กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่105 คนดีๆ จะไม่ย้อนกลับไปหาอะไรที่ผ่านมาแล้ว
- Home
- กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม
- บทที่105 คนดีๆ จะไม่ย้อนกลับไปหาอะไรที่ผ่านมาแล้ว
บทที่105 คนดีๆ จะไม่ย้อนกลับไปหาอะไรที่ผ่านมาแล้ว
จากนั้นก็มีข้อความเด้งขึ้นมา กวนจิ้งเป็นคนส่งมา เขาก้มหน้ามองโทรศัพท์หน้าจอ ข้อความที่ส่งมานั้นคือ;
【บาร์ส่วนตัวKSนั้นไม่มีกล้องวงจรปิดในห้องรับรอง เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า เลยมีเพียงช่วงทางเดินเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ถ่ายได้เมื่อคืนที่เกี่ยวกับคุณหลิน】
【ก่อนหน้านี้เหอรุ่ยหลินก็มาที่นี่】
สิ่งที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของกวนจิ้งนั้น จงจิ่งห้าวกลับฉลาดมาก เพราะการที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับหลินซินเหยียนมันต้องเกี่ยวกับเธอแน่นอน
หรือบางที การที่เกิดเรื่องแบบนี้กับหลินซินเหยียน เธอเป็นคนวางแผนทั้งหมด
หลินซินเหยียนรู้ว่าเธอระมัดระวังกับตัวเองมาก เลยน่าจะมีเกราะป้องกันระหว่างเธอมาก คงจะไม่มีทางตกหลุมพรางของเธอแน่นอน
เขาเปิดคลิปดู ด้วยใจที่อยากจะสืบหา
ดาวน์โหลด…100%
คลิปขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลินซินเหยียนกำลังวิ่งเซอยู่บริเวณทางเดิน ด้วยความร้อนรน และอ่อนแรงเป็นอย่างมาก
“เหยียนเหยียน…”
เพียงไม่นานเขาก็เห็นใครสักคนกำลังไล่ตามเธอ
เหอรุ่ยเจ๋อ!
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ในแววตามีความเย็นชา เหมือนกับมีเสียงออกมาจากในใจ “ดีเสียจริงเลยนะ!”
พวกเขาพี่น้องนี่ตัวดีจริงๆ !
ร่วมมือกันทำร้ายเธอ
หลินซีเฉินตกใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าเขากำลังว่าตัวเองอยู่
ทั้งที่กลัว แต่ก็ยังพยายาม ก่อนจะยืดคอขึ้นด้วยความไม่เกรงกลัว แต่ว่าเมื่อพูดออกมา กลับแสดงอารมณ์ออกมาทั้งหมด แล้วพูดซ้ำๆ ว่า “อย่า อย่า อย่าคิดว่าฉันจะกลัวคุณนะ!”
จงจิ่งห้าวชายตาขึ้น ก่อนจะจ้องเขา “เด็กน้อย หม่ามี๊คุณถูกคนแกล้งแล้ว คุณอยากจะแก้แค้นไหม?”
หลินซีเฉินกะพริบตาปริบๆ มีคนแกล้งหม่ามี๊งั้นเหรอ?
นอกจากเขาจะมีใครมาแกล้งหม่ามี๊ของเขาอีกเหรอ?
“ถึงฉันจะเป็นแค่เด็กสามขวบ แต่ฉันไม่ถูกหลอกง่ายๆ หรอก” หลินซีเฉินยังคงเชิดคอขึ้น
ใช่ เขาไม่ใช่เด็กสามขวบ เป็นเด็กห้าขวบ โตกว่าเด็กสามขวบตั้งสองปี ไม่ได้หลอกง่ายๆ แล้ว
“คุณมานี่หน่อย” จงจิ่งห้าวใช้นิ้วเรียกเขา
หลินซีเฉินยืนนิ่ง ก่อนจะมองเขาด้วยความระแวง
“……”
จงจิ่งห้าวหรี่ตาลง หลินซินเหยียนสอนเด็กคนนี้มาอย่างไรกันนะ ยังไม่โตเท่าไหร่ ก็คิดนู่นนี่เต็มไปหมด?
“ฉันไม่ได้โกหกคุณ” เขาเปิดคลิปก่อนจะส่งให้หลินซีเฉิน “คุณดูเองสิ”
เพราะว่าเปิดมาก็เห็นหลินซินเหยียนเลย ดังนั้นหลินซีเฉินเลยเห็นตั้งแต่แรก เขาเบิกตาโพลง
หม่ามี๊……
เมื่อดูจนใกล้จบ เขาก็โกรธจนกำหมัดแน่น ใครแกล้งหม่ามี๊ของเขานะ?
เพียงไม่นานเขาก็รู้ว่าเป็นใคร
เขาเบิกตาโตกว่าเดิม
จนลูกตาแทบจะหลุดออกมา
เมื่อคืน เขาเป็นคนรับโทรศัพท์ที่โทรไปหาหม่ามี๊ เมื่อคืนเขาต้องได้เจอหม่ามี๊แน่นอน
ตอนนั้นเขาบอกว่าหม่ามี๊ไปเข้าห้องน้ำ เลยไม่มีเวลารับโทรศัพท์
เขาทำอะไรหม่ามี๊นะ?
จงจิ่งห้าวดึงโทรศัพท์กลับไป หลินซีเฉินจะเข้ามาจับเอาไว้ แต่จงจิ่งห้าวยกมือขึ้น เขาเขย่งอย่างไรก็ไมถึงสักที
เขายกขึ้นสูงพลางมองเด็กน้อยคนนั้น “เป็นอย่างไร อยากจะไปแก้แค้นกับฉันให้หม่ามี๊ไหม?”
หลินซีเฉินโกรธเป็นอย่างมาก เลยจ้องมองจงจิ่งห้าว
“คุณคิดให้ดีนะ คุณเป็นเด็กคนหนึ่ง ถึงในใจจะมีความแค้น แต่ไม่มีทางแก้แค้นได้หรอก” จงจิ่งห้าวเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋า ก่อนจะเปิดประตูรถ เหมือนกับว่าคิดอะไรขึ้นได้ เลยหันมามองเขา “จริงสิ เมื่อคืนหม่ามี๊คุณอยู่กับฉันจริงๆ แล้วพวกเราก็นอนเตียงเดียวกัน อีกสักพัก เธอยังให้ฉันไปกินข้าวด้วย”
หลินซีเฉินทำอะไรไม่ถูกแล้ว
เลยน้ำตาไหลออกมา
หม่ามี๊ไม่มีสมองแล้วเหรอ?
รู้ไหมว่าคนที่ดีๆ จะไม่ย้อนกลับมาหาสิ่งเก่าๆ แล้ว?
“เมื่อคืนฉันช่วยหม่ามี๊เอาไว้” จงจิ่งห้าวไม่ได้พยายามจะทำร้ายจิตใจเขา
เมื่อได้ยินแบบนั้น หลินซีเฉินก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ที่แท้หม่ามี๊ก็ไม่ได้โง่นี่เอง
“คุณ เมื่อกี้คุณบอกว่า จะแก้แค้นแทนหม่ามี๊ฉันจริงๆ เหรอ?” เขาเบิกตาโตพลางมองไปที่จงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวมองเขาเล็กน้อย “จริงน่ะสิ แต่ว่า……”
เขานั่งยองลงมาก่อนจะสบตากับหลินซีเฉินตรงๆ
หลินซีเฉินเองก็เชื่อฟังเป็นอย่างมาก เลยไม่ได้ปฏิเสธอะไรเขา เลยสบตากับเขาเงียบๆ
มือเล็กๆ ขยับเล็กน้อย ในใจก็ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก นี่พ่อของเขานี่เอง
ถ้าเขาไม่ทิ้งพวกเขาไปจะดีขนาดไหนนะ
จะได้อยู่กันเป็นครอบครัวเดียวกับ
เขากับน้องสาวคงจะไม่ถูกตราหน้าว่าไม่มีพ่อ
“คุณต้องช่วยฉันจีบแม่ของคุณนะ”
หลินซีเฉิน “……”
เขาอยากจะอ้วก ในเมื่อชอบหม่ามี๊แล้วจะหย่าแต่แรก แถมยังทิ้งเธอทำไม
ทำให้เธอน่าสงสารขนาดนี้ แล้วคลอดเขากับน้องสาวออกมา ดูเป็นคนแปลกในสายตาคนอื่น แล้วเลี้ยงเขากับน้องสาวโตขึ้นมา
หลินซีเฉินเม้มปากแน่น “คุณ คุณยังชอบหม่ามี๊อยู่เหรอ?”
ตอนแรกที่แต่งงานกัน ต้องเป็นเพราะว่าชอบหม่ามี๊แน่นอน แต่เมื่อไปรักคนอื่นหรือไม่รักหม่าหมี้แล้ว ถึงได้หย่ากัน
ตอนนี้จะมาจีบหม่ามี๊ใหม่ เพราะรักเธออีกแล้วงั้นเหรอ?
จงจิ่งห้าวเลิกคิ้วขึ้น อะไรที่ยังเรียกว่ารักอยู่งั้นเหรอ?
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ถามต่อ เด็กเท่านี้การแสดงออกยังมีไม่มาก
“ฉันชอบ……”
“เสี่ยวซี”
หลินซินเหยียนวิ่งมา จวงจื่อจิ่นบอกว่าเขาจะรอเธออยู่ด้านล่าง ตอนที่เธออยู่บนตึกนั้นไม่เห็นเขาเลย
โทรศัพท์ข้อมือของเขาเองก็ถูกเธอเก็บไปแล้ว
เมื่อติดต่อเขาไม่ได้ ก็กลัวว่าเขาจะวิ่งหนีไปไหน ตอนลงมาหาที่สวนสาธารณะก็ไม่เจอ เธอกำลังจะไปแจ้งความ ถึงเจอว่าเขาอยู่บริเวณนั้นพอดี
“คุณวิ่งหนีทำไม รู้ไหมว่าฉันหาคุณไม่เจอ เป็นห่วงมากเลย” หลินซินเหยียนรู้ว่าลูกชายไม่ค่อยชอบจงจิ่งห้าวเท่าไหร่ เลยดึงลูกมาอยู่ด้านหลัง “คือ เขาเป็นแค่เด็กเท่านั้น คุณไม่ต้องไปสนใจสิ่งที่เขาพูดหรอกนะ”
“แน่นอน” จงจิ่งห้าวนั่งพิงเก้าอี้ในรถ ก่อนจะเชิดคางขึ้น พลางชี้ไปที่หลินซีเฉิน “ฉันไม่มีทางคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กหรอก”
ความรู้สึกดีๆ ที่มีเมื่อครู่ หายไปเพราะคำพูดของเขาเลยล่ะ
หลินซีเฉินกอดคอของหลินซินเหยียน ก่อนจะหอมแก้มเธอ “หม่ามี๊ คืนนี้ฉันอยากนอนกับคุณ คุณกอดฉันนอนไปด้วยกันได้ไหม?”
จงจิ่งห้าว “……”
เด็กนี่
หลินซินเหยียนมองลูกชายแบบแปลกๆ ทำไมวันนี้เขาแปลกจังเลย?
เพราะว่าเธอเก็บของของเขาไป เลยโกรธเป็นอย่างมากไม่ใช่เหรอ?
ทำไมจู่ๆ ถึงทำดีขึ้นมาได้นะ?
แปลกจริงๆ เลย
“หม่ามี๊ คุณจะออกไปกินข้าวข้างนอกเหรอ?ฉันไปด้วยได้ไหม?” เขากอดคอของหลินซินเหยียนก่อนจะออดอ้อน “ได้ไหม?”
หลินซินเหยียนชายตามองไปทางจงจิ่งห้าว เหมือนกับว่ากำลังถามอยู่
จงจิ่งห้าวหยักหน้า “ไปกันเถอะ”
ครั้งนี้จงจิ่งห้าวเป็นคนขับรถ หลินซินเหยียนกับหลินซีเฉินนั่งอยู่ด้านหลัง
หลินซีเฉินทำเหมือนกับจะบอกว่าหลินซินเหยียนนั้นเป็นของเขา โดยเฉพาะตอนที่ทำตัวติดกัน โอบหน่อย กอดหน่อย แล้วก็จุ๊บด้วย
แถมยังมองขู่จงจิ่งห้าวจากกระจกด้านหลังด้วย เหมือนกับกำลังจะประกาศสงคราม หม่ามี๊เป็นของเขา ใครก็แย่งไปไม่ได้
เขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถกอดได้ และนอนด้วยได้
หลินซินเหยียนตกใจเพราะความใจดีของลูกชาย
“เสี่ยวซี เธอยื่นมือออกไปลูบหน้าผากของลูกชาย
ไม่ได้ตัวร้อน
แล้วเป็นอะไรกันนะ?
“ฉันเอาโทรศัพท์ข้อมือคืนให้คุณก็ได้ โอเคไหม?” หลินซินเหยียนไม่ชิยเลย ที่จู่ๆ ลูกชายก็ดีด้วยขนาดนี้
เมื่อไม่มีอุปกรณ์สื่อสาร ก็ไม่สะดวกเลย
ส่วนแท็บเล็ตนั้น ในตอนนี้ยังให้เขาไม่ได้เด็ดขาด
เขายังไม่สำนึกผิดเลย
“จริงเหรอ?” หลินซีเฉินตาเป็นประกาย “แล้วแท็บเล็ตล่ะ?”
เมื่อไม่มีมัน เขาก็เบื่อเป็นอย่างมาก
เล่นเกมไม่ได้เลย
“ให้ก็ได้ แต่ว่าคุณ…”
“ฉันสำนึกแล้ว”
หลินซินเหยียนยังไม่ทันพูดจบ เขาก็บอกว่าสำนึกด้วยตัวเอง
เขามั่นใจว่าจะแก้แค้นให้หม่ามี๊ จะไม่ให้เขาทำอะไรไม่ดีอีก
ตอนนี้ไม่แก้แค้นไปก่อน
วันนี้หลินซีเฉินทำให้หลินซินเหยียน ‘เซอร์ไพรส์’ กับท่าทีนี้มาก เพราะมันไม่เคยมีมาก่อนเลย
เด็กคนนี้ดีไปทุกอย่าง เว้นแต่นิสัยดื้อดึง เรื่องที่เขาตัดสินใจไปแล้ว จะไม่ยอมง่ายๆ คนอื่นก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
“นี่ไง” เมื่อเห็นป้ายของร้านอาหารเช้า หลินซินเหยียนก็พูดขึ้น
จงจิ่งห้าวมองเข้าไปในร้านอาหาร ดูมีคนเยอะมากเลยล่ะ
เมื่อจอดรถเสร็จ
หลินซินเหยียนอุ้มหลินซีเฉินลงจากรถ
เมื่อเดินเข้าไปในร้าน
คนในร้านค่อนข้างเยอะในเวลานี้ พวกเขาทั้งสามคนเดินเข้าไปก็ทำให้มีคนหันมามอง
พวกเขายืนด้วยกันสามคน เหมือนเป็นครอบครัวเลยล่ะ
สามีสูงสง่า ลูกชายมากับพ่อ ดูหล่อไม่น้อยเลย ส่วนแม่ก็ทั้งเด็กและสวยงามไม่แพ้กัน
มันดูเหมาะสมกันมาก
จงจิ่งห้าวออกมากินข้าวข้างนอกน้อยมาก เลยไม่ค่อยคุ้นชินกับสถานที่แบบนี้
“พวกคุณหาที่นั่งกันก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปดูว่ามีอะไรน่ากิน” หลินซินเหยียนวางลูกชายลง พลางถาม “คุณอยากกินอะไรไหม?”
“ฉันอยากกินโจ๊ก กับเกี๊ยวนึ่ง”
“คุณล่ะ?” หลินซินเหยียนมองไปทางจงจิ่งห้าว
“อะไรก็ได้” เขาไม่เคยมาที่นี่ ไม่รู้ว่าที่นี่มีอะไรบ้าง
อีกอย่างคนที่นี่เยอะแยะ
“ตรงนั้นมีที่นั่ง” มีคนลุกแล้ว หลินซีเฉินเลยจูงจงจิ่งห้าวเดินไปทางนั้น
ยังไม่ทันเก็บโต๊ะ จงจิ่งห้าวก็ขมวดคิ้วมาชนกัน
หลินซีเฉินมองออกว่าจงจิ่งห้าวไม่ชอบ เลยเบ้ปาก “ผมกับหม่ามี๊มากินข้าวในที่แบบนี้บ่อยๆ”
“งั้นเหรอ?”
“ใช่สิ”
“ผมสัญญากับคุณแล้ว ว่าพวกเราจะร่วมกันแก้แค้นเพื่อหม่ามี๊” หลินซีเฉินมองคนท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น เงาที่ช่วยเขาถือของ ก่อนจะกำหมัดน้อยๆ เอาไว้แน่น “หม่ามี๊ ลำบากมามาก ผมต้องปกป้องเธอ”