินเร็ว ข้อเท้าของเธอก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฟู่!~ เธอพ่นหายใจระบายความเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือออกไปคว้าโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลจากเธอ เพื่อประคอง
ร่างกายของเธอ ในตอนนี้เอง มือของซงเก้นก็ยื่นเข้ามา แล้วคว้าข้อมือของเธอไว้
จงเหยียนซีถึงสามารถยืนได้มั่นคง
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” เขาถามอย่างห่วงใย
จงเหยียนส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไรค่ะ”
เธอรีบปล่อยมือออกทันที แล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”
หลังจากพูดจบเธอก็เดินไปที่ห้องอย่างระมัดระวัง
ซงเก้นยืนอยู่ที่เดิม มองดูแผ่นหลังของเธอเดินจากไป