กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่22 ไม่อยากจับผิด
” แม่ หนูขอโทษ อย่าทิ้งหนูไป…. ”
จงจิ่งห้าวจ้องเขม็ง มองไปที่มองเล็ก ๆ ของเธอที่กำปกเสื้อของเขาแน่น สายตาของเขาค่อย ๆ ไล่มองลงบนใบหน้าของเธอ ท่าทางของเธอดูทุกข์ทรมานยิ่งนัก
ท่าทางเหมือนโรคฮิสทีเรีย ดูคล้ายคนที่ขาดความรักเสียเหลือเกิน
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว ” หลินซินเหยียน ”
หลินซินเหยียนไม่ได้ยินที่เขาเรียก เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความกังวลอะไรบางอย่าง ท่าทางของเธอบ่งบอกถึงความไม่สบายใจ แต่ไม่นาน ก็กลับมาเป็นเหมือนปกติ ก่อนจะปล่อยจงจิ่งห้าว แล้วค่อย ๆ ผล็อยหลับไป
จงจิ่งห้าวค่อย ๆ ลุกขึ้นมา มองไปที่เธอสักพัก ก็หันตัวออกจากห้องไป
ไป๋จวู่เวยที่นั่งอยู่บนโซฟา มือทั้งสองข้างนั่นจับแก้วแน่น จงจิ่งห้าวอยู่ในห้องนั้นนานเกินไป ใจของเธอเริ่มจะอยู่ไม่สุขเสียแล้ว
นังผู้หญิงนั่นมันไม่ต้องไปอยู่โรงพยาบาลดูแลแม่ของมันหรอกเหรอ
ทำไมมันมีเวลาว่างถ่อมาถึงนี่
กวนจิ้งไปสืบดูเวลาของหลินซินเหยียน ก็โดนไป๋จวู่เวยรู้เข้าแล้ว ดังนั้นก่อนที่กวนจิ้งจะส่งคนไปประเทศAเพื่อสืบค้นข้อมูลของหลินซินเหยียน คนของไป๋จวู่เวยก็ล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งก้าว อีกทั้งยังฆ่าคุณหญิงคนนั้นที่แนะนำธุรกิจให้หลินซินเหยียนตายอีก แล้วสร้างเรื่องว่าที่หล่อนตกจากตึงทั้งหมดนั้นคือ’อุบัติเหตุ’
นี่ถึงเป็นสาเหตุว่าทำไมกวนจิ้งถึงสืบไม่รู้เรื่องสำคัญที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
เธอคิดหาวิธีมากมาย เพราะกลัวว่าจงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากเกินไป เธอจึงซื้อตัวคนที่อยู่รอบๆ บ้านของแม่หลินซินเหยียนทั้งหมด ให้พูดเรื่องที่แย่ ๆ กระตุ้นให้จวงจื่อจิ่นเข้าโรงพยาบาล ก็เพื่อให้หลินซินเหยียนไม่มีเวลามาสร้างความสัมพันธ์กันจงจิ่งห้าว
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า นังผู้หญิงคนนี้จะไม่อยู่ที่โรงพยาบาลนั่น
ยิ่งคิดใจของไป๋จวู่เวยก็ยิ่งกระเจิดกระเจิงไปใหญ่
จนสีหน้าที่แสดงออกมาดูออกได้ทันทีเธอกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้
เมื่อจงจิ่งห้าวออกมาจากห้อง ก็เห็นสีหน้าของไป๋จวู่เวยที่ยังไม่ทันจะได้เก็บอาการ เขาเดินเข้ามาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
ไป๋จวู่เวยยืนขึ้น เกือบจะหลุดปากถามกระโชกโฮกฮาก แต่ยังดีที่พอมีสติอยู่บ้าง ” คุณหลินไม่สบายเหรอคะ ”
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบทันที แต่นั่งลงบนโซฟา ก่อนขายาวนั่นจะไขว่ห้าง แล้วค่อย ๆ ไล่สายตาขึ้นมามองไปที่ไป๋จวู่เวยแบบแปลก ๆ จนยากที่จะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
มันทำให้ไป๋จวู่เวยเริ่มรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอย่างบอกไม่ถูก จงจิ่งห้าวที่เป็นแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกกลัว ก่อนจะพูดออกมาค่อย ๆ ” อะห้าว…. ”
” อื้ม ” เขาค่อย ๆ ฉีกยิ้มเบา ๆ ” ว่าไงครับ ”
เมื่อเห็นแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด ไป๋จวู่เวยค่อยรู้สึกเบาใจลง ก่อนเธอจะลองนั่งลงบนตัวของชายหนุ่ม เขาไม่ได้ขัดขืนใด ๆ
ความกังวลในใจของเธอก็เริ่มเบาลง
” นี่คือสัญญาที่ดินอ่าวรีพัลส์เบย์ ” กวนจิ้งส่งเอกสารให้จงจิ่งห้าว
เพราะไป๋จวู่เวยมากับกวนจิ้ง จึงได้ยินกวนจิ้งพูดว่าจงจิ่งห้าวอยากได้สัญญาของที่ดินผืนนี้
ที่ดินผืนนี้อยู่ในอ่าวรีพัลส์เบย์ ใกล้น้ำใกล้เขา เป็นที่ทำเลดีมาก เหมาะกับการทำแผนพัฒนาสถานที่พักร้อนได้ดีเลยทีเดียว ทำให้ใคร ๆ ก็อยากได้
เมื่อสองปีก่อนที่ผืนนี้ได้รับการแข่งประมูล เครือข่ายของว่านเยว่กรุ๊ปได้รับสิทธิ์ในการพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ แต่เพราว่านเยว่กรุ๊ปไม่อยากทำ จึงตัดสินใจขายทิ้ง
แต่จู่ ๆ จงจิ่งห้าวที่ต้องการที่ดินผืนนี้ มันทำให้เธอรู้สึกกังวลใจ
จริง ๆ แล้วหลินกั๋วอันไปที่บริษัทเพื่อแสดงความต้องการที่ดินผืนนี้ ตอนนั้นจงจิ่งห้าวก็ไม่ไว้หน้า ไม่ชายตามองเขาสักครั้ง
หลินซินเหยียนเป็นลูกสาวของหลินกั๋วอัน เธอกลัว กลัวว่าเป็นเพราะหลินซินเหยียน จงจิ่งห้าวเลยซื้อที่ดินผืนนี้ให้หลินซื่อกรุ๊ป
เธอไม่ได้ติดใจอะไรกับที่ดินนี่ แต่ที่ติดใจคือท่าทีที่จงจิ่งห้าวมีต่อนังหลินซินเหยียนต่างหาก!
” ที่ดินผืนนี้ไม่ได้จะขายทิ้งเหรอคะ ” ไป๋จวู่เวยถามโพล่งขึ้นมา
ถึงท่าทางที่เธอถามจะดูธรรมชาติมาก แต่จงจิ่งห้าวจะไม่รู้การถามลองใจง่อย ๆ ของเธอเลยน่ะเหรอ
เขาไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ กลับไป ไม่แม้แต่จะอธิบายชัดเจน แต่กลับเลื่อนมือขึ้นไปโอบไหล่เธอเอาไว้ ” จวู่เวยคุณเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ”
ไป๋จวู่เวยชะงักไป นี่มันหมายความว่าอะไร
” ฉัน ฉันเปลี่ยนไปตรงไหนเหรอคะ ” ไป๋จวู่เวยไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
จงจิ่งห้าวบีบคางของเธอเบา ๆ ให้หันมามองเขา ” เมื่อก่อนคุณคงไม่ถามคำถามแบบนี้ ”
เมื่อสบตาของเขา ไป๋จวู่เวยก็ชะงักไป สายตาที่ดูเยือกเย็นของเขาเช่นนี้ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ใจของเธอก็อดที่จะตกใจกลัวไม่ได้ ” ฉัน…. ”
ทันใดนั้น ท่าทีของหญิวที่เรียบร้อยและดูท่าทางว่านอนสอนง่ายของเธอ เหมือนจะสูญเสียการควบคุม ” ฉันกลัวเป็นเพราะฉันกลัวนี่คะ!”
เธอดิ้นออกจากอ้อมอกของเขา ก่อนจะเอามือทั้งสองปิดหน้าปิดตา ร้องไห้สะอึกสะอื้น ” ฉันกลัวว่าคุณจะเอาที่ดินผืนนี้ให้คุณหลิน ฉันกลัวคุณให้เธอเพราะเธอเป็นภรรยาคุณ แล้วคุณก็รักเธอ ฉันกลัว กลัวว่าคุณจะไม่รักฉันแล้ว…. ”
พูดจบไป๋จวู่เวยก็ร้องไห้อย่างเจ็บปวด
นี่คือสิ่งที่จงจิ่งห้าวไม่เคยเห็นมาก่อน
เขาหลับทั้งตาลง คิ้วทั้งสองขมวดปม อารมณ์บ่งบอกถึงความสับสน สับสนถึงขั้นไม่มีใครสามารถมองออกได้
ผ่านไปครู่ใหญ่ ไป๋จวู่เวยก็ร้องไห้เบาลง
เธอรู้ว่า เวลาไหนควรจะอดทน แต่บางครั้งการอ่อนแอและร้องไห้ก็ทำให้ผู้ชายใจอ่อนได้เหมือนกัน
จงจิ่งห้าวลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอารมณ์ที่เย็นลง
เขาเอาแขนโอบตัวเธอให้เข้ามาอยู่ในอ้อมอก” ต้องน้อยใจขนาดนี้เลยเหรอ ”
ไป๋จวู่เวยแนบชิดลงไปในอ้อมอกของเขา แล้วสะอื้นเบา ๆ ” ฉันแค่กลัวว่าจะเสียคุณไป ”
จงจิ่งห้าวถอนหายใจเนิบ ๆ ” ไม่หรอกน่า ”
เธอก็อาจจะเจ้าเล่ห์ เจ้าแผนการไปบ้าง ภายนอกไม่ได้ดูใสซื่ออะไรขนาดนั้น
แต่เธออยู่กับเขามานานก็จริงใจมาโดยตลอด
เขาจึงไม่อยากจะไปสืบหาหรือจับผิดอะไร
ในห้อง
หลินซินเหยียนถูกเสียงเรียกที่ดังจากโทรศัพท์ปลุกจนตื่น
เป็นข้อความของเหอรุ่ยเจ๋อที่ส่งถึงเธอ เป็นรูปถ่ายรูปหนึ่ง เป็นภาพเพื่อนบ้านเธอ ดูจากในรูปแล้ว เหมือนกำลังคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
ฉากหลังในภาพนี่…..
เหมือนหลินซินเหยียนจะรู้สึกคุ้น ๆ แต่ก็นึกไม่ออก เธอสับสนว่าคนในภาพนี้เป็นใครกันแน่ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนอยู่ข้างใน
” อุก….. ”
เธอลุกขึ้นแล้ววิ่งออกจากห้องนอน ดิ่งไปยังห้องน้ำ
แล้วก้มลงไปอ้วกตรงอ่างล้างมือ
ในห้องรับแขก กวนจิ้งตกใจที่หลินซินเหยียนอยู่ดี ๆ ก็พุ่งออกมา
อีกอย่างเธอเข้าห้องน้ำก็ไม่ปิดประตู เหมือนจะอ้วกใส่ตรงไหนสักที่อย่างทรมาน
” คุณหลินท้องแน่ ๆ เลยค่ะ ” ไป๋จวู่เวยมองหลินซินเหยียนที่กำลังคลื่นไส้ไม่หยุด
เธอคิดว่าจงจิ่งห้าวคงจะไม่รู้ เลยตั้งใจพูดออกมา
” น่าจะเป็นคืนนั้นแน่ ๆ ที่เธอเดินโอบไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ” ไป๋จวู่เวยตั้งใจหา’พ่อ’ให้กับลูกในท้องของหลินซินเหยียนเรียบร้อย
แบบนี้จงจิ่งห้าวจะต้องเกลียดเธอแน่ ๆ
กวนจิ้ง ยืนอ้าปากค้าง ผู้หญิงที่จงจิ่งห้าวแต่งงานด้วย ในท้องกำลังอุ้มท้องลูกของผู้ชายคนอื่นอยู่เนี่ยนะ
ที่ไหนได้ แต่งงานกับเธอ บนหัวกลับมีหญ้างอกขึ้นมาซะงั้น
เขาค่อย ๆ เงยหน้ามองปฏิกิริยาของจงจิ่งห้าว
ตอนแรกนึกว่าจะโกรธ โมโหหนัก แต่กลับทำหน้านิ่งเฉยแทน
แม่แต่ไป๋จวู่เวยก็ยังไม่รู้สึกว่าแปลกใจอะไร
เขาไม่โกรธ ไม่เกลียดเธอเลยเหรอ
” อะห้าว … ”
จงจิ่งห้าวเอนกายพิงลงบนโซฟา สีหน้าชัดเจนว่าไม่อยากฟังในสิ่งที่เธอพูด
ไป๋จวู่เวยทำได้แค่ปิดปากเงียบ
ถึงแม้จะอยากอ้วกแค่ไหน แต่พอได้อ้วกก็เหมือนจะอ้วกไม่ออก มันเป็นแค่อาการคลื่นไส้เท่านั้น
พอหมดอาการรู้สึกคลื่นไส้นั่น หลินซินเหยียนก็ค่อย ๆ บ้วนปาก แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ จึงเห็นว่ามีคนนั่งอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเธอเห็นไป๋จวู่เวยที่กำลังพิงอยู่ในอ้อมอกของจงจิ่งห้าว ก็ไม่อยากรบกวน จึงถอยตัวจะหันเข้าห้องแทน
แต่เหมือนในหัวจะนึกอะไรบางอย่างได้ ไป๋จวู่เวย..
เธอหันตัวกลับมามองไป๋จวู่เวย ก่อนจะมองรูปในโทรศัพท์ ผมหยักศกสีน้ำตาลแดงนี่มัน ไหนจะส่วนสูงที่พอ ๆ กันอีก
ตาเธอเบิกโพลง คนที่ซื้อตัวเพื่อนบ้านของเธอทั้งหมด คือผู้หญิงคนนี้เหรอ
เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอทั้งหมด หลินซินเหยียนก็เข้าใจขึ้นมาแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น!
เธอคงจะคิดว่าที่เราแต่งงานกับจงจิ่งห้าว เพื่อมาแย่งตำแหน่งของเธอ เลยเก็บความเกลียดนี้ไว้ในใจ
แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไปซื้อคนที่อยู่แถวบ้านของเธอ ตั้งใจทำร้ายเธอ ไม่พอเพราะเรื่องนี้ก็ทำให้แม่ของเธอ ป่วยทางจิต!
แค่คิด ก็ทำให้หลินซินเหยียนปวดใจจนทนไม่ไหว อาการปั่นป่วนยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น