กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 976 อยากทำให้เธออับอายขายหน้า
ซงเก้น อยู่ในแวดวงสังคมชนชั้นสูงนี้ การมีอยู่ของเขานั้นถูกคนจำนวนมากจับจ้องอยู่ แม้ว่าสืบทอดตำแหน่งบรรดาศักดิ์ของตระกูล แต่ว่าความสามารถของตัวเขานั้นก็เป็นที่ยอมรับ
ไม่ว่าการทำงานหรือว่าการใช้ชีวิต เขาเป็นคนที่จริงจังมากคนหนึ่ง
ผู้ชายอายุเท่านี้อย่างเขา ใครบ้างที่ไม่คบกับแฟน?
มีแต่เขาที่ไม่มี
ก่อนหน้ามีคนปล่อยข่าวลือว่านี่ยาเป็นลูกนอกสมรสของเขา ต่อมา บุคคลผู้เกี่ยวข้องที่รู้ว่าเขารับนียามาเลี้ยงบอกความจริงนี้ไป ทุกคนถึงได้เงียบปาก
ที่จริงแล้วพวกเขารู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่อยากให้ผู้ชายที่สะอาดเกินไปคนนี้ เปื้อนกลิ่นอายของควันเรื่องทางโลก
แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นคนไปไหนมาไหนคนเดียว วันนี้โอกาสใหญ่โตขนาดนี้พาผู้หญิงคนหนึ่งมาปรากฏตัว ย่อมก่อให้เกิดความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย
มีคนอ้างเหตุมาทักทายกับซงก้น แต่ที่จริงแล้วสืบข่าวเบื้องหลังของจงเหยียนซี
“วันนี้เป็นเนื่องในโอกาสอันใหญ่โต คุณพาคนต่างชาติมาคงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ใช่ไหมครับ?” ตอนที่ผู้ชายพูด สายตาก็กวาดมองไปที่ร่างของจงเหยียนซีไม่หยุด
ซงเก้นสีหน้าปกติ ไม่สะทกสะท้าน “นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงของครอบครัวคุณไม่ใช่เหรอครับ?”
งานเลี้ยงครอบครัวของราชวงศ์ นั่นก็คืองานเลี้ยงครอบครัว ไม่ใช่เรื่องของประเทศชาติ เขาพาใครมานั้นก็เป็นเสรีภาพของเขา
ผู้ชายยิ้มเล็กน้อย “พวกเราทุกคนต่างนึกว่าคุณไม่ชอบผู้ชาย ที่แท้คุณไม่ได้ไม่ชอบ แต่ชอบผู้หญิงต่างชาติ”
จงเหยียนซีฟังไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไรบ้าง แต่มองดูสีหน้าของผู้ชาย ก็รู้ว่าเขาไม่ได้พูดเรื่องดีอย่างแน่นอน
เธอรู้สึกได้แม้กระทั่งร่างกายที่เกร็งแน่นของ ซงเก้น เธอยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มงดงาม พูดกับซงเก้นด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ฉันคอแห้งนิดหน่อย พวกเราไปทางนั้นดีไหมคะ?”
ซงเก้นส่งเสียง อืม เบา ๆ บอกกับผู้ชายข้างหน้าว่าขอตัว จึงพาเธอไปโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลนัก
บนโต๊ะมีขนมและเครื่องดื่มหลากประเภทจัดวางอยู่ ภายใต้การตกแต่งด้วยแดงไม้สด ทำให้ค่ำาคืนนี้งดงามมาก
ซงเก้นฉลาดขนาดนี้ รู้ว่าเมื่อกี้จงเหยียนซีตั้งใจ จึงบอก “เธอฟังภาษาที่ซับซ้อนไม่ออกไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ ฉันฟังไม่ออกจริง ๆ ค่ะ” จงเหยียนซีบอกตามตรง
ซงเก้นงุนงง “อย่างนั้นเมื่อกี้ทำไมเธอ……”
จงเหยียนซียิ้มอย่างมีชีวิตชีวา “ฉันฟังไม่ออก แต่ดูออกค่ะ”
ซงเก้น”..
อย่างนั้นความคิดกับความรู้สึกของเขา เธอดูไม่ออกเหรอ?
“มาร์ควิส มูติชา” ผู้หญิงสวยท่านหนึ่งเดินมาหา เธอสวมชุดไทยอย่างตระกูลสูงศักดิ์ดั้งเดิม แม้ว่าจะดูแลรักษาเป็นอย่างดี แต่ก็สามารถมองออกได้
ว่าลำดับอาวุโสไม่เหมือนกับพวกเขา
เธอเป็นผู้อาวุโสคนเดียวของงานเลี้ยงในค่ำาคืนนี้ สราญจาพระสนมของพระราชา เป็นผู้หญิงที่สวยมากเมื่อตอนสาว ตอนนี้ก็ยังคงความสง่างามไว้อยู่
พระราชาให้เธอมาควบคุม โดยเฉพาะให้เธอใส่ใจซงก้น หาโอกาสที่เหมาะสมให้ซงก้นกับองค์หญิงได้อยู่เพียงลำพังสักหน่อย ทางที่ดีที่สุดคือสามารถส่งเสริมให้เกิดงานแต่งงานได้
เธอย่อมต้องคิดหาวิธีดี ๆ สำหรับเรื่องนี้ แต่ว่าวันนี้ซงเก้นพาผู้หญิงมาด้วยคนหนึ่ง ทำให้เธอรับมือไม่ทันนิดหน่อย นี่ควรจะจัดการอย่างไรดี?
คิดไปคิดมาเธอตัดสินใจว่าจะลองถามความสัมพันธ์ระหว่างซงเก้นกับผู้หญิงคนนี้สักหน่อย
อย่างไรเสีย ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินเขาคบกับใคร หรือว่ามีผู้หญิงที่ชอบเลย
“วันนี้ทำให้ฉันเหนือความคาดหมายเล็กน้อย คุณพาคุณผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้มาท่านหนึ่งด้วย ไม่ทราบว่าเธอกับคุณมีความสัมพันธ์อะไรกันคะ? ทำไมเมื่อก่อนไม่เคยพบเจอ หรือเคยได้ยิน
เลย?” อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com
ซงเก้นพูด “เพื่อนทั่วไปครับ”
“อย่างนั้นเหรอคะ?” สราญจาแสดงออกชัดเจนว่าไม่เชื่อ ตอนที่พูดอยู่ สายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่เครื่องประดับชุดนั้นที่จงเหยียนซีสวมอยู่
“เท่าที่ฉันรู้ว่า นี่ป็นเพชรที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นของคฤหาสน์มูติชาพวกคุณ ได้ยินว่ามีเพียงคุณผู้หญิงของคฤหาสน์มูติชาถึงจะสามารถสวมใส่ได้ คุณบอกฉันมาสิ พวกคุณเป็นเพื่อนทั่วไป ไม่
ได้กำลังหลอกฉันจริง ๆ1 ?” สราญจายังคงยิ้มอยู่ ใบหน้าของเธองดงาม ละเอียดอ่อนแบบคนไทย
ใบหน้าของจงเหยียนซีก็งดงามมากเช่นกัน แต่ไม่ชัดเจนเท่าเธอ อ่อนโยนและนุ่มนวลมากกว่า
ซงเก้นยังคงบอก “เป็นเพื่อนทั่วไปครับ”
เขาอยากกำจัดการแนะนำระหว่างตัวเองกับองค์หญิงจากพวกเขา และไม่อยากให้จงเหยียนซีถูกเธอจับตามอง ดังนั้นคำตอบยังคงเป็นเพื่อนทั่วไป
หวังว่าจะลดความสนใจที่เธอมีต่อจงเหยียนซีให้ลดน้อยลง
แต่ว่าเขารู้ ตั้งแต่ตอนเขาพาจงเหยนซึมาที่งานเลี้ยงแห่งนี้ เธอก็ไม่สามารถคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเองได้แล้ว
เรื่องนี้ทำให้รู้สึกขอโทษต่อจงเหยียนซี
สราญจาขมวดคิ้วเล็กน้อย “อ้อ อย่างนั้นก็คือแขก ทางนั้นมีสุภาพสตรีหลายท่านอยากรู้จักเธอ ให้ฉันพาเธอไปทำความรู้จักกันสักหน่อยไหม”
เธอฉวยโอกาสโจมตี
ซงเก้นปฏิเสธอย่างนอบน้อม “เธอไม่ได้ภาษาไทย เกรงว่าจะสื่อสารกับพวกคุณไม่ได้”
สีหน้าของสราญจาผิดจากปกติเล็กน้อย
“เธอเป็นคนสวยขนาดนี้ น่าจะดีดเปียนเป็นใช่ไหม?” ยิ่งซงเก้นไม่ถอนหายใจ เธอก็ยิ่งอยากทำให้จงเหยียนซีต้องอ้บอายขายหน้า “ถ้าหากเธอไม่เป็นอะไรเลย แล้วมีคุณสมบัติอะไรมายืนร่วม
งานเลี้ยงองค์หญิงข้างกายคุณล่ะค่ะ?”
ซงเก้นหรี่ตาลง
คราวนี้ จงเหยียนซีดึงแขนเสื้อของซงเกันเบา ๆ พูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “เธออยากให้ฉันดีดเปียโนใช่ไหมคะ?”
เมื่อกี้เธอเห็นผู้หญิงคนนี้ไปทางเปียโนข้างบนที่อยู่ไกลนัก
เหมือนต้องการให้เธอไปเล่น
ซงเก้นกำมือแน่น “อืม……”
“อย่างนั้นฉันไปดีกว่าค่ะ” ซงเก้นพูดยังไม่ทันจบ เธอก็เอ่ยปากพูดอีกครั้งแล้ว เธอรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีเจตนา ถ้าหากเธอไม่ไป ซงเก้นอาจจะต้องขัดแย้งกับหล่อน เธอไม่อยากสร้างปัญหาแบบนี้
ให้ซงเก้น
เธอเดินไปอย่างสุขุมเยือกเย็น
เธอไม่ได้เรียนเปียโนมาตั้งแต่ประถม จำได้ว่าหลังจากเข้าม.2จึงจะเริ่มเรียน สาเหตุที่รู้สึกสนใจเปียโนเป็นเพราะหลินซินเหยียน
มีครั้งหนึ่งเธอได้ยินหลินซินเหยียนดีดเปียโน จึงเริ่มเรียนดีดเป็ยโน
เริ่มตั้งแต่มอสอง จนถึงมอหกจึงได้เริ่มเล่น เธอก็เป็นคนที่มีฝีมือด้านเปียโนมาสิบปี
สำหรับแค่นี้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ เธอไม่สามารถทำให้ซงเก้นขายหน้าได้
เธอนั่งอยู่ข้างหน้าเงียโนอย่างสง่างาม ข้อมือขาวเนียนละเอียด นิ้วเรียวยาวข้อต่อกระดูกซัดเจน ค่อย ๆ วางลงบนคีย์บอร์ด ไม่ว่าพวกเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ แต่ก็ใช้ภาษาต่างประเทศพูด “วัน
นี้ฉันจะมาบรรเลงเพลงเมฆตามพระจันทร์ฉบับเบียโนให้ทุกท่านได้ฟังค่ะ”
พูดจบเธอก็ปรับลมหายใจ พอนิ้มือบรรจงกดลงไป ก็มีเสียงไพเราะดังขึ้นมา ไม่นานนักนิ้วของเธอเสมือนถูกร่ายเวทมนตร์ก็ไม่ปาน เต้นอยู่บนคีย์บอร์ดอย่างอ่อนช้อย เสียงเปียโนบางครั้งก็ แทงหวย tode1.co
กระโดดขึ้น บางครั้งทุ้มต่ำ ฟังดูนุ่มนวลและมีชีวิตชีวา
เสียงไพเพราะที่ทำให้ทุกคนเคลิบเคลิ้มไปพร้อมกับเสียงสูงของเปียโน ทำให้หยุดเดินแล้วมองไปยังคนที่เล่นเบียโนอยู่
ซงเก้นรู้ว่าเธอวาดภาพได้ดี ไม่นึกว่าเธอจะเล่นเปียโนเป็น
ยังเล่นได้เก่งมากอีกด้วย
สายตาของเขาให้ความสนใจไปที่เธอ
ในตอนนี้เธอสุกใสเป็นประกาย และดึงดูดสายตาของผู้คนด้วยเช่นกัน
ไม่นานนักก็บรรเลงจบ จงเหยียนซีลุกขึ้นแล้วโค้งคำนับ ซงเกันเดินมาพร้อมยื่นมือให้เธอ จงเหยียนชีวางมือที่ฝ่ามือของเขา จากนั้นเขาก็ประคองเธอลงมา
ซงเกันหันไปพูดกับทุกคน “นี่เป็นของขวัญที่มอบให้องค์หญิง”
สราญจาเดินมาหา มองดูจงเหยียนซี นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ก็พอมีฝีมือ เดิมที่อยากทำให้เธออับอายขายขี้หน้า ผลลัพธ์กลับเป็นจุดแข็งของเธอ
เธอไม่เชื่อว่าจงเหยียนซีจะเป็นทุกอย่าง จึงพูดต่อ “รออีกเดี๋ยวจะมีงานเต้นรำ ตอนเปิดการแสดงเต้นรำเดี่ยว ให้เธอมาเต้นเป็นไง?”