กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1023 จิตใจหวาดผวา
“เขาไม่ได้พักมานานแล้ว ถือโอกาสนี้ให้เขาพักสักหน่อยก็ได้”
จงจิ่งห้าวไม่รู้ว่าสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือเปล่า จึงลองถามดูว่า “คุณต้องการให้ผมไปนานเหรอ?”
หลินซินเหยียนพับเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเรียบร้อยแล้วจึงปิดกระเป๋าเดินทางลง
“คุณปล่อยวางหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงหลายปีนี้” เธอยกมือขึ้นลูบที่หางตาของเขา “รอยตีนกาของคุณชัดเจนขึ้นโดยไม่รู้ตัวเลยนะคะ”
อันที่จริงเธอรู้อยู่ในใจว่าทุกสิ่งที่จงจิ่งห้าวปล่อยวางลงไปนั้นล้วนเป็นเพราะเธอ
“เรื่องที่จะซื้อบ้านใหม่ให้พวกเขาที่นี่ คงเลือกไม่เสร็จได้ในวันสองวัน เจียเหวินมีครอบครัวเร็ว ฉันจะได้ใช้โอกาสนี้ดูแลเขาอยู่ที่นี่สักพัก”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าเธอไม่มีอะไรผิดปกติไป คงจะไม่ได้สงสัยอะไร
จงจิ่งห้าวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “เอาล่ะ ให้กวนจิ้งพักผ่อนเถอะครับ” เขาจับมือหลินซินเหยียน”ผมแก่แล้วเหรอ?”
“ก็แก่แล้วแหละค่ะ แต่ ฉันก็ยังรักคุณ” เธอยิ้มด้วยดวงตานสดใส แต่ห่างตาก็ยังมีร่องรอยของกาลเวลา
หากจะบอกว่าเปลี่ยนไป ก็คงจะมีเพียงริ้วรอยที่หางตาของเธอ แต่เมื่อเทียบกับหลายๆ คนที่อายุเท่าเธอ ก็บว่าดูแลเป็นอย่างดีมากแล้ว
มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า ผู้มีพระคุณจากชาติก่อนจึงจะสามารถกลายมาเป็นคู่รักได้ในชาตินี้
บางทีเธอและจงจิ่งห้าวอาจจะเป็นเช่นนั้น
ในอดีตหลินซินเหยียนค่อนข้างจะตระหนี้ เช่นความรัก อาจเป็นเพราะผ่านไปตามกาลเวลาหรือเธออาจรู้สึกว่าถ้ามีอยู่ในใจก็ควรแสดงมันออกมา
จงจิ่งห้าวหัวเราะออกมาเบาๆ “อายุปูนนี้แล้ว ยังคิดจะใช้แผนแบบนี้มามัดใจผมอีกเหรอ?”
เธอเลิกคิ้ว “ฉันยังสวยอยู่หรือเปล่า?”
ก๊อกๆ
ประตูถูกเคาะขึ้น ทันใดนั้นหลินซินเหยียนก็เงียบเสียงและพูดว่า “ฉันจะเปิดประตู”
เมื่อประตูเปิดออก ซางหยูยืนอยู่ที่ประตู เธอยิ้มเมื่อเห็นหลินซินเหยียน “มารบกวนคุณหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ เชิญเข้ามา” หลินซินเหยียนเอนกายไปด้านข้าง
ซางหยูไม่ได้เข้ามา “ไม่ล่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าฉันกับเผยชวนต้องไปแล้ว”
“เร็วจัง?” หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว “ตอนนี้เลยเหรอ?”
“ใช่ เผยซวนมีเรื่องต้องจัดการ” ซางหยูถอนหายใจ ที่จริงเธอก็ไม่อย่างไปอย่างรวดเร็วแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้เพราะเสินเผยชวนมีงานต้องทำ
หลินซินเหยียนเข้าใจดีว่าทำไมเสิ่นเผยซวนเดินทางไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ แม้ว่าผู้ร้ายจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็นับว่าคดีจบลงแล้ว เขาจำเป็นต้องกลับไปเรียบเรียงรูปคดีใหม่
เขามีหน้าที่รับผิดชอบคดีนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องปิดคดีลง
หลินซินเหยียนและจงจิ่งห้าวจึงไปส่งพวกเขากลับ
“คุณยังไม่ไปตอนนี้ใช่ไหม?” ซางหยูยืนอยู่ที่หน้าประตูรถด้านนอกบ้านแล้วถามหลินซินเหยียน
“ไม่หรอก อาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง” หลินซินเหยียนรู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไร “ไม่ต้องห่วงเรื่องเด็กสองคนนี้ ฉันยังอยู่ที่นี่นะ”
“ฉันอยากให้เผยชวนเกษียณก่อนเหลือเกิน จะได้ใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แม้ว่าครั้งนี้จะน่าตกใจแต่ก็ไม่มีอันตราย ถึงยังไงฉันก็ยังคงกลัวอยู่” ซางหยูพูด
หลินซินเหยียนพยักหน้า ซางหยูให้การสนับสนุนเสิ่นเผยซวนมาโดยตลอด เรื่องการงานของเสิ่นเผยซวนเธอได้เป็นผู้ช่วยที่ดีเสมอมา อีกทั้งไม่เคยรบกวนเสิ่นเผยซวนเกี่ยวกับเรื่องของ
ครอบครัว ในวัยนี้ที่จริงสามารถเกษียณอายุก่อนกำหนดได้ และใช้ชีวิตสบายๆ
“ฉันเข้าใจ คุณสองคนกลับไปปรึกษากันเถอะ” หลินซินเหยียนตบมือของเธอเบาๆ
“งั้นฉันไปก่อนนะ” หลินซินเหยียนพูดขึ้นเมื่อซางหยูและเสิ่นเผยซวนขึ้นรถแล้วปิดกระจกลง “ถ้าเกษียณเมื่อไหร่ฉันจะอยู่ที่นี่สักพัก”
ซางหยูตอบว่า “โอเค”
เมื่อมองดูรถวิ่งออกไปไกลแล้ว หลินซินเหยียนและจงจิ่งห้าวก็กลับเข้ามาที่บ้านซูจานยืนอยู่ที่ประตู “เขายุ่งมากจริงๆ เมื่อคืนนี้ลูกสาวเพิ่งแต่งงานแท้ๆก็รีบไปแบบนี้”
“คุณก็รู้จักงานของเขาดีนี่คะ” หลินซินเหยียนเหลือบมองเขา
ซูจ้านพูดว่า “ฉันรู้ว่าเขางานยุ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักแบบนี้ พักผ่อนบ้างก็ได้”
พวกเขาเดินเข้าไปในบ้าน หลินซินเหยียนกล่าวว่า “ฉันจะอยู่ที่นี่สักพัก”
ซูจ้านค่อนข้างประหลาดใจ “ไม่กลับเมืองไทยตอนนี้เหรอ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “จิ่งห้าวอาจจะไปจัดการเรื่องที่บริษัทสึกพัก ฉันเลยจะอยู่ที่นี่”
“หืม?”ซูจ้านยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปใหญ่ “ทำไม?”
“ดึกแล้วล่ะ ได้เวลาเข้านอนแล้ว” จงจิ่งห้าวกลัวว่าซูจ้านจะพูดอะไรออกมามากเกินไป เดี๋ยวหลินซินเหยียนจะรู้สึกผิดสังเกตเข้าอีกจึงขัดจังหวะขึ้น
ซูจ้าน”……