กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 972 ไม่ได้ล่วงเกิน
เธอฝันเห็นตัวเองถูกมัดจนขยับตัวไม่ได้ ถูกคนโยนลงในกองไฟลุกโชนที่กำลังเผาไหม้อยู่
ฉันพยายามร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดชีวิต ทว่ากลับไร้เสียงออกมา
ฉันตื่นตระหนกและหวาดกลัวสุดขีด
นียาที่ล้างมือเสร็จก็ถามถึงจงเหยียนซีกับซงเก้น
ซงเก้นบอกเธอกำลังนอนอยู่
“หนูจะไปดูหน่อย”
“ไม่ได้” ซงเก้นปฏิเสธ “เดี๋ยวทำให้เธอตื่นเอา”
“หนูแค่ไปดูแวบเดียวเอง ไม่ส่งเสียงดังหรอก พ่อวางใจแล้วตามหนูมาเถอะ” นียาลากเขาไปด้วยขณะที่พูด
ในตอนที่ซงเก้นลังเล นียาก็พูดอีกว่า “เธอนอนหลับแล้ว คงไม่รู้หรอก”
พูดจบก็ไม่สนว่าซงเก้นจะเห็นด้วยไหม ดึงเขาเดินไปที่ห้อง
ซงเก้น”.
เปิดประตูห้องอย่างเบา ๆ นียาทำมือบอกจุ๊ ๆ ให้ซงเก้น
ซงเก้น”.
เขาถูกนียาดึงไปถึงข้างเตียง จงเหยียนซีขดร่างกาย เป็นท่านอนที่ไร้ความปลอดภัย บนศีรษะมีเหงื่อไหลโชก
ใบหน้าดูทุกข์ทรมาน
นียาขมวดขึ้น เธอร้อนเหรอ?
แต่ในห้องไม่ร้อนเลยนะ
ทำไมเธอเหงื่อไหลเยอะขนาดนี้ล่ะ?
จงเหยียนซีที่กำลังตะเกียกตะกายในความฝัน มองเห็นเงาคนผ่านแสงไฟ เธอมองหน้าตาของคนนั้นได้ไม่ชัดเจน มีเพียงรูปร่างที่สูงยาว
เธอพยายามจะจับเขาอย่างสุดชีวิต ออกแรงตะโกนเต็มที่ “ช่วยฉันด้วย …..ช่วยฉัน”
นียากะพริบตา “เธอกำลังพูดอะไร?”
ซงเก้นคิดได้ว่า เธออาจจะฝันร้าย จึงยื่นมือไปตบที่ไหล่เธอเบา ๆ “คุณจง”
“ช่วยฉัน”
เธอเห็นคนนั้นเดินมา หน้าตาของเขาเริ่มชัดเจนมากขึ้น จากนั้นยื่นมือไปจับเขา……
เธอลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว หายใจหอบ ตื่นจากความฝันแล้ว
ที่สะท้อนในนัยน์ตาคือใบหน้างดงามของซงเก้น เครื่องหน้าลุ่มลึกที่ชัดเจน ในตอนนี้กำลังมองเธออย่างเป็นกังวล
เธอตื่นแล้ว
“ฝันร้ายเหรอ?” ซงเก้นถามอย่างเป็นห่วง
จงเหยียนซีลุกขึ้นนั่ง พบว่าตัวเองจับแขนซงเก้นไว้อยู่ เธอปล่อยออกอย่างลุกลี้ลุกลน “ขอโทษนะ คือฉัน……
“ไม่เป็นไร” ไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามาผืนหนึ่งแล้วยื่นให้ฉัน “เช็ดเหงื่อหน่อย”
จงเหยียนซีรับมาแล้วกุมไว้ในมือ เธอยังไม่คืนสติจากที่ตกใจในความฝัน ที่ผ่านมานั้น เธอไม่เคยฝันแบบนี้มาก่อน
เหตุการณ์ในความฝันสมจริง
สมจริงจนทำให้เธอรู้สึกเหมือนร่างกายยังปวดแสบปวดร้อนจากการโดนเผา
ซงเก้นเห็นเธอไม่ขยับ จึงยื่นมือไปเช็ดเหงื่อที่หน้าผากเธอให้ ตอนที่นิ้มือสัมผัสโดนหน้าผากของเธอ จงเหยนซีถอยไปข้างหลังเล็กน้อยอย่างรวดเร็ว
การถูกสัมผัสที่ไม่คาดคิดนี้
มือของซงเก้นหยุดชะงักกลางอากาศ
ดวงตาสองคู่จ้องมองอีกฝ่าย สองคนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
บรรยากาศเปลี่ยนไปแปลก ๆ นิดหน่อย
ซงเก้นดึงมือกลับ เอ่ยขอโทษการกระทำที่ส่วงเกินของตัวเองอย่างมีจิตสำนึก “ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจล่วงเกิน”
“ไม่เป็นไร” จงเยี่ยนซีสติกลับมา ละสายตอกจากเขาแล้วเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก การกระทำของเธอค่อนข้งยุ่งเหง ตื่ตระหนกอย่างไม่สามารถอธิบายได้ ส่วนตื่นตระหนกอะไรนั้น เธอก็
ไม่รู้
“หนูไปเก็บผลไม้มา แซลลี่เอาไปล้างแล้ว ตื่นแล้วก็มากินหน่อยเถอะนะ” นียาพูด
สายตาของจงเหยียนหยุดอยู่ที่นี่ยา พยายามหลบเลี่ยงที่จะสบสายตาซงเก้น พลางพูด “ได้จ้ะ”
นียาแย้มยิ้ม “งั้นหนูไปรอพวกคุณข้างนอกนะ”
พูดจบเท้าเล็กก็วิ่งไปข้างนอก
ในห้องเหลือแค่ซงเก้นกับจงเหยียนซีแล้ว
สองคนไม่พูดจา
ความรู้สึกที่ต่างไปจากปกติกำลังแผ่ขยาย
ต่างไม่เอ่ยปากพูด ดูเหมือนรู้ว่าควรจะพูดอะไร
และดูเหมือนกำลังตั้งใจหลบเลี่ยง
“เอ่อคือ……”
“คุณ.
สองคนเอ่ยพูดพร้อมกัน และหยุดพูดพร้อมกัน
“คุณก่อน.
“คุณก่อน…
พร้อมกันอีกแล้ว
จงเหยียนซีทำลายสถานการณ์ที่หยดชะงัก ยิ้มแห้ง “นียาเป็นเด็กที่น่ารักดีนะ”
พยายามหาเรื่องคุย
ซงเก้นสีหน้าแปลก ๆ จากนั้นก็พยักหน้า
ครืดครืด คราวนี้มือถือของจงเหยียนซีดังขึ้น เธอไปหยิบมือถือ “ฉันรับสายนะ”
ซงเก้นพยักหน้า จากนั้นหันตัวเดินออกไป
กู้เสียนโทรมาหา
“เธอไม่อยู่ที่เมืองBแล้วเหรอ?”
“อืม” จงเหยียนซีตอบ
“มิน่าถึงหาเธอไม่เจอ”
“เธอจะกลับมาเมื่อไหร่?” หล่อนถาม
“เพิ่งกลับมา มาจัดการทำเรื่องลาออก”
จงเหยียนซีเหมือนได้ยินเสียงห่อเหี่ยวของเขา “ทำไมล่ะ?”
“แม่ฉันพบว่าฉันหาเขาแล้ว ไม่อนุญาตให้ฉันกลับเข้าในประเทศอีก”
“ถ้าอย่างนั้นเธอ……”
“อย่าพูดเลย ฉันว่าหล่อนไม่อยากเอ่ยถึงจริง ๆ ท่าทีหนักแน่นมาก ฉันไม่อยากให้หล่อนเสียใจเพราะเรื่องเรื่องนี้
จงเหยียนซีคงไม่บีบบังคับเขาด้วยเรื่องแบบนี้
“มีโอกาสฉันจะไปหานะ” จงเหยียนซีพูด
“โอเค”
สองคนพูดคุยกันไม่กี่ประโยคแล้วก็วางสาย จากนั้นวางมือถือลง เธอใจลอยไปชั่วขณะหนึ่ง
รู้สึกเหมือนกับว่าในอดีตแม่ของกู้เสียนกับกวนจิ้งอาจจะเคยมีเรื่องทะเลาะอะไรมาก่อน ไม่อย่างนั้นทำไมเธอถึงได้กลัวที่กูเสียนไปหาพ่อยนาดนั้น
แต่ว่าตอนนี้คู่กรณีตัดสินใจแล้ว หล่อนคงพูดอย่างอื่นลำบาก ปล่อยเป็นตามธรรมชาติแล้วกัน
ตอนนี้กวนจิ้งมีครอบครัว ไม่รู้เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องดี
เธอสวมรองเท้าเดินออกมา
แซลลี่ห์นผลไม้เรียบร้อยแล้ว นียาหยิบชิ้นหนึ่งมาให้ซงเก้น เห็นเธอเดินออกมา จึงตะโกนบอก “รีบมาเร็วค่ะ มาชิมผลไม้ที่หนูเก็บ”
จงเหยียนซียิ้ม “ผลไม้ที่หนูเก็บมาหวานไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” นียา ตอบ”
จงเหยียนซีนั่งบนโซฟา รับมาชิ้นหนึ่ง
กัดเนื้อผลไม้เข้าไปในปาก เหนียวนุ่มหอมหวาน
“ผลไม้ที่นียาเก็บหวานกว่าผลไม้ที่ซื้อมาอีก”
นียายิ้มกว้างด้วยความดีใจ เผยให้เป็นฟันเล็กที่ขาวสะอาดเรียงเป็นแถว
เด็กคนนี้ชอบยิ้มหยี พลอยทำให้คนมองมีความสุขไปด้วย จึงยิ้มโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ซงเก้นมองเห็นจงเหยียนซียกยิ้มจาง ๆ จึงเผยรอยยิ้มบนใบหน้า จากนั้นยื่นมือหัดเส้นผมที่ยุ่งเหยิงจากการนอนของเธอไว้ที่หลังใบหู