กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่28 อย่าทำดีกับหนูแบบนี้
มือของเหอรุ่ยเจ๋อหยุดชะงักไปเล็กน้อย เงินไม่ได้ทำให้เขามีความสุข
หลินซินเหยียนอ้าปากจะพูด ก็พูดอึกๆอักๆหลายครั้ง ไม่ได้ถามออกมาสักที หลินหลินที่คุณแม่เขาพูดถึง เป็นเพื่อนผู้หญิงของเขาเหรอ?
แต่เหอรุ่ยเจ๋อราวกับว่าไม่ชอบให้คนอื่นพูดถึงเรื่องนี้
ดังนั้นเลยไม่ได้ถามออกมา
เหอรุ่ยเจ๋อเงยหน้า พบว่าใบหน้าของเธอมีรอยห้านิ้ว ขมวดคิ้วขึ้น ถามอย่างเอ็นดูว่า “ครั้งนี้เป็นใครอีก?”
หลินซินเหยียนไม่รู้ แต่เธอเดาว่าน่าจะเป็นไป๋จวู่เวย
เพราะว่าเหมือนตัวเองจะเหมือนจะเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับนาง นางกลัวตัวเองจะเข้าใกล้กับจงจิ่งห้าวมากเกินไป
“แต่หนูไม่มีหลักฐาน” การคาดเดาอย่างเดียว ไม่ใช่คำตอบ
เหอรุ่ยเจ๋อยื่นมือออกมาลูบแก้มเธอ หลินซินเหยียนหลบอย่างสัญชาตญาณ มือเขาสัมผัสไม่โดน รู้สึกจิตตกในใจเล็กน้อย ใบหน้ากลับแกล้งทำเป็นโกรธ “ทำไม พี่จับหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”
แต่จริงๆแล้วหลินซินเหยียนไม่ได้ตั้งใจจะหลบ แค่ต่อต้านโดยสัญชาตญาณกับการสัมผัสกับเพศตรงข้าม
เหอรุ่ยเจ๋อเสยผมของเธอ “เหยียนเหยียนขี้อาย” จากนั้นสีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น “แผลบนเข่าของเธอ——”
แม้ว่าจะไม่กระทบโดนกระดูก แต่แผลถลอกไม่เบาเลย
“เธออดทนหน่อยนะ” เมื่อกี้เขาแค่ทำความสะอาดแผล ตอนนี้ต้องทำแผล ใส่ยาอาจจะเจ็บ
หลินซินเหยียนพยักหน้า ตอนที่เหอรุ่ยเจ๋อทำความสะอาดแผลให้เธอก็เจ็บมากแล้ว เธอแค่กัดฟันอดทนเอาไว้
เพราะเธอรู้มาตั้งนานแล้วว่า ความเจ็บปวดบางอย่างไม่มีใครสามารถแทนได้
ไม่มีใครเอ็นดูสงสาร!
เธอทำได้เพียงเข้มแข็งด้วยตัวเองเท่านั้น!
“อืม”เธอเม้มปาก
เหอรุ่ยเจ๋อมองเธอสองวิ จงใจหยอกให้เธอหัวเราะ “ถ้าทนไม่ไหว พี่ให้ยืมนิ้วไปกัด”
หลินซินเหยียนหัวเราะอย่างให้ความร่วมมือ แต่ในใจกลับหนักใจอย่างผิดปกติ ครั้งนี้ไป๋จวู่เวยไม่สำเร็จ จะมีแผนการอื่นอีกไหมนะ?
ทันใดนั้น เธอพบว่าตัวเองไม่มีอะไรเลย
จะต่อต้านยังไง?
เหอรุ่ยเจ๋อก้มหน้าทำแผลให้เธอ ไม่ได้สังเกตสีหน้าบนใบหน้าเธอ กลัวว่าเธอจะเจ็บ จึงชวนเธอคุย “ยานี้ ไม่มีผลกระทบต่อลูกในท้องของเธอ ไม่ต้องห่วง”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
เหอรุ่ยเจ๋อคิดได้รอบคอบมาก
มือของเธอลูบท้องน้อย นี่คงเป็นเรื่องที่เธอโล่งใจที่สุดแล้ว
เด็กไม่เป็นอะไร
เธอไม่มีอาการปวดท้อง หรือไม่สบายตัว
ลูกของเธอก็เป็นเด็กที่กล้าหาญ เข้มแข็งเหมือนกัน
“คืนนี้พักที่นี่เถอะ” เหอรุ่ยเจ๋อทำแผลให้เธอเสร็จ เงยหน้าขึ้น เพิ่งพบว่าหน้าผากเธอมีเหงื่อออกมามาก
“ต้องการให้พี่ทำไร ก็บอกนะ ผมเป็น——พี่ของเธอ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า ตอนนี้เธอต้องสืบให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นไป๋จวู่เวยหรือเปล่า
เธอทำงานที่บริษัท ใกล้ชิดกับไป๋จวู่เวยพอดี สะดวกต่อเธอสืบได้ง่าย
เหอรุ่ยเจ๋อยืนขึ้น ไปเอาน้ำเย็นมา เช็ดเหงื่อให้เธอ ประคบเย็นบนใบหน้าของเธอ
“เธอไปผิดใจกับคนอะไร?” ถึงได้ลงมือหนักแบบนี้
หลินซินเหยียนคิดสักพัก ยังคงพูด “หนูไม่มีหลักฐาน แต่หนูคาดเดาว่าน่าจะเป็นไป๋จวู่เวย แฟนสาวของจงจิ่งห้าว ราวกับเป็นเพราะว่าหนูแต่งงานกับจงจิ่งห้าว จึงเกลียดแค้นหนูในใจ”
พอเหอรุ่ยเจ๋อนึกขึ้นได้ว่าเธอและจงจิ่งห้าวเป็นความสัมพันธ์สามีภรรยากันก็รู้สึกไม่สบายใจ ยังดีมีแค่หนึ่งเดือน “อนาคตพี่ดูแลเธอเอง”
รอให้เธอและจงจิ่งห้าวยุติความสัมพันธ์การแต่งงาน เขาก็จะได้สารภาพความในใจ
อนาคตให้เขาดูแลเธอ
ไม่ให้เธอถูกทำร้ายอีก
หลินซินเหยียนได้ยินไม่ชัด อืมเสียงเรียบเสียงหนึ่ง
คืนนี้หลินซินเหยียนไม่ได้กลับไป คืนที่อยู่ที่นี่ หนึ่งคือไม่คุ้นเคยกับที่นี่ สองคือเพราะสิ่งที่ตื่นตกใจในวันนี้ ทำให้ไม่สามารถนอนหลับอย่างสบายใจได้ จึงตื่นตั้งแต่เช้า
เหอรุ่ยเจ๋อใส่ใจมาก ซื้อชุดใหม่ให้เธอ เสื้อบนตัวเธอไม่สามารถใส่ได้แล้ว
“เป็นกระโปรง ขาเธอไม่เหมาะกับการใส่กางเกง” เหอรุ่ยเจ๋อยื่นเสื้อมาให้เธอ
ใส่กางเกงจะเสียดสีกับแผล
กระโปรงเป็นแบบยาว คลุมถึงเข่าพอดี
นอกจากแม่แล้ว คงมีเพียงเหอรุ่ยเจ๋อที่ดีกับเธอ ความดีแบบนี้ ทำให้เธอกดดัน เธอไม่รู้จะตอบแทนยังไง
“อย่าทำดีกับหนูแบบนี้ได้ไหม?”น้ำเสียงเธอแหบ
เหอรุ่ยเจ๋อแกล้งทำเป็นยิ้มอย่างสบายๆ “ยัยบ๊อง เธอเรียกผมว่าพี่ พี่ดูแลเธอมันสมควรอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เกรงใจทำไม?”
พลางพูดก็ยื่นมือไปแตะจมูกของเธอทีหนึ่ง “จะเป็นแม่คนอยู่ละ ยังจะร้องไห้ให้พี่ดูอยู่เหรอ?”
หลินซินเหยียนสูดจมูก ยิ้มให้เขา หยิบเสื้อแล้วเดินเข้าไปห้อง ถอดเสื้อคลุมอาบน้ำ แล้วเปลี่ยนชุด
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเหอรุ่ยเจ๋อส่งเธอกลับไป
“ไปหมู่บ้านคอนโดจินเซ่อก่างวาน” ยังมีเวลา เธอต้องไปตระกูลหลินสักแปป ตอนนี้ในมือเธอมีที่ดินของอ่าวรีพัลส์เบย์ที่จงจิ่งห้าวให้ มีเบี้ยต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนกับหลินกั๋วอัน
เธอต้องเอาของพวกนั้นคืนมาก่อน มีเพียง เธอมีเงินถึงจะสามารถต่อรองและต่อต้านกับคนที่จะทำร้ายเธอได้
แม้จะไม่เยอะ แต่ก็สามารถแก้ปัญหาด่วนของเธอ
และเงินที่ติดค้างเหอรุ่ยเจ๋อ
แม้ว่าเขาจะบอกไม่ต้องคืน แต่เธอก็ไม่คืนไม่ได้
เหอรุ่ยเจ๋อย้อนรถกลับ ขับไปทางหมู่บ้านคอนโดจินเซ่อก่างวาน
ไม่นานรถก็จอดลง
หลินซินเหยียนลงรถ แม้ว่าจะเดินได้ แต่เวลาเดินก็จะเจ็บเข่า เธอกลั้นความเจ็บปวดไว้ เดินไปทางลานบ้านข้างใน
ภายในบ้าน คนใช้กำลังทำอาหารเช้า พวกเขาเหมือนจะยังไม่ตื่น
“ต้องการให้ดิฉันไปเรียก——”
“ไม่ต้อง” หลินซินเหยียนขัดจังหวะคนใช้
เมื่อก่อนเธออาศัยอยู่ที่นี่ ครั้งที่แล้วมาอย่างรีบร้อน ไม่ทันได้ไปดูห้องนอนของตัวเองในเมื่อก่อน แม้ว่าความทรงจำในที่นี่จะไม่ดี แต่ยังไงแล้วก็เป็นที่ที่เธออยู่อาศัยในตอนเด็ก
มีความรู้สึกอยู่บ้าง
เธอขึ้นไปชั้นสอง กำลังจะเข้าไปในห้องที่ตัวเองเคยอยู่ แต่กลับพบว่าข้างในมีเสียง เธอผลักประตูออกเบาๆ พบว่าที่นี่ถูกหลินหยู่หานครอบครองไปแล้ว
หลินหยู่หานนอนบนเตียง เสิ่นซิ่วฉิงนั่งอยู่ข้างๆเตียงราวกับผิดหวังเล็กน้อย “ไม่คิดว่านางจะหนีไปได้”
“อะไรนะ?” หลินหยู่หานเด้งขึ้นจากเตียงทันที “ทำไมนางถึงหนีไปได้?”
เสิ่นซิ่วฉิงทำหน้าตึง “แม่ประมาทเกินไป คิดว่านางแค่ผู้หญิงคนหนึ่งหาผู้ชายคนหนึ่งก็สามารถจัดการได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้เรื่องเลย แม้แต่ผู้หญิงคนหนึ่งก็จับไม่ได้!”
หลินหยู่หานตะโกนอย่างโมโห “ถ้าไม่ทำลายนาง จะทำให้จงจิ่งห้าวเกลียดนาง หย่ากับนางได้อย่างไร? ถ้าไม่หย่ากัน หนูจะมีดอกาสได้ไง?”
เสิ่นซิ่วฉิงปิดปากของลูกสาว “ลูกพูดเบาหน่อย อย่าให้พ่อลูกได้ยิน”
หลินหยู่หานลดเสียงเบาลง “หนูโมโห——”
“แล้วแม่ไม่โมโหหรือไง?” สีหน้าของเสิ่นซิ่วฉิงดูน่ากลัว “เธอได้รับความชอบจากจงจิ่งห้าว เธออาศัยอำนาจของตระกูลจงมาชำระแค้นเรื่องเก่า ถึงเวลานั้นพวกเราซวยแน่”
“ดังนั้นตอนนี้พวกเราต้องรีบกำจัดนาง!” หลินหยู่หานพูดอย่างโหด
เสิ่นซิ่วฉิงระวังกว่าเยอะ “ครั้งนี้ไม่สำเร็จ เธอจะระแวงมากขึ้น ถ้าจะเล่นงานเธออีก คงจะยากเล็กน้อย——”
“แก——” หลินหยู่หานเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงประตู เด้งลงจากเตียง ชี้หลินซินเหยียนที่ยืนอยู่หน้าประตู แล้วตะคอก
“กะ แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
หลินซินเหยียนนึกว่าคนที่จะทำร้ายตัวเองคือไป๋จวู่เวย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเสิ่นซิ่วฉิงและหลินหยู่หาน
เมื่อเสิ่นซิ่วฉิงเห็นเธอก็ตกใจ “แกขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ? ได้ยินอะไรไปบ้าง?!”
หลินซินเหยียนยิ้มอย่างเย็นชา นางแย่งสามีของแม่ไป ครอบครองพ่อของเธอ ใช้สินสอดทองหมั้นของแม่เธอ เธอแค่อยากได้ของของแม่เธอและเธอคืน
กลับคิดไม่ถึงเลยว่า นางจะทำร้ายเธอ!
เหอะๆ
กลัวว่าเธอจะได้อำนาจของตระกูลจงเหรอ?
“ได้ยินอะไรไปบ้าง? ” หลินซินเหยียนจ้องมองเสิ่นซิ่วฉิง ยิ้มเสียงเย็นชาไปสองสามเสียง “สิ่งที่ควรรู้ ได้ยินทุกอย่างไม่หลุดแม้แต่คำเดียว”