กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1020 สายตาประสานกัน
หลินซินเหยียนและซางหยูเดินออกมาจากห้อง ก็เห็นจวงเจียเหวินเดินอุ้มเสิ่นซินเหยามาจากระเบียงทางเดินและกำลังจะมุ่งหน้าไปทางนั้นพอดี
เดิมที่บ้านใหม่อยู่ในวิลล่า แต่เพราะเกิดเรื่องนั้นไป จงเหยียนซึจึงตกแต่งห้องใหม่ในโรงแรมแทน หลินซินเหยียนกับซางหยูกลัวว่า จงเหยียนซีจะไม่รู้ธรรมเนียมการเข้าหอ ทั้งสองจึงขึ้นมาดูว่า
มีตรงไหนที่ยังขาดตกบกพร่องอีกไหม
ชั่วครู่เดียวใบหน้าของเสิ่นซินเหยาก็แดงระเรื่อจนถึงลำคอ เธอกระโดดออกจากอ้อมอกของจวงเจียเหวินโดยมิรอช้า เธอสวมชุดราตรีสีแดง ทว่าการกระโดดครั้งนี้ รองเท้าสันสูงของเธอดัน
ไปสะดุดเข้ากับชายกระโปรงตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ และตัวเธอเองก็มีท่าทีจะล้มลงไป
จวงเจียเหวินยื่นมือไปคว้าตัวเธอไว้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือ เขาก็ล้มไปกองอยู่ที่พื้นกับเธอ
ทั้งสองล้มพับอยู่ตรงระเบียงทางเดิน ท่าทางของพวกเขานั้นพอจะพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าขัน ซางหยูถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “พวกเธอก็โตๆกันแล้ว ทำไมยังทำตัวสะเพร่าอีก?”
ชายหนุ่มจวงเจียเหวินที่ไม่รู้สึกเคอะเขิน ต่างกับเสิ่นซินเหยาที่อ่อนไหวง่าย ที่ขณะนี้เธอยังคงนอนราบกับพื้นและไม่ยอมลุกขึ้นมา เพราะรู้สึกอาย
เขานั่งบนพื้นพลางมองไปที่ซางหยู “สวัสดีครับคุณแม่ทั้งสอง ก็ผมเพิ่งเข้าเรือนหอเป็นครั้งแรกนี่ครับ ผมตื่นเต้น ได้โปรดให้อภัยผมด้วย”
“เจ้าเด็กคนนี้นะ. …”ซางหยูคว้าแขนหลินซินเหยียนและเดินไปที่ลิฟต์ “รีบลุกขึ้นมา หรือจะให้คนอื่นมาเห็นในสภาพนี้”
จวงเจียเหวินยิ้มร่า และไม่ได้สนใจอะไร
เมื่อประตูลิฟต์ถูกปิดลง เขาก็สะกิดเสิ่นซินเหยาที่อยู่ข้างๆ “ลุกขึ้นมาได้แล้วครับ พวกเขาไปกันแล้ว”
เสิ่นซินเหยาพูดเสียงต่ำ “คุณอย่ามาหลอกฉัน”
“ผมไม่ได้หลอกคุณ” จวงเจียเหวินดึงตัวเธอ
เสิ่นซินเหยาแอบมอง เมื่อเห็นว่าทั้งสองไปแล้วจริงๆ เธอถึงจะเงยหน้าขึ้น ตอนนี้เอง ใบหน้าของเธอก็ยังคงแดงก่ำ
“ต้องโทษคุณ เป็นความผิดของคุณ” เสิ่นซินเหยาจับปกเสื้อจวงเจียเหวิน
“โทษผมเอง เป็นความผิดของผมเอง……” จวงเจียเหวินคว้ามือเธอไว้ “ถ้าไม่อยากขายขี้หน้า ก็รีบลุกขึ้นมา ถ้ามีคนมาเห็นคุณนั่งอยู่บนพื้น ก็จะยิ่งขายขี้หน้านะครับ”
เสิ่นซินเหยาเก็บมือและลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จวงเจียเหวินที่เคลื่อนไหวเร็วก็ยังไม่มีท่าทีที่ตอบสนอง
เขาเงยหน้ามองเสิ่นซินเหยา “คุณภรรยา……”
“รีบลุกขึ้นมาได้แล้ว” เสิ่นซินเหยายื่นมือไปจับมือเขา
จวงเจียเหวินจับมือเธอไว้ เมื่อเห็นว่าเธอยังคงกลัวคนอื่นจะมาเห็นในสภาพนี้ เขาจึงตั้งใจใช้ลูกไมโดยการดึงตัวเธอลงไปอย่างสุดแรง
“อุ้ย.
เสิ่นซินเหยาปิดปากตัวเอง ทว่าเธอก็ล้มเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของจวงเจียเหวิน
“คุณบ้าไปแล้วหรอ?” เสิ่นซินเหยาพูดด้วยความโมโห พลางขึงตาใส่เขา
จวงเจียเหวินยิ้ม “ผมชอบมองคุณ ตอนที่คุณหน้าแดงระเรื่อแบบนี้”
เสิ่นซินเหยา “คุณบ้าไปแล้ว”
“งั้นคุณต้องเซ่อซ่าแค่ไหน ถึงยอมแต่งงานกับคนบ้าๆคนหนึ่ง?” จวงเจียเหวินยิ้มบางๆให้เธอ “คุณบ้ากว่าไม่ใช่หรอ?”
เธอที่กำลังจะโกรธ แต่จวงเจียเหวินก็พูดกับเธอต่อ “พวกเราสมน้ำสมเนื้อกันพอดี”
เสิ่นซินเหยา, “…..”.
จวงเจียเหวินอุ้มเธอขึ้นมา “พวกเราต้องไปแล้ว”
ห้องพักใหม่เป็นห้องที่ถูกตกแต่งโดยจงเหยียนซี เธอทิ้งลูกโปงมุกสีแดง และใช้ลูกโป้งมุกสีน้ำเงิน สีฟ้าและสีขาวตกแต่งแทน จากนั้นก็สบลมเข้าไปในลูกโป้งเหล่านั้น และปล่อยให้ลูกโป้ง
ลอยติดเพดานห้อง
นอกจากนี้ยังห้อยการ์ดที่ตกแต่งด้วยกลิตเตอร์ เมื่อการ์ดตกกระทบกับแสงไฟก็ดูแพรวพราวระยิบระยับ บนหัวเตียงมีตัวอักษรสีทองที่เขียนไว้ว่า สุขสันต์วันแต่งงาน และยังมีลูกโป่งรูปหัวใจ
สีชมพู
เตียงนอนไม่ได้ถูกจัดด้วยชุดเครื่องนอนสีแดง แต่เป็นสีชมพู
ชุดเครื่องนอนนั้นเป็นวัสดุที่พบหาได้ยากตามท้องตลาด แค่ดูก็รู้ว่านุ่มลื่นแค่ไหน อีกทั้งเมื่อตกกระทบกับแสง ก็เห็นด้ายไหมที่แวววาว
แม้จะเทียบไม่ได้กับการเฉลิมฉลองแบบก่อนหน้านี้ ทว่าก็รู้สึกดีไปอีกแบบ อีกทั้งยังเห็นถึงความใส่ใจของจงเหยียนซี
จวงเจียเหวินวางเสิ่นซินเหยาลงบนเตียง ฟูกบนเตียงนั้นช่างอ่อนนุ่มและเตียงยุบลงเล็กน้อย เธอเม้มปากและเงยหน้าขึ้น
สายตาทั้งสองก็ประสานกัน
“เจ้าสาวของผม……” เขาเชยคางเสิ่นซินเหยา “วันนี้คุณสวยมากเลย”
ใบหน้าของเสิ่นซินเหยาค่อยๆแดงระเรื่อ “เกลียดคุณ”
จวงเจียเหวินยิ้ม “หรือจะให้ผมบอกว่า คุณขี้เหร่?”
เสิ่นซินเหยา,
เธอผลักจวงเจียเหวินออก “ฉันขี้เหร่ วันนี้คุณก็นอนโซฟาไปเลย”
จวงเจียเหวิน”??? ”
ช่างเป็นเรื่องตลกระดับนานาชาติ
” เรื่องใหญ่ๆในชีวิตคนเรามีอยู่สองเรื่อง หนึ่งคือผู้สอบจอหงวน สองคือคืนแรกที่ส่งตัวเข้าหอ” จวงเจียเหวินโอบเอวเธอ พลางกดตัวเธอให้เข้าไปอยู่ในผ้าห่มที่แสนจะนุ่มนิ่ม
จากนั้นก็ประกบริมฝีปากเธอ