กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่19 ทั้งๆ ที่ไร้สาระแต่ยังอาลัยอาวรณ์
หลินซินเหยียนรู้สึกว่าเขาแปลกประหลาด
เขาคบกับไป๋จวู่เวยไม่ใช่เหรอ?
แล้วอีกอย่างเธอกับเหอรุ่ยเจ๋อ ก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบที่เขาคิด ทำไมเขาต้องเข้ามาก้าวก่ายด้วย?
“ฉันไม่ได้ยุ่งกับคุณ ถ้ายังงั้นก็ขอรบกวนให้คุณไม่เข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วน——”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆ ริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดกั้น
ทุกถ้อยคำอยู่ที่ปลายลิ้น แต่ว่ากลับพูดไม่ออก
“อื้อ——”
หลินซินเหยียนตอบสนอง แล้วก็ผลักเขาออก
จงจิ่งห้าวที่ได้สติกลับมาอีกครั้ง ก็ถอยไปด้านหลัง
เขามองผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ!
เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป?
ไป๋จวู่เวยเป็นคนริเริ่มเอง เขายังไม่ได้มีความปรารถนาที่อยากจะอยู่ใกล้เธอเลย
พอเห็นผู้หญิงคนนี้ปิดริมฝีปากสีชมพูของตัวเองไม่หยุด สมองของเขาก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ เขาสูญเสียการควบคุมของตัวเองแล้วทำสิ่งที่ทำให้เขาเองประหลาดใจ!
หลินซินเหยียนนั้นนอกจากคืนนั้นแล้ว ไม่เคยมีพฤติกรรมใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย เธอเขินอาย และช็อก
“คุณ คุณมีสิทธิอะไร? ” หลินซินเหยียนรู้สึกว่าตัวเองถูกล่วงละเมิด
เธอขายตัวเอง แต่ว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่สามารถทำอะไรก็ได้
เขามีสิทธิอะไร?
จงจิ่งห้าวหันหน้าไป หันหลังให้กับเธอ “เธอคือภรรยาของฉัน”
เพราะฉะนั้นทำแบบนี้มันก็ไม่เกินไปหรอก!
หลินซินเหยียนเบิกตาโพลง นี่ นี่มันเป็นการเถียงแบบข้างๆ คูๆ!
“พวกเราไม่ใช่สามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่การทำธุรกิจเท่านั้น!” เสียงของหลินซินเหยียนสั่น
เธอกลัวการสัมผัสใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้ชาย
คืนนั้นก็เป็นฝันร้ายของเธอพอแล้ว!
เธอปฏิเสธความสนิทสนมระหว่างชายและหญิง
หลินซินเหยียนโมโหมากเกินไป ก็เลยไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของจงจิ่งห้าว ความสงบและใจเย็นของเขานั้น มันก็เป็นแค่การเสแสร้งให้เธอเห็นแค่นั้นเอง
ถ้าเกิดว่าหลินซินเหยียนใจเย็นพอ แล้วมองอย่างละเอียดก็จะพบว่าหูของจงจิ่งห้าวนั้นแดง
“ต่อให้มันเป็นการทำธุรกิจร่วมกัน แต่ว่าเธอก็ไม่ได้บอกว่า ในช่วงเวลาของการเป็นสามีภรรยากันนั้น ห้ามทำในเรื่องที่สามีภรรยาทำกัน” เขาค่อยๆ หันหน้ามา แล้วก็มองไปที่หลินซินเหยียนที่เกือบจะพังทลาย
เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน
จูบของเขามีพิษถึงขนาดทำให้พังทลายขนาดนี้เลยเหรอ?
หรือว่า เธอเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้ผู้ชายคนนั้นยังงั้นเหรอ?
เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เธอ “ผู้ชายคนเดียว แม้แต่ผู้หญิงที่ตัวเองชอบยังปกป้องไม่ดี เขาเป็นผู้ชายประสาอะไรกัน? มีอะไรควรค่าให้เธอรัก? มีอะไรให้เธอต้องปกป้องความบริสุทธิ์ไว้เพื่อเขา? ”
หลินซินเหยียนไม่เข้าใจเหตุผล คำพูดพวกนี้ของเขามันหมายความว่ายังไงกัน?
หรือว่าเขากำลังพูดถึงเหอรุ่ยเจ๋ออยู่?
ตอนที่หลินซินเหยียนกำลังอยากจะอธิบายนั้น จงจิ่งห้าวที่กลับมาสงบเหมือนเดิม ก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วก็นั่งลง เอนหลังอย่างเกียจคร้าน แล้วก็วางมือข้างหนึ่งลงบนโต๊ะ สีหน้าดูเฉยเมยเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าการกระทำที่ใกล้ชิดเมื่อกี้นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ที่ดินที่อ่าวรีพัลส์เบย์ฉันสามารถให้เธอได้ แต่ว่า——”เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ใช่ให้เปล่านะ”
หลินซินเหยียนกำมือแน่น ควบคุมไม่ให้มันสั่นไม่ได้ ความคิดนับพันอยู่ในใจ ท้ายที่สุดเธอก็พยายามกดความรู้สึกต่อพฤติกรรมเจ้าชู้ของจงจิ่งห้าวไว้
เธอพูดอย่างสงบว่า “คุณต้องการอะไร? ”
จงจิ่งห้าวหรี่ตา เสียงดูส่าย “ตอนนี้ยังคิดไม่ออก เดี๋ยวพอคิดออกแล้วจะบอก”
เกรงว่านี่จะเป็นเรื่องที่หุนหันพลันแล่นที่สุดที่เขาเคยทำตั้งแต่เกิดมา
เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด!
ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา!
หลินซินเหยียนเม้มปาก เธอแค่อยากแย่งสิ่งพวกนั้นคืนมาจากหลินกั๋วอัน แต่ว่ามันไม่ง่ายเลย ถ้าเกิดว่าสามารถมีแต้มต่อเพื่อมาต่อรองกับหลินกั๋วอันได้ ก็คงจะดี
แต่ว่า——
“ฉันไม่ได้ให้เธอฆาตกรรมหรือว่าลอบวางเพลิง และก็ไม่ได้ให้ทำอะไรที่มันผิดศีลธรรม” ราวกับว่าจงจิ่งห้าวมองความกังวลของเธอออก ก็เลยพูดยั่วยวน
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “โอเค”
ตอนนี้เธอไม่มีอะไรทั้งนั้น แล้วจะกลัวอะไรกัน?
ถ้าเกิดว่าแย่งสิ่งต่างๆ เหล่านั้นกลับคืนมาได้ เธอก็สามารถพาแม่ไปจากที่นี่ และหาสถานที่สงบๆ และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น
“ฉันจะย้ำอีกครั้งว่า ตอนที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์สามีภรรยากับฉัน ห้ามมีผู้ชายคนอื่น!”พอนึกถึงภาพที่เธอกอดอยู่กับเหอรุ่ยเจ๋อ ในใจเขาก็มีกองไฟเกิดขึ้นอย่างไม่สามารถอธิบายได้
“ฉันกับ——”
“เธอออกไปได้แล้ว!”เธอยังไม่ทันจะได้พูดออกมา ก็ถูกจงจิ่งห้าวตัดบทไปซะก่อน
เขาไม่อยากได้ยินหลินซินเหยียนพูดเกี่ยวกับเรื่องของตัวเองกับผู้ชายคนนั้น
ได้ยินแล้วรำคาญ!
หลินซินเหยียนขยับริมฝีปาก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร หันหลังแล้วเดินออกมา
วินาทีที่ประตูห้องทำงานถูกปิดลง ความสงบและใจเย็นของจงจิ่งห้าวเมื่อกี้นี้ก็ได้หายไปในทันที
เขาขมวดคิ้ว เมื่อกี้เขาหุนหันพลันแล่นเกินไป
คิดถึงจูบสั้นๆ แต่กลับฝังความประทับใจที่ลึกซึ้งนั้น นิ้วมือของเขาก็มาแตะที่ริมฝีปาก ตรงนั้นเหมือนกับว่าจะยังมีกลิ่นของเธออยู่ โดยที่ไม่รู้ตัว รอยยิ้มจางๆ ก็ผุดขึ้นจากมุมปากของเขา
แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังยิ้มอยู่
ทั้งๆ ที่มันไร้สาระ แต่ก็อาลัยอาวรณ์
ริมฝีปากของเธอ มันนุ่มมากจริงๆ
เหมือนกับไป๋จวู่เวยมาก
แต่ว่าหลังจากผ่านคืนนั้นไป กลับไม่เจอสิ่งนั้นบนร่างกายของไป๋จวู่เวยอีกแล้ว รสชาติที่ทำให้เขาหลงใหล
หรือว่าเป็นเพราะร่างกายของเขาในตอนนั้น เลยทำให้เป็นแบบนั้นรึเปล่า?
ความรู้สึกแบบนี้มันแปลกประหลาดมากจริงๆ
พอออกมาจากห้องทำงานหลินซินเหยียนก็ไม่อยู่ที่บ้าน แม่ยังอยู่ที่โรงพยาบาล เธอจำเป็นต้องไปดูแล พึ่งจะออกจากบ้าน ก็บังเอิญเจอไป๋จวู่เวยที่หน้าประตู
ทุกครั้งที่เจอเธอ เธอจะแต่งหน้าอย่างงดงามและละเอียดอ่อน เสื้อผ้าเข้ารูป ทั้งสวยและสง่างาม
“คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ? ” ไป๋จวู่เวยยิ้มพร้อมกับเอ่ยถาม
“อืม” หลินซินเหยียนตอบอย่างเรียบง่าย สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอไม่อยากจะสนิทชิดเชื้ออะไรมากมาย ดูก็ใสซื่อนะ แต่ว่าไม่จำเป็นหรอก
“คุณหลิน คุณตั้งท้องลูกของคนอื่น แล้วมาแต่งงานกับอะห้าว ที่เขาแต่งงานกับคุณ ก็เพราะว่าสัญญาการแต่งงานที่แม่ของเขาทำไว้ให้ ฉันหวังว่าคุณจะไม่คิดอะไรเลยเถิด ยังไงคนที่เขารักก็คือฉัน”
ความหมายของสิ่งที่ไป๋จวู่เวยพูดนั้นชัดเจนอยู่แล้ว หลินซินเหยียนจะฟังไม่ออกได้ยังไงกัน
จงจิ่งห้าวรักเธอ หลินซินเหยียนรู้ดีอยู่แล้ว แล้วมีความจำเป็นอะไรต้องมาเน้นย้ำต่อหน้าเธอด้วย?
ไม่รู้สึกว่ามันเป็นการเกทับกันเหรอ?
หลินซินเหยียนยิ้ม “ฉันรู้สถานะของตัวเองดี คุณไป๋ไม่จำเป็นต้องเอาแต่คอยเตือนฉันหรอกค่ะ”
ไป๋จวู่เวยพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง เธอถูกบล็อกจนไม่รู้จะพูดอะไร คิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากัน ผู้หญิงคนนี้อายุยังไม่เยอะ แต่ว่าสติปัญญากลับเหมือนผู้ใหญ่
ตอนนี้เอง เธอก็สังเกตได้ว่าประตูห้องทำงานถูกเปิดออก มีเงาของคนหนึ่ง ไป๋จวู่เวยก็ตัดสินได้เลยว่านั่นคือจงจิ่งห้าว เธอกลอกตา แล้วก็ยื่นมือไปผลักหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนกำลังตั้งท้องอยู่ ในฐานะแม่ เธอยิ่งกระตือรือร้นที่จะปกป้องลูก ตอนที่ไป๋จวู่เวยจะผลักเธอนั้น ราวกับว่าเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ เธอผลักกลับไปในทันที
“โอ๊ย——”
ไป๋จวู่เวยสวมรองเท้าส้นสูง พอถูกผลักนั้นก็แทบจะล้มลงทันที
และภาพเหตุการณ์นี้ก็อยู่ในสายตาของจงจิ่งห้าวที่พึ่งออกมาจากห้องทำงาน เขารีบเข้าไปจับไป๋จวู่เวยที่กำลังจะล้มลง
พอถูกจงจิ่งห้าวกอดไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ หัวใจของไป๋จวู่เวยก็เต้นแรง เธออาศัยโอกาสนี้ยื่นแขนไปกอดคอของเขาไว้ แล้วก็พูดด้วยเสียงแหบหลังจากตกใจ “อะห้าว——”
เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ มีแค่ท่าทางที่ดูตื่นตกใจเพียงเท่านั้น
หลินซินเหยียนที่ตั้งสติกลับมาได้ เงยหน้าขึ้นมาก็พบกับสายตาที่ประหลาดใจคู่นั้น จงจิ่งห้าวจ้องหน้าเธอเขม็ง “ทำไมต้องทำแบบนี้? ”
หลินซินเหยียนกำลังอยากจะอธิบาย แต่ว่าไป๋จวู่เวยก็แย่งเธอก่อน เธอส่ายหน้าให้กับจงจิ่งห้าว “ไม่เป็นไร มันไม่เกี่ยวกับคุณหลินหรอก”
ถ้าเกิดว่าก่อนหน้านี้หลินซินเหยียนยังไม่รู้เกี่ยวกับแผนของไป๋จวู่เวย แล้วตอนนี้ยังไม่รู้อีกเธอก็โง่แล้ว
เธอก็รู้อยู่แล้วว่าการแต่งงานระหว่างเธอกับจงจิ่งห้าวนั้นมันเป็นแค่การแต่งงานตามสัญญา แล้วทำไมต้องใส่ร้ายเธอด้วย?
เธอกลัวอะไรกัน?
หลินซินเหยียนเพิกเฉยต่อคำถามของจงจิ่งห้าว แล้วก็พูดอย่างสบายๆ ว่า “ฉันไม่ได้ทำ คุณจะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่”
พอพูดจบเธอก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไปด้านนอก
เรื่องที่เธอไม่ได้ทำ เธอไม่มีทางยอมรับหรอก
แล้วก็ยิ่งไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหน มาทำร้ายลูกของเธอได้
ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไป เธอก็จะยังคงทำแบบเดิม
“หยุดอยู่ตรงนั้น!”