กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 994 ทำตัวอย่างกับเป็นเด็ก
ซงเก้นหยิบกาน้ำขึ้นมาเทใส่แก้วชาสองแก้ว แก้วนึงวางไว้ตรงหน้าเจียงโม่หาน ส่วนอีกแก้วนึงก็ยกขึ้นมาดื่ม เมื่อวางแก้วลงแล้วก็เริ่มเปิดปากพูด ” เมื่อตอนที่ผมอายุแปดขวบ
คุณปู่ของผมให้ปืนปลอมกับผมกระบอกนึง ผมชอบมาก มันกลายเป็นของเล่นที่ผมชอบที่สุด แต่แล้วผมก็ไม่ระวังทำมันหายไป จะหายังไงก็หาไม่เจอ จนกระทั่งวันหนึ่งผมเห็นเพื่อนคน
หนึ่งมีมัน และมันก็กลายเป็นของเล่นที่เขารักที่สุดเช่นเดียวกัน ตั้งแต่นั้นผมก็รู้ว่าการที่สูญเสียมันไปแล้ว จะเอามันกลับมายังไงก็คงไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเอามันกลับมาไม่ได้ ผมก็เรียนรู้ที่
วางมือจากมัน”
เขาชายตาขึ้นมองเจียงโม่หาน ” คุณว่าผมควรจะไปขอมันคืนจากเพื่อนคนนั้นไหม หรือว่าควรยอมปล่อยมือจากมัน?”
เจียงโม่หานทำสีหน้านิ่งขรึม ” ถ้าเป็นผม ผมก็จะถามปืนกระบอกนั้นว่า มันอยากให้ใครเป็นเจ้าของ”
“แต่ผมรู้สึกว่า ผมทำมันหายไปแล้ว ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองมัน คุณไม่คิดอย่างงั้นเหรอ? ”
ซงเก้นเอียงตัวเข้ามา ” ทำไมผมถึงทำมั่นหายล่ะ? ก็เป็นเพราะว่าผมไม่มีความสามารถพอที่จะรักษามันเอาไว้ ดั่งนั้นมั่นก็เลยหายไปจากผม”
” แล้วคุณจะแน่ใจได้ยังไง ว่าคนที่เก็บปืนได้จะไม่ทำมันหายอีก? ” เจียงโม่หานมองเขา ” คุณติชา ผมถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม? ”
” เชิญถาม ”
” คุณครอบครองปืนนั้นมานานแค่ไหนแล้ว? ”
” ตั้งแต่แปดขวบจนถึงสิบสองปีแล้วมั้ง สี่ปีน่ะ”
” สี่ปี? ถ้าปืนนั้นมีจิตใจ ก็คงจะมีความรู้สึก คุณคิดว่าตอนที่มันอยู่กับเจ้าของใหม่ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะลืมเจ้าของเดิมล่ะ? ” เจียงโม่หานมองไปยังซงเก้น ” คุณรู้ไหมว่า
ผมกับอดีตภรรยาของผมรู้จักกันมากี่ปี? ”
ไม่ทันได้ให้ซงเก้นเอ่ยถาม เขาก็พูดขึ้นว่า ” ผมเจอเธอครั้งแรกตอนเก้าขวบ ”
เขาไม่เคยลืมตอนที่ตัวเองได้พบหน้ากับเด็กสาวที่ดูอ่อนโยนและจิตใจดี
ซงเก้นนิ่งไป
เจียงโม่หานไม่เคยพูดกับใครด้วยน้ำเสียงต่ำแกมโมโหแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เขาก็ไม่เคยขอร้องใครมาก่อน แต่เวลานี้เขาอยากจะพูดกับซงเก้นว่า ” ผมไม่รู้ว่า ชีวิต
ครอบครัวของคุณมูติชาจะเป็นยังไง แต่ผมอยากจะบอกคุณว่า เธอเป็นคนที่สอนให้ผมรักเป็น คุณอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ ว่าความรู้สึกแบบนั้นมันเป็นยังไง ”
ซงเก้นไม่ยอมเงียบอีกต่อไป ” แต่คุณทำร้ายเธอ ”
” ดั่งนั้นผมก็เลยพยายามจะชดใช้ยังไงล่ะ”
” แต่คุณเคยคิดไหม ว่าเธอต้องการหรือเปล่า? ” ซงเก้นลุกขึ้น ” เธอจะอยู่ในประเทศนี้จนถึงวันที่น้องชายแต่งงาน ในระหว่างนี้ ถ้าเธอยังรักคุณหรือคุณสามารถเอาชนะใจเธอ
กลับมาได้ ผมก็จะยินดีไปกับเธอ แต่ถ้าในระยะเวลานี้เธอไม่สามรถกลับไปอยู่กับคุณได้ หากป็นแบบนั้นผมก็จะพยายามชิงตั๋วเธอมาอย่างสุดความสามารถ ”
พูดจบซงเก้นก็เดินจากไป
เจียงโม่หานยังคงนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน
อีกฝั่งหนึ่งจงเหยียนซีกลับถึงบ้านแล้ว ทุกคนยังไม่เข้านอนแต่ยังคงอยู่ที่ห้องรับแขก
” กลับมาช้าจัง? ” ฉินยามองไปที่เธอแล้วถาม
” พอดีพี่ไปเจอเพื่อนคนหนึ่งค่ะ ” จงเหยียนซียังไม่ทันได้เปิดปากพูด เสิ่นซินเหยาก็ชิงพูดก่อน
จงเหยียนซีหัวเราะแล้วเดินเข้ามา ” ทุกคนยังไม่นอนเหรอเนี่ย”
” มานี่ซิ ” จงจิ่งห้าวลุกขึ้นมาแล้วเดินไปทางห้องหนังสือ
จงเหยียนซีพูดทักทายทุกคนเสร็จจึงเดินตามไป หลังจะเข้าไปในห้องหนังสือแล้ว จงจิ่งห้าวก็ให้เธอปิดประตู
“พ่อ มีอะไรจะพูดกับหนูเหรอคะ ” จงเหยียนซีปิดประตูแล้วเดินเข้ามา
” โล่ตำ บริษัทนี้แกคยได้ยินไหม? ” จงจิ่งห้าวนั่งลงหน้าโต๊ะอ่านหนังสือ จากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เธอดู
จงเหยียนซีส่ายหน้า
” เอาเอกสารไปดูก่อน ” จงจิ่งห้าวพูด
จงเหยียนซีดูเนื้อหาคร่าวๆ ไปรอบหนึ่ง ” เป็นบริษัทของประเทศไทยเหรอคะ?”
“อื้ม ” จงจิ่งห้าองไปที่ลูกสาว ” รอให้น้องชายแกแต่งงานก่น พ่อกับแม่ยังต้องกลับไป พ่ออยากให้แกอยู่ข้างๆพวกเรา เดี๋ยวพ่อจะหางานให้แก่งานหนึ่ง ”
จงเหยียนซีก็อยากอยู่ข้างๆ อแม่อยู่แล้ว แบบนี้เธอจะได้ดูแลพวกท่าน เธอพยักหน้า ” หนูจะไปทำงานที่บริษัทนี้เอง ”
เธอไม่ถามเลยว่าเป็นงานอะไรแต่ก็ตอบรับอย่างเต็มปากเต็มคำ
” ไม่มีอะไรจะถามพ่อหน่อยเหรอ? ” จงจิ่งห้าวมองหน้าลูกสาว
จงเหยียนซีเดินอ้อมโต๊ะเข้ามา จากนั้นก็โอบคอของเขาจากด้านหลัง แล้วพูดกับพ่อด้วยเสียงอ้อนๆ ว่า ” พ่อหรอกหนูไม่สำเร็จหรอกนะ ”
จงจิ่งห้าวตีไปที่มือเธอเบาๆ ถึงเขาจะเป็นพ่อแต่ลูกสาวของเขาก็โตแล้ว ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป สั่งสอนวิธีไหนก็คงไม่สำคัญ ตอนนี้เธอได้เป็นผู้ใหญ่แล้ว และเคยแต่งงานมาแล้วครั้ง
หนึ่ง มีคำพูดมากมายที่ไม่ควรพูดออกมาตรงๆ
แต่เขาเชื่อว่าหากผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว เธอก็คงจะเติบโตขึ้น
” แม่แกอยู่ในห้อง ไปอยู่เป็นเพื่อนเธอหน่อยสิ ” จงเหยียนซีทำเสียงอ้อน ” พ่อกับหนูไปด้วยกันไง ”
” แม่ไม่ตีลูกสักหน่อยจะกลัวอะไร? หนูไม่ได้กลัวหนูแค่อยากให้พ่อไปด้วยนี่นา ไม่ได้เจอกันตั้งปีนึง ไม่คิดถึงหนูแล้วหรือไง? ” เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อแม่ เธอก็เป็นเด็กที่ไม่รู้จักโต
เสมอ
จงจิ่งห้าวแสร้งทำเป็นนิ่งสุขุม ” แกอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กอยู่ได้ ”
” แต่หนูก็เป็นลูกพ่อนะ ”
จงจิ่งห้าว ”
จากนั้น เพราะลูกก็พากันเข้าห้อง หลินซินเหยียนกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่ จงเหยียนซีทำทะเล้น ทำท่าถอนหายใจใส่จงจิ่งห้าว จากนั้นก็เดินย่องๆ ไปข้างหลังหลินซินเหยียน
เรายื่นหัวไปดูว่าแม่กำลั่งเขียนอะไร
เมื่อลูกชายแต่งงานแม่ก็ต้องเตรียมตัวเป็นแม่สามี เธอต้องเตรียมของไว้ให้กับสะใภ้ในอนาคต และของก็มีมากมายเธอจึงต้องทำบันทึกขึ้นมา เมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ลืม
“โหย ใจป้ำอะไรขนาดนั้นน่ะ ” เมื่อเห็นหลินซินเหยียนเขียนของขวัญแต่งงาน ก็พูดขึ้นว่า ” แม่จะให้เงินกับลูกชายคนเล็กใช้ทั้งหมดเลยเหรอ ไม่เหลือให้ลูกชายคนโตเลยหรือไงนะ? ”