กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่1041 คุณบอกว่าคุณตั้งครรภ์
“เหยียนซี เมื่อไหร่จะมีลูก? คุณแต่งงานมาตั้งหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ? “ๆจวงจื่อจิ๋นก็ถามขึ้น”ครั้งนี้ได้เจอคุณแค่เพียงคนเดียว และจะเจอโม่หานได้ยังไง? ”
เรื่องของจงเหยียนซี นอกจากจวงจื่อจิ่นแล้วก็คงจะไม่มีใครทราบ
ตอนนั้นเนื่องจากเธอและเฉิงยู่เงินอายุมากแล้ว ทุกคนต่างเกรงว่าร่างกายของพวกเขาจะรับไม่ไหว จึงตั้งใจที่จะปกปิดพวกเขาทั้งสอง
ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่จงเหยียนซีเผชิญ เธอไม่ทราบเลย ยังคิดว่าจงเหยียนซีและโม่หานยังคงมีชีวิตที่ดี
ในใจคิดว่าแต่งงานมาหลายปีแล้ว ก็น่าจะมีลูกได้แล้วถึงจะถูก
ท่าทางและการขมวดคิ้วของจงเหยี่ยนซีไม่เป็นธรรมชาติ เธอไม่รู้ว่าจะตอบคำถามที่กะทันหันของจวงจื่อจิ่นอย่างไร
“ทำไมถึงไม่พูดไม่จาล่ะ? พวกคุณทะเลาะกันเหรอ? “จวงจื่อจิ๋นมองเธอด้วยสายตาที่ขุ่นมั่ว
“ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกค่ะ เขางานยุ่ง คุณนอนเถอะ เดี๋ยวอีกสักพักพวกเราก็ถึง”จงเหยียนซีห่มผ้าให้กับเธอ ให้เธอพิงที่ร่างกายของตนเบาๆ พลางลูบไหล่ของเธอ”ตอนเด็กๆ
คุณก็มักทำเช่นนี้เพื่อกล่อมฉันนอน”
จวงจื่อจิ่นหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง การรับรู้ไม่ค่อยเต็มที่สักเท่าไร่”ใช่แล้ว เผลอแป๊บเดียวพวกคุณก็โตกันแล้ว…..”
พูดไปพูดมาจวงจื่อจิ๋นก็รู้สึกเหนื่อย จึงพิงที่ร่างกายของจงเหยียนซีอยากที่จะนอน
อีกทางด้านหนึ่ง เมื่อจวงเจียเหวินส่งจงเหยียนซีเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ได้ไปที่บริษั แต่กลับหาโอกาสนัดพบกับจงจิ่งห้าว
“พ่อครับ ผมมีเรื่องของบริษัทอยากจะขอคำปรึกษา “ท่าทางของเขาจริงจัง”พวกเราสองคนพ่อลูกไปคุยกันตามลำพังเถอะครับ? ”
ลูกชายมีปัญหาอยากขอคำชี้แนะ แน่นอนว่าจงจิ่งห้าวคงไม่หลบเลี่ยง จึงไปที่ห้องหนังสือด้วยกันกับเขา
“ด้านนั้นเหรอ? “เมื่อนั่งที่เก้าอี้ เขาก็ถามขึ้น
จวงเจียเหวินยกเก้าอี้มาวางอยู่เบื้องหน้าของจงจิ่งห้าว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงถามขึ้นว่า “พ่อ พ่อกับแม่มีใครที่สุขภาพไม่แข็งแรงหรือเปล่า? ”
จงจิ่งห้าว”??? ”
ทำไมจู่ๆถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?
“เมื่อวานตอนกลางคืนผมเห็นพวกคุณซักผ้าปูที่นอน หรือว่าผ้าปูที่นอนเปื้อนอะไรที่พวกคุณรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ และไม่อยากให้พวกเรารู้ ก็เลยต้องรีบซักตอนดึกๆ? ”
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้วพลางถามขึ้น”ของอะไรที่น่ากระอักกระอ่วนใจ? ”
“ก็ใช่. คนอายุมากป่วยก็เป็นเรื่องปกติ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้…….
จวงเจียเหวินพูดอย่างนอบน้อม ครั้งนี้จงจิ่งห้าวก็พอที่จะฟังเข้าใจแล้ว จากนั้นจึงพูดว่า “อืม……”
“เป็นตัวพ่อเอง หรือเป็นแม่? “จวงเจียเหวินถามขึ้นอย่างเคร่งเครียด
ไม่ว่าจะเป็นใคร ในใจของเขาก็รู้สึกทุกข์ทรมานใจทั้งนั้น
เป็นแม่ของลูก”จงจิ่งห้าวเหลือบมองแววตาของลูกชาย
จวงเจียเหวินเป็นกังวล”เคยไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วหรือยังครับ? ”
“ยัง วันนี้พวกลูกก็พาเธอไปตรวจเถอะ”เขาพูดขึ้น
หลินซินเหยียนยังงอนเขาอยู่เลย เมื่อวานตอนเย็นก็ไม่ยอมคุยกับเขา วันนี้ยังจะไปกินข้าวกับไยิ่นหนิงอีก คิดไปคิดมามันน่าโมโหจริงๆ
จึงอยากที่จะยืมมือของลูกชายขวางเธอไว้
เพื่อไม่ให้เธอได้ไปกินข้าวกับไป้ยิ่นหนิง
อายุปูนนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหึงหวงอะไรแล้ว แต่เมื่อคิดถึงไปนหนิง ในใจของเขาก็รู้สึกไม่สบาย เขาแต่งงานแล้ว ก็ใช้ชีวิตไปสิ ยังจะมาครุ่นคิดถึงคนๆหนึ่งในใจอีก
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจไม่น้อย
“พวกลูกอย่าพูดกับเธออย่างเปิดเผยล่ะ ไม่งั้นเธอไม่เต็มใจไปแน่ ลูกหาข้ออ้างหลอกให้เธอไปให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยหาเหตุผลในการตรวจร่างกาย ให้เธอตรวจร่างกายในทุกๆ
ส่วน”จงจิ่งห้าวพูดความคิดของตนให้ลูกชายฟัง
จวงเจียเหวินเกิดความคิดขึ้นมาอย่างเฉียบไว”เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
มีโรคต้องรีบรักษาจะช้าไม่ได้
เขาเรียกเสิ่นซินเหยามาที่ห้อง”พ่อบอกว่าเป็นแม่ ตอนนี้เราจะต้องรีบหลอกแม่ไปโรงพยาบาล”
“หลอกยังไง? “เมื่อได้ยินข่าวนี้ ในใจของเสิ่นซินเหยาสะอึกครู่หนึ่ง
เมื่อจวงเจียเหวินเห็นลูกสะใภ้เป็นดังนั้น ก็ยื่นมือเพื่อลูบที่ไหล่ของเธอ”ภารกิจที่มีเกียรติเช่นนี้ คงจะต้องให้เธอเป็นคนแบกรับแล้ว”
“ฉัน? “เสิ่นซินเหยาไม่มั่นใจ ว่าเธอสามารถที่จะทำอะไรได้?
“คุณนั้นแหระ”เขาเชื่อมั่นและมั่นใจเป็นอย่างมาก”คุณก็บอกว่าคุณรู้สึกไม่สบาย หรือไม่ก็บอกว่าคุณตั้งครรภ์ อยากให้แม่ไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคุณ หล่อนจะต้องไม่บ่ายเบี่ยง
อย่างแน่นอน”