กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่162 นายกำลังสงสัยอะไร
โรงพยาบาล
‘หลินซินเหยียน’ถูกส่งตัวเข้าห้องตรวจ จงจิ่งห้าวนั่งอยู่บนเก้าอี้แถวตรงระเบียงทางเดิน สายตามองไปยังประตูหน้าห้องตรวจเป็นระยะๆ
ไม่นาน ประตูห้องตรวจก็เปิดออก ‘หลินซินเหยียน’มีพยาบาลช่วยพยุงออกมา จงจิ่งห้าวลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไป ผายมือออกไปพยุงเธอไว้ แล้วถามคุณหมอที่ตามออกมาว่า “เธอเป็นยังไงบ้าง?”
คุณหมอถอดหน้ากากอนามัยออก “ไม่เป็นไรมาก สภาพจิตใจยังดูไม่ค่อยดีนัก น่าจะเพราะตกใจ ข้อเท้าเคล็ดนิดหน่อย ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่พักฟื้นไม่กี่วันก็หาย”
‘หลินซินเหยียน’ถือโอกาสซบเข้าที่อ้อมอกของจงจิ่งห้าว พูดอย่างเคอะเขินว่า “ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง”
ทันใดนั้น จงจิ่งห้าวขมวดคิ้วแล้วก้มลงมองเธอ เสียงของเธอ…
“อ้อ ตอนที่รถตู้ไฟไหม้ ฉันสำลักน่ะ เพราะงั้นเสียงก็เลยแหบ” ‘หลินซินเหยียน’รีบอธิบาย เธอจับที่แขนของจงจิ่งห้าว “เรารีบกลับบ้านกันเถอะ ฉันคิดถึงซีเฉินกับลุ่ยซีแล้ว”
จงจิ่งห้าวยืนนิ่ง รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ตั้งแต่เสิ่นเผยซวนหา‘หลินซินเหยียน’จนเจออย่างราบรื่น เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่ว่าผิดปกติตรงไหน เขาก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน โดยรวมคือ‘หลินซินเหยียน’ให้ความรู้สึกที่ต่างไป
“สำลักควันใช่มั้ย?” คุณหมอถาม
มือของ‘หลินซินเหยียน’สั่นเล็กน้อย หมอท่านนี้ไม่ใช่คนที่เธอจะใช้เงินซื้อตัวมาได้ ดังนั้นเธอเลยกลัวว่าหากหมอพูดอะไรที่ไม่เป็นผลดีกับเธอ ตอนนั้นคงคิดไม่ออกว่าจะตอบอะไร
“ถ้าสำลักควันหนาแน่น งั้นก็เป็นไปได้ที่จะมีผลต่อลำคอทำให้เสียงเปลี่ยน พักรักษาตัวสักระยะก็จะหายดีเป็นปกติ” คุณหมอไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ
แต่จงจิ่งห้าวที่อยู่ใกล้เธออย่างมากกลับสังเกตเห็นท่าทางตื่นเต้นร้อนรนชั่วขณะหนึ่งของเธอ
เธอร้อนรนอะไร?
ทำไมถึงต้องร้อนรน?
ลำคอได้รับบาดเจ็บมีอะไรที่บอกไม่ได้งั้นหรอ?
“ขอบคุณค่ะหมอ” ‘หลินซินเหยียน’ ถอนหายใจ แบบนี้ก็ดี ได้ฟังหมอพูดแบบนี้ เชื่อว่าจงจิ่งห้าวคงจะไม่สงสัยเรื่องเสียงของเธอแล้วล่ะ
ถึงหน้าตาจะศัลยกรรมได้ แต่เสียงนั้นยากที่จะทำให้เหมือนกันได้
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก เป็นหน้าที่หมออยู่แล้ว คนไข้ที่ประธานจงพามา พวกเราต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ” โรงพยาบาลแห่งนี้อุปกรณ์การแพทย์ส่วนมากล้วนได้รับความช่วยเหลือมาจากว่านเยว่ เลยมีใจเคารพยำเกรงต่อจงจิ่งห้าว
คนรวยนั้นมีมากมาย แต่จะมีสักเท่าไหร่ที่จะยินยอมทำเพื่อสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน?
เพราะว่าได้รับความช่วยเหลือจากว่านเยว่ ทำให้พวกเขาประหยัดเงินก้อนโตที่ไว้ใช้ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เวลาพวกเขารักษาคนไข้ ก็สามารถลดค่ารักษาไปได้เยอะเลย ช่วยเหลือครอบครัวยากจนที่ไม่มีเงินมารักษาไปได้ไม่น้อย
‘หลินซินเหยียน’ดูออกถึงความเคารพของหมอที่มีต่อจงจิ่งห้าว แม้แต่เธอเองก็ได้รับความสำคัญไปด้วย ความรู้สึกนี้ดีจัง เธอเข้าไปควงแขนจงจิ่งห้าว “จิ่งห้าว เรากลับบ้านกันเถอะ”
จงจิ่งห้าวคิดบางอย่าง คิดจนใจลอย พอได้ยินเสียงของ‘หลินซินเหยียน’ ถึงได้สติกลับมา เขาก้มหน้าลงมองที่เท้าของเธอแวบหนึ่ง “เดินได้รึเปล่า?”
“เจ็บนิดหน่อย” ‘หลินซินเหยียน’ถือโอกาสที่อยู่ในอ้อมอกของเขาออดอ้อน “เอางี้ดีกว่า คุณอุ้มฉันละกัน ฉันออกจะผอมไม่หนักด้วย”
จู่ๆก็ออดอ้อนขึ้นมาอย่างกะทันหัน จงจิ่งห้าวจะใจเต้นสักนิดก็ไม่มี เมื่อก่อนเพียงแค่เขากับหลินซินเหยียนอยู่ใกล้กัน หรือสัมผัสโดนตัวกัน เขามักจะใจเต้นไม่เป็นจังหวะเสมอ แต่ว่าวันนี้เธอเป็นฝ่ายรุกซะขนาดนี้ เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด เขามองหน้า‘หลินซินเหยียน’ เหมือนอยากมองออกอะไรสักอย่าง แต่ว่า ใบหน้านี้มันก็คือ ‘เธอ’ อย่างแน่นอน ทั้งจมูกก็เหมือน ปากก็เหมือน ดวงตาก็เหมือน
……
“เป็นอะไรไป หน้าฉันมีอะไรติดอยู่งั้นหรอ?” ‘หลินซินเหยียน’แบมือจับหน้าตัวเอง ถามอย่างระมัดระวัง “คุณเป็นอะไรรึเปล่า?”
จงจิ่งห้าวส่ายหน้า “เปล่า”
เขาพูดพร้อมกับโน้มตัวลงไปอุ้มเธอขึ้นมา ‘หลินซินเหยียน’โอบคอของเขาไว้ สายตามองไปทางใบหน้าของเขา เย็นชาไร้อารมณ์ คิ้วโก่งสูงเรียวงามดั่งกระบี่ สันจมูกสูงโด่งเป็นเส้นตรงราวรูปปั้นชั้นสูง ริมฝีปากบางปิดสนิทเก็บงำความรู้สึกและมั่นคงแข็งแกร่ง สมบูรณ์แบบทุกมุมจนไม่น่าเชื่อ
‘หลินซินเหยียน’มองจนหลงเสน่ห์
ขณะที่จงจิ่งห้าววางเธอลงบนรถ‘หลินซินเหยียน’ก็ยังคงมองเขา จงจิ่งห้าวคิ้วขมวด รู้สึกไม่ชอบที่ถูกเธอมองแบบนี้ยังไงไม่รู้
เขาวางเธอแรงนิดหน่อย จน‘หลินซินเหยียน’ได้สติ ทำท่าทางออดอ้อนใส่เขา “คุณทำฉันเจ็บนะ”
ทั้งๆที่ดูเป็นคู่รักกันมาก ดูออดอ้อนอย่างสนิทสนม แต่ว่าจงจิ่งห้าวกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
ความรู้สึกแบบนี้มันแปลกเกินไปแล้ว
เขามองลึกเข้าไปใน‘หลินซินเหยียน’ คำพูดปลอบโยนติดอยู่ที่ลิ้น แต่ไม่ได้พูดมันออกไป เขาขึ้นรถอย่างนิ่งขรึม แล้วขับรถออกไป
“เรากลับบ้านกันใช่มั้ย?” ‘หลินซินเหยียน’ถาม
บ้าน?
จงจิ่งห้าวเอียงหัวมองเธอ
เธอส่งยิ้มให้เขา “มีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า”
พอพูดคำนี้จบ จงจิ่งห้าวก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรอีกเลย
‘หลินซินเหยียน’รู้สึกได้ว่าจงจิ่งห้าวเหมือนจะไม่อยากพูดด้วย เพื่อไม่ให้เขาสงสัยเลยไม่ได้ปริปากพูดออกมาก่อนอีก
จนถึงรถจอดลงที่โรงแรม ‘หลินซินเหยียน’รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ พวกเขาไม่ใช่ว่าควรจะกลับบ้านพักหรอ?
“เรามาทำอะไรที่นี่.. ” แต่เหมือนเธอจะนึกบางอย่างขึ้นมา เธอรีบหุบปากทันที แก้มแดงระเรื่ออย่างเคอะเขิน
หรือว่า จงจิ่งห้าวอยากจะทำแบบนั้นกับเธอ…
ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น พึ่งจะมาถึงวันแรก จงจิ่งห้าวก็อยากที่จะสนิทสนมแนบแน่นกับเธอ จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง
จงจิ่งห้าวลงจากรถ เปิดประตูรถฝั่งของเธอ ก็พบว่าเธอแก้มแดงแจ๋
“ทำไมคุณหน้าแดง?”
‘หลินซินเหยียน’ก้มหน้าต่ำลง พูดอย่างเขินอาย “คุณพาฉันมาโรงแรม ยังจะมาถามฉันทำไม น่าเกลียด”
ถ้ามาโรงแรมเปิดห้อง ไม่ใช่มานอนหรอ?
พวกเขาชายหนึ่งหญิงหนึ่งจะทำอะไรกันล่ะ?
จงจิ่งห้าวต่อให้โง่กว่านี้ก็น่าจะรู้ว่าที่เธอพูดหมายถึงอะไร หลินซินเหยียนเปิดเผยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
อีกอย่างเธอก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยมา ทำไมมาครั้งนี้ถึงคิดอะไรแบบนี้?
เขาไม่ได้รู้สึกดีใจ แต่กลับรู้สึกสกปรก
ความรู้สึกต่อต้านนี้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว
เมื่อก่อนเขารู้สึกหวังให้เธอมาพึ่งพิงเขาเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกต่อต้านซะเอง
เขาขมวดคิ้ว
‘หลินซินเหยียน’สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของจงจิ่งห้าว รีบถามขึ้นว่า “ฉันพูดอะไรผิดไปใช่มั้ย?”
เขาเก็บอารมณ์แล้วตอบเบาๆว่า “เปล่า ที่นี่ที่พักของผม”
ที่พักของเขา?
ในใจของ‘หลินซินเหยียน’กระวนกระวาย ที่นี่จะเป็นที่พักของเขาไปได้ยังไง?
เขาไม่ได้พักอยู่ที่บ้านพักงั้นหรอ?
แล้วอีกอย่างเมื่อกี้เขาพูดว่า หลินซินเหยียนเคยมาที่นี่มาก่อน?
‘หลินซินเหยียน’เหงื่อออกหลัง เธอระงับความกระวนกระวาย กล่าวอย่างนิ่งเรียบ “นั่นสิ สงสัยสมองฉันจะไม่ค่อยดี ลืมไปแล้วน่ะ”
จงจิ่วห้าวยกมุมปาก ไม่ได้ตอบกลับ พยุงเธอลงจากรถ “ไปกันเถอะ”
‘หลินซินเหยียน’ถามขึ้น “ทำไมพวกเราถึงพักที่นี่ ไม่ใช่กลับบ้านล่ะ?”
“ตอนที่คุณหายตัวไป ผมบอกกับแม่ของคุณว่าพวกเรามาดูงานกัน เพราะงั้นพักอยู่ที่นี่สักสองวันก่อนค่อยกลับไป”
“อ้อ”
พอถึงที่พักจงจิ่งห้าวก็เปิดประตูห้อง พยุงเธอเดินเข้ามา เขาผลักประตูห้องนอนออก “คุณรีบพักผ่อนเถอะ”
“คุณไม่อยู่กับฉันหรอ?” ‘หลินซินเหยียน’ในใจรู้สึกหดหู่
เขาไม่ใช่ว่ารักหลินซินเหยียนมากงั้นหรอ? หลินซินเหยียนป่วยอยู่ เขาน่าจะควรอยู่เป็นเพื่อนนางไม่ใช่รึไง?
“ผมมีธุระนิดหน่อย ต้องไปข้างนอก” น้ำเสียงและท่าทางของเขาเรียบเฉยอย่างที่สุด
ไม่ได้เร่าร้อนหรือลุ่มหลงกับหลินซินเหยียน
‘หลินซินเหยียน’ก็ไม่กล้าไปเกาะติดเขามาก กลัวเขาจับจุดผิดปกติได้ “งั้นคุณรีบกลับมานะ”
“อืม รีบพักเถอะ” พอพูดจบจงจิ่งห้าวก็หันหลังเดินออกประตูไป
เย็นชาจนทำให้‘หลินซินเหยียน’คิดว่า เขาไม่ได้รักหลินซินเหยียนสักนิด
พอเดินมาถึงชั้นล่าง จงจิ่งห้าวหันกลับไปมองแวบหนึ่ง ไม่พบอะไรผิดปกติ เขาถึงควักมือถือออกมา โทรหาเสิ่นเผยซวน
โทรติดอย่างรวดเร็ว “อยู่ไหน?”
“ฉันอยู่บ้าน” วิ่งวุ่นทั้งคืน พอว่างเขาก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด
จงจิ่งห้าววางสายแล้วขึ้นรถ ขับไปทางที่พักของเสิ่นเผยซวน
เสิ่นเผยซวนพึ่งอาบน้ำเสร็จพอดี บนตัวสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาว คอเสื้อกว้างลงมาเล็กน้อย เผยให้เห็นแผงอกกำยำ พอได้ยินเสียงกดกริ่ง เขาพันสายคาดเอวเสร็จก็เดินไปเปิดประตู
ตอนรับโทรศัพท์เขาก็รู้ว่าจงจิ่งห้าวจะต้องมาหาแน่ ดังนั้นเลยไม่ได้ตกใจ เพียงแค่รู้สึกแปลก “อาการของคุณหลินเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้นายควรจะอยู่เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่รึไง?”
ทำไมถึงมีเวลาว่างมาหา?
ขณะนั้น เขาพึ่งสังเกตเห็นว่าบนหน้าของจงจิ่งห้าวไม่ได้มีความรู้สึกดีใจที่เจอหลินซินเหยียนเลย
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
จงจิ่งห้าวเดินเข้าไป พูดอย่างนิ่งขรึมว่า “เล่ารายละเอียดตอนเจอเธอให้ฉันฟังอย่างละเอียดที”
“นายกำลังสงสัยอะไร?”