กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่231 ซบอยู่ในอ้อมอก
ที่เพิ่งพูดคือบอดี้การ์ดที่จงจิ่งห้าวพาขึ้นเขามา พอเห็นว่าใครมาซูจ้านจึงพูด“ผมเอง ประธานจงล่ะ?”
“อยู่ข้างใน”บอดี้การ์ดพูด
ถนนที่นี่เดินได้สบายมาก เคยโดนคนข้างหน้าเหยียบไว้ เหลือเพียงแต่ถนนที่เป็นโคลนเล็กๆไม่กว้างนัก ตามบอดี้การ์ดที่นำทางไป พวกเขาข้ามยอดเขาที่ไม่สูงเท่าไหร่นัก มองเห็นสวนลูกพลับหนึ่งไร่ ฤดูนี้ ใบไม้บนต้นลูกพลับแทบจะร่วงโรยหมดแล้ว เหลือเพียงแต่ผลสีแดงๆ
หลินซินเหยียนมองเห็นร่างของลูกสาวที่ใต้ต้นพลับที่ค่อนข้างใหญ่ต้นหนึ่ง แล้วก็จงจิ่งห้าว เหมือนว่าเป็นลูกสาวที่กินลูกพลับ มุมปากยังมีน้ำของลูกพลับเลอะอยู่บางๆ จงจิ่งห้าวกำลังเช็ดปากให้เธอ
เมื่อก่อน เธอคิดว่าจงจิ่งห้าวนั้นโชคดี อย่างน้อยก็ไม่ถูกพ่อแม่ทิ้ง สถานภาพทางครอบครัวก็ดี เกิดมาก็ถูกผู้คนจับตามอง
แต่ว่าตั้งแต่รู้ว่าเฉิงยู่ซิ่วเป็นแม่ของเขา ส่วนเขากลับไม่รู้เรื่องเลย เธอก็รู้สึกสงสารเขาหน่อยๆ
“หม่ามี๊”หลินลุ่ยซีมองเห็นหลินซินเหยียนก่อน ก็ตะโกนอย่างดีใจ“หม่ามี๊ หม่ามี๊มาหาหนูเหรอ?”
จงจิ่งห้าวหันหน้าไป มองเห็นผู้หญิงร่างอรชรอ้อนแอ้นยืนอยู่บนยอดเขา ถึงแม้ในป่าที่มีแสงไม่เพียงพอ ก็เพียงพอที่จะดึงดูดสายตาของคน ให้คนหยุดฝีเท้าลงได้
ยังไม่ถึงเวลา เธอออกมาได้อย่างไร?
หลินซินเหยียนเดินลงมา ในป่าลูกพลับ มีวัชพืชน้อยไปเยอะมาก เดินได้ดีกว่าทางที่ขึ้นมาเยอะเลย เดินไปถึงตรงหน้าของเขา มองลูกสาว เดิมทีอยากจะยื่นมือไปลูบหน้าของเธอ แต่ว่ามือของตัวเองนั้นสกปรกเกินไป จึงชักกลับมา “ใช่ แม่คิดถึงเสี่ยวลุ่ยมากเลย ก็เลยลาออกมาดูเสี่ยวลุ่ย”
“คุณบาดเจ็บเหรอ?”ตอนที่จงจิ่งห้าวเห็นเธอยื่นมือ บนมือมีรอยเลือดแห้งๆ
หลินซินเหยียนมองฝ่ามือ“ไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บเล็กน้อย”
“ไปเถอะ”เขาจับมือของหลินซินเหยียนไว้ อีกมืออุ้มลูกสาว
“หม่ามี๊ หม่ามี๊”ในมือของหลินซีเฉินถือลูกพลับสองลูกวิ่งเข้ามา
“ช้าหน่อยลูก เดี๋ยวจะล้มเอานะ”หลินซินเหยียนอธิบายว่าถนนเส้นนี้ไม่ดีให้กับลูกชาย
“ผมดูทางอยู่”หลินซีเฉินวิ่งไปตรงหน้าของหลินซินเหยียน เอาลูกพลับยื่นไปตรงหน้าของเธอ สีส้มอมเหลืองนั้น ไม่ใหญ่ นุ่มๆ “หม่ามี๊ หม่ามี๊ชิมสิหวานมาก”
ลูกพลับนี้ยังไม่สุดจึงฝาดมาก มีแค่ตอนที่สุกจนนุ่มเท่านั้นถึงจะหวาน
หลินซินเหยียนหัวเราะ“กลับไปค่อยกิน กลับไปก่อนดีกว่า”
เสียเวลาไปเยอะมากแล้ว เธอกลัวว่าเฉิงยู่ซิ่วจะรอจนร้อนใจ
หลินซีเฉินพยักหน้า ถามว่า“งั้นหม่ามี๊ อยู่กับผมได้ตลอดเลยใช่ไหม?”
สายตาของหลินซินเหยียนชะงักไปเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองจงจิ่งห้าว แต่กลับพูดกับลูกชายว่า“หม่ามี๊ ยังมีธุระเล็กน้อย รอจัดการเสร็จก็จะกลับมาได้ แต่ว่า หม่ามี๊สามารถพาพวกลูกไปกับหม่ามี๊ได้”
“จริงเหรอครับ?”หลินซีเฉินกอดขาของเธออย่างดีใจ ได้อยู่กับแม่แล้ว ดีใจมาก
“หม่ามี๊ หนูก็อยู่กับหม่ามี๊ได้ใช่ไหม?”หลินลุ่ยซีก็กะพริบตาถาม
“แน่นอนสิ”หลินลุ่ยซีดีใจ หัวเราะจนตาเป็นสระอิ สดใสและสวยงาม
“ผมล่ะ?”จงจิ่งห้าวกุมมือของเธอ ออกแรงเล็กน้อย เอาเด็กสองคนนี้ไปได้ งั้นเขาล่ะ?
หลินซินเหยียนเลี่ยงสายตาที่เขามองมาเล็กน้อย เพราะว่าร้อนตัว จึงไม่กล้ามองตาของเขา“อาจารย์ให้ฉันพาไปอยู่ข้างกายได้แค่สองคน ดังนั้น ดังนั้น ……”
“ดังนั้นก็เลยไม่มีส่วนของผม?”
สายตาของจงจิ่งห้าวมองไปที่ ติ่งหูสีแดงหน่อยๆของเธออย่างเบาๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการร้อนตัว บวกกับสายตาที่หลบซ่อนของเธอ เขาแน่ใจว่าหลินซินเหยียนกำลังโกหก แต่ว่า ไม่ได้เปิดเผยเธอ
“ไปเถอะ”
จงจิ่งห้าวพูดเบาๆ
มีบอดี้การ์ดนำทาง ไม่นานนัก พวกเขาก็ลงจากเขาอย่างปลอดภัย
จงจิ่งห้าวเอาลูกสาวส่งให้ฉินยา จูงหลินซินเหยียนกลับไปที่ห้อง ถ้าเป็นเมื่อก่อน หลินซินเหยียนไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังเขาอย่างเต็มใจขนาดนี้ แต่ตอนนี้ เธอไม่อยากปฏิเสธเขา
คิดแบบนี้ เธอก็ทำแบบนี้ เข้าไปในห้อง เธอก็เอาสองมือโอบไปที่เอวเขาก่อน
การรุกของเธอนั้นกะทันหันมากไป ทำให้จงจิ่งห้าวตะลึงหน่อยๆ ร่างกายก็แข็งตามไปหลายวินาที ทำไมเรียนงานฝีมือไปไม่กี่วัน นิสัยก็เปลี่ยนไปเลยล่ะ?
แต่ว่า เขามีความสุขมาก
ก้มหัวลงจูบหน้าผากของเธอ ค่อยๆขยับ จูบที่หางตาเธอ พูดเสียงหม่นลง“ทำไม คิดถึงผมเหรอ?”
หน้าอกของเขาช่างแข็งแรง อบอุ่นมาก เดิมทียังสงวนท่าทีไว้กับเขา แต่ว่าตอนนี้เธออยากเปิดใจให้ผู้ชายคนนี้ ลองรักเขา ยอมรับเขา
เสียงของเธอเบาเล็กน้อย แหบหน่อยๆ“อือ”
เขาคือพ่อของลูกเธอ ตอนเด็กๆยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันด้วย
เธอเคยได้ยินว่า พรหมลิขิตนั้นเป็นแบบนี้ ชาติที่แล้วไร้วาสนาต่อกันเป็นพันครั้ง เพื่อแลกกับการหันกลับไปมองในชาตินี้เพียงครั้งเดียว การหันกลับไปมองในชาติที่แล้วเพียงครั้งเดียว แลกกับการเจอกันเพียงครั้งหนึ่งในชาตินี้
จงจิ่งห้าวรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป เมื่อก่อนไม่ว่าทั้งสองคนจะสนิทแนบชิดอย่างไร เขารุกอย่างไร เธอก็จะสงวนท่าทีกับเขาเสมอ
เธอแบบนี้นั้นดีมาก เขาชอบมาก แต่ว่าก็มีบางอย่างไม่สบายใจ นั่นคือให้คนๆหนึ่ง เปลี่ยนไปในไม่กี่วันได้อย่างไร?
เธอเจอคนแบบไหนเข้า?แล้วเจออย่างไร?
อะไรที่เปลี่ยนเธอ?
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้น ปลายเท้าเอื้อมขึ้นมา จูบที่ริมฝีปากเขาก่อน ทำเพียงผิวเผิน จงจิ่งห้าวยังไม่ทันได้ลิ้มรสดีๆ เธอก็ผละออกมา
เธอออดอ้อนไปที่เขา“ฉันจะพาเสี่ยวลุ่ยกับเสี่ยวเฉินอยู่กับฉันสักสองสามวัน คุณคงไม่ได้ไม่เห็นด้วยหรอกใช่ไหม?”
จงจิ่งห้าวอยากพูดมากว่า;ผมพูดว่าไม่ได้ด้วยเหรอ?
เห็นได้ชัดว่า ไม่ได้
เผชิญหน้ากับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอ จงจิ่งห้าวคิดว่าหัวใจของตัวเองนั้นร้อน เพราะว่าผู้หญิงคนนี้จึงเต้นอย่างรุนแรง ในตอนนี้เวลานี้ เขาอยากจะออกแรงกอดเธอ เอาเธอมาละลายเข้าสู่ร่างกายของตัวเอง
“ผมรับปากคุณได้ แต่ว่า……”เขาเอนตัวลงมา ริมฝีปากไซร้อยู่ที่ข้างหูของเธอเบาๆ วนเวียนไปมาที่คอกับติ่งหูของเธอไปมา “คุณจูบผมอีกครั้ง ผมจะรับปากคุณ”
เขาเขยิบเข้ามาใกล้ พูดอย่างคลุมเครือ
หลินซินเหยียนสั่น อดไม่ได้ที่จะสั่นอยู่ในอ้อมแขนของเขา จงจิ่งห้าวกอดเธอไว้ มุมปากยกขึ้นหน่อยๆ เขาชอบมองเธอที่เขินอายเล็กน้อย แล้วก็รักนวลสงวนตัว ความสวยแบบนั้น ดึงดูดคนแบบนั้น
“คุณหลับตาลง”หลินซินเหยียนละสายตาลง พูดเสียงเบา
เหมือนกับเสียงแมลงวันบิน
จงจิ่งห้าวหัวเราะ หลับตาลงอย่างเชื่อฟัง เขาก้มหน้า รอการ‘ซบอยู่ในอ้อมอก’จากเธอ
หลินซินเหยียนหลับตาลง คิดถึงเฉิงยู่ซิ่วที่ยังรอเธออยู่ จึงตัดสินใจ เอาริมฝีปากแนบไป ริมฝีปากของเขานั้นอ่อนนุ่ม เย็นหน่อยๆ
ตอนที่เธออยากจะผละคืนกลับมา กลับถูกเขาล็อกศีรษะไว้ ทำให้ริมฝีปากของเธอเปลี่ยนรูป แนบชิดสนิทกับเขา เขายื่นลิ้นออกมา จูบเธออย่างลึกซึ้ง
หลินซินเหยียนกลัวเขาไม่หยุด จึงใช้มือดันเขาออก และน่าจะเพราะว่าแผลที่ฝ่ามือไปบาดโดนกระดุมที่เสื้อเขา จึงเจ็บมาก เธอส่งเสียงร้องออกมา จงจิ่งห้าวจึงออกแรงเบาๆ“ทำคุณเจ็บเหรอ?”
“เจ็บมือ”หลินซินเหยียนพูดเสียงเบา พูดอย่างโกรธเล็กน้อย
การกอดของเธอเมื่อครู่นั้นกะทันหันไป ทำให้จงจิ่งห้าวลืมว่า มือของเธอนั้นเจ็บอยู่ เธอพูดแบบนี้ จงจิ่งห้าวจึงคิดขึ้นได้ เขาจึงเอามือของเธอมาดู ฝ่ามือเหมือนกับถูกอะไรแทง บาดแผลเล็กๆ เปื้อนด้วยเลือดแห้งๆ
เขาขมวดคิ้ว“ไปโดนอะไรมา?”
หลินซินเหยียนพูดไปตรงๆ“โดนกิ่งไม้แทง”
จงจิ่งห้าวเงยมองเธอ อยากพูดว่าทำไมถึงไม่ระวังตัว แต่พอคิดถึงกิ่งไม้บนเขาที่ไม่เป็นระเบียบพวกนั้น จึงไม่พูด ถ้าไม่ใช่ว่ามีบอดี้การ์ดติดตาม เขาก็กลัวว่าคงเอาลูกทั้งสองคนขึ้นมาที่เขาอย่างปลอดภัยไม่ได้
“คุณรอก่อน”เขาไปคุยโทรศัพท์ ให้คนเอาสิ่งของอะไรที่เป็นน้ำฆ่าเชื้อมาหน่อย เพราะสถานภาพที่นี่ไม่ดี อะไรก็ไม่มี
หลินซินเหยียนรีบไปตระกูลเฉิง จึงดึงเขาไว้“ไม่ต้อง ฉันไม่มีเวลามาก อาจารย์ยังรอฉันอยู่ ฉันต้องกลับไปเดี๋ยนี้”
จงจิ่งห้าวมองเธออย่างสงสัย“รีบร้อนขนาดนี้เชียว?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า“อือ”
จงจิ่งห้าวอยากเข้าใจว่าทำไมจู่ๆเธอถึงเปลี่ยนท่าที จึงพยักหน้า ได้รับอนุญาตจากจงจิ่งห้าว หลินซินเหยียนก็ดีใจสุดๆ
แต่ว่าจงจิ่งห้าวกลับมีเรื่องหนักใจ เขาชอบสภาพของหลินซินเหยียนในตอนนี้ แต่ในใจก็ไม่สบายใจอีก ไม่สบายใจว่าเบื้องหลังที่เธอเปลี่ยนไปนั้นมีความลับอะไรซ่อนอยู่
หลินซินเหยียนอุ้มลูกสาวขึ้นมา แล้วจึงมือลูกชายที่ลานกว้าง แล้วเดินไปที่หลังบ้าน
พวกเขาออกไป จงจิ่งห้าวก็พาเสิ่นเผยซวนออกไปจากห้องไม้ด้วย ตามถนนเล็กๆด้านนอกบ้าน มาถึงลานหลังบ้าน เขาอยากดูสักหน่อย ตอนที่หลินซินเหยียนพาลูกทั้งสองคนมาที่ลานหลังบ้านทำอะไรนั้น กลับพบว่าหลินซินเหยียนไม่ได้อยู่ที่หลังบ้าน แต่ว่า พาพวกเขาออกไปจากประตูหลังที่หลังบ้าน
ถนนที่อยู่ไม่ไกลมีรถจอดอยู่คันหนึ่ง เหมือนกำลังรอหลินซินเหยียน ที่สำคัญก็คือ เขารู้จักรถคันนั้น