กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1027 คุณนอนบนเตียงของฉัน
.แล้วถ้าฉันไม่ยอมล่ะ?” มู่เยวียนเอ๋อร์ มองเขาอย่างเงียบๆ
เธอมองเห็นแม้แต่เส้นขนเล็กๆ บนใบหน้าของจงเหยี่ยนฉินได้อย่างชัดเจน อาการบาดจ็บที่หน้าผากของเขากือบจะหายดีแล้ว มีเพียงรอยบางเหลืออยู่เท่านั้น แม้จะอยู่ในระยะใกลัขนาดนี้แต่เธอ
ก็ไม่พบข้อของเขาเลย ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
จงเหยียนเฉินอาจมองด้วยตาไม่เห็น แต่ทักษะด้านการได้ยินของเขาละเยดอ่อนมาก เพียงแค่หายใจใกล้เขา ก็สามารถบอกได้ทันทีว่าเธอทำท่ทางอย่างไรอยู่ “ผมให้โอกาสคุณแต๊ะอั๋งผมแล้ว
นะ เช่นนั้นก็.
ขณะพูดเขาก็เอามือลูบไปที่ศีรษะของเธอ คลำริมฝีปากของเธอได้อย่างแม่นยำแล้วโน้มตัวไปจูบ
มู่เยวียนเอ๋อร์ไม่ได้ดิ้นหนีและไม่ได้หลับตา เพียงมองมาที่เขาก่อนตอบรับอย่างช้าๆ……
เมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น เดิมทียาที่ควรจะต้มเสร็จตอนสองโมงก็ต้มเสร็จตอนสี่โมงเลยทีเดียว
มู่เยวียนเอ๋อร์ พูดอย่างขมขึ่นว่า “เพราะคุณเชียว ทำให้เสียเวลาไปมากขนาดนี้”
เธอพูดขณะเทยาซึ่งต้มเสร็จแล้วลงในถ้วย
เป็นเพราะเป็นยาที่เพิ่งต้มเสร็จจึงยังคงมีควันสีขาวลอยขึ้นมา ในอากาศก็อบอวลไปด้วยกลิ่นของยาสมุนไพร
เธอกำลังจะนำไปวางลงบนต๊ะเพื่อให้คลายร้อน แล้วใช้โอกาสนี้เดินไปเอาลูกอมมา
ยานี้เธอต้มเองจึงรู้อยู่แก่ใจว่ามันขมมาก
ดังนั้นเธอจึงเตรียมของหวานเอาไว้ด้วย
เพื่อที่จะช่วยขจัดรสขมในปากลงบ้าง
“คุณต้องเชื่อฉันนะคะ” มู่เยวียนเอ๋อร์ถือถ้วยยามาให้จงเหยียนเฉิน”ฉันจะรักษาคุณจนหายอย่างแน่นอน”
“ผมเชื่อคุณ” จงเหยียนเฉินพูด สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง เขาเชื่อในตัวผู้หญิงคนนี้จริงๆ ถ้าเธอต้องการทำร้ายเขา เกรงว่าเขาคงจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่มาได้อย่างปลอดภัยจนถึงตอนนี้
ตลอดเวลาที่รู้จักกันมานี้ เขารู้สึกว่า มู่เยวียนเอ๋อร์ เป็นผู้หญิงที่ใจดีและมีทักษะความสามารถอย่างมาก
เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงแบบนี้มาก่อน
แม้จะอายุยังน้อยแต่รู้จักการแพทย์แผนจีนเป็นอย่างดี
มู่เยวียนเอ๋อร์ ถือถ้วยยาขึ้นมาวางบนริมฝีปากและดสอบอุณหภูมิ จากนั้นเธอก็ส่งมันไปยังปากของจงเหยียนเฉินเมื่อมั่นใจว่ามันไม่ร้อนมากแล้ว “กินยาได้แล้วค่ะ มันขมหน่อยนะคะ แต่ฉันเตรียม
ลูกอมไว้ให้คุณแล้ว”
จงเหยียนเฉินได้กลิ่นความร้อนและสมุนไพรที่แผ่ซ่านออกมาลอยไปยังปลายจมูก
เขาอ้าปากออก จากนั้นมู่เยวียนเอ๋อร์เอียงถ้วยให้ได้มุมสอดคล้องกับความเร็วในการดื่มของเขา
กลิ่นไม่ค่อยน่าดม แถมรสยังขมมาก
แต่จงเหยียนเฉินไม่ได้ขมวดคิ้วขึ้นแม้แต่น้อย
หลังจากดื่มยาเสร็จ มู่เยวียนเอ๋อร์ก๊วางถ้วยลง ยื่นน้ำต้มอุ่นๆหนึ่งแก้วแก่เขาอีกทั้งแกะลูกอมส่งเข้าปากเขา
เธอละเอียดอ่อนและยังมีความอดทนสูงมาก
อาหารเย็นวันนี้เป็นเกี้ยวผักที่เธอทำเอง
ที่จริงเมื่อวานเธอทำเอาไว้ก่อนแล้ว แต่มันมากเกินเสียจนเธอกินไม่หมดจึงได้แบ่งบางส่วนนำใส่ไว้ตู้เย็นไว้ หากเอาไว้นานอาจจะเสียได้ ด้งนั้นคืนนี้เธอจึงทำเกี๊ยวอีก
ห้องฟ้ามืดลงแล้ว เธอจึงปิดประตูบ้าน ในลานมีไฟที่ตรงประตูเพื่อให้แสงสว่าง มีโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆ อยู่ในลานนั้น เธอวางจานเกี๊ยวลงบนโต๊ะจากนั้นเตรียมจาน ตะเกียบ ซอสและเครื่องเคียง
“วันนี้เรากำลังกินข้าวกันที่ลานบ้านนะคะ” เธอทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปพาจงเหยียนเฉินออกมายังลานนี้ ก่อนจะให้เขานั่งลง
“รู้สึกว่ามันเตี้ยไปไหม?” ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ค่อนข้างเล็ก มันเตี้ยไปแน่นอน
“ไม่ครับ” จงเหยียนเฉินนั่งลง
มู่เยวียนเอ๋อร์ นั่งข้างหน้าเขา “พรุ่งนี้คุณอยากกินอะไรคะ ฉันจะทำให้กิน”
จงเหยียนเฉินรู้สึกว่าเธอคือสาวน้อยเวทมนตร์จริงๆ เธอรู้จักทั้งแพทย์แผนนและศิลปะการต่อสู้ อีกทั้งทำอาหารเก่งมาก ทั้งซุปและกับข้าวอื่นๆ หรือแม้แต่เกี๊ยวจากผักป่าก็ยังอร่อย
“ผมไม่ใช่คนเลือกกิน”
มู่เยวียนเอ๋อร์ ป้อนเขา “งั้นก็เลี้ยงง่าย”
จงเหยียนเฉินถามว่า “หมายความว่าคุณจะเลี้ยงผมเหรอ?”
“แน่นอน” มู่เยวียนเอ๋อร์ใช้ตะเกียบที่ป้อนเขาเอื้อมไปหยิบเกี๊ยวขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วใส่เข้าไปในปากของเขา “คุณนอนบนเตียงของฉัน ดังนั้นคุณก็เป็นของฉัน”