กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่116 สะเทือนอารมณ์
เมื่อถึงโรงพยาบาลหลินซีเฉินก็ถูกส่งไปยังห้องตรวจ
เพราะอารมณ์หลินซินเหยียนไม่ค่อยแน่นอน หมอจึงไม่ให้เธอเข้าไป
เธอยืนพิงผนังตรงทางเดิน ถ้าไม่มีผนังค้ำไว้เธอคงล้มไปแล้ว
จงจิ่งห้าวนั่งตรงเก้าอี้แถวอีกด้าน ไม่ได้ไปพูดโน้มน้าวหรือพูดปลอบใจเธอ
เธอเห็นหลินซีเฉินเลือดเต็มหน้าก็แตกสลายไปแล้ว ตอนนี้ต่อให้จะเป็นเรื่องเล็กๆก็อาจทำให้เธอแตกสลายได้
ทันใดนั้นประตูห้องตรวจเปิดออก หมอเดินออกมา เขาถอดหน้ากากอนามัยแล้วถามขึ้น“ใครเป็นสมาชิกในครอบครัว?”
“ฉันค่ะ”
หลินซินเหยียนรีบเดินไป แล้วถามอย่างร้อนใจ“เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”
“ผิวหนังได้รับบาดเจ็บ ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนจึงทำให้เลือดออก ตอนนี้ทำความสะอาดแล้ว ส่วนที่หน้ากลับไปประคบน้ำแข็งสักหน่อย ผมสั่งยาให้แล้ว อีกสักครู่คุณไปรับยาที่ชั้น1ก็โอเคแล้ว ตอนนี้เด็กอยู่ด้านใน คุณสามารถพาเขากลับไปได้แล้วครับ”
“ขอบคุณ ขอบคุณค่ะ”หลินซินเหยียนพูดคำว่าขอบคุณติดต่อกัน ขอบคุณคุณหมอ ขอบคุณพระเจ้า เสี่ยวซีไม่เป็นอะไรแล้ว เธอวิ่งเข้าไปในห้องตรวจ หลินซีเฉินยังนอนอยู่บนเตียง ส่วนเลือดบนหน้าถูกเช็ดออกจนสะอาดแล้ว แต่หน้ายังบวมอยู่ เห็นเป็นรอยนิ้วมือทั้ง5อย่างชัดเจน หน้าผากแปะผ้าพันแผลไว้ เขาฟื้นแล้ว
เมื่อเห็นหลินซินเหยียนก็ตะโกน“แม่ครับ”
“เสี่ยวซี”หลินซินเหยียนพุ่งเข้าไปจับมือเขา ยังดี ยังดีที่เขาไม่เป็นอะไร
เธอน้ำตาซึม ยื่นมือลูบหน้าเขาเบาๆ ใช้นิ้วโป้งลูบแก้มเขาด้วยความเจ็บปวด“ยังดีที่ลูกไม่เป็นอะไร”
“ผมไม่เป็นอะไรหรอกครับ”หลินซีเฉินยืนมือไปเช็ดน้ำตาหลินซินเหยียนที่ไหลออกมา“แม่ไม่ร้องนะครับ เสี่ยวซีไม่เป็นไร”
หลินซินเหยียนก้มหน้า ฝังหน้าลงไปในอ้อมแขนของเขา ไหล่สั่นไหวเบาๆ
เสียงร้องไห้อู้อี้
จงจิ่งห้าวยืนมองพวกเขาตรงประตูห้องตรวจ
เขาไม่เคยเห็นหลินซินเหยียนร้องไห้เสียงสะอื้นแบบนี้
น้ำตาไหลลงมา เธอไม่กล้าร้องไห้ออกเสียง กลัวจะส่งผลกระทบกับหลินซีเฉิน
จู่ๆเส้นหนึ่งในหัวใจของเขาถูกสะเทือน(สะเทือนอารมณ์)
เมื่อมองท่าทีของพวกเขา สายตาก็ลึกซึ้ง
หลินซีเฉินหันไปทำมือOKให้จงจิ่งห้าวที่ยืนอยู่ตรงประตู
เขายิ้ม
จงจิ่งห้าวก็ยิ้มพลางทำมือOKให้เขา
เขาเดินเข้ามา“พวกเรากลับกันได้แล้ว”
หลินซินเหยียนก้มเช็ดหน้า แล้วอุ้มหลินซีเฉิน“หม่ามี๊จะพาลูกกลับบ้านนะครับ”
หลินซีเฉินกอดคอเธอ อ้อมกอดของแม่อบอุ่นมาก
เมื่อมาถึงชั้น1จงจิ่งห้าวก็ไปรับยา ทันใดนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นเสิ่นเผยซวนส่งข้อความมา
เขาเปิดข้อความ;【คุณดูข่าวสิ】
แล้วก็มีลิงค์ข่าว
เขากดเปิด
ภาพที่สะดุดตาขนาดใหญ่คือภาพที่ช่วยหลินซีเฉินในหมู่บ้านแห่งนั้น พาดหัวข่าวว่า;เจ้าพ่อวงการอัญมณีแห่งเมืองB สองพี่น้องตระกูลเหอใช้อิทธิพลรังแกผู้อื่น ลงมือจัดการกับเด็ก5ขวบ!
สมัยนี้อินเทอร์เน็ตไปเร็ว เพียงแค่มีเรื่องอะไรนิดหน่อยแล้วถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต ก็จะถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะเกี่ยวกับคนรวยคนมีอำนาจ รังแกประชาชนธรรมดา
ข่าวแบบนี้ตกเป็นที่สนใจได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งคนที่โดนรังแกยังเป็นเด็ก5ขวบอีก
ในรูปหลินซีเฉินหน้าเต็มไปด้วยเลือด นี่ทำให้ผู้คนเกิดความสงสารเวทนา
บวกกับคนที่กวนจิ้งเตรียมไว้ ตอนนี้ในคอมเมนต์เทมาฝ่ายเดียว
ตระกูลเหอใช้อิทธิพลรังแกคน คิดไม่ถึงว่าจะรังแกเด็กคนหนึ่ง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีโดนหมากินไปแล้วเหรอ
ตอนนี้เป็นสังคมคนมีเงินมีอำนาจในมือมีเงินสกปรก แม้แต่เด็กตัวเล็กๆยังรังแก ทำไมไม่ตายไปซะ คนแบบนี้เวลาออกมาข้างนอกสมควรโดนรถชนตาย
ต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง อย่าจัดการง่ายๆเพียงเพราะพวกเขารวย ผู้ใหญ่สองคนรังแกเด็ก ควรยิงประหารชีวิต บลาๆๆ……คำพูดดุเดือดรุนแรง
มีคนจงใจชี้นำ พวกเขามองข้ามทำไมคนตระกูลเหอถึงรังแกเด็ก เห็นแต่พวกเขารังแกเด็กเต็มไปหมด
เด็กเป็นผู้อ่อนแอ แน่นอนว่าคนเอียงไปฝั่งผู้อ่อนแอ
เขายกยิ้มเบาๆ ตอนนี้ตระกูลเหอก็น่าจะเห็นแล้ว?
ตระกูลเหอ
ปัง!ปัง!ปัง!
ในห้องรับแขกนอกจากเสียงพังข้าวของแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก
ทุกคนในห้องรับแขกนั่งเงียบกริบ
เหอเหวินหวยพังของทุกชิ้นในห้องรับแขก
ระเกะระกะเต็มพื้น
เหอรุ่ยเจ๋อและเหอรุ่ยหลินยืนสั่นอยู่ตรงประตู
พวกเขาไม่เคยเห็นเหอเหวินหวยโกรธขนาดนี้มาก่อน
เขาโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ชี้นิ้วไปทางสองพี่น้องที่ยืนอยู่ตรงประตู“แก แก พวกแกนี่เก่งจริงๆ ทำเรื่องไม่สำเร็จ แต่ก่อเรื่องนี่เก่งจริงๆ!”
เหอรุ่ยสิงจับเซี่ยเจินหยูอยู่ข้างๆ ไม่ให้เธอเข้าไป ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเหอเหวินหวยกำลังโกรธมาก ใครเข้าไปก็เป็นตัวรับกระสุน
เขาผิดหวังกับน้องชายและน้องสาวจริงๆ
ไม่ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ดีแต่ก่อเรื่อง
ครั้งนี้ทำเอาชื่อเสียงตระกูลเหอเสื่อมเสียหมดแล้ว
เหอเหวินหวยไม่โกรธสิแปลก!
“พวกแกไสหัวไป!ตระกูลเหอไม่มีพวกทำงานไม่ได้เรื่องแต่เก่งแต่ก่อเรื่องอยากพวกแก!”เหอเหวินหวยโกรธจนหายใจรัวๆ
“พวกเราทำเพื่อครอบครัวไงถึง…”
“ปัง!”
เหอเหวินหวยคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะปาไปยังเหอรุ่ยหลินที่พูดอยู่
“หุบปาก!”
“ทำเพื่อครอบครัวงั้นเหรอ?”เหอเหวินหวยโกรธจนสั่นไปทั้งตัว“ตอนแรกจะได้เกี่ยวดองกับตระกูลจง แต่เพราะแกไม่ได้เรื่องจนถูกเขาถอนหมั้น ตอนนี้ก็เป็นเพราะพวกแกอีก ที่ทำให้ตระกูลเหอถูกทุกคนด่าทอ แกยังมีหน้ามาพูดว่าเพื่อครอบครัวงั้นเหรอ?!”
เหอรุ่ยหลินไม่หลบ โทรศัพท์ปามาโดนแขนเธอ เธอกุมแขนขวาด้วยความเจ็บปวด“พวกเราทำเพื่อครอบครัวจริงนะคะ”
“ได้ ได้ ได้ แกพูดมาสิว่าเพื่อครอบครัวยังไง”เหอเหวินหวยนั่งลงบนเก้าอี้
โมโหใหญ่โตขนาดนี้เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน
“พวกเราลักพาตัวเด็กนั่น เพราะแม่ของเด็กนั่นเป็นผู้หญิงที่จงจิ่งห้าวชอบ ถ้าจับเด็กนั่นมาขู่ให้ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานกับพี่ แบบนั้นหนูก็ยังได้คบกับจงจิ่งห้าว ยังได้แต่งงานกัน นี่ไม่ใช่หวังดีกับตระกูลเหอของเราหรอกเหรอ?”
“ดี?”คำนี้เหอรุ่ยสิงเป็นคนพูด เขาหน้าแดงก่ำ น้ำเสียงเย็นชาเย้ยหยันเหมือนอากาศเดือน12 “แกเห็นจงจิ่งห้าวเป็นคนยังไง?เพราะผู้หญิงคนนั้นแต่งงานแล้ว เขาจึงจะกลับมาแต่งงานกับแกงั้นเหรอ?”
เขาอย่าผ่าสมองเธอออกมาดูซะจริงๆ ดูว่าในสมองเธอมีอะไรบ้าง
“จนถึงตอนนี้แล้วแกยังไม่ตื่นอีกเหรอ?ต่อให้ผู้หญิงบนโลกนี้ตายไปหมด เขาก็ไม่มีทางแต่งงานกับแก ความไร้เยื่อใยที่เขาถอนหมั้นแกที่นี่ในวันนั้นแกเห็นรึยัง?แทงมีดเข้าไปที่หัวใจตัวเอง ถ้าเขาชอบแกสักนิดเขาคงไม่ไร้เยื่อใยขนาดนั้น”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่…”เหอรุ่ยหลินไม่ยอมรับ“แค่ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานไป จงจิ่งห้าวยังคงหมั้นกับฉันแน่นอน”
“แกตื่นได้แล้ว เลิกเพ้อฝันได้แล้ว ยังมองไม่ออกอีกเหรอ?พวกแกทำให้เขาโกรธ”เหอรุ่ยสิงแฝงตัวในห้างสรรพสินค้า จึงคุ้นเคยกับจงจิ่งห้าวบ้าง
คนอย่างเขาไม่ควรหาเรื่อง
ลงมือกับคนข้างกายเขา?
เท่ากับรนหาที่ตาย!
“พี่จะบอกว่าข่าวนี้เป็นเพราะเขางั้นเหรอ?”เหอรุ่ยเจ๋อที่เงียบมาตลอด เหมือนจะเข้าใจความหมายของพี่ชายแล้ว
ตอนในหมู่บ้านเสิ่นเผยซวนก็ปล่อยพวกเขาออกมาง่ายๆ
ที่แท้ก็มีแผนสำรอง
เหอรุ่ยสิงทำเสียงหึ“แกคิดว่าไงล่ะ ไม่งั้นคนในคอมเมนต์จะเยอะมืดฟ้ามัวดินได้ในเวลาแค่2-3ชั่วโมงเหรอ อีกทั้งยังเอียงไปฝั่งเดียวกันหมด แกคิดว่าถ้าไม่มีใครแอบคุมเรื่อง เรื่องจะถึงขั้นนี้ไหมล่ะ?”
เขาชี้ไปที่พาดหัวข่าว“ดูสิ พูดถึงตระกูลเหอทุกถ้อยทุกคำ”
เหอเหวินหวยใจเย็นลงบ้างแล้ว เขารู้อยู่แล้วว่ามีคนวางแผนไว้ ไม่งั้นข่าวนี้ไม่แพร่สะพัดไปเร็วขนาดนี้หรอก
เขาต้องไปตระกูลจงหน่อยแล้ว
เห็นลูกชายลูกสาวไม่ได้เรื่องคู่นี้ เขาก็เดือดขึ้นมาทันที“ฉันเกิดพวกแกมาทำไมกัน?ถ้าพวกแกได้สักเศษเสี้ยวของรุ่ยสิงฉันก็เบาใจแล้ว วันๆเอาแต่ก่อเรื่องให้ฉัน!”