กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1001 พี่ชายของฉันเป็นอย่างไรบ้าง
“คราวที่แล้วตกลงกันไว้แล้วว่า ถ้าเราได้พบกันอีก เราจะคุยกันตามลำพัง”เจียงโม่หานเอ่ยปากพูดขึ้นก่อน
จงเหยียนซีพูดขึ้น “ได้ แต่ว่า ฉันหวังว่าคุณจะรักษาคำพูดนะ ถ้าคุณพูดในสิ่งที่อยากจะพูดเรียบร้อยแล้ว ก็อย่ามารบกวนหรือยุ่งกับฉันอีก”
เจียงโม่หานหรี่ตาลงเล็กน้อย ขนตาหนาปิดรูานตาที่ดำสนิท และเขาตอบรับด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ไปกันเถอะ”เขาเป็นคนเดินนำก่อน จากนั้นจงเหยียนซีก็ตามเขาไป
“คุณอยากจะพูดอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันยังมีธุระที่ต้องไปทำ”น้ำเสียงของจงเหยียนซีนั้นค่อนข้างใจร้อน
เจียงโม่หานหันกลับไปมองเธอ ตอนที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูด ริมถนนก็มีรถมาจอดสองค้น จากนั้นก็มีคนเดินลงมาเจ็ดแปดคน ในมือของพวกเขาถือไม้เบสบอลไว้ พวกเขามา
ยืนล้อมรอบจงเหยียนซีและเจียงโม่หานไว้
“พวกคุณเป็นใคร?”เจียงโม่หานขมวดคิ้ว
“คุณคือเจียงโม่หาน?”ผู้มาใหม่ไม่ได้ตอบว่าพวกเขานั้นเป็นใคร แต่กลับเอ่ยถามเขาขึ้นเพื่อให้แน่ชัดในตัวตนของเขา
เจียงโม่หานบังตัวจงเหยียนซีไว้ “ใช่ คนที่พวกคุณมาหาคือผม ปล่อยตัวหล่อนไปก่อน”
“ได้ คนที่พวกผมมาหาคือคุณ เราจะไม่ทำร้ายผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหรอก”คนที่พวกเขาจะจัดการมีเพียงเจียงโม่หานคนเดียวเท่านั้น
เจียงโม่หานไม่รู้ว่าพวกเขานั้นเป็นใคร แต่รู้ว่า พวกเขามาหาเขาโดยเฉพาะ เขาหันไปพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำกับจงเหยียนซี “คุณรีบไปเถอะ”
“คุณไปมีปัญหากับใครไว้อีก?” จงเหยียนซีไม่ได้เดินออกไปทันที เมื่อเจอกับสถานการณ์แบบนี้เธอจึงขมวดคิ้ว “กลางวันแสกๆแบบนี้ก็กล้าลงมือ?”
เจียงโม่หานมองดูเธอที่กำลังขมวดคิ้ว จู่ๆเขาก็รู้สึกใจสั่นเล็กน้อย เธอกำลังเป็นห่วงเขาเหรอ?
“คุณยังแคร์ว่าผมจะเป็นอย่างไรเหรอ?”เขาปิดบังความตื่นเต้นภายในใจแล้วถามขึ้นด้วยเสียงที่เบา
จงเหยียนซี้หัวเราะออกมา “คุณจะอยู่หรือตายมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”พูดจบเธอก็เดินออกไปอย่างง่ายดาย
เจียงโม่หานมองดูแผ่นหลังของเธอแล้วถามขึ้น “ถ้าผมเกิดอุบัติเหตุ คุณจะจำผมได้ไหม?”
“ไม่”จงเหยียนซีตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์ “คุณไม่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของฉัน”
ปีก.
ทันใดนั้น ไม้เบสบอลก็ฟาดไปที่หลังของเจียงโม่หาน เขาขมวดคิ้วและร้องออกมา จากนั้นเขาก็ไปจับไม้เบสบอลในมือของฝ่ายตรงข้ามแล้วแย่งมา
จากนั้น ชายฉกรรจ์ทั้งเจ็ดแปดคนก็เข้าพร้อมกัน ถึงเยงโม่หานจะมีสามหัวหกแขน ก็ยากที่จะรับมือกับแรงของฝ่ายตรงข้าม
คนกลุ่มนี้ทำงานกันเป็นทีม ไม่ได้เข้าไปรุมมั่วซั่ว ถึงเจียงโม่หานจะมีฝีมือการต่อสู้ ก็หนีไม่พ้น
จงเหยี่ยนซีไม่ได้เดินไปไกลมาก เธอหันหลังกลับไป มองดูเจียงม่หานที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้น เขาต่อต้านและขัดขืนสุดความสามารถ ถึงแม้จะรู้ตั้งแต่แรกว่าสู้
ไม่ไหว แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
ขนตาของเธอสั่นเล็กน้อย และเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรไปยังสาย1 10 เธอพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ฉันแค่เห็นแก่ในถานะที่เคยรู้จักกันหรอกนะ”
เธอตะโกนออกไปเสียงดัง “ฉันโทรแจ้งตำรวจแล้ว ถ้าไม่อยากโดนจับก็รีบไสหัวไปซะ”
เจียงโม่หานได้ยินเสียงของเธอ ก็หันหลังกลับไปมองตามเสียง ก็เห็นเธอที่ยืนอยู่ไม่กลนัก ในมือถือโทรศัพท์ไว้ เธอยังคงแคร์เขาอยู่? ต้องใช่แน่ๆเลย ไม่เช่นนั้นเธอคงจากไป
แล้ว
เขาแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาไม่ได้รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องเร็วร้าย แต่กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องโชคดี
โชคดีที่เธอยังเป็นห่วงเขา
ปั้ง!
ทันใดนั้นก็มีไม้ฟาดลงที่หัวของเขาจากด้านหลัง ม่านตาของเขาหดและเกร็ง และมีเลือดสดไหลออกมาจากหัวของเขา
“เจียงโม่หาน!”ทันใดนั้นจงเหยียนซีก็รู้สึกสลดใจ เธอวิ่งไปหาตัวเขา ทว่า เธอนั้นยังคงมาช้ไป เจียงโม่หานล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง
และคนที่มารุมทำร้ายเขาก็รีบขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“เจียง. “จงเหยียนซีลังเลไปครู่หนึ่ง และวินาทีต่อมาก็นั่งลงแล้วกอดเขาไว้ “คุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
ในเวลานั้นเอง ภาพตรงหน้าของเจียงโม่หานมีดไปหมด สติค่อยๆเบลอลง ทว่า เหมือนยังคงมองเห็นคนตรงหน้า
เขายกมือขึ้น.
นิ้วมือยังไม่ทันได้ส้มผัสถึงหน้าของเธอ มือก็ร่วงลงไปกับพื้นอย่างแรง
จงเหยียนซีเช็ดเลือดบนหัวของเขา “เจียงโม่หาน คุณยังมีเรื่องที่ไม่ได้บอกกับฉัน คุณยังตายไม่ได้นะ!”
ไม่นานรถตำรวจก็มาถึง แล้วส่งคนไปที่โรงพยาบาล
ในขณะที่เจียงโม่หานกำลังเข้ารับการรักษา ทางตำรวจก็ได้สอบสวนจงเหยียนซี
“ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคือใครค่ะ”จงเหยียนซีพูดตามความจริง
ทางตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้พยักหน้า “คนร้ายคงจะรู้จักและคุ้นเคยพื้นที่แถวนี้พอสมควร หลีกเสี่ยงทางที่มีกล้องวงจรปิดได้ คุณจำทะเบียนรถไม่ได้เหรอครับ แบบนี้พวกเราก็
หาคนร้ายลำบาก”
“รถของพวกเขาไม่มีทะเบียนจริงๆค่ะ ฉันจำได้แค่ว่ามันเป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ฮอนด้านสีดำค่ะ”
“รถแบบนี้มีจำนวนมากครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษ หายากมาก ทว่า ฟังจากเหตุการณ์ที่คุณเล่ามานั้น พวกผมสันนิษฐานว่า ฝ่ายนั้นจงใจ พวกเขาลงมือเร็ว และจากไปเร็วมาก
แถมไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้อีก ไปมีปัญหากับใครไว้หรือเปล่าครับ?”
จงเหยียนซีนิ่งไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังประมวลเรื่องราว อาจจะ.
เธอก็แค่คาดเดา
“ฉันคิดว่าอาจจะไปคู่แข่งในทางธุรกิจของเขาค่ะ มาโจมตีตัวเขา เขาเป็นคนเมืองB คนเหล่านี้ก็อาจจะมาจากที่นั่น”เธอจงใจเปลี่ยนแนวทางสันนิษฐานของทางตำรวจ
เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับคนรอบตัวเธอ
“โอเคครับ หลังจากที่เหยื่อตื่นขึ้นมา พวกเราจะสอบปากคำเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์อีกครั้ง ถ้าเขาจะเอาความ พวกเราก็จะประสานงานกับตำรวจทางโน้นให้ครับ”ตำรวจพูดขึ้น
จงเหยียนซีพยักหน้า
“พี่ชายของผมเป็นอย่างไรบ้าง?”เจียงโเชียนและหนานเฉิงรีบเข้ามา จงเหยียนซีเป็นคนติดต่อหนานเฉิงไปเอง แต่เธอไม่รู้ว่าเจียงโย่เชียนก็อยู่ที่นี่ด้วย
.