กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่163 หล่อนไม่ใช่เธอ
“นายกำลังสงสัยอะไร?” เสิ่นเผยซวนรู้สึกงงนิดหน่อย ตอนนั้นเพื่อตามหาหลินซินเหยียนเขารีบร้อนมาก ตอนนี้ทำไมถึงนิ่งเฉย?
จงจิ่งห้าวเดินไปตรงหน้าต่าง ย้อนกลับไปนึกถึงตอนที่ใช้ชีวิตด้วยกันกับหลินซินเหยียนทีละอย่าง ท่าทางของเธอ รอยยิ้มของเธอ น้ำเสียงของเธอเวลาพูด ตอนนี้เธอก็คือเธอ แต่ว่าเขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่
“หล่อนไม่ใช่เธอ”
เสิ่นเผยซวน “…”
“ล้อฉันเล่นรึไง?” เขานั่งลงบนโซฟา คว้าน้ำแร่ที่วางอยู่บนโต๊ะ เปิดฝาขวด แล้วยกดื่มหนึ่งอึก “นางไม่ใช่เธอ งั้นหล่อนเป็นใคร คงไม่ใช่ว่ามีคนศัลยกรรมหน้าตาเธอแล้วปลอมเป็นเธอหรอกนะ…”
ศัลยกรรม?
ทันใดนั้น จงจิ่งห้าวหมุนตัวกลับ ใบหน้าที่งดงามแฝงไปด้วยความเย็นชา นัยน์ตาสงบนิ่ง
ดวงตาทั้งคู่สบตากัน เสิ่นเผยซวนตาเบิกกว้าง เข้าใจแล้วว่าทำไมจงจิ่งห้าวถึงมีรีแอคชั่นใหญ่ขนาดนี้ “นาย นายสงสัยว่าที่เจอไม่ใช่คุณหลิน? มีคนศัลยกรรมเป็นเธอ ปลอมเป็นเธอ?”
เสิ่นเผยซวนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “เหอรุ่ยหลินถูกเราขังเอาไว้ ใครจะศัลเป็นเธอได้ อีกอย่างจะต้องศัลให้เหมือนทุกอย่าง เกรงว่าวันสองวันคงจะทำไม่ได้หรอก”
ตรงจุดนี้จงจิ่งห้าวตอนนี้เองก็ยังหาคำตอบไม่ได้
แต่ว่าเขาสามารถมั่นใจได้ก็คือ ที่พวกเขาหาเจอไม่ใช่หลินซินเหยียนอย่างแน่นอน
นิสัยของคนคนหนึ่ง จะเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วได้ยังไงกัน?
เสิ่นเผยซวนนึกย้อนกลับไปตอนที่หาหลินซินเหยียนเจออย่างละเอียด “ตอนนั้นตามจากเบาะแสที่พบจากใกล้ๆบาร์ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ค่อยๆหาจนเจอรถตู้ที่ลักพาตัวเธอไป ปรากฏบนกล้องวงจรปิดแถวชานเมือง เราเลยไปค้นหารอบๆแถวนั้น ตอนที่เราหาเจอ รถตู้กำลังไฟไหม้อยู่ น่าจะไหม้น้ำมันรถ เปลวไฟรุนแรงมาก ควันดำคลุ้งไปหมด หลินซินเหยียนนอนสลบอยู่ในที่ไม่ไกลมาก ตอนนั้นเธอบอกว่ามีคนจะเผาเธอ ตอนที่เธอพยายามจะหนีเกิดข้อเท้าพลิกก็เลยล้มไป ทั้งหมดนี้ก็ไม่มีจุดที่น่าสงสัยนะ”
จงจิ่งห้าวยิ้มเบาๆ เผยความเย็นชาเล็กน้อย “เหอรุ่ยหลินอยากจะฆ่าเธอให้ตายจะตายไป จะหนีไปทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าเธอตายแล้วจริงรึเปล่างั้นหรอ? ”
“แล้วถ้าเธอมั่นใจมากว่าหลินซินเหยียนหนีไม่พ้นล่ะ?” เสิ่นเผยซวนยังคิดว่าจงจิ่งห้าวคิดมากไป
คนคนหนึ่งต้องศัลยกรรมเป็นคนอีกคนหนึ่ง ใบหน้าจะต้องผ่านมีดหมอมามากเท่าไหร่กัน?
“ถ้านายสงสัย หาหมอศัลยกรรมสักคน เข้าไปดูว่าหน้าของเธอศัลมารึเปล่า แค่นี้ก็รู้แล้วไม่ใช่รึไง?” เสิ่นเผยซวนแนะนำ
จงจิ่งห้าวมองเขาครู่หนึ่ง “ถ้าหากว่าไม่ใช่ ทำแบบนี้มีแต่แหวกหญ้าให้งูตื่นน่ะสิ”
จะทำให้หลินซินเหยียนเดือดร้อนรึเปล่า?
เขาจะไม่คิดพิจารณาไม่ได้
เสิ่นเผยซวนคิดอยู่สักพัก เสนอขึ้นมาว่า “ฉันจะเอายาสลบให้นาย นายคิดหาวิธีให้เธอกินเข้าไป รอจนเธอหลับสนิทแล้ว เราก็พาหมอเข้าไปตรวจ แบบนี้เธอก็ไม่รู้แล้ว”
เขาคิดว่า ถ้าหากผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หลินซินเหยียนจริงๆ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ต้องไม่ง่ายแน่ๆ
จะต้องรู้ทั้งหมดที่คนคนหนึ่งศัลยกรรมเป็นอีกคนหนึ่ง เวลาไม่กี่ปีคงทำไม่ได้ อีกอย่าง พวกเธอลงทุนลงแรงไปตั้งขนาดนี้จะให้ล้มเหลวได้ยังไง จะให้พวกเขาหาหลินซินเหยียนเจอง่ายๆได้ยังไง?
ยิ่งคิดเสิ่นเผยซวนก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย ไม่ทำให้กระจ่างเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ เขาเอาเท้าดันพื้นแล้วลุกขึ้นยืน “ฉันไปใส่เสื้อผ้า นายรอฉันแปปนึง”
เสิ่นเผยซวนในชุดเครื่องแบบสง่าผ่าเผย สูงเด่น ดูดีเป็นพิเศษ เขาหยิบกุญแจรถ “ไปกันเถอะ”
จงจิ่งห้าวมองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร เป็นเชิงตอบรับข้อเสนอของเขา
พอออกมาจากที่พักของเสิ่นเผยซวน จงจิ่งห้าวถือยากลับมาที่โรงแรม ส่วนเสิ่นเผยซวนรับผิดชอบไปตามหาหมอศัลยกรรมที่น่าเชื่อถือมา
ในโรงแรม‘หลินซินเหยียน’นอนไม่หลับสักนิดเดียว นั่งบ่นอุบอิบอยู่บนเตียงคนเดียว “จงจิ่งห้าวรักหลินซินเหยียนมากไม่ใช่รึไง? ทำไมฉันบาดเจ็บแบบนี้แล้ว เขาถึงไม่อยู่เป็นเพื่อนฉันเลยล่ะ? ”
ยิ่งคิด‘หลินซินเหยียน’ก็ยิ่งโมโห เธอลุกขึ้น เดินกะเผลกไปที่ห้องน้ำ มองดูตัวเองที่อยู่ในกระจก เธอใช้มือลูบไล้ใบหน้าที่เหมือนหลินซินเหยียนทุกอย่าง มั่นอกมั่นใจอย่างมาก “ต้องบอกว่า ใบหน้านี้สวย ประณีตจริงๆ”
เธอฉีกยิ้มกว้าง ยิ้มอย่างชั่วร้าย “จากนี้ไปฉันก็คือหลินซินเหยียน แม่ของลูกของจงจิ่งห้าว ถึงแม้จงจิ่งห้าวจะไม่ได้รักหลินซินเหยียนมากขนาดนั้น แต่ว่าในฐานะที่ฉันเป็นแม่ของลูกทั้งสองของเขา เขาคงจะทำดีกับฉันบ้างแหละ? ครึ่งชีวิตที่เหลือ ฉันก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ต้องสนใจสีหน้าของคนอื่น ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ ฮ่าฮ่า…”
ปึง…
เสียงประตูเปิดดังขึ้น ‘หลินซินเหยียน’รีบหุบยิ้มทันที แกล้งทำท่าทางอ่อนแอเดินออกมาจากห้องน้ำ
หน้าประตูมีเงาร่างสูงร่างหนึ่งเดินเข้ามา เธอยิ้มออกมาทันที “คุณกลับมาแล้วหรอ?”
จงจิ่งห้าวก้าวเท้าเดินเข้ามา ตอบอืมอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆ
‘หลินซินเหยียน’ทำเป็นว่าตอนที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับหลินซินเหยียนก็มีท่าทีไร้อารมณ์แบบนี้ หลินซินเหยียนยัยผู้หญิงคนนั้นคิดๆดูแล้วคงจะไม่รู้จักวิธีอ่อยผู้ชาย
ถึงแม้จะมีลูกให้เขาสองคน ก็ไม่ได้ทำให้เขารักจนถอนตัวไม่ขึ้น
ตอนนี้เธอคือหลินซินเหยียนแล้ว เธอจะต้องทำให้จงจิ่งห้าวรักเธอมากขึ้นเรื่อยๆให้ได้
เธอเดินกะเผลกไปทางจงจิ่งห้าว พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ฉันหิวแล้ว”
จงจิ่งห้าวแกล้งทำเป็นพยุงเธอสักหน่อย “ผมสั่งอาหารให้คุณนะ”
“ฉันอยากไปกินที่ภัตตาคาร”เธอถือโอกาสที่จงจิ่งห้าวกำลังพยุงเธอล้มตัวลงเข้าไปในอ้อมอกของเขา จับที่คอเสื้อของเขา “ได้มั้ยคะ? คุณไปกินที่ภัตตาคารเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
จงจิ่งห้าวหลุบตาต่ำ มองไปยังใบหน้าที่เธอมีเหมือนกับหลินซินเหยียนทุกอย่าง แต่กลับทำนิสัยแบบนี้ ก็รู้สึกขยะแขยง
“ได้มั้ยอ่ะคะ” ใบหน้าของ‘หลินซินเหยียน’แนบชิดบนอกของเขาอย่างสนิทสนม
เขาพลักเธอออกอย่างไร้สีหน้า “ขาคุณยังไม่ดี ผมให้คนมาส่งให้”
เขาใช้ท่าคุยโทรศัพท์ เพื่อหนีออกห่างจาก‘หลินซินเหยียน’
‘หลินซินเหยียน’จ้องร่างสูงนั้นอย่างไม่สบอารมณ์ เธอไม่พอใจ วันนี้เธอมีใบหน้าที่งดงาม แถมยังมีลูกให้เขาอีกสองคน เขาควรจะดีกับเธอมากๆถึงจะถูก เธอเดินเข้าไป โอบเอวที่ผอมเพรียวของเขาจากด้านหลัง “จิ่งห้าว คุณกำลังหลบฉันอยู่หรอคะ?”
จงจิ่งห้าวก้มหน้าลง มองสองมือที่กำลังกอดเอวของเขา นัยน์ตาฉายแววเยือกเย็นอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากมีร่องรอยกระตุกขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้ยิ้มแต่อย่างใด “ผมจะหลบคุณไปทำไม?”
พอได้ยินแบบนี้‘หลินซินเหยียน’ก็คลี่ยิ้ม ยิ้มอย่างสดใส เอาหน้าเข้าไปแนบชิดกับแผ่นหลังของเขา “ถ้างั้นคุณ ยังอยากให้ฉันคลอดลูกให้มั้ยคะ? …ฉันอยากจะมีลูกให้คุณอีกสักคนสองคน ฉันคิดว่ามีลูกเยอะหน่อยถึงจะคึกคัก ถึงยังไงคุณก็เป็นสายเลือดเดียวของตระกูลจง”
ตอนนี้เอง จงจิ่งห้าวก็มั่นใจทั้งหมดแล้วว่าเธอไม่ใช่หลินซินเหยียนแน่นอน
เขาจำได้ว่าหลินซินเหยียนเคยบอกว่า เธอได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย ไม่สามารถคลอดลูกได้อีก
เขาค่อยๆหลับตาลง รอให้อารมณ์กลับมาปกติสักพัก เขาถึงจะลืมตาขึ้นมา
“คุณอยากจะคลอดกี่คนก็ไม่มีปัญหา”
นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่แสดงสีหน้าใดๆแม้สักเล็กน้อย
‘หลินซินเหยียน’ในใจรู้สึกดีใจ หมายความว่าเขาเต็มใจที่จะมีลูกด้วยกันกับเธอ
ถ้าหากว่าเธอท้อง คนสองคนก็จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปเอง ‘หลินซินเหยียน’หัวใจพองโต กอดแขนของเขาแน่น “จิ่งห้าว ฉันดีใจเหลือเกิน”
ขณะนั้น ประตูก็มีเสียงดังขึ้น จงจิ่งห้าวปัดมือเธออก “ผมไปเปิดประตู”
‘หลินซินเหยียน’ตอบอืมอย่างยิ้มๆ “คงจะมาส่งอาหาร”
ประตูห้องเปิดออกเป็นคนส่งอาหารจริงๆ
“ประธานจง”พนักงานสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อกั๊กสีดำ สะอาดสะอ้าน เคารพนับถือต่อจงจิ่งห้าวอย่างมาก
จงจิ่งห้าวให้เขาเข้ามา
มือของเขาเข็นรถเข็นอาหารเข้ามา นำอาหารแต่ละอย่างวางลงบนโต๊ะอาหาร วางเสร็จเรียบร้อย จัดเตรียมจานชามและตะเกียบเรียบร้อย “เรียบร้อยแล้วครับ หากต้องการอะไรเพิ่มค่อยเรียกผมนะครับ”
ตอนที่พนักงานเข็นรถเข็นอาหารออกไป ไม่ทันระวังชนเข้ากับ‘หลินซินเหยียน’ที่กำลังเดินมายังโต๊ะอาหาร
เขารีบขอโทษทันที “ขอโทษครับ ขอโทษครับ คุณไม่เป็นไรนะครับ…”
“ไม่แหกตามองรึไง?”‘หลินซินเหยียน’เมื่อก่อนตอนเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลินก็มีนิสัยเอาแต่ใจ เอาแต่ใจจนติดเป็นนิสัย จะให้เปลี่ยนในเวลาสั้นๆคงเป็นไปไม่ได้ เธอทำหน้าบึ้งตึง “ชนคนแล้ว คิดว่าแค่ขอโทษก็พอแล้วงั้นหรอ?”
พนักงานขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เขาเคยเจอมาก่อน เคยมากับประธานจง ดูแล้วเหมือนจะเป็นคนที่เข้าหาง่ายคนหนึ่ง ทำไมอารมณ์ร้อนแบบนี้นะ?
ยังไม่ยอมจบง่ายๆอีกงั้นหรอ?
“เชื่อไม่เชื่อ ฉันทำให้แกกระเด็นออกไปจากโรงแรมนี้ได้?” ‘หลินซินเหยียน’ถือว่าตัวเองเป็นคนข้างกายของจงจิ่งห้าว ยิ่งพูดก็ยิ่งอวดเบ่ง
พนักงานรู้สึกลำบากใจ ขอโทษไม่หยุด “ต้องขอโทษจริงๆครับ ผมตาไม่ดี เผลอชนคุณ…”
“นายออกไปเถอะ” จงจิ่งห้าวตัดบทพนักงานที่กำลังขอโทษ
‘หลินซินเหยียน’คิ้วขมวด ไม่พอใจกับสิ่งที่จงจิ่งห้าวทำ “มันชนฉันนะ คุณจะปล่อยไปแบบนี้น่ะหรอ?”