กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1031 ค่าตอบแทน
“อืม”
จงเหยียนเฉินตอบกลับ
“หนทางตั้งไกลขนาดนี้ มาพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะไปรินน้ำมาให้ดื่ม” เฉินช็อหานพูดจบก็เดินไปรินน้ำ
“เยวียนเอ๋อร์” จงเหยียนเฉินยื่นมือออกมา “คุณอยู่ที่ไหน?”
มู่เยวียนเอ๋อร์ วางมือลงบนฝ่ามือจงเหยียนเฉิน”พอไปถึงเมืองC คุณจะได้พบกับพ่อแม่ของผม แล้วก็น้องชายน้องสาวของผมด้วย…..·
“จงเหยียนเฉิน” มู่เยวียนเอ๋อร์ พูดขัดจังหวะเขา เดิมที่เธอคิดว่าเขาเป็นเพียงคนที่มาจากตระกูลธรรมดาทั่วไป แต่นับที่เธอเดินทางมานี้ ระหว่างทางเธอก็รู้สึกได้ว่าคนรอบข้างของเธอปฏิบัติต่อจง
เหยียนเฉินเป็นอย่างดี และพ่อที่จงเหยียนเฉินเรียกนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดา
“คุณไม่ได้มาจากตระกูลธรรมดาทั่วไปใช่ไหมคะ?”
“ไม่ต้องกังวลไปนะครับ แม่ของผมเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมาก เธอจะต้องชอบคุณแน่นอน” จงเหยียนเฉินไม่ต้องการให้เธอติดอยู่ในเรื่องของภาพลักษณ์ จึงได้พูดขึ้นอีกว่า “ไม่ต้องกังวลนะครับ ทุก
คนในครอบครัวของผมเข้าถึงง่าย คุณคือคนที่ผมรัก และพวกเขาก็จะรักคุณด้วย”
เฉินซือหานเดินถือน้ำมาได้จังหวะพอดี เธอได้ยินคำพูดของจงเหยียนเฉินเมื่อครู่ จากนั้นจึงหยุดและจ้องไปที่ มุ่เยวียนเฮอร์ ตอนแรกเธอคิดว่า มู่เยวียนเอ่อร์ เป็นเพียงคนที่ช่วยจงเหยียนเฉินเอา
ไว้เท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ธรรมดา
หรือเธอวยโอกาสตอนที่จงเหยียนเฉินได้รับบาดเจ็บและทำบางสิ่งบางอย่างกับเขา ไม่เช่นนั้นทำไมเหยียนเฉินถึงชอบเธอทั้งๆที่เขามองไม่เห็น?
จากที่เฉินชื่อหานมองดู เด็กสาวจากชนบทเช่นนี้ไม่คู่ควรกับจงเหยียนเฉินเลย ยิ่งไม่เหมาะสมกับตระกูลจงแม้แต่น้อย
เธอเดินถือน้ำส่งไปให้จงเหยียนเฉินก่อนจะมองไปที่ มู่เยวี่ยนเฮอร์”ฉันขอพูดอะไรกับคุณสักสองสามคำได้ไหม? ฉันอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในช่วงที่จงเหยียนเฉินได้รับการช่วยเหลือ”
“ได้ค่ะ”มู่เยวียนเอ๋อร์พูดอย่างถ่อมตน
“คุณป้า เยวียนเอ๋อร์ ขี้กลัว อย่าทำให้เธอตกใจนะครับ” จงเหยียนเฉินยิ้มมู่เยวียนเอ๋อร์เพิ่งเดินทางมาถึง เขากังวลว่าเธอจะไม่สบายใจ
เฉินซือหานมองมาที่เขา “เจ้าเด็กคนนี้ เอาใจใส่คนอื่นเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ผีเข้าหรือไงนะ? ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่าเขาไม่เคยใส่ใจและปกป้องผู้หญิงคนไหนเลย
เขาไม่เคยเห็นหน้าตาของเธอเสียด้วยช้ำ แต่ก็พยายามปกป้องเธอ ดังนั้นเฉินซือหานจึงรู้สึกว่ามู่เวียนเอ๋อร์ต้องทำอะไรบางอย่างกับจงเหยียนเฉินแน่จึงได้เป็นเช่นนี้
“ไม่ต้องห่วงไปหรอก ฉันไม่กินคนเสียหน่อย” เฉินช็อหานยิ้ม
จงเหยียนเฉินมองไม่เห็น ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ถึงความคิดของเฉินช็อหานได้ในขณะนี้
“ฉันจะพาคุณไปดูรอบๆ” เฉินชื่อหานจับมือมู่เยวียนเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น “อย่าคิดว่าที่นี่ดูเก่า แต่คนที่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้ไม่ใช่คนธรรมดา”
มู่เยวียนเอ๋อร์ เม้มริมฝีปากและพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอันสุภาพ
เมื่อแน่ใจว่าจงเหยียนเฉินไม่ได้ยินเสียงของตนแล้ว เฉินช็อหานก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอลง “คุณรู้จักครอบครัวของจงเหยียนเฉินไหม?”
“น่าจะดีมากทีเดียวค่ะ” มู่เยวียนเอ๋อร์ พูด
นี่คือความรู้สึกของเธอ เธอไม่รู้หรอกว่าที่จริงเป็นอย่างไร
“น่าจะดีมากเหรอ?” เฉินช็อหานยิ้ม “ต่อให้คุณตัดคำว่าน่าจะทิ้งไป ก็ยังไม่อาจบรรยายถึงตระกูลเขาได้”
มู่เยวียนเอ่อร์ ยิ้มและพูดว่า “งั้นเหรอคะ?”
“แน่นอน” เฉินช็อหานเปิดหน้าต่างรับแสงและพูดอย่างสดใสว่า “น้องชายของเขาเพิ่งแต่งงานเมื่อไม่กี่วันก่อน บิดาของคู่สมรสเป็นข้าราชการในกระทรวง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังทางครอบครัว
ฉันได้ยินมาว่าคุณไม่มีพ่อแม่ เป็นเด็กกำพร้าเหรอ?”
มู่เยวียนเอ๋อร์เป็นคนฉลาด ดังนั้นเธอจึงสามารถเข้าใจความหมายของหล่อนได้เป็นอย่างดี
“ครอบครัวที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ เงินทองกองเต็มบ้าน ถ้าคุณคิดอะไรแบบนั้นกับเขา คาดว่าคงไม่ต่งอะไรกับอีกาที่อยากจะเป็นหงส์” คำพูดของเฉินช็อหานเฉียบแหลมและไม่น่าฟัง “คุณช่วยเห
ยนเฉินเอาไว้ พวกเรารู้สึกซาบซึ้งมาก คุณสามารถเรียกเงินได้มากเท่าที่ต้องการ แต่หากจะใช้วิธีนี้มาหลอกลวงเหยียนเฉิน พวกเราคงจะไม่ปล่อยให้คุณทำอะไรแบบนั้นแน่”
“ฉันไปหลอกเขาเรื่องอะไร?” มู่เยวียนเฮอร์ ขมวดคิ้วขึ้น เธอไม่อาจยอมรับการดูถูกเช่นนี้จากเฉินช็อหานได้จริงๆ
“ตอนนี้เขามองไม่เห็น แต่ทำไมเขาถึงชอบคุณล่ะ?” เฉินช็อหานมองดูเธออย่างดูถูก “ช่วยบอกฉันที”
มู่เยวียนเอ๋อร์ ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ถึงเขาจะเต็มใจ แต่คนในครอบครัวเขาก็คงไม่ยอมรับคุณ ฉันขอบอกตรงๆ ว่าครอบครัวเราทั้งด้านในธุรกิจและการเมืองล้วนโดดเด่นมาก คุณสมบัติของคุณคาดว่าคงไม่มีใครรับได้ คุณสู้บอก
มาตรงๆเลยดีกว่าว่าต้องการเงินเท่าไหร่ อย่าได้คิดอะไรอย่างอื่นเลย”
“ฉันไม่ได้มีแผนการอะไร” มู่เยวียนเอ่อร์พูดอย่างดื้อรั้น “ฉันเป็นหมอรักษาผู้คน และฉันไม่ต้องการรางวัลจากคุณ”
“คุณอยู่ตัวคนเดียวก็คงลำบากไม่น้อย นี่คือเงินจำนวนสองแสนหยวน” เฉินช็อหานส่งเช็คไปให้
มู่เยวียนเอ๋อร์ จ้องไปที่เช็คนั้น เธอรู้สึกว่ากำลังถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี
“ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ช่วยคนเพราะต้องการเงิน” มู่เยวียนเอ๋อร์ เดินเข้ามาในห้องแล้วเขียนใบสั่งยาจีนก่อนจะหยิบออกมาแล้วนให้เฉินช็อหาน”ยาที่ฉันนำติดตัวมาด้วยเพียงพอสำหรับหนึ่งวัน ไป
ซื้อยาตามใบสั่งยานี้ อีกไม่กี่วันตาของเขาก็จะดีขึ้น”
เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังเดินจากไป เดิมที่เธอก็ดตามจงเหยียนเฉินมาตัวเปล่า ตอนนี้ถ้าจะจากไปก็ไม่มีอะไรต้องเอาไปด้วย
เมื่อเธอเดินไปถึงที่ประตู เธอก็หยุดและมองย้อนกลับไปที่จงเหยียนเฉินซึ่งนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น แม้ว่าเธอจะชอบผู้ชายคนนี้มาก แต่เธอก็มีศักดิ์ศรีของตนเองเช่นกัน
ตอนนี้เธอหวังเหลือเกินว่าจงเหยี่ยนเฉินจะมาจากครอบครัวธรรมดาๆ ไม่มีภูมิหลังทางครอบครัวโดดเด่นอะไร เพราะทั้งสองคงจะเข้ากันได้ดี
“รับนี่ไปเถอะ” เฉินชื่อหานวิ่งตามและยัดเช็คใส่ในมือของเธอ “เราจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากหรอก นี่คือสิ่งที่คุณสมควรจะได้รับ คุณอยู่ตัวคนเดียวแต่ก็ต้องใช้เงิน รับมันไปเถอะนะ”
“ฉันหาเงินเองได้ ขอบคุณ” มู่เยวียนเฮอร์ คืนเงินไป เธอปฏิเสธที่จะรับมันเอาไว้
ความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มของเธอในการช่วยผู้คนไม่ ใช่เพราะเงิน
“ไม่ใช่ว่าคนจนทุกคนจะอยากโบยบินไปบนกิ่งไม้สูงหรือเปลี่ยนจากอีกาเป็นหงส์หรอกนะคะ เมื่อตอนที่ฉันช่วยเขาไว้ ฉันไม่รู้ว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ฉันช่วยเขาด้วยสัญชาตญาณ
สัญชาตญาณของความเปีนหมอ ถ้าฉันรู้ว่าเขามีภูมิหลังและครอบครัวแบบนี้ มีแต่ญาติที่ให้ความสำคัญกับภูมิหลังครอบครัวกับเงินเท่านั้น ฉันก็คงโยนเขาออกไปจากประตูตั้งนานแล้วละค่ะ!”
มู่เยวียนเอ๋อร์หันหลังและจากไปทันทีเมื่อพูดจบ
เธอเป็นคนเรียบง่ายมาโดยตลอด เธอไม่อยากใช้ชีวิตแบบต้องคอยมองหน้าใคร
เป็นจริงอย่างเช่นที่เฉินซือหานพูดเมื่อครู่
ภูมิหลังของครอบครัวเธอกับจงเหยียนเฉินต่างกันเหลือเกิน
แม้ว่าเธอจะไปบอกจงเหยียนเฉินว่าเธอหวังว่าจะได้อยู่กับเขา แต่เธอก็ไม่สามารถยอมรับได้กับสายตาของคนรอบข้างที่มองมาอย่างแปลกๆ
สิ่งที่เธอต้องการคือความเท่าเทียมกัน
แม้ว่าเธอจะมีภูมิหลังทางครอบครัวที่ไม่ได้หรูหรา แต่เธอก็หวังว่าจะได้รับความเคารพ นี่เธอยังไม่เคยพบกับพ่อแม่ของเขาด้วยซ้ำ เพียงแค่ป้าก็เป็นขนาดนี้แล้ว
เธอไม่มีความมั่นใจและไม่กล้าเผชิญหน้ากับครอบครัวของเขาแล้ว
เฉินซือหานยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับขมวดคิ้ว เธอรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา เธอให้เงินจำนวนน้อยไปเหรอ?
เมื่อเธอเดินกลับมาที่ห้องอีกครั้ง จงเหยียนเฉินจึงรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวตรงประตู ก่อนจะร้องเรียกว่า “มู่เยวียนเอ่อร์?”
“ฉันเอง” เฉินชื่อหานเดินเข้ามา “ฉันจะช่วยต้มยาให้”
เธอพูดพลางหยิบถุงที่มู่เวียนเอ่อร์วางไว้บนโซฟาขึ้นมา ในนั้นคือยาที่หล่อนเตรียมเอาไว้ให้ จากนั้นนำใสลงไปที่หม้อต้มยา
จนกระทั่งเวลานี้ เธอก็ยังรู้สึกว่าตนเองทำเกินไปหน่อย
ไม่ควรจะพูดจาไม่น่าฟังขนาดนั้น
แต่เมื่อมองไปที่จงเหยียนเฉินที่ตอนนี้ยังมองไม่เห็นเลย เขาไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าของเธอ จะไปชอบเธอจริงๆได้อย่างไร?
เธอยังคงรู้สึกว่า มู่เยวียนเอ๋อร์ ใช้วิธีการสกปรกกับจงเหยียนเฉินแน่นอน
ดังนั้นความรู้สึกผิดจึงจางลงไปบ้างเล็กน้อยเมื่อ
จงเหยียนเฉินไม่ได้ยินเสียงของ มู่เยวียนเอ๋อร์ จึงถามขึ้นว่า “มู่เยวียนเอ๋อร์ อยู่ที่ไหน?”