กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่293 ผมแต่งงานแล้ว
ผู้หญิง?
ซูจ้านไม่ได้คิดมาก ยิ่งไม่คิดว่าจะเป็น
หลิวเฟยเฟย เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจะเจอหน้ากันเอง เธอไม่น่าจะมาหาเขาที่นี่หรอก
อีกอย่าง ในฐานะที่เขาเป็นทนายความคนนึง คนที่มาหาเขาก็มีไม่น้อยเลย
“ชงกาแฟเข้ามาให้ฉันแก้วนึง”
“ได้ครับ” ผู้ช่วยไปที่ห้องชงชา ส่วนซูจ้านได้เดินมาที่ห้องรับแขก พอผลักประตู หลิวเฟยเฟยนั่งอยู่บนโซฟา กำลังดูเวลาอยู่ ดูเหมือนจะรอจนค่อนข้างร้อนใจ ได้ยินเสียงประตู เธอเงยหน้าขึ้น
นาทีที่ซูจ้านเห็นว่าคือเธอ ได้หันหลังจากไปทันที
หลิวเฟยเฟยตามมา “ซูจ้าน……”
ซูจ้านหันหลังมา “ต่อไปอย่ามาหาผมอีก ผมแต่งงานแล้ว”
หลิวเฟยเฟยไม่สนการต่อต้านของซูจ้าน เธอได้ก้าวมาจับแขนเขาไว้ “ฉันกลับมาก็ได้ไปหาที่บ้านคุณเลย แต่ว่าหาไม่เจอ”
“เพราะฉะนั้น คุณหาผมคืออยากทำอะไร?” สายตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย จ้องมือที่เธอจับแขนตัวเองไว้ พร้อมพูดทีละถ้อยคำ “อย่าบอกนะ ว่าอยากมาคืนดีกับผม?”
เสียงของเขาเย็นชาลงมากะทันหัน “หลิวเฟยเฟย เราเลิกกันแล้ว!”
มาหาเขาทำไม?
“ในเมื่อจะเล่นหายสาบสูญ ก็หายสาบสูญอย่างสิ้นเชิงเลย ชาตินี้ทั้งชาติก็อย่ามาโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีก!”
ซูจ้านพูดจบก็ได้สลัดมือของเธอทิ้ง
“ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ……”
ซูจ้านไม่ฟังคำอธิบายของเธอ ผู้ช่วยยกกาแฟมาเสิร์ฟ ซูจ้านได้ตะโกนอย่างเย็นชา “ต่อไป ถ้าผู้หญิงคนนี้มาอีก ห้ามปล่อยให้เธอเข้ามา!”
ผู้ช่วยไม่ค่อยเห็นซูจ้านอารมณ์ฉุนขนาดนี้มาก่อน ได้รีบตอบครับๆๆรัวๆๆ
หลิวเฟยเฟยกลั้นน้ำตาไว้ “ได้ ต่อไปฉันจะไม่โผล่มาให้คุณเห็นหน้าอีก”
เธอพูดจบก็ได้วิ่งออกไป ผู้ช่วยถือกาแฟไว้ เธอเห็นอยู่แท้ๆแต่ก็ยังได้พุ่งชนมาทางนี้ เพล้งเสียงนึง ถ้วยกาแฟตกหล่นสู่พื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ กาแฟร้อนได้สาดใส่ตัวเธอ
ผู้ช่วยรีบช่วยเธอเช็ด “ลวกโดนคุณหรือเปล่าครับ? กาแฟนี้เพิ่งชงเอง”
มือที่ห้อยอยู่ข้างกายของซูจ้านได้กำแน่นเป็นหมัด เหมือนกับว่ากำลังอดทนอะไรอยู่
หลิวเฟยเฟยยืนมองเขาอย่างไม่ขยับ “ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณจะต้องมาดูฉันแน่นอน เป็นห่วงว่าฉันโดนลวกหรือเปล่า จะสงสารฉันจับใจ เพียงแค่เพราะว่าฉันหายตัวไป คุณก็เกลียดฉันเลยใช่มั้ย?”
ซูจ้านไม่พูด
ผู้ช่วยเก็บเศษแก้วขึ้นมา จากนั้นได้จากไปอย่างเงียบๆ ผู้หญิงคนนี้มีความสัมพันธ์พัวพันกับซูจ้าน เขาอย่าอยู่เป็นก้างขวางคออยู่ที่นี่ดีกว่า
“ซูจ้าน ฉันรักคุณไม่เคยเปลี่ยนเลย แล้วแต่ว่าคุณจะเชื่อหรือเปล่า ในเมื่อคุณไม่อยากเจอหน้าฉัน งั้นต่อไปฉันจะไม่โผล่หน้ามาให้คุณเห็นอีก” เธอพูดจบก็ได้หันหลังเดินออกไป
ครั้งนี้เธอได้จากไปอย่างไม่ลังเล
เพราะเธอมั่นใจว่าซูจ้านจะต้องตามมาแน่นอน
เมื่อก่อนเขารักเธอมากขนาดนั้น
ในหัวของซูจ้านเสียงดังโวงๆ ข้างหูมีเสียงๆนึงคอยบอกเขาตลอดว่าตามไป ถามให้ชัดเจนว่าทำไมตอนนั้นเธอต้องจากไป แต่ก็มีเสียงๆนึงคอยบอกกับเขาว่าจะตามไปไม่ได้ นายแต่งงานแล้ว จะพัวพันไม่เลิกกับแฟนเก่าไม่ได้
สุดท้าย เขาก็ได้ตามไปอยู่ดี ไม่ใช่เพราะยังรักเธอ แต่แค่อยากได้คำตอบ
หลังจากหลิวเฟยเฟยเดินออกจากสำนักงานทนายความ ก็เดินช้าลงอย่างเห็นได้ชัด จงใจรอซูจ้านวิ่งตามออกมา
“บอกผมมา ทำไมตอนนั้นคุณต้องจากไป?” ซูจ้านยืนอยู่หน้าประตู สายลมที่เหน็บหนาวพัดจนผมของเขายุ่งเหยิง
เขามองร่างเงาที่เขาเคยอาลัยอาวรณ์
หลิวเฟยเฟยได้ยินแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เธอเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น
ขณะนี้ บนถนนมีรถที่ขับมาอย่างไว
แววตาของหลิวเฟยเฟยมืดมน ซูจ้านลังเลไปนานขนาดนั้นถึงออกมา พิสูจน์ว่าความรักที่มีให้เธอจืดจางไปแล้ว อีกอย่างตอนนี้เขาก็แต่งงานแล้ว อยากรั้งเขาไว้ อาศัยแค่ความรักใคร่ของสมัยก่อน คาดว่าไม่เพียงพอให้เขากลับมาข้างกายเธอหรอก เธอใจเด็ดพุ่งไปที่ถนนใหญ่
“เฟยเฟย—” ซูจ้านวิ่งมา
“เอี๊ยด—”
เสียงเบรคที่แสบแก้วหู ราวกับสามารถแทงแก้วหูคนทะลุ!
แต่ว่าเบรคได้เบรคเอาไว้ไม่อยู่ เสียงดังปังเสียงนึง ร่างกายของหลิวเฟยเฟยถูกพุ่งชนออกไป
คนขับรถตกใจจนอึ้งค้าง
ซูจ้านวิ่งมาอุ้มศีรษะของหลิวเฟยเฟยไว้ หน้าผากเธอมีเลือดและหมดสติไป
เขาตบแก้มเธอ “เฟยเฟย เฟยเฟย”
ไม่ตอบสนองเลย
ขณะนี้คนขับรถได้เดินมาอย่างตัวสั่น ตกใจจนพูดติดอ่าง “คง..คงยังไม่ตายมั้ง?”
แววตาเย็นชาของซูจ้านจ้องมาที่เขา “คุณขับรถภาษาอะไรเนี่ย?”
“เธอเป็นคนวิ่งมาเอง ไม่ใช่ว่าผมจะชนเธอสักหน่อย ไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของผม……”
“ไม่ต้องพูดจาไร้สาระแล้ว รีบส่งคนไปโรงพยาบาลด่วนเลย” ซูจ้านอุ้มเธอขึ้นมา เห็นคนขับรถที่พุ่งชนคนยังยืนอยู่ที่นั่นไม่ขยับ เขาได้ตวาดด้วยความโกรธ “ยังไม่รีบไปขับรถมาอีก เห็นหรือยังว่าด้านหลังคุณคืออะไร? เชื่อหรือเปล่าถึงไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบของคุณ ผมก็สามารถทำให้มันกลายเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคุณได้?”
คนขับรถหันกลับไปดู เห็นสำนักงานทนายความที่อยู่ข้างหลัง คิดอยู่ในใจว่าคนๆนี้คือทนายความเหรอ?
เขารีบวิ่งไปเปิดประตูรถ
อาชีพทนายความแบบนี้ทั้งด้านดีและด้านชั่ว
ทนายความที่มีความสามารถพูดจาแถไถไหลลื่น พูดให้ขาวเป็นดำ พูดให้ดำเป็นขาวได้
ถ้าช่วยเหลือคนดีมันย่อมดีอยู่แล้ว ถ้าหากช่วยคนชั่ว มีแต่จะทำให้คนชั่วลอยนวลอยู่นอกกฎหมาย
คนแบบนี้อย่ามีเรื่องด้วยดีกว่า
ไม่นานคู่กรณีก็ได้ขับรถมาถึงโรงพยาบาล หลิวเฟยเฟยถูกส่งเข้าไปที่ห้องตรวจ ซูจ้านรออยู่ด้านนอก คนขับกลัวว่าหลิวเฟยเฟยจะมีเรื่องแล้วตัวเองจะต้องรับผิดชอบ จึงได้อธิบายว่า “ผมขับรถมาปกติ จู่ๆเธอพุ่งออกมากะทันหัน ผมไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบนะ”
ซูจ้านมองเขาอย่างเย็นชาทีนึง “ถ้าคนไม่เป็นไร คุณก็จะไม่เป็นไร ถ้าคนเป็นอะไรขึ้นมา คุณก็อย่าคิดแต่คำนึงถึงตนเอง ไม่สนใจคนอื่น”
“คุณ คุณหมายความว่ายังไง?” คู่กรณีชี้หน้าซูจ้าน “รังแกคนใช่มั้ย?”
ซูจ้านหัวเราะเย็นชาทีนึง เอานิ้วมือที่เขายื่นออกมากุมกลับไป “คุณวู่วามขนาดนี้ ง่ายมากที่จะถูกคนจับจุดอ่อนได้ รู้หรือเปล่า?”
ทันใดนั้นคู่กรณีได้ดึงมือกลับ ตกใจจนยืนอยู่ข้างๆไม่กล้าส่งเสียง
ผ่านไปอีกสักพัก ประตูของห้องตรวจเปิดออก หลิวเฟยเฟยถูกเข็นออกมา ซูจ้านเดินมาอย่างรวดเร็ว แผลบนศีรษะเธอถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คนยังหมดสติอยู่
หมอเดินออกมา “คนไข้ไม่เป็นอะไรมาก สมองถูกกระทบกระแทกเบาๆ แผลถลอกก็ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ผมจ่ายยาให้เธอนิดหน่อย ไปรับยาที่ห้องจ่ายยาหน่อย ส่วนคนไข้อยู่ที่ห้องพักผ่อน เดี๋ยวรอคนไข้ฟื้นก็กลับบ้านได้เลยครับ”
“โอเคครับ ขอบคุณมากครับ” ซูจ้านพูด
คู่กรณีที่อยู่ข้างลูบทรวงอก “ขอบคุณพระเจ้า ยังดีที่ไม่เป็นไรๆ”
คู่กรณีกลัวหลิวเฟยเฟยจะเกิดเรื่องแล้วเขาต้องเสียตังค์
ซูจ้านมองเขาทีนึง จากนั้นได้โยนบิลสั่งจ่ายยาของหมอไปที่อ้อมอกเขา “ไปเอายา แล้วส่งมา”
“เงินอันนี้……” คู่กรณีมองหน้าซูจ้าน “ตอนนั้นคุณก็น่าจะเห็นแล้วว่าเธอเป็นคนเดินมาเร็ว ไม่เกี่ยวกับผม ไม่ควรให้ผมมาออกเงินส่วนนี้นะ”
ซูจ้านล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาแล้วควักเงินสดออกมาให้เขา ตอนนั้นเป็นความผิดของหลิวเฟยเฟยจริง เหมือนเธอจะหลบเลี่ยงเขา จึงเดินเร็ว ตอนนั้นเธอน่าจะโกรธมาก ก็เลยไม่เห็นรถที่ขับมาอย่างไว “ต่อไปขับรถดูถนนหน่อย”
“ครับๆๆ” คู่กรณีรับเงินมาแล้วตอบครับๆๆ ขอแค่ตัวเองไม่ต้องควักตังค์ พูดอะไรก็ดีหมดแหละ
ตอนเย็น หลิวเฟยเฟยถึงค่อยๆฟื้นขึ้นมา
คู่กรณีได้ไปแล้ว ซูจ้านเป็นคนให้เขาไปเอง เรื่องนี้เขาไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ อีกอย่างหลิวเฟยเฟยก็ไม่ได้เป็นไรมาก
เขาเฝ้าเธออยู่ที่นี่ ไม่สนความข้องเกี่ยวระหว่างเธอกับเขา ตอนนี้เธอได้รับบาดเจ็บ เขาจะทิ้งเธอไว้ไม่สนใจไม่ได้
“โอ๊ย เจ็บจังเลย” หลิวเฟยเฟยขมวดคิ้ว อยากยื่นมือไปจับศีรษะ
ซูจ้านห้ามมือของเธอไว้ “อย่าขยับ บนหัวมีแผล”
หลิวเฟยเฟยมองหน้าเขา “ซูจ้าน? —คุณกำลังเป็นห่วงฉัน?”