กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่298 ข้อห้ามที่สุดระหว่างสามีภรรยากันคือการปิดบัง
- Home
- กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม
- บทที่298 ข้อห้ามที่สุดระหว่างสามีภรรยากันคือการปิดบัง
จงจิ่งห้าวกลับมาที่ห้องนอน หลินซินเหยียนนั่งอยู่ที่ขอบเตียง และหันหลังให้กับเขาอยู่
“กลับไปมั้ยคะ?”
จงจิ่งห้าวยืนอยู่ข้างประตู ไม่ได้เดินเข้ามา คอยมองร่างเงาเธออย่างเงียบๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ปริปากถามว่าระหว่างเธอกับยู่ซิ่วมีความลับอะไรใช่หรือเปล่า
เพราะถ้าเธออยากจะพูด ก็พูดตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ปิดบังเขาจนถึงตอนนี้หรอก
“ถ้าคุณอยากไป ผมก็จะให้คุณได้สมปรารถนา” เสียงของเขาเรียบเฉยมาก
หลินซินเหยียนลุกขึ้น และหันไปมองเขา “ฉันแค่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของคุณกับครอบครัวแข็งกระด้างเกินไป”
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบ “ดึกมากแล้ว รีบนอนเถอะ”
หลินซินเหยียนเดินมา “คุณโกรธเหรอคะ?”
จงจิ่งห้าวมองหน้าเธอ ผ่านไปตั้งนานถึงพูดออกมาคำนึง “เปล่า”
ต้อนรับปีใหม่ ภาพที่สวยงามคึกคัก หน้าประตูของบ้านทุกหลังจะติดกลอนคู่ไว้ และแขวนโคมไฟสีแดงไว้ เต็มไปด้วยด้วยกลิ่นไอของตรุษจีน
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินซินเหยียนได้ไปที่ร้านเที่ยวนึง เพราะตรุษจีนแล้ว จะหยุดช่วงตรุษจีนให้ทุกคน อาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนดีๆ
ฉินยาดูไม่มีชีวิตชีวาเลย เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่พูดจา เมื่อคืนหลินซินเหยียนได้รับสายจากซูจ้าน เป็นห่วงกลัวว่าพวกเขาสองคนจะงอนกัน จึงเดินมานั่งที่ข้างกายเธอ “เธอกับซูจ้านโอเคมั้ย?”
ฉินยาเศร้าหมอง พร้อมพูดอย่างเรียบเฉย “ก็โอเคค่ะ”
เธอไม่อยากบอกว่าตัวเองกับซูจ้านมีปัญหา ตอนนั้นเธอเป็นคนสมัครใจแต่งงานกับเขาเอง ตอนนี้มีปัญหา เธออยากแก้ไขเอง
หลินซินเหยียนตบไหล่เธอ “มีอะไรให้พี่ช่วย ก็บอกมาเลยนะ”
ฉินยาพูดพร้อมยิ้ม “โอเคค่ะ”
ขณะนี้ ไอรอนได้เดินมา “ฉินยา ด้านนอกมีผู้หญิงคนนึงมาหาเธอ”
ผู้หญิง?
ใคร?
“คงจะเป็นลูกค้ามั้ง คนอื่นระบุมาว่าหาเธอ ฉันจะตัดหน้าก็คงไม่ได้มั้ง” ไอรอนขยิบตาใส่เธออย่างคลุมเครือ
มีคนระบุมาว่าจะหาเธอ แสดงว่ายอมรับผลการออกแบบของเธอ
ฉินยาลุกขึ้น “งั้นฉันไปดูหน่อย”
“ไปเถอะ” หลินซินเหยียนโบกมือ
ฉินยามาถึงชั้นล่าง เสื้อผ้าในตู้โชว์ล้วนปิดหมดแล้ว กลัวช่วงวันหยุดนี้จะมีฝุ่นเกาะ ตอนที่เปิดร้าน จะต้องทำความสะอาดทุกวัน
หลิวเฟยเฟยนั่งอยู่บนโซฟาของห้องรับแขก ได้ยินเสียงฝีเท้า เธอหันไปเห็นฉินยาเดินมา
ตอนที่ฉินยาเห็นว่าเป็นเธอ ฝีเท้าได้ลังเลไปครู่นึง แต่ไม่นานก็ได้ฟื้นฟูกลับคืนมาเป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าการปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้โผล่มา คือมาใช้อำนาจบารมีใส่เธอ มากดข่มเธอที่มาทีหลัง
ถึงจะแพ้คน ก็แพ้ความทรงพลังไม่ได้
เธอรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ “สวัสดีค่ะ คุณมาสั่งตัดเสื้อผ้าหรือเปล่าคะ?”
หลิวเฟยเฟยก็ยิ้มแฉ่ง “ฉันว่าสถานะของฉันคุณก็คงจะรู้แล้ว คุณว่างมั้ยคะ? ฉันเป็นคนเลี้ยงเอง เราไปดื่มกาแฟสักแก้วกันมั้ย?”
ฉินยาปฏิเสธอ้อมๆ “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันยังมีงานต้องทำ คงไม่มีเวลาไปดื่มกาแฟกับคุณหรอกค่ะ”
“คุณกำลังกลัวฉัน” หลิวเฟยเฟยจงใจยั่วยุ
ฉินยาขมวดคิ้ว “ฉันกลัวคุณอะไรคะ?”
“ถ้าคุณไม่กลัวฉัน ทำไมแค่กาแฟแก้วเดียวก็ไม่ยอมไปดื่มกับฉันคะ?”
“เราไม่สนิทกัน ทำไมฉันต้องไปดื่มกาแฟกับคุณด้วยคะ?” ฉินยาย้อนถาม
“ใช่ เราเคยเจอกันไม่กี่ครั้ง แต่คุณอย่าลืมสิคะฉันเป็นแฟนของซูจ้าน……”
“แฟนเก่าค่ะ” ฉินยาย้ำเตือน
หลิวเฟยเฟยยิ้มอ่อนๆ “เอาเถอะ ถึงเป็นแฟนเก่า แต่เราเคยรักกัน ตอนนี้คุณเป็นภรรยาของเขา เราเคยครอบครองผู้ชายคนเดียวกัน จะไม่มีความเกี่ยวข้องได้ยังไงคะ?”
“คุณอยากพูดอะไร สามารถพูดออกมาตามตรงได้ค่ะ” ฉินยายังคงปากแข็งอีกเช่นเคย
สำหรับผู้หญิงคนนี้ ในใจเธอต่อต้านและหวาดกลัว
“ก็ได้” หลิวเฟยเฟยนั่งกลับมาที่โซฟา “คุยที่ไหนก็เหมือนกันหมด”
ฉินยามองหน้าเธอ “คุณอยากพูดอะไรคะ? พูดความรักสมัยก่อนของคุณกับซูจ้านเหรอคะ? ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่อยากฟัง ถ้าคุณไม่ได้มาสั่งตัดเสื้อผ้า งั้นต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันต้อนรับคุณไม่ได้ อีกอย่าง ร้านเราก็หยุดแล้ว ถ้าคุณจะมาตัดเสื้อผ้าก็เชิญมาหลังตรุษจีนค่ะ”
ฉินยาพูดจบก็ได้เดินไปชั้นบน
“คุณรู้เรื่องของพ่อแม่ซูจ้านมั้ยคะ?” ฝีเท้าของฉินยาชะงักไว้ คราวก่อนเธออยู่โรงพยาบาลก็เคยได้ยินคุณย่ากับซูจ้านพูดถึงเหมือนกัน
รู้สึกซูจ้านจะต่อต้านมาก ส่วนรายละเอียดเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
“พวกคุณเป็นสามีภรรยากัน แต่เรื่องของพ่อแม่เขาก็ไม่ได้บอกกับคุณเหรอคะ?” หลิวเฟยเฟยรู้ว่าซูจ้านไม่อยากให้คนอื่นรู้
เธอเดิมพันว่าซูจ้านไม่ได้พูดกับฉินยาหรอก
ขอแค่ซูจ้านไม่ได้พูด งั้นเธอพูดขึ้นมา ก็ได้ยุยงปลุกปั่นความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว
ฉินยาจับราวจับบันไดไว้ กุมแน่นอย่างไม่ขาดสาย ข้อห้ามที่สุดระหว่างสามีภรรยากันก็คือการปิดบัง
ชัดเจนมากว่าซูจ้านไม่เชื่อใจเธอ ไม่ได้เป็นฝ่ายเล่าเรื่องตัวเองให้เธอฟัง
เธอนึกว่า ที่จริงความสัมพันธ์ของพวกเขาถือว่าค่อนข้างดีอยู่
ที่แท้บอบบางขนาดนั้นเลย
แต่แฟนเก่าปรากฏตัว ก็แตกร้าวเป็นเสี่ยงๆแล้ว
ถึงแม้ตอนนี้หัวใจเธอแสนเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้เผยออกมาให้หลิวเฟยเฟยเห็น
“เรื่องของเขา ฉันก็ต้องรู้อยู่แล้วค่ะ” ฉินยายิ่งปกปิดยิ่งเห็นได้เด่นชัด ต่อหน้าหลิวเฟยเฟยเธอแสร้งเป็นสงบนิ่งเพื่อปกปิด
หลิวเฟยเฟยจ้องหน้าเธอ จากนั้นได้หัวเราะเหมือนมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง “เหรอคะ?”
“งั้นคุณลองบอกฉันซิ ว่าพ่อแม่เขาตายยังไง?”
ฉินยาจ้องเธอกลับ “คุณรู้ไม่ใช่เหรอคะ? แล้วมาถามฉันทำไม?”
หลิวเฟยเฟยหัวเราะ “คุณกำลังหลอกตัวเอง คุณสามารถหลอกตัวเองได้ แต่คุณหลอกความสัมพันธ์ของพวกคุณไม่ได้หรอก ฉันบอกคุณตามตรงนะ ที่ฉันกลับมาคราวนี้ ก็เพื่ออยากกลับมาคืนดีกับเขาค่ะ”
ในใจของฉินยามีคลื่นกระเพื่อมจนนับครั้งไม่ถ้วน “คำพูดนี้ คุณควรจะไปพูดกับเขานะคะ”
“ฉันต้องพูดกับเขาอยู่แล้ว อีกอย่าง คืนนี้เราได้นัดเจอกันด้วย” หลิวเฟยเฟยมองหน้าเธอ “งั้นเราก็มาดูกัน ว่าเขาจะแคร์ใครมากกว่า”
หลิวเฟยเฟยพูดจบก็ได้หันหลังเดินจากไป
เหลือไว้แค่ฉินยายืนอยู่ตรงขั้นบันไดคนเดียว ก็เหมือนสถานการณ์ของเธอในตอนนี้ ไม่ขึ้นไม่ลง คาอยู่ตรงกลาง ทรมานจนหายใจไม่ออก
เธออยากจะเชื่อความสัมพันธ์ของเธอกับซูจ้าน แต่เห็นได้ชัดว่า ระหว่างพวกเขาไม่ใช่แค่ความรักที่เปราะบาง แม้แต่ความไว้เนื้อเชื่อใจขั้นพื้นฐานก็ยังไม่มีเลย
เธอก็อยากเชื่อซูจ้านนะ แต่คำถามที่หลิวเฟยเฟยถามมารัวๆ ทำให้เธอพบว่าซูจ้านไม่เชื่อใจเธอเลยด้วยซ้ำ
“เป็นลูกค้าที่มาให้ออกแบบเสื้อผ้าหรือเปล่า?” ไอรอนเดินลงมา
ฉินยาพูดอย่างแข็งกระด้าง “หาคนผิดแล้ว”
ไอรอนขมวดคิ้ว “หาคนผิดอะไรเหรอ?”
ฉินยาไม่ได้อธิบาย เธอลงไปชั้นล่างอย่างเร็ว “เธอบอกพี่หลินด้วยนะว่าฉันไปก่อนแล้ว”
ยังไม่ได้ยินคำตอบของไอรอนเธอก็วิ่งออกจากร้านไปแล้ว ยืนโบกรถอยู่ข้างถนนจะไปที่สำนักงานทนายความ
เธอจะไปถามซูจ้านให้รู้เรื่อง ถ้าเขาอยากคืนดีกับหลิวเฟยเฟยจริงๆ งั้นก็บอกเธอมาตรงๆ แต่อย่ามาปิดบังเธอทำร้ายจิตใจเธออย่างนี้
ตลอดทางในหัวของเธอสับสนมาก ได้คิดคำพูดไว้มากมาย เธออยากให้ซูจ้านฟัง เธออยากให้ซูจ้านรู้ความกระวนกระวายใจของเธอ ความกลัวในใจเธอ
ไม่นานรถก็ได้จอดลงที่หน้าสำนักงานทนายความ ฉินยาจ่ายตังค์แล้วลงจากรถ
เธอกำลังอยากจะเข้าไป ก็ทันเห็นซูจ้านเดินออกมาอย่างไวพอดี เหมือนมีเรื่องเร่งด่วนอะไร
“ซูจ้าน” ฉินยาเรียกเขา
“คุณมาได้ยังไงครับ?” ซูจ้านเดินมา
“ฉันมาหาคุณ ฉันมีเรื่องอยากจะถามคุณ และอยากคุยกับคุณค่ะ” ฉินยาพูด
“ตอนนี้ผมมีธุระนิดหน่อย คุณเข้าไปรอผมที่ออฟฟิศก่อนได้มั้ย?”
เสี้ยววินาทีนั้นหัวใจของฉินยาเหมือนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ร่างกายเซอย่างควบคุมไม่ได้ เหมือนวินาทีต่อไปก็จะวูบลงไปยังไงอย่างงั้น
เขาไปทำอะไร ไปเจอหน้าหลิวเฟยเฟยเหรอ?
เธออยากให้สีหน้าตัวเองดูไม่แย่ อยากให้ตัวเองอยู่ตรงหน้าเขาอย่าดูต่ำ แต่ว่า เธอกลับรู้สึกได้ถึงรสชาติของใจสลาย
“ข้างนอกหนาว คุณเข้าไปก่อน เดี๋ยวผมก็กลับมาแล้ว” ซูจ้านตบไหล่ของเธอ ไม่รอให้ฉินยาได้พูด เขาก็ขึ้นรถจากไปแล้ว