กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่167 จะคิดถึงเธอหรือเปล่า
แสงอาทิตย์ค่อยๆหายลับไป ปราศจากความเดือดซ่านของฤดูร้อน ท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนไม่ร้อนไม่หนาว เหมือนดั่งเสื้อผ้าที่สวมใส่นานแล้ว นุ่มและอบอุ่น ห่อหุ้มร่างกาย ลมหนาวพัดผ่านมาเป็นครั้งคราว แต่กลับไม่รู้สึกหนาว
แสงอาทิตย์กำลังดี แต่บนระเบียงหน้าลานบ้านแห่งหนึ่ง มีผู้หญิงผมดำกระจัดกระจายคนหนึ่งนั่งอยู่ หน้าต่างของระเบียงเปิดออก สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ตามต้องการ แต่ท่าทางของเธอดูเจ็บปวดมาก ระเบียงเล็กๆถูกคลุมด้วยหน้าต่างกันขโมยแบบแข็งแรง เธอถูกขังไว้ในบ้าน โดยประตูบ้านถูกล็อกปิดตายไว้ ที่นี่เป็นที่เดียวที่เธอมองเห็นภายนอกได้
ที่นี่มีคนใช้อยู่หนึ่งคน ที่เหลือมีเพียงเหอรุ่ยเจ๋อเท่านั้น ตั้งแต่วันที่เธอถูกจับมาที่นี่ เหอรุ่ยเจ๋อก็ไม่เคยออกไปไหน วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงออกไปจากที่นี่
ภายนอกเขาเชื่อว่าเธอเสียความทรงจำ ไม่ได้ให้เธอฉีดยา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เขาแทบจะไม่ยอมให้เธอคลาดสายตาจากเขาเลยสักวินาที เข้าห้องน้ำยังให้คนใช้ตามเธอไป
เช่นเดียวกับวันนี้ เมื่อเหอรุ่ยเจ๋อไม่อยู่ เธอคิดว่าจะได้พักสักหน่อย หรือหาทางออกจากที่นี่ แต่ว่าเหอรุ่ยเจ๋อก็ขังเธอไว้ในบ้าน
หน้าต่างบานเดียวในบ้านนี้ก็คือระเบียงนี้ แต่มันก็ถูกปิดตายไว้ ราวกับว่าเธอต้องกลายเป็นผีเสื้อตัวหนึ่ง ถึงจะหนีจากที่นี่ได้
เธอค่อยๆหลับตาลง ถ้าเธอไม่อยู่ หลินซีเฉินและหลินลุ่ยซีจะตามหาเธอหรือไม่?
จะคิดถึงเธอหรือเปล่า?
ตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรอยู่…
อีกอย่าง จงจิ่งห้าวจะเป็นห่วงเธอมั้ย จะตามหาเธอรึเปล่า…
ทั้งหมดนี้เธอไม่รู้อะไรเลย
ในตอนนี้เองเสียงประตูเปิดดังขึ้น
หลินซินเหยียนลืมตาขึ้นทันที ความรู้สึกที่เจ็บปวดและไม่สบายใจเมื่อกี้นั้นหายไปในทันที เปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
เธอกำมือไว้ข้างหลังแน่นและจ้องไปที่ประตู
เหอรุ่ยเจ๋อสวมชุดลำลองสีดำ สวมหมวกแก๊ปและแว่นกันแดดสีดำ เมื่อประตูเปิดออก เขาก็ถอดหมวกและแว่นกันแดดออก
“เหยียนเหยียน ฉันกลับมาแล้ว” เขาเอาของที่ถอดออกในมือ วางลงบนโต๊ะ ปิดประตูแล้วเดินไปทางหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนก้าวถอยหลังอย่างนิ่งๆ แสร้งทำเป็นไม่มีความสุข “คุณออกไปไม่พาฉันไปด้วย ยังขังฉันไว้ในบ้านอีก ปากก็บอกว่ารักฉัน ทำไมฉันกลับรู้สึกว่า ฉัเหมือนถูกกักขังเลย?”
เหอรุ่ยเจ๋อเดินเข้ามากอดเธอ “เด็กโง่ ฉันกำลังปกป้องเธออยู่ ข้างนอกคนไม่ดีเยอะมาก ฉันกลัวเธอออกไปแล้วจะเจอคนไม่ดีทำร้าย เป็นห่วงเธอ เธอยังไม่รับรู้อีกหรอ?”
ขณะที่เหอรุ่ยเจ๋อพูดก็บีบจมูกของเธอ ก้มศีรษะลงจูบที่หน้าผากของเธอ…
หลินซินเหยียนแข็งทื่อไปทั้งตัว อยากจะผลักเขาออกไป แต่ก็กลัวว่าเขาจะสงสัยว่าเธอไม่ได้สูญเสียความทรงจำและจะฉีดยาให้เธอ
ต่อให้รังเกียจแค่ไหน เธอก็ทำได้แค่อดทน แกล้งทำเป็นเขินแล้วผลักเขาเบาๆ “ฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย ตอนนี้ฉันหิวแล้ว”
เธอไม่ได้หิวจริงๆ แค่ข้ออ้างที่จะให้เหอรุ่ยเจ๋อปล่อยตัวเอง
เหอรุ่ยเจ๋อขมวดคิ้วแล้วมองนาฬิกา “เกือบสองโมงแล้ว ทำไมยังไม่กินข้าวเที่ยงอีก?”
หลินซินเหยียนก้มหน้า รอยโค้งของมุมปากที่ยกขึ้นเหน็บแนมเป็นพิเศษ“คุณล็อคประตูไว้ คนใช้ก็เปิดไม่ได้ ฉันจะกินข้าวได้อย่างไร?”
เหอรุ่ยเจ๋อลืมตรงนี้ไป เพื่อที่จะไม่ให้หลินซินเหยียนหนีไป เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แม้แต่คนใช้ที่เขาจ่ายมาแพง ก็ยังเก็บเอาไว้ กุญแจของชั้นนี้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีกุญแจ
“โกรธหรอ?”เหอรุ่ยเจ๋อเชยคางเธอขึ้น ให้เธอมองตนเอง
หลินซินเหยียนกระพริบตาปริบๆ ถือโอกาสระบายความทุกข์ออกมา “คุณคิดว่าไง? ขังเหมือนฉันเป็นนักโทษคนหนึ่ง ข้าวก็ไม่ให้กิน เป็นคุณ ไม่โกรธงั้นหรอ?”
เหอรุ่ยเจ๋อขอโทษอย่างยิ้มๆ “เป็นความผิดของฉันเอง ความสะเพร่าของฉันเอง เธอลงโทษฉันเลย”
“ฉันไม่กล้าหรอก”หลินซินเหยียนหลับตาลง
“ไม่มีอะไรต้องกลัว ขอแค่เธอเอ่ยออกมา ฉันจะให้อย่างแน่นอน” เหอรุ่ยเจ๋อตบเข้าที่อกสัญญา
เธอลืมตาไร้เดียงสาและมองเขาอย่างมีความหวัง “ถ้าอย่างนั้นฉันอยากออกไปข้างนอก คุณพาฉันไปได้มั้ย?”
“ได้” เหอรุ่ยเจ๋อสัญญา กอดเข้าที่ไหล่ของเธอ “ก่อนจะออกไป เธอจะต้องกินข้าวก่อน ไปกันเถอะ เธออยากกินอะไร ฉันจะให้คนใช้ทำอาหารให้”
หลินซินเหยียนตื่นเต้นในใจ เขาตกลงที่จะพาเธอออกไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอก็มีโอกาสที่จะหนี เลยพูดออกไปมั่วๆว่า “บะหมี่อุด้ง”
เหอรุ่ยเจ๋อโอบหลินซินเหยียนเดินลงบันได “ป้าฮัวทำบะหมี่อุด้งชามหนึ่ง”
“ค่ะ” ป้าฮัวยังคงสวมผ้ากันเปื้อนอยู่ กำลังเช็ดทีวี เมื่อได้ยินคำสั่งของเหอรุ่ยเจ๋อ จึงวางผ้าขี้ริ้วลงและเดินเข้าไปในครัว
เหอรุ่ยเจ๋อโอบหลินซินเหยียนนั่งลงตรงโซฟาข้างหน้า หยิบผมของเธอขึ้นมาสูดดมกลิ่นและจูบเบาๆ เขาหลงใหลอยู่กับกลิ่นของเธอ รูปลักษณ์ของเธอ ตราบใดที่เธออยู่กับเขา เขามักจะอยากกอดเธอ ลูบผมเธอ หอมแก้มเธอ ฯลฯ
หลินซินเหยียนอดทนกับท้องไส้ที่ปั่นป่วน ถามลองเชิง “คุณจะพาฉันออกไปเมื่อไหร่?”
“พรุ่งนี้”เหอรุ่ยเจ๋อใช้ท่าดมกลิ่นผมของเธอ ชำเลืองตามองใบหน้าของเธอ
หลินซินเหยียนหลับตาลง ขนตาเรียวยาวสั่นเล็กน้อย ความสุขใจของเหอรุ่ยเจ๋อ ทำให้เธอไม่อยากจะเชื่อ
“จริงหรอ?”
“จริง”เหอรุ่ยเจ๋อหายใจเข้าลึกๆ โอบเธอเข้ามาในอ้อมแขน “ที่ฉันออกไปเมื่อกี้ก็เพื่อไปจัดการเรื่องเรื่องหนึ่ง พรุ่งนี้เราจะไปจากที่นี่กัน”
เขาตัดการติดต่อกับทุกคน นี่ก็เป็นแผนที่วางเอาไว้ตอนนั้น
หากมีการติดต่อก็จะมีร่องรอย ไม่ว่าจงจิ่งห้าวจะรู้ว่าหลินซินเหยียนที่อยู่ในบ้านนั้นเป็นตัวปลอมหรือไม่ก็ตาม เขาก็ไม่อยากเสี่ยง ทำให้คนอื่นรู้ว่าหลินซินเหยียนอยู่ที่นี่
ผ่านช่องทางปกติ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นตั๋วรถหรือตั๋วเครื่องบิน ก็ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน ใช้ชื่อจริงจะทำให้ข้อมูลของพวกเขาง่ายต่อการถูกเปิดเผย ดังนั้นเขาจึงเตรียมรถยนต์ไว้ ไม่ขึ้นทางด่วน ออกจากเมืองBจากถนนเส้นเล็กๆด้านล่าง แล้วไปสักเมืองในมณฑลซวนที่ไหนมีภูเขาหลายลูก การสัญจรจะไม่ค่อยพัฒนา ทั้งยังอยู่ไกลจากเมืองB สามารถอาศัยสักที่อยู่ได้ชั่วคราว
รอผ่านช่วงนี้ไป เขาจะพาหลินซินเหยียนออกนอกประเทศ เพื่อไม่ให้ใครหน้าไหนหาพวกเขาพบอีก
เขาก็สามารถอยู่กับเธอได้ตลอดไป ในอนาคตก็สามารถมีลูกเป็นของพวกเขาเอง
ในชีวิตนี้ เขาก็ไม่เสียใจอะไรอีก
หลินซินเหยียนเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาต้องการพาเธอออกไปจากที่นี่?
“ฉันคิดว่าที่นี่ก็ดีแล้วนะ…”
“ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเรา”เหอรุ่ยเจ๋อพูดขัดเธอ
ป้าฮัวเอาบะหมี่อุด้งมา “บะหมี่เสร็จแล้วค่ะ”
“วางบนโต๊ะเลย”เหอรุ่ยเจ๋อกล่าว หยิบตะเกียบที่ป้าฮัวส่งให้ยื่นให้กับหลินซินเหยียน “รีบกินเถอะ อืดแล้วมันจะไม่อร่อยนะ”
หลินซินเหยียนรับตะเกียบมา ไม่รู้สึกอยากอาหารเลยสักนิด แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นกินอย่างหอมกรุ่น กินเสร็จก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมา บะหมี่พวกนั้นราวกับเป็นก้อนหินอย่างไรอย่างนั้น ติดอยู่ในหลอดอาหารของเธอ ลงถึงท้องก็ไม่ยอมย่อย
“ไม่สบายหรอ?” เหอรุ่ยเจ๋อถาม
หลินซินเหยียนจับหน้าท้องของเธอ ใบหน้าซีดเซียว แต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“ฉันจะช่วยพยุงเธอขึ้นไปพักผ่อนสักครู่”เหอรุ่ยเจ๋อพยุงเธอลุกขึ้น
เมื่อเห็นเธอรู้สึกทรมานมาก ป้าฮัวจึงแนะนำว่า “หรือจะให้ตามหมอให้มั้ยคะ?”
เหอรุ่ยเจ๋อเอียงคอจ้องหน้าเธอ เป็นการเตือน “เธอไม่สบายฉันจะไม่รู้รึไง? ต้องให้เธอมาบอกฉันหรอ?”
ที่นี่จะให้คนนอกรู้ไม่ได้ เขาไม่มีวันยอมให้คนแปลกหน้าเข้ามา
เขาจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงขึ้นเด็ดขาด
ป้าฮัวตกใจที่เธอพูดมากเกินไป ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว
หลินซินเหยียนรู้ว่าตนเองเป็นอะไร อาจเป็นเพราะอารมณ์ไม่ดี เลยทำให้สะสมอาหาร
กลับถึงห้องเธอก็นอนลงบนเตียง“ขอฉันอยู่คนเดียวสักพักได้ไหม?”
เขาไม่ได้เรียกหมอมาให้เธอ เธอขออย่างนี้ เหอรุ่ยเจ๋อคงปฏิเสธไม่ได้ ตอบว่า “โอเค งั้นเธอพักผ่อนเถอะ สายๆหน่อยฉันจะกลับขึ้นมา”
หลินซินเหยียนหลับตาลงอย่างเคร่งขรึม ไม่อยากจะพูดอะไรสักคำ
เธอขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ลืมตาขึ้น มองดูเหอรุ่ยเจ๋อล็อคประตูห้อง
เธอเบื่อและเหนื่อย เมื่อคืนเหอรุ่ยเจ๋อก็นอนกอดเธออยู่ที่นี่ ทั้งคืนเธอแทบไม่ได้นอน ไม่กล้าหลับตา กลัวว่าหลับไปแล้ว เขาจะทำอะไรมิดิมิร้ายกับเธอ
ตอนนี้เอง เธอทั้งง่วง ทั้งปวดท้อง