กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่ 995 ปฏิบัติหน้าที่
หลินซินเหยียนหน้าไปมองลูกสาวแล้วก็วางดินสอ จากนั้นก็ลุกไปนั่งอีกฝั่งเพื่อให้ลูกสาวด้วยนั่งด้วย
จงเหยียนซีไม่รู้ว่าแม่หมายความว่ายังไงจึงถาม ” ทำอะไรคะ? ”
” แม่พูดลูกเขียนแล้วกัน ” หลินซินเหยียนตอบ
จงเหยียนซีถอนหายใจ แสร้งทำหน้าสลด ” หนูเพิ่งจะหย่ามานะ ไม่สงสารหนูบ้างเหรอ ”
ทุกคนต่างรู้เรื่องที่เธอหย่าร้าง แล้วไหนจะเรื่องของเจียงโม่หานอีก แต่ทุกคนไม่พูดถึงสักคำ เพราะกลัวว่ารอยแผลเป็นของเธอจะเปิดออก
แต่เธอได้ปล่อยวางแล้ว
แววตาของหลินซินเหยียนเปลี่ยนไปชั่วครู่ ซึ่งแม้แต่จงจิ่งห้าวพี่เพิ่งนั่งลงบนเตียงก็ดูออก
จงเหยียนซีห้นไปมองหน้าพ่อ และสุดท้ายก็เบนสายตามาที่หลินซินเหยียน แล้วเอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ ” แม่ หนูปล่อยวางแล้ว หนูไม่เป็นไรแล้ว พ่อกับแม่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ
หนูเสียทุกเรื่องก็ได้ ยิ่งพ่อกับแม่พยายามไม่พูดถึงก็ยิ่งทำให้หนูกดดันภายในใจ ให้ทำเหมือนเมื่อก่อนเถอะ ที่เวลาหนูทำผิด พ่อกับแม่ก็จะคอยสอนและอบรม อะไรที่ตำหนิได้ก็ต้อง
ตำหนิ ”
หลินซินเหยียนเห็นว่าลูกสาวของตัวเองกล้าที่จะเผชิญหน้า ความกังวลในใจก็ค่อยๆ บางลง จากนั้นก็แสร้งทำเป็นดุ ” แม่ให้ลูกเขียนบันทึก พูดอะไรเยอะแยะ รีบเขียนสิ ”
” ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านแม่ขอรับ ” จงเหยียนซีหยิบดินสอขึ้นมา ” แม่คงรักลูกชายคนเล็กของแม่จริงๆ นะเนี่ย ”
เธอไม่ได้อิจฉาแต่ก็รับดีใจด้วยซ้ำ
สำหรับน้องชายแล้วก็คือคนที่อายุน้อยที่สุด แต่ก็เป็นคนที่จากพวกเขาไปเร็วที่สุด บนบ่าของเขาได้แบกรับหน้าที่ที่เขาไม่ควรได้รับ ซึ่งตรงกันข้ามกับเธอและพี่ชายที่ทำตามใจ
ตัวเอง ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ
เขานั้นแบกรับกิจการใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงแม้ทุกคนจะคอยช่วยเหลือ แต่สำหรับเขาแล้วมันขาซึ่งอิสรภาพ ถึงแม้ปกติจะดูร่าเริงยังไม่ได้ดูเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น แต่จริงๆ ใน
ใจของเขานั้นเติบโตและแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว
ไม่งั้นเขาคงควบคุมผู้คนให้อยู่ภายใต้ตัวเองไม่ได้หรอก
ถึงจะให้ของกับเขาเยอะมากแค่ไหนเขาก็คงไม่อยากได้ แค่รู้สึกว่ามันควรจะเป็นแค่นั้น โดยรวมแล้ว เขาจะต้องแบกรับความรับผิดชอบของเธอและพี่ชายเอาไว้ ถ้าเขาไม่มาอยู่
เมืองCอาจจะเป็นพี่ชายที่ต้องไป เพราะคุณปู่ช่าวล้มป่วยและจากไป ทางนี้ก็เป็นกิจการที่คุณตาเหลือเอาไว้ ไม่สมารถทิ้งร้ายมันได้ ขวกกับสุขภาพร่างกายของคุณปู่เล็กไม่ค่อยดีเท่า
ไหร่ โรงงานทอผ้าในอนาคตก็อาจจะต้องให้น้องชายเป็นคนดูแลด้วย ” แม่ หนูคิดว่าเอาแห่วนวงนั้นที่แม่ให้หนู ให้กับเถอะ เธอคือคนที่แต่งงานกันลูกน้อย ถ้าให้อย่างอื่นก็คงจะดูไม่งาม ”
จงเหยียนซีบอกว่าหลินซินเหยียนเป็นคนใจป้ำ แต่ตัวเธอเองก็อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพวกเขาเช่นเดียวกัน
” แหวนวงนั้นลูกเก็บไว้เถอะ ของลูกคงไม่เหมาะหรอก แม่พอมีเตรียมไว้อยู่ ” หลินซินเหยียนจะไปที่กำไลหยกในมือ เธอกะว่าวันงานพิธีวันนั้น จะเอากำไลหยกให้กับเสิ่นซินเหยา
เพราะนี่คือกำไลที่เฉิงยู่ซิ่วเคยใส่ให้เธอ คือของขวัญที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูลเฉิง
และมีความหมายในด้านของการสืบทอด จวงเจียเหวินคือลูกชายของเธอ เสิ่นซินเหยาคือลูกสะใภ้ของเธอ ในอนาคตพวกเขาสามีภรรยาก็จะต้องรับช่วงต่อโรงงานทอผ้า และก็
นับว่าเป็นการสืบทอดกิจการประจำตระกูลเฉิง
จงเหยียนซีทำปากยู่ ” แล้วพี่ชายล่ะคะ? ”
“ในอนาคตเขาก็จะต้องแต่งงานน่ะสิ ลูกจะให้อะไรกับภรรยาของพี่เขาล่ะ ”
หลินซินเหยียนกำลังจะเปิดปากพูด จงเหยียนซีก็ต้ดบทเธอ ” อย่าพูดนะว่าลูกชายของแม่ไม่สนใจเรื่องนี้ พี่ชายของหนูไม่สนเรื่องพวกนี้ แต่ภรรยาของเขาในอนาคตสนแน่นอน
แม่เป็นพ่อแม่คนนะ น้ำในถ้วยก็ต้องตวงให้เท่ากันสิ ”
” ลูกก็มีแหวนเพชรชมพูแล้วไม่ใช่เหรอ ก็ให้พี่สะใภ้ในอนาคตจะเป็นไรไป ”
” หนูไม่ยอม อันนั้นพ่อเป็นคนให้หนูต่างหาก ” คราวนี้จงเหยียนซีเริ่มขี้เหนียวขึ้นมา
” พี่เขาไม่สนหรอกนะ ผู้หญิงที่เขาชอบอาจไม่ได้มองที่เงินของเขาก็ได้ แม่คิดว่ามีใครหลายคนที่ชอบเขาแหละ ”
หลินซินเหยียนมั่นใจในตัวลูกชายคนโตมาก และเชื่อว่าเขาไม่มีทางไปชอบผู้หญิงที่หลงในวัตถุตื้นๆ อย่างนั้น
แต่ด้วยสภาวะแวดล้อมของเขาตอนนี้ เงินก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
อีกอย่างตอนนี้เขาอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ที่ค่อนข้างสูง จึงไม่มีอะไรที่เธอต้องมากังวลใจ
” งานแต่งงานของลูกน้อย เขาจะกลับมาทันไหมคะ? หนูไม่ได้เจอ. ” จงเหยียนซีก้มหน้าก้มตานับว่าตัวเองไม่ได้เจอเขานานเท่าไหร่แล้ว ” จะสองปีได้แล้วมั้ง? ”
” ลุงของลูกบอกว่าเขากำลั่งปฏิบัติหน้าที่ อาจจะกลับมาไม่ได้ แล้วก็ติดต่อเขาไม่ได้ด้วย หนูก็รู้ว่างานที่เขาทำมันพิเศษ พวกเราก็ต้องเข้าใจเขาด้วย ”
จงเหยียนซีเข้าใจดี ” หนูแค่รู้สึกเสียดายเท่านั้นเอง ”
เมื่อเขียนบันทึกของใช้วันงานเสร็จจงเหยนซีก็กลับห้องไป ตอนนี้ห้องรับแขกไม่มีใครอยู่แล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน
เมื่อหลินซินเหยี่ยนปิดประตู ก็เดินมาหาจงจิ่งห้าวแล้วพูดว่า ” พรุ่งนี้เราไปเมืองBด้วยกันเถอะ ”
เธอเองก็คิดถึงจงเหยียนเฉินแล้ว ตั้งแต่เขาเข้าไปอยู่ในกองทัพ กลับมาบ้านแทบจะนับครั้งได้ เธอแค่หวังว่าจงเหยียนเฉินจะกลับมาร่วมงานแต่งของจวงเจียเหวิน ครอบครัวเรา
ไม่ได้รวมกันมานานแล้ว
ตอนนี้จงเหยียนซีได้เดินออกมาจากความทุกข์ใจของชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวแล้ว จวงเจียเหวินจะแต่งงาน ก็นับว่าเป็นเรื่องดี ถ้ามีลูกชายคนโตอยู่ด้วยก็คงเป็นอะไรที่เพียบ
พร้อมและสมบูณ์ รอให้เธอกลับประเทศไทยก่อนก็คงไม่มีอะไรที่ต้องห่วงอีกต่อไป
จงจิ่งห้าวรู้ว่าเธอคิดอะไรในใจ จึงตกปากรับคำสั้นๆ ” ได้สิ ผมจะไปจัดการธุระแถวนั้นพอดี ”
” ธุระอะไรคะ? ” หลินซินเหยียนก็นึกเรื่องเจียงโม่หานขึ้นมาได้ ” เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเจอเขาอีก”
เมื่อนึกถึงเจียงโม่หานแล้ว เธอก็ยังคงรู้สึกสะท้อนใจอยู่
จงจิ่งห้าวยื่นมือแล้วดึงเธอมานั่งข้างๆ ” ไม่ได้ไปเจอเขา ให้พูดอีกอย่างก็คือเขาไม่ได้อยู่ เมืองB
” คุณรู้ได้ยังไง? ” เธอหันหน้าไปมองจงจิ่งห้าว ” คุณรู้อะไรมาใช่ไหม แล้วทำไมถึงปิดบังฉัน?”