กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 963 เซ็นชื่อซะ
“เธอยังมียางอายอยู่ไหม?” สีหน้าของเจียงโม่หานเขียวคล้ำ
“คิกคิก….” หลิงเวยเพียงแค่หัวเราะ หัวเราะจนปวดท้องไปหมด
“ยางอาย?” เธอท่าทางขี้เล่น “ฉันเองก็อยากมีนะ นายต่างหาก ที่ทำให้ฉันแม้แต่ยางอายก็มีไม่ได้”
ทรยศตัวเองเพื่อแลกกับช่วงเวลาแห่งอิสระนี้
“เจียงโม่หานทำไมฉันถึงกลายเป็นแบบนี้?”
เธอคร่ำครวญ “เพราะนาย เพราะนายที่ทำให้ฉันกลายเป็นอย่างวันนี้ ถ้าตอนแรกนายยอมช่วยฉัน ฉันคงไม่เป็นแบบนี้? เหมือนกับหนูข้างถนน อยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนกับภูติผี นายรู้
หรือเปล่าว่าฉันใช้ชีวิตในคุกผ่านมายังไง?”
“ใช้ชีวิตแบบที่ตายไปเสียยังดีกว่าใช่ไหม? นั่นคือกรรมที่เธอสมควรได้รับ” เจียงโม่หานสีหน้าเย็นชา เขาไม่ได้ซ่อนความเกลียดช้งต่อเธอของตัวเองเพราะถูกเธอควบคมแต่อย่างใด
“ต่อให้ย้อนมาได้อีกครั้ง ฉันก็จะไม่ช่วยเธอเหมือนเดิม”
อะไรที่บีบหัวใจที่สุดงั้นเหรอ?
คงจะเหมือนกับตอนนี้ คนที่คุณรักที่สุด กลับอยากให้คุณตายที่สุด
“นายเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
หลิงเวยริมฝีปากสั่นเทา
“ใช่ ฉันเกลียดเธอ” สีหน้าของเจียงโม่หานกลับมาสงบนิ่ง ความโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่เองก๊กดลงมาแล้ว เพราะมันไม่คุ้มที่จะโกรธเธอ เธอไม่คู่ควร!
“ถ้าทำได้ ฉันจะบีบคอเธอให้ตายด้วยมือฉันเอง”
ดวงตาทั้งสองของหลิงเวยแดงก่ำ “เพราะจงเหยียนซีงั้นเหรอ?”
“เธอไม่สมควรพูดถึงหล่อน” เจียงโม่หานน้ำเสียงเย็นชา
“หึ ฮา ๆ ๆ” หลิงเวยหัวเราะลั่น “ตอนนี้นายอยู่ในกำมือของฉันแล้ว จะฆ่าจะแกงก็แล้วแต่ฉัน ยังกล้ายั่วยุฉันนี่นายคงเบื่อชีวิตแล้วสินะ?”
ชิวหมิงเยี่ยนซ่อนอยู่ในห้อง แม้เธอจะเป็นคนเลว แต่เธอก็ไม่อยากเปิดโปงตัวเอง และตั้งใจจะให้หลิงเวยออกหน้า
แต่หล่อนเอาแต่พูดถึงเรื่องของตัวเอง เหมือนกับว่าลืมเรื่องของเธอไปหมดเกลี้ยงแล้ว
เธอวิ่งออกมา “โอนหุ้น ให้เขาเซ็นชะ”
หลิงเวยที่กำลังคุกรุ่นคำรามด้วยความโมโห “หุบปากไป!”
ซิวหมิงเยี่ยนตกตะลึงไปครู่หนึ่งอย่างชัดเจน ก่อนแผดเสียงกลับไป “เธอนั่นแหละหุบปาก ถ้าไมใช่เพราะฉัน เธอจะมีโอกาสมายืนต่อหน้าเจียงโม่หานรึไง?”
หลิงเวยเก็บกดมานาน เมื่อถูกซิวหมิงเยี่ยนตะคอกใส่จึงเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง หลิ่นวิ่งเข้าไปตบเธอฉาดหนึ่ง “ถ้าไมใช่ฉันตกอับ ฉันจะร่วมมือกับเธอเหรอ? ฉันคงไม่มองแม่คนทรง
คุณธรรมเสียเหลือเกินอย่างเธอ มือที่สามที่ทำลายครอบครัวคนอื่น ยังมีหน้ามีอวดเบ่งต่อหน้าฉันอีก”
ซิวหมิงเยี่ยนกุมใบหน้าที่เจ็บปวด
สองตาจ้องเขม็ง
“เธอ….”
เธอไม่นึกเลยจริงๆ
“เธอกล้าตบฉันเหรอ?” ชิวหมิงเยี่ยนเองก็ไม่ใช่แม่พระ เธอคว้าผมของหล่อนเอาไว้ “เธอไม่ไปถามดูล่ะ ว่าฉันเคยเป็นเบี้ยล่างใครไหม!”
เป็นสองคนที่ร่วมมือกันแท้ ๆ แต่กลับทะเลาะกันเพราะคำ ๆ เดียว
หญิงสาวทั้งสองจิกผมของกันและกัน ด่าสาดใส่กัน โดยลืมเรื่องสำคัญที่ตัวเองจะทำไปชั่วขณะ
เจียงโม่หานเพียงแค่มองทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขาอย่างเย็นชา
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองคนสู้กันจนเหน็ดเหนื่อย จ้องมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล “พวกเรามาทำอะไรกัน?”
ชิวหมิงเยี่ยนเช็ดใบหน้าเล็กน้อย
หลิงเวยไม่ส่งเสียงอะไรออกมา หลังจากทะเลาะตบตีกันไปแล้ว ตอนนี้จึงใจเย็นลงไม่น้อย
เรื่องมาถึงขนาดนี้แม้ซิวหมิงเยี่ยนอยากแยกแยะก็แยกไม่ไหว จึงถือโอกาสหยิบสัญญาผู้ร่วมหุ้นที่ตัวเองเตรียมไว้ออกมาแล้ววางไว้บนโต๊ะ “เจียงโม่หาน ธุรกิจของตระกูลเจียงไม่ใช่ของ
นายคนเดียว นายครอบครองมานานขนาดนี้มันก็เพียงพอแล้วล่ะ ตอนนี้นายเซ็นชื่อซะ เอาบริษัทให้โเชียน ฉันก็ยังให้นายเดินออกไปดี ๆ ได้ ไม่อย่างนั้น….”
“เขาเป็นของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง!” หลิงเวยเดินเข้ามา
ชิวหมิงเยี่ยนเงยหน้า “หลิงเวย เชื่อไหมว่าฉันจะโทรเรียกตำรวจ ให้ตำรวจมาจับเธอซะเลย?”
“ยู่ฉันงั้นเหรอ?” หลิงเวยเบิกตา สีหน้าดุร้าย
“เปล่า ฉันต้องการหุ้น เธอต้องการคน ถ้าฉันได้หุ้นแล้ว เธอก็จะได้คน” ครั้งนี้ชิวหมิงเยี่ยนไม่ได้ตอบต้หล่อน อายุแค่นี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ ขั้นตอนของทุกคนเมื่อครู่เธอเสียเปรียบไม่น้อย
รู้ว่าสู้ไม่ได้ ต่อให้ไม่ชอบคำพูดของหล่อน ก็ไม่ได้ลงมือกับหล่อนอีก
รอให้เธอได้รับสัญญาโอนหุ้นแล้วค่อยแจ้งตำรวจก็ยังไม่สาย
ตอนนี้เธอไม่เถียงกับพวกเดนตายหรอก
“ก็พอกัน” หลิงเวยนั่งลง
ชิวหมิงเยี่ยนแค่นเสียงเย็นชา คิดในใจ งแก่มันเผ็ด ให้เธอได้สิ่งที่ตัวเองต้องการก่อนแล้วค่อยสั่งสอนหล่อนก็ไม่สาย
“เซ็นชื่อซะ” ชิวหมิงเยี่ยนพูดอย่างค่อนข้างเร่งร้อน
เจียงโม่หานสีหน้าคงเดิมตั้งแต่ตันจนจบ มีความห่อเหี่ยวอยู่ในเย็นชา
เขาเมินคำพูดของชิวหมิงเยี่ยน เว็บสล็อต
“เจียงโม่หาน นายมองสถานการณ์ตอนนี้ของนายออก ฉันสามารถเอาชีวิตนายได้ทุกเมื่อ! พอนายตายแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดของนายก็จะตกอยู่ในกำมือของฉัน นายไม่มีญาติแล้ว พ่อนาย
ฉัน และน้องชายของนายล้วนมีสิทธิในมรดก” เธอพูดอย่างเก็บอาการไม่อยู่
แววตาของหลิงเวยมองมาเหมือนจะกำลังพูดว่า ความเป็นความตายของเขาเธอไม่ใช่คนกำหนด
เจียงโม่หานเหลือบมองหลิงเวยอย่างไร้อารมณ์ รู้ว่าทั้งสองคนกำลังร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ เมื่อเสียผลประโยชน์ก็ต่างไม่มีใครยอมใคร
เขาจงใจพูด “งั้นคุณก็ฆ่าผมเลย”
ชิวหมิงเยี่ยนพลันยืนขึ้นทันที
หลิงเวยเองก็ยืนขึ้นตามเช่นกัน “เธอลองขยับดูสิ”
ชิวหมิงเยี่ยนย้ำ “เราสองคนเป็นพวกเดียวกันนะ”
“แต่ตอนแรกก็ตกลงกันแล้ว เธอต้องหารเงิน ฉันต้องการคน เธอมีสิทธิอะไรมาแตะต้องคนของฉัน?” หลิงเวยไม่ยอมถอย
ซิวหมิงเยี่ยนข่มไฟในใจ เธอข่มขู่ไม่ได้ และจะทำยังไงให้เจียงโม่หานเซ็นชื่อล่ะ?
ลูกตาของหลิงเวยกลอกไปมา คิดวิธีร้ายกาจขึ้นมาวิธีหนึ่ง “เธอรู้ไหมว่าตอนนี้สิ่งที่เจียงโม่หานกลัวที่สุดคืออะไร?”
“อะไร?” ชิวหมิงเยี่ยนถาม
หลิงเวยหัวเราะ “มีคนคนหนึ่ง ที่ทำให้เขาห่วงหน้าพะวงหลังยิ่งกว่าชีวิตเขาเสียอีก”
“ใคร?”
“หลินลุ่ยซี”
“หล่อนตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ยังไม่ตาย ก็คือคนที่ชื่อจงเหยียนซีนั่นแหละ”
ซิวหมิงเยี่ยนตกตะลึงไปจริง ๆ หลินลุ่ยซียังไม่ตาย
แต่ผู้หญิงคนนั้นจะมีประโยชน์อะไรอีก
“ถ้าฉันตาย ฉันก็ลากเข้าไปด้วยแน่นอน” หลิงเวยมองไปทางเจียงโม่หาน “ตอนอยู่ฉันไม่ได้ร่วมหอ ตอนตายก็ต้องได้ร่วมโลงกับเขา ส่วนจงเหยียนซี ถ้าตอนนี้เขาไม่เซ็นชื่อ พอเขาตายแล้ว
เธอก็สามารถใช้เงินจ้างคนไปสั่งสอนผู้หญิงคนนั้นได้”
หลิงเวยมีความเห็นแก่ตัว เรื่องที่ตัวเองทำไม่ได้ ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้คนอื่นทำเพื่อตัวเอง
เพียงแต่พลังในการโน้มน้าวยังไม่เพียงพอ
ชิวหมิงเยี่ยนมีท่าทีแคลงใจ เธอลอบมองเจียงโม่หาน
เจียงโม่หานยังคงสีหน้าเย็นชา แต่หากสังเกตดี ๆ ก็จะพบว่าหลังมือของเขากระจายไปด้วยเส้นเลือดดำเหมือนกำลังควบคุมอารมณ์บางอย่าง
หลิงเวยพูดต่อ “ตอนนี้จงเหยียนซีคือคนที่เจียงโม่หานใส่ใจมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นกรรยาเก่าของเจียงโม่หานอีก….
“หลิงเวย!” สีหน้าของเจียงโม่หานดำทะมึน น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ราวกับท้องฟ้าแจ่มใสที่พลันมีเมฆดำมืดม้วนตัวเข้ามา
หลิงเวยเองก็เดินไปตรงหน้าเขาอย่างไม่หวั่นกลัว “เจียงโม่หานไม่ได้ปล่อยนายหนีไปหรอก ฉันไม่มีโอกาสออกไปจากเมืองB ไม่ช้าก็เร็วก็จะถูกพบ ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องตาย นายจะต้องอยู่
กับฉัน พอเซ็นสัญญาโอนหุ้นแล้ว ก็ให้เธอรีบไปให้พัน เราจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในโลกของเราสองคน”
ประโยคหลังสุดหล่อนจงใจลากเสียงยาว ดูคลุมเครืออย่างเห็นได้ซัด
ซิวหมิงเยี่ยนก็รู้สึกถึงนิสัยแม่ ๆ! เมื่อเห็นหล่อนเองก็กำลังช่วยเหลือตัวเองอยู่จึงไม่ได้แสดงออกมา
“เจียงโม่หาน นายอยากให้เธอเล่นงานจงเหยียนชีจริง ๆ เหรอ?” หลิงเวยพูดถึงจงเหยียนซีอีกครั้ง
ก็เพื่อต้องการให้ซิวหมิงเยี่ยนรู้ว่าจุดอ่อนของเจียงโม่หานอยู่ตรงไหน
ชิวหมิงเยี่ยนเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว “เจียงโม่หาน นายอย่ามัวเสียเวลาเลยจะดีกว่า ตอนนี้นายเซ็นชื่อแต่โดยดี ฉันจะไม่กลั่นแกล้งนาย ถ้านายไม่ยอม ถ้ามีโอกาสฉันจะวางแผนทำร้านหล่อนแน่นอน”
เธอหยิบปากกามาใส่ในมือของเขา “เซ็นชื่อซะ”