กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่119 แกคงไม่ได้ชอบเขาใช่ไหม
อีกด้านหนึ่ง ระหว่างทางกลับคฤหาสน์ หลินซีเฉินนอนหลับในอ้อมแขนหลินซินเหยียน
หน้าด้านหนึ่งบวมแดง หลินซินเหยียนเป็นห่วงอยากสัมผัส แต่ก็กลัวทำเขาเจ็บ
เธอไม่พูดอะไรสักคำ เพียงเช็ดน้ำตาอย่างเงียบๆ
หลินซีเฉินโตมาถึงขนาดนี้ไม่เคยได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นครั้งแรก
ดั่งคำพังเพยที่ว่า ลูกเจ็บที่ตัวส่วนแม่เจ็บปวดที่ใจ
จงจิ่งห้าวมองเธอผ่านกระจกมองหลัง อยากพูดปลอบใจเธอ ให้เธอไม่เสียใจนัก แต่พอเขาอ้าปากก็ไม่รู้จะพูดอะไร
เขาไม่เคยเป็นพ่อเป็นแม่คนมาก่อน จึงไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอ
ไม่นานนักรถก็มาจอดตรงหน้าคฤหาสน์
จงจิ่งห้าวลงมาเปิดประตูรถให้เธอ เธออุ้มหลินซีเฉินลงจากรถไม่สะดวก เขาจึงยื่นมือออกไปรับ“ให้ผมช่วยคุณอุ้มเถอะ”
“ไม่เป็นไร ฉันอุ้มเองได้”ตั้งแต่ช่วยหลินซีเฉินออกมา เธอแทบไม่ห่างจากลูกเลย
อุ้มไว้ตลอด ไม่ให้ใครอุ้มทั้งนั้น
จงจิ่งห้าวมองเขาครู่หนึ่ง รับสภาพเธอแบบนี้ไม่ได้ นี่เป็นลูกของเธอ เธอจะเป็นห่วงจะรักก็ได้ แต่เอาแต่โทษตัวเอง คิดว่าเป็นความผิดตัวเองทั้งหมดแบบนี้ เขารับไม่ได้จริงๆ
“ไม่ใช่ความผิดคุณ ไม่ต้องโทษตัวเอง”เขาจะอุ้มเด็ก แต่หลินซินเหยียนไม่ยอมปล่อย“คุณทำอะไร?”
“ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกคุณตื่นก็เงียบๆหน่อย”
หลินซินเหยียนเงียบ แล้วพูดกระซิบ“ศีรษะเขาได้รับบาดเจ็บ คุณเบาๆหน่อย”
เธอกลัวจงจิ่งห้าวอุ้มหลินซีเฉินจนเจ็บ
เขาเป็นผู้ชายแข็งแกร่ง ไม่เคยมีประสบการณ์การอุ้มเด็กมาก่อน
จงจิ่งห้าวตอบอืมเบาๆ
หลินซินเหยียนเคยอยู่ที่นี่ ค่อนข้างคุ้นเคย ที่นี่แทบไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงเหมือนเมื่อก่อน
ในห้อง หลินลุ่ยซีที่เผชิญกับเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ไม่รู้ตกใจหรือเพราะเหนื่อย ตอนกวนจิ้งมาส่งที่ห้องก็หลับไปแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตื่น
ป้าหยูเคยเจอจวงจื่อจิ่นกับหลินลุ่ยซีครั้งหนึ่ง ดังนั้นตอนกวนจิ้งพาพวกเขามาส่งที่นี่เธอก็ตกใจ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นคุ้นเคยกับจวงจื่อจิ่นอย่างรวดเร็ว
กวนจิ้งไม่ได้บอกว่าพาพวกเธอมาที่นี่ทำไม ป้าหยูก็ไม่ได้ถาม กวนจิ้งเป็นคนของจงจิ่งห้าว จงจิ่งห้าวคงสั่งมา
ครั้งก่อนหลังจากที่ได้พบกับเด็กทั้ง2คน ก็รู้สึกว่าพวกเขาเหมือนจงจิ่งห้าวตอนเด็กๆเลย เธอจึงไปเดินซูเปอร์นั้นบ่อยๆเพื่อให้ได้เจอพวกเขา หวังว่าจะได้เจอพวกเขา ถามไถ่เกี่ยวกับพ่อแม่ของเด็ก2คนนี้
ใครจะไปรู้ว่าไปทุกวันๆก็ไม่ได้เจอ
แต่พวกเขากลับมาส่งถึงที่ด้วยตัวเอง
พยายามหาแทบตายไม่เจอ พอเลิกสนใจกลับได้มาง่ายๆซะงั้น ได้มาอย่างไม่ต้องทำอะไร
ป้าหยูอาศัยโอกาสนี้สืบเกี่ยวกับเด็กทั้ง2คน
จวงจื่อจิ่นเหมือนพอเดาออกแล้วว่าที่นี่คือที่ไหน แต่เนื่องจากสถานการณ์ของลูกสาวเธอจึงไม่อยากพูดอะไรมาก บอกแค่ว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของลูกสาวเธอ
ส่วนเรื่องอื่นไม่พูดถึง
ป้าหยูสืบไม่ได้สักที
“คุณนั่งไปก่อนนะ”ป้าหยูยืนขึ้น กำลังจะไปหยิบรูปของจงจิ่งห้าวมาให้เธอดู ขณะนั้นเองประตูคฤหาสน์ก็ถูกเปิดออก จงจิ่งห้าวเดินอุ้มหลินซีเฉินเข้ามา หลินซินเหยียนเดินตามมาด้านหลัง เหมือนเป็นความเคยชิน เธอเปิดตู้รองเท้าแล้วหยิบรองเท้าแตะออกมาวางตรงหน้าเขา
หลินซินเหยียนทำอย่างรวดเร็ว เธออยู่ที่นี่แค่1เดือน คิดไม่ถึงว่าจะจำรองเท้าแตะของเขาได้
เธอเงยหน้าขึ้นพูดอย่างเย็นชา“ทุกสิ่งที่เคยเห็นฉันล้วนจำได้”
จวงจื่อจิ่นลุกจากโซฟา มองจงจิ่งห้าวแวบหนึ่งแล้วก้หันไปมองลูกสาวจน
ป้าหยูเห็นพวกเขาเดินเข้ามา แถมจงจิ่งห้าวยังอุ้มหลินซีเฉินอยู่ด้วย ข้างๆคือหลินซินเหยียน เธออ้าปากค้างพลางมองจวงจื่อจิ่น“คนนี้คือลูกสาวคุณงั้นเหรอ?”
จวงจื่อจิ่นพยักหน้า
ป้าหยูเหมือนจะเข้าใจเรื่องทุกอย่างขึ้นมาทันที เธอก็แปลกใจจวงจื่อจิ่น ว่าทำไมไม่ยอมพูดเรื่องเด็กๆ
เพราะลูกสาวเธอหย่า แล้วคลอดลูก เธอคงโกรธที่พ่อของเด็กหย่ากับลูกสาว ดังนั้นจึงไม่อยากพูดถึง
สำหรับป้าหยู ลูกของหลินซินเหยียนคือลูกของจงจิ่งห้าว
จำได้ว่า6ปีก่อน เธอตั้งท้อง
แม้ตอนแรกพวกเขาแยกกันอยู่ แต่คืนแต่งงานพวกเขานอนห้องเดียวกัน
อีกทั้งพอมานับวันดูก็ใกล้เคียงกัน เด็ก5ขวบ กับระยะเวลา6ปีมันสอดคล้องกัน
ชั้นล่างเป็นห้องจงจิ่งห้าว หลังจากหลินซินเหยียนจากไป เขาก็ยังคงอยู่ห้องนั้น แต่หลังหลินซินเหยียนออกไป เขาไม่ค่อยกลับมาคฤหาสน์
“ผมจะพาเขาไปนอนในห้อง”จงจิ่งห้าวพูด
หลินซินเหยียนอืมตอบ
“เหยียนเหยียน”จวงจื่อจิ่นมีเรื่องอยากถามเธอมากมาย พอเห็นเธอก็เรียกเธออย่างทนรอไม่ไหว
หลินซินเหยียนยืนตรงทางเดินไม่ได้เข้าไปในห้อง“เราไปคุยกันด้านนอกเถอะค่ะ”
“ดีเหมือนกัน”ยังไงในห้องนี้ก็มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่ใช่ที่ของตัวเองไม่ค่อยสะดวก
เธอเปลี่ยนรองเท้าตรงหน้าประตู แล้วเดินตามหลินซินเหยียนออกไป
ลานหน้าคฤหาสน์ปูด้วยสนามหญ้าอันกว้างขวาง สีเขียวขจี เหยียบแล้วนิ่มๆ ข้างๆสนามมีภูเขาปลอมลูกหนึ่ง น้ำไหลลงมาไม่ขาดสาย ด้านล่างเป็นสระน้ำ เลี้ยงปลาสวยงามอยู่ด้านใน ดูแล้วแปลกตามาก ลำตัวเป็นสีเขียว หางยาวๆ เหมือนเป็นพันธุ์หายาก คงราคาสูงมากแน่ๆ
ด้านหน้ามีโต๊ะกลม เก้าอี้หวาย4ตัว และร่มกันแดด
หลินซินเหยียนดึงเก้าอี้ให้จวงจื่อจิ่น
จวงจื่อจิ่นนั่งลง
“ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมจู่ๆหมอเหอถึงลักพาตัวพวกเรา และทำไมแกยังอยู่กับเขา?พวกแกหย่ากันแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว หมอเหอรู้เรื่องที่แกอยู่กับเขาใช่ไหม เขาถึงจากรักกลายเป็นเกลียดชัง แล้วทำเรื่องแบบนี้?”
จวงจื่อจิ่นถามออกมารัวๆ แถมยังพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาด้วย
หลินซินเหยียนส่ายหน้า“ไม่ใช่”
ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกเหอรุ่ยเจ๋อแล้ว ว่าเธอยินดียอมลองคบกับเขา แต่หลังจากนั้นเพราะเรื่องของน้องสาวเขาทำให้เธอกระจ่าง ว่าเธอกับเหอรุ่ยเจ๋อเป็นไปไม่ได้ ไม่เพียงไม่มีความรักระหว่างพวกเขาเท่านั้น ยังรวมถึงกำแพงของแม่และน้องสาวของเขาด้วย
“แล้วมันเพราะอะไร?”จู่ๆจวงจื่อจิ่นก็นึกอะไรขึ้นได้“แกบอกเขาว่าแม่เขาหาเรื่องแกงั้นเหรอ?”
“เปล่า”หลินซินเหยียนกุมมือ เธอไม่รู้จะพูดกับจวงจื่อจิ่นยังไง เกี่ยวกับเรื่องที่เหอรุ่ยเจ๋อทำกับเธอ
มันพูดยาก
“แล้วเพราะอะไร?”คนคนหนึ่งทำไมจู่ๆเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้?
ช่วงที่กลับมานี้เธอก็คิดมาโดยตลอด
แต่ก็ไม่เข้าใจ เหตุผลที่เขาเปลี่ยนเป็นแบบนี้
“แม่ก็รู้ว่าหนูไม่ได้ชอบเขา”หลินซินเหยียนกุมมือตัวเองแน่นขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อเต็มมือไปหมด เธอกับเหอรุ่ยเจ๋อมาถึงขั้นนี้ เธอทำได้แค่พูดตามความจริง
เธอบอกเรื่องที่เหอรุ่ยเจ๋อทำกับเธอให้จวงจื่อจิ่นฟัง
จวงจื่อจิ่นลุกขึ้นพรวด“ว่าไงนะ?”
“เขาทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
หลินซินเหยียนก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่คิดดูดีๆเธอก็คิดออก
เขาชอบเธอ ส่วนเหอรุ่ยหลินชอบจงจิ่งห้าว
ถ้าเขาทำลายเธอ เหอรุ่ยหลินก็ยังมีโอกาสคบกับจงจิ่งห้าว
เพื่อความสุขของน้องสาว เขาจึงเต็มใจทำแบบนี้
จวงจื่อจิ่นนั่งลง อึ้งไปพักหนึ่ง“รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ”
ดั่งคำพังเพยที่ว่าใจคนหนังท้องกั้น คำนี้ไม่เกินจริงเลย
“งั้นแกกับจงจิ่งห้าวมันยังไงกันแน่?”เมื่อสงบอารมณ์ได้จวงจื่อจิ่นก็มองลูกสาวพลางถามขึ้นมาอีก“แกคงไม่ได้ชอบเขาใช่ไหม?”