กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1033 อย่าให้ต้องกังวล
เมื่อพูดถึงตรงนี้บรรยากาศก็เงียบลงทันที เดิมที่การที่จงเหยียนเฉินซึ่งไม่ค่อยได้กลับมาบ่อยเดินทางกลับมาเป็นเรื่องดีทีเดียว แต่ตอนนี้เฉิงยู่เงินเพิ่งลาจากโลกนี้ไป การที่คนในครอบครัวตาย
จากไปจึงดูไม่น่าดีใจนัก
“พ่อแม่เสียใจมากไหม?” จงเหยียนเฉินถาม
“คนเราเมื่อแก่ไป ยังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง พวกเขาสบายดีแต่ก็มีทุกข์บ้าง โชคดีที่ทั้งสองคนเข้าใจว่านี่คือกฎแห่งธรรมชาติ มนุษย์เราไม่สามารถละเมิดได้”จวงเจียเหวินตอบ
เมื่อเดินออกจากสนามบิน จวงเจียเหวินก็ช่วยพยุงจงเหยียนเฉินขึ้นไปบนซึ่งเขาเป็นคนขับ สวนรถอีกคันมีคนขับรถนั่งอยู่ “คุณลุงคุณป่า เชิญคันนี้นะครับ”
“อืม” มองจากภายนอกเหวินเสี่ยวจี้ดูเหมือนคนปกติทั่วไป
แต่เฉินช็อหานไม่ได้อดทนเก่งเหมือนเขา ความโกรธของเธอยังไม่ลดลงเลย เธอส่งถุงที่บรรจุยาและใบสั่งยาของจงเหยียนเฉินไปให้
“เอ้านี่ ยาของเหยียนเฉิน”
จวงเจียเหวินเอื้อมมือมารับไป พบว่าเฉินช็อหานดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงยิ้มแล้วถามว่า “คุณป้าเป็นอะไรไปหรือเปล่าครับ?”
“งอนผมอยู่นะสิ อย่าไปสนใจเธอเลย พวกคุณนำหน้าไปก่อน แล้วเราจะตามพวกคุณไป” เหวินเสี่ยวจี้เอื้อมไปกอดเฉินช็อหาน
แต่เฉินซื้อหานไม่ไว้หน้าเขา เธอผละออกจากมือของเขาอย่างจงใจและเดินเข้าไปในรถด้วยท่าทางโกรธจัด
เพียงมองแค่หางตาก็รู้ว่าเธออารมณ์ไม่ดี
จวงเจียเหวินยิ้ม “คุณลุงครับ ทำคุณป้าหงุดหงิดเหรอ?”
เพื่อไม่ให้อับอายต่อหน้ารุ่นลูกหลาน เหวินเสี่ยวจี้จึงยิ้มและตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก วัยหมดประจำเดือนก็เลยอารมณ์ฉุนเฉียว”
จวงเจียเหวิน “…..”
“ไปกันเถอะ อย่าไปเสียเวลาอีกเลย” เหวินเสี่ยวจี้ก้าวขึ้นรถ
จวงเจียเหวินรู้ว่าเมื่อสามีภรรยาทะเลาะกันคงจะไม่อยากให้คนนอกเห็น เขาจึงไม่ถามอะไรอีกรีบเปิดประตูและช่วยพยุงจงเหยียนเฉินขึ้นรถ
“ฉันนั่งกับพี่ใหญ่แล้วกัน” เสิ่ซินเหยาเห็นว่าจงเหยี่ยนเฉินมองไม่เห็น เธอจึงจะนั่งข้างเขาเพื่อคอยดูแล
จวงเจียเหวินพยักหน้า
จากนั้นเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอ “เด็กดี”
“ไปเลยนะ!” เสิ่นซินเหยาจ้องเขาตาเขม็ง “คุณอายุมากกว่าฉันแค่ปีเดียวเอง อย่าทำตัวเหมือนโตกว่าฉันมากขนาดนั้นสิ อยู่ต่อหน้าพี่ใหญ่แล้วคุณไม่ต่างจากเด็กเลย”
จวงเจียเหวินไม่ได้โกรธแต่หัวเราะอย่างมีความสุขกว่าเดิม “พี่ใหญ่แก่กว่าผมหลายปีนะครับ แต่เขาคงไม่มีลูกก่อนผมแน่ๆ ลูกของเขาต้องเรียกลูกผมว่าพี่”
เสิ่นซินเหยา”……”.
เธออยากจะเตะจวงเจียเหวินจริงๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องเอาไปพูดหมด ปากไม่มีหูรูดเอาเสียเลย
“มองอะไรล่ะ ผมพูดความจริงไม่ใช่หรือไง ก็พี่ใหญ่ยังไม่มีแฟน แต่ผมแต่งงานแล้วนะ เขาจะตามผมทันได้ยังไง?” เขายิ้มอย่างน่าตบ “ใช่ไหมพี่?”
จงเหยียนเฉินรู้ว่าเขามีนิสัยแบบนี้จึงพูดอย่างร่วมมือว่า “อิ่ม”
“ฟังสิ พี่ใหญ่ยอมรับด้วยตนเองเลย” เขาสตาร์ทรถแล้วหันกลับมามอง “พี่ครับ มาพนันกันไหม?”
“พนันอะไร”
จวงเจียเหวินลดเสียงลง “พวกเราสองคน ใครที่มีลูกทีหลังจะรับช่วงต่อธุรกิจทั้งหมดในครอบครัว เป็นไง?”
กวนจิ้งคงต้องเกษียณไม่ช้าก็เร็ว จากนั้นคงต้องหาใครสักคนที่เหมาะสมเข้ามาจัดการ ส่วนเขาเมื่อจบจากมหาวิทยาลัยมาก็ได้เข้าทำงานในบริษัทแล้ว ยังไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเลย
เขาเดาว่าตนคงจะมีลูกก่อน ดังนั้นจึงกล้าเดิมพันกับพี่ชายคนนี้ที่ยังไม่มีแม้แต่แฟน ว่าใครจะมีลูกก่อนกัน
จงเหยียนเฉินยิ้ม “ดูมั่นใจมากนะว่าจะฉัน?”
จวงเจียเหวินพูดอย่างเต็มไปด้วยความมั่นใจ “แน่นอน”
“ตกลง ฉันพนันด้วย ถ้าแกชนะฉันจะรับหน้าที่ทั้งหมดนี้อง แกพาเหยาเหยาเดินทางไปเที่ยวรอบโลกได้ตามใจชอบ และฉันจะรับผิดชอบหาเงินให้ใช้เอง แต่ว่าถ้าฉันชนะ แกก็จะต้องรับช่วงธุรกิจ
ของตระกูลต่ออย่างว่าง่าย หาเงินให้ฉันใช่โดยไม่บ่น”
“ไม่มีปัญหา” จวงเจียเหวินมั่นใจมาก “เมื่อถึงเวลาอย่ากลับคำก็แล้วกัน”
“บุรุษพูดคำไหนคำนั้น!” จงเหยียนเฉินพูด
“คุณได้ยินไหมเหยาเหยา คุณต้องพยายามแล้วละ” จวงเจียเหวินมองกลับมาที่เธอ
เสิ่นซินเหยา “…..”.
เธอโกรธจวงเจียเหวินมากจริงๆ ถ้าจะพูดเรื่องแบบนี้ก็ควรจะพูดตอนเธอไม่อยู่สิ มาพูดต่อหน้าเธอแบบนี้เธอจะอายและลำบากใจขนาดไหน?
น่ารำคาญจริงๆ!
เธอจ้องมองเขาอย่างดูเดือด
จวงเจียเหวินยิ้ม “อย่าจ้องแบบนั้นสิ ไม่ดีต่อรูปลักษณ์ของกุลสตรีนะ”
เสิ่นซินเหยา “……”
จงเหยียนเฉินหัวเราะขึ้น รู้สึกว่าพวกเขาทะเลาะกันได้น่ารักจริง
รถหยุดหลังจากผ่านไปไม่นาน บรรยากาศที่ผ่อนคลายก่อนหน้านี้ก็หยุดลง แทนที่ด้วยบรรยากาศอันหนักหน่วง
งานศพจะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ห้องโถงสำหรับไว้ทุกข์ยังคงกำลังจัดอยู่
มีคนจำนวนมากเดินทางมา
พวกเขาจ้างบริษัทเฉพาะด้านมาทำ ดังนั้นจึงไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ก็ต้องมีผู้รับผิด เพราะรายละเยดมากมายจำเป็นต้องคุยกับเจ้าของงาน
คนที่สนิทสนมกับที่สุดกับเฉิงยู่เงินมากที่สุดก็คือจงจิ่งห้าว ดังนั้นงานศพนี้จึงมีจงจิ่งห้าวเป็นเจ้าภาพ
“พ่อกับแม่อยู่ที่นี่หมดเลย”จวงเจียเหวินหยุดรถและเดินไปที่ประตูหลังเพื่อเปีดประตู เสิ่นซินเหยา ลงจากรถก่อน จากนั้นช่วยพยุงจงเหยียนเฉินลงมา
สถานที่ใกล้จะเสร็จแล้ว จงจิ่งห้าวสวมชุดสุทสีดำสนิท แขนข้างขวาของเขาสวมผ้าไว้ทุกข์ กำลังสนทนากับคนที่จัดงานอยู่ จวงเจียเหวินช่วยพาจงเหยียนเฉินเดินไปและตะโกนว่า “พ่อครับ”
จงจิ่งห้าวหันศีรษะมา
เมื่อเห็นจงเหยียนเฉิน ดวงตาของเขาก็มืดลงหันไปพูดกับคนรอบข้างว่า “ทำตามที่ผมเพิ่งบอกไป”
“ครับ”
เขาเดินตรงเข้ามา
จงเหยียนเฉินปล่อยมือของจวงเจียเหวินแล้วยืนตัวตรง “พ่อครับ ผมกลับมาแล้วอย่างปลอดภัย”
อาจจะเป็นเพราะอายุมากแล้ว เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่จงจิ่งห้าวยังหนุ่ม เขาคงจะนิ่งเงียบมาก แต่บัดนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ
เขากุมไหล่ของลูกชาย อิ่ม กลับมาก็ดีแล้ว
เหวินเสี่ยวจี้ได้โทรหาจงเหยียนเฉินเพื่อคุยกับเขาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่แตกตื่นเมื่อพบว่าลูกชายของเขามองไม่เห็น
“เข้าไปเถอะ”
“ตรงนี้ต้องการคนช่วยงานไหมครับ”จวงเจียเหวินถาม
“ไม่” จงจิ่งห้าวให้พวกเขาทั้งหมดไปหาหลินซินเหยียน
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปตรงห้องพักด้านหลัง ก็พบว่าหลินชินเหยียนกำลังปลอบโยนจวงจื่อจิ๋นอยู่ไม่ห่าง
จวงจื่อจิ่นและเฉิงยู่เวินแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันมากว่าครึ่งชีวิต พวกเขาคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันมานานหลายปี ๆเฉิงยู่เวินก็ได้ล่วงลับไป เป็นการโจมตีครั้งใหญ่สำหรับเธอ
ก๊อกๆ
ประตูห้องถูกเคาะขึ้นอย่างกะหันหัน
หลินซินเหยียนลุกขึ้นเดินตรงมาที่ประตู พบจวงเจียเหวินยืนอยู่ที่ปากประตู
เธอยื่นศีรษะมองออกไปแต่ไม่เห็นจงเหยี่ยนเฉิน จึงขมวดคิ้วและถามว่า “ไม่ใช่ไปรับพี่ชายหรอกหรือ เขาอยู่ไหนล่ะ?”
จวงเจียเหวินกะพริบตาพูดว่า “ไม่ได้รับมานี่ครับ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว “จะไม่ได้ไปรับได้ยังไง?”
“จวงเจียเหวิน ทำตัวดีๆหน่อยได้ไหม!” เสิ่นซินเหยาเดินออกมาจากด้านหลังของจงเหยียนเฉิน
จวงเจียเหวินเหลือบมองภรรยาตน “จะเซอร์ไพรส์แม่ไม่ใช่เหรอ? แม่เอาแต่อยากเจอลูกชายคนโตนี่”
หลินซินเหยียนตบหลังจวงเจียเหวิน “อายุปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้?”
“ผมโตแล้วน่ะแม่” จวงเจียเหวินเดินเข้าไป “คุณยายครับ”
ผมของจวงจื่อจินดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาว มันเป็นสีขาวอย่างสมบูรณ์ ใบหน้าของเธอมีรอยเหี่ยวนเต็มไปหมด ดวงตาของฝ้าฟาง ร่างกายชุบผอม
จวงจื่อจิ๋นยื่นมือออกมาทางเขา “เหยียนเฉินอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ข้างนอกครับ”
ที่ตรงประตู หลินซินเหยียนเดินไปหาลูกชายของเธอ ซึ่งเธอก็เรียมใจเอาไว้บ้งแล้ว จงจิ่ห้าวบอกกับเธอว่าตาของจงเหยนเฉินได้รับบาดเจ็บระหว่างการปฏิบัติภารกิจ และอาจมองไม่เห็นได้
ในขณะนี้ แต่ตอนนี้ที่เธอกำลังมองเขา ทว่าเขากลับมองไม่เห็นเธอ ก็ยังรู้สึกอึดอัดใจมาก
“ลูกน่ะ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยทำให้แม่วางใจได้เลย”