กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่107 ผู้ชายที่เหมือนกันไปหมด
หลินซินเหยียน “……”
เมื่อรู้ว่าเดี๋ยวหยูโต้วโต้วจะเข้ามา เธอเองก็ไม่พูดอะไรมาก ถึงอย่างไรช่วงนี้เธอก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องทำ
เรื่องของในร้านนั้นฉินยาเป็นคนจัดการ
เธอไม่ได้ว่างขนาดนี้มานานแล้ว
เมื่อคลอดหลินซีเฉินกับหลินลุ่ยซีออกมา เธอก็เตรียมจะสอบ แล้วก็ทำงาน ในหลายปีมานี้เธอไม่ได้พักผ่อนเลย เลยจะใช้เวลาช่วงนี้ในการพักผ่อนก็ดีเหมือนกัน
เธอพิงเก้าอี้อยู่ ก่อนจะผ่อนคลาย แล้วดึงมือจากจงจิ่งห้าวออกมา “คุณขับรถดีๆ เถอะ”
จู่ๆ ฝ่ามือก็ว่างเปล่า เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง จงจิ่งห้าวเอามือกลับไปจับพวงมาลัย แต่ความว่างเปล่านั้นก็ไม่หายไปเสียที
เขารู้สึกว่างเปล่าในจิตใจ มีเพียงการเข้าหาผู้หญิงคนนี้ ถึงจะไม่มีความว่างเปล่านั้น
ข้างหน้ามีไฟแดงอยู่ตรงสี่แยก
เขาเหมือนกับขยับอย่างไม่ตั้งใจ เลยเอามือไปวางอยู่บนต้นขาของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียน “……”
คนคนนี้จริงๆ เลย
สิบนิ้วของเขากับเนื้อของเธอนั้นมีเพียงผ้าบางๆ ที่กั้นอยู่ เลยใช้ตอนที่หลินซินเหยียนยังไม่ได้ปฏิเสธ พูดว่า “พวกเราเป็นสามีภรรยากันนะ”
คุณไม่ให้ฉันแตะต้อง ก็ต้องเอาอะไรมากแลกสักหน่อย
เขาเป็นผู้ชายธรรมดา อย่าทำเหมือนเขาเป็นพระเลย
หรับผู้หญิง ต้นขาเป็นจุดลับ อีกอย่างมือของเขาไม่นิ่ง มักจะลบคลำอยู่บริเวณนั้น จนหอแห้งผากเลยล่ะ
มือของเธอจับเสื้อแน่น ก่อนจะก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเขา
หัวใจนั้น มันเต้นไม่หยุด
มันเหมือนไม่ใช่ของตัวเอง เพราะตัวเองควบคุมอะไรไม่ได้เลย
หัวใจดวงนี้ มักจะเต้นไม่เป็นจังหวะ เพราะว่าผู้ชายคนนี้ตลอดเวลา
หลินซินเหยียนไม่ได้ปฏิเสธ จงจิ่งห้าวเลยอารมณ์ดีขึ้น
ผ่ามือจับไปที่ต้นขาของเธอ โดยที่ไม่ขยับ พลางขับรถผ่านกลางเมือง ก่อนจะมาถึงเขตการค้าที่มีตึกรามมากมาย
เพียงไม่นานรถก็ขับมาถึงที่จอดรถของตึกสำนักงานของว่านเยว่กรุ๊ป เพราะว่ารถคันนี้เป็นคันที่จงจิ่งห้าวเพิ่งซื้อให้หลินซินเหยียน เลยไม่ได้บันทึกเอาไว้ พนักงานที่จอดรถ เลยเข้ามาขวางเอาไว้ ก่อนจะบอกว่า “ที่นี่เป็นที่จอดรถใต้ดินของว่านเยว่กรุ๊ป ไม่ให้คนอื่นเข้ามาจอด ขอให้ออกไปจอดข้างนอกด้วย”
จงจิ่งห้าวลดกระจกลง เมื่อพนักงานเห็นว่าเป็นเขา แล้วรีบเอาที่กั้นขึ้น ก่อนจะยิ้มให้ “ประธานจงนี่เอง ฉันไม่เห็น”
เขากล้ามาขวางรถของเจ้านาย แต่เขาก็ไม่อยากเสียงานนี้ไป
เมื่อมองไปเห็นผู้หญิงที่มาด้วย ก็อึ้งไปเล็กน้อย
เขาทำงานที่นี่มาสี่ห้าปีแล้วไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงคนไหนขึ้นรถเลย นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ
เลยอดไม่ได้ที่จะมองให้มากกว่านี้เสียหน่อย
จงจิ่งห้าวมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะปิดกระจกขึ้น
เพื่อหลบสายตาจากข้างนอก
เมื่อจอดรถเสร็จแล้ว จงจิ่งห้าวก็ส่งกุญแจให้หลินซินเหยียน
เธอยื่นมือออกมารับ
“ขอบคุณนะ” ถึงแม้ว่าเขาจะกำชับว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากัน แต่ว่าหลินซินเหยียนรู้ ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ
แต่เป็นการจัดขึ้นของพ่อแม่ เลยทำอะไรไม่ได้จึงต้องแต่งงานไปตามนั้น
เธอรู้จักรถคันนี้มาบ้าง มันราคาล้านกว่าๆ
เขาไม่เอาเงิน เธอเลยรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
ต้องแสดงความขอบคุณอะไรหน่อยแล้ว
“รู้สึกขอบคุณฉันจริงๆ เหรอ?”
จงจิ่งห้าวยิ้มมุมปากเล็กน้อย
หลินซินเหยียนพูดด้วยความจริงจัง “แน่นอนอยู่แล้ว”
เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ “ถ้าจริงใจจริงๆ ก็จูบฉันสักทีหนึ่งสิ ถ้าจะแสดงความจริงใจ จะทำอย่างไรงั้นเหรอ?”
หลินซินเหยียน “……”
คนคนนี้ ทำไมไม่จบไม่สิ้นสักที?
ไม่รู้ว่าที่นี่มันคือที่ไหนเหรอ?
บนิษัทของเขางั้นเหรอ?
ถ้าคนอืน่มาเห็นเข้า เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
หลินซินเหยียนผลักเขา “อย่าเล่นหน่า”
“งั้นก็ติดเอาไว้ก่อนนะ” เขาจับมือของหลินซินเหยียน ก่อนจะเอามาจับแขนของเขา แล้วเดินเข้าไปในลิฟต์
หลินซินเหยียนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมาก เธอขบริมฝีปาก พลางถาม “ถ้าคนในบริษัทมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดีหรือเปล่า?”
เธออึดอัดมาก
ในสถานการณ์แบบนี้ที่เขาเพิ่งจะยกเลิกการแต่งงานไป คนอื่นจะคิดว่าเพราะว่าเธอเลยทำให้จงจิ่งห้าวต้องยกเลิกหรือเปล่านะ?
“ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าฉันคือมือที่สามนะ ฉันไม่ชอบ”
เธอไม่ชอบการเป็นมือที่สามอยู่แล้ว
การบอกว่ารักครั้งนี้มันเจอกันช้าไป
หรือการเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่นั้น
ดูๆ ไปแล้ว นั่นคงเป็นแค่ข้ออ้าง
เหมือนกับที่หลินกั๋วอัน เปลี่ยนใจไปแล้ว ก็สามารถไม่สนความเป็นอยู่ของภรรยา แล้วสนใจแต่ความสุขของตัวเอง
“รอก่อน ถ้ามีโอกาส……พวกเราค่อยทำแบบนี้”
ถ้า หลังจากนี้เขาชอบเธอจริงๆ คงไม่ใช่ความสดใหม่แบบที่รู้สึกอยู่ในตอนนี้
เธอเต็มใจจะคล้องแขนเขา แล้วก็ยืนต่อหน้าคนอื่น
จงจิ่งห้าวหนักใจ ก่อนจะมีสายตาเย็นชาขึ้นมาทันใด
เขาเองก็ไม่ชอบมือที่สาม
เพราะว่ามีอยู่แล้วที่บ้านหนึ่งคน
เขาปล่อยมือของหลินซินเหยียน
ลิฟต์หยุดลงในตอนนี้ มีคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นจงจิ่งห้าวเลยพูดทักทาย “ประธานจง”
จงจิ่งห้าวตอบรับเล็กน้อย เพื่อทักทายกลับ
ในลิฟต์นั้นเงียบจนน่าแปลกใจ
จงจิ่งห้าวยื่นมือไปโดนมือของหลินซินเหยียนเล็กน้อย
หลินซินเหยียนรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต เลยรีบเอามือซ่อนไว้ข้างหลัง ก่อนจะขยับออกมาจากเขาเล็กน้อย
พนักงานของว่านเยว่ที่ยืนอยู่บริเวณประตูลิฟต์นั้น เมื่อได้ยินเสียงกุกกัก ก็หันกลับมามองหลินซินเหยียน “คุณเองก็เป็นพนักงานที่ว่านเยว่งั้นเหรอ?ทำไมฉันไม่เคยเห็นคุณเลย?”
หลินซินเหยียนเคยมาทำงานที่ว่านเยว่อยู่ไม่กี่วันเมื่อหกปีก่อน เป็นล่ามให้จงจิ่งห้าว แต่เพียงไม่กี่วัน ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว คงไม่มีใครรู้จักเธอแล้วล่ะ
หลินซินเหยียนรีบใช้สมอง แต่เมื่อหาคำอธิบายอะไรไม่ได้ เลยรีบพูดออกไปอย่างร้อนรน “ฉันเพิ่งมาใหม่น่ะ”
“อ๋อ อยู่แผนกไหนล่ะ?” เพื่อนร่วมงานชายคนนั้นถามอย่างใจดี แล้วยังพูดอย่างเป็นมิตรอีก
หลินซินเหยียน “……”
เธอเอามือถูอิดออดไปมา
จงจิ่งห้าวยืนตรง ตัวสูงใหญ่ในลิฟต์นั้น มันกินพื้นที่ไปไม่น้อย จนปกคลุมเป็นเงามืด
ริมฝีปากของเขานั้นยิ้มขึ้นเล็กน้อย เหมือนอยากจะดูว่าต่อไปหลินซินเหยียนตอบว่าอย่างไร
มีเสียงติ๊งดังขึ้น
ตอนที่หลินซินเหยียนไม่รู้จะตอบอย่างไร ลิฟต์ก็หยุดลง
เพื่อนร่วมงานคนนั้นเลยเดินจากไป
หลินซินเหยียนถอนหายใจ ก่อนจะทิ้งไหล่ตกลงเล็กน้อย
“ฉันยังขาดเลขานะ”
จงจิ่งห้าวเชิดหน้าขึ้น
หลินซินเหยียนมองเขา ก่อนจะปฏิเสธ “ไม่ได้หรอก ฉันมีงานของตัวเองอยู่”
เธอไม่มีทางมารับใช้เขาที่นี่หรอก
นอกเสียจากเธอจะบ้าจนยอมทิ้งงานออกแบบที่ตัวเองชอบ แล้วมาเป็นเลขาให้เขา
“งั้นให้ฉันบอกคุณนายเวลเลี่ยนสักหน่อยไหม ว่าไม่ต้องเปิดที่นี่แล้ว?”
หลินซินเหยียนยอมไปทันใด
“อย่านะ”
“อย่าอะไร?”
“อย่าบอกกับคุณนายเวลเลี่ยน”
“ก็ได้”
“คุณจุ๊บฉันก่อน ฉันถึงจะไม่บอก”
“……”
หลินซินเหยียนจะเป็นบ้าเพราะเขาไปแล้ว
“คุณมันเป็นพวกอันธพาลเหรอ?”
“ฉันก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“……”
จู่ๆ เอวของหลินซินเหยียนก็ถูกเขาโอบกอด เธอยังไม่ทันทำอะไร ก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ
ริมฝีปากที่นุ่มนวลนั้น มันประทับลงบนหน้าผากของเธอ
เพียงไม่นานจงจิ่งห้าวก็ปล่อยเธอออก มันผ่านไปเร็วมาก เพียงไม่นานหลินซินเหยียนก็รู้สึกเหมือนเมื่อครู่นั้นคือฝันไป
แต่เธอรู้ว่ามันไม่ใช่ เธอยังรู้สึกถึงความอบอุ่นบนหน้าผากและลมหายใจที่ยังคงอยู่ได้เป็นอย่างดี
เขายืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นเลยล่ะ
ลิฟต์หยุดลง จงจิ่งห้าวก้าวออกมา จากนั้นก็เดินไปทางห้องทำงาน ก่อนจะพูด “ฉันหิวน้ำ”
หลินซินเหยียนหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร เขากำลังพูดกับเธองั้นเหรอ?
มันชัดเจนเลยว่า กำลังคุยกับเธอ
รอบๆ นี้ไม่มีใครเลย
นี่เห็นเธอเป็นเลขาไปแล้วเหรอ?
หลินซินเหยียนถอนหายใจ ยังดีที่เธอเคยอยู่ที่นี่มาสักพัก เลยรู้ว่าห้องน้ำชามันอยู่ที่ไหน
เธอหาห้องน้ำชาได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะเทน้ำร้อนแก้วหนึ่ง
ที่นี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้แทบจะไม่มีใครเลย อีกอย่างก่อนหน้านี้ยังมีผู้หญิงอยู่หลายคน แต่ตอนนี้มีแต่ผู้ชายเหมือนๆ กันเต็มไปหมด
เธอรู้สึกเห็นอกเห็นใจไม่น้อย เพราะทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาจริงๆ
ผู้จัดการด้านการเงินที่ชื่อหานจื่อหยิง เอาการรายงานประจำเดือนมาให้จงจิ่งห้าวเซ็นรองรับ
แล้วเดินชนกับหลินซินเหยียนหน้าห้องของท่านประธานพอดี
หลินซินเหยียนถือน้ำอยู่ในมือ เลยกระเด็นไปโดนเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ
สีหน้าของเธอนิ่งลงไป