กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่311ให้คุณไปพบคนคนหนึ่ง
ซูจ้านเดินมาถึงพื้นที่สีเขียวที่อยู่ด้านนอกของโซนผู้ป่วยใน ถึงได้หยุดลง หลิวเฟยเฟยยืนอยู่ด้านหลังเขา “มีอะไรอยากพูดกับผมครับ?”
“ผมพูดกับคุณอย่างชัดเจนเลยนะครับ” ซูจ้านหนุนตัว เขาจ้องมองหญิงสาวที่เคยคุ้นเคย ที่ตอนนี้ยังคงเป็นใบหน้าใบเดิม แต่เขากลับรู้สึกได้แค่ความไม่คุ้นเคยเท่านั้น
เมื่อก่อนคุ้นเคยมาก แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจเธอเลยสักนิด
รู้สึกแค่มองเธอไม่ออก เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ในใจ
“คุณน่าจะรู้ดี ว่าทันทีที่คุณเลือกที่จะไป เรื่องระหว่างเราก็ถือว่าจบแล้ว ไม่ว่าตอนนั้นคุณจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม การที่คุณเลือกที่จะไป ก็แสดงว่าคุณได้ละทิ้งความสัมพันธ์เมื่อตอนนั้นไปแล้ว แต่ว่าคุณ ตอนนี้เอาแต่มีพัวพันอยู่แบบนี้ มีแต่จะทำให้ผมดูถูกคุณ ผมรู้สึกว่า เราควรหลงเหลือความทรงจำดีๆ ไว้บ้างจะดีกว่านะครับ ต่อไปคุณก็ไม่ต้องมาที่โรงพยาบาลอีผมหวังว่าคุณจะสามารถรักษาสัญญาของคุณได้ด้วย อย่ามารบกวนผมอีกนะครับ”
หลิวเฟงยเฟยไม่คิดว่าซูจ้านจะเด็ดขาดแบบนี้
ในใจนั้นรู้สึกผิดหวัง ผู้ชายที่เคยรักเธอนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนเป็นคนที่จะไม่รักเธออีก จะไม่ทำตัวระมัดระวังจากการที่เธอรู้สึกไม่ชอบใจ ตอนนี้เขาคิดแค่ว่าจะทอดทิ้งเธอเท่านั้น
สองมือของเธอกำจนเป็นหมัด เธอหัวเราะออกมาเบาๆ “การที่คุณมาตัดขาดความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่คิดถึงความทรงจำดีๆ ที่เคยผ่านมาบ้างเหรอคะ?”
“คุณยังบอกว่าเป็นความทรงจำดีๆ เลย เรื่องที่เคยเกิดขึ้นสำหรับผมมันก็กลายเป็นอดีตไปแล้ว” ซูจ้านดูใจเย็นมาก
เขาปล่อยวางอดีตได้แล้วจริงๆ
เขาคิดว่าตัวเองยังปล่อยวางไม่ได้ แต่ตอนที่ได้เจอเธอจริงๆ เขาจึงได้รู้ว่าตัวเองสามารถปล่อยวางได้แล้ว
ไม่มีโกรธเกลียด ไม่มีกล่าวโทษ
หลิวเฟยเฟยกัดริมฝีปาก เธอคิดว่าการที่กลับมาครั้งนี้ จะสามารถดึงเขากลับมาได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีคนที่ชื่อฉินยาปรากฏออกมาอย่างคาดไม่ถึงแบบนี้ จนทำลายแผนที่เธอวางไว้จนหมด
ความสุขในชีวิตของเธอต่อจากนี้ ต่างก็ฝากไว้ในตัวของซูจ้าน อายุของเธอไม่ได้น้อยแล้ว ไม่มีเวลาให้เสียอีก เธอเข้าใจดี ถึงเธอจะไม่เคยแต่งงาน แต่ว่า ร่างกายมันไม่ได้เต่งตึงเหมือนตนสาวๆ แล้ว ไม่มีทางที่จะหาผู้ชายที่มีครอบครัวดีๆ มีฐานะดีๆได้แน่นอน
ที่สำคัญ เธอมีลูกไม่ได้ ด้วยสาเหตุนี้ ผู้ชายหลายคนจึงยอมรับเธอไม่ได้ แถมเธอยังอยากได้ผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งรวยอีก
“ฉันเองที่ไม่ควรกลับมา” พูดจบ หลิวเฟยเฟยหมุนตัวแล้วเดินจากไป พอเดินไปได้สองก้าวก็หยุดเดิน “ฉันอวยพรให้คุณมีความสุข ต่อไป……ฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก”
หลิวเฟยเฟยเข้าใจดี ถ้าอยากดึงซูจ้านคืนมา มีแต่ต้องให้ฉินยาเดินจากไปเอง เธอถึงจะมีโอกาส เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ซูจ้านนั้นไม่มีทางไปจากฉินยาแน่นอน
สู้ทิ้งภาพจำดีๆ ไว้ให้ซูจ้านก่อน แล้วค่อยๆ หาทางดีกว่า
การเป็นหญิงชู้มาตั้งหลายปีของเธอนั้นไม่ได้เสียเปล่าหรอก เธอมีวิธีการมากมาย
มุมปากของเธอแย้มขึ้น แล้วยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
การที่เธอเด็ดขาดแบบนี้ ซูจ้านเองก็ปรับตัวตามไม่ทันเหมือนกัน
แต่แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว
หลังหลิวเฟยเฟยจากไป ซูจ้านก็ไม่ได้กลับไปที่ห้องผู้ป่วย แต่เดินออกไปนอกประตูใหญ่แทน นอกโรงพยาบาลมีร้านขายอาหารเช้าอยู่เยอะมาก เขาคิด ถ้าฉินยาตื่นมาจะต้องหิวแน่เลย และคุณย่าก็ต้องกินด้วย เขาจึงตัดสินใจไปซื้ออาหารเช้าแล้วค่อยกลับ
ตอนที่เขากลับมาจากหลังที่ซื้ออาหารเช้าเสร็จ ฉินยายังคงหลับอยู่ แต่ท่านย่านั้นตื่นแล้ว ลืมตาขึ้นมาครึ่งหนึ่ง เหมือนได้สติแล้ว ซูจ้านรีบเดินเข้าไป “คุณย่าตื่นแล้วเหรอครับ?”
ท่านย่าอยากจะพูด แต่ก็ทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้ออกมาเท่านั้น แต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ ท่านย่าแตกตื่น น้ำเสียงยิ่งแหบซ่านจนฟังไม่รู้เรื่องยิ่งกว่าเดิม
ซูจ้านวางของในมือลง กุมมือของเธอแล้วพูดให้กำลังใจไปว่า “คุณย่าอย่าเพิ่งตกใจ ไม่มีอะไรครับ คุณหมอบอกแล้วมันจะค่อยๆ ดีขึ้นเองครับ คุณย่าสนใจแค่พักผ่อนให้ดีๆ ก็พอ”
“ฮือฮือ……” ท่านย่าอยากพูดออกมา แต่พอเปิดปากพูดก็มีแต่เสียงอู้อี้ออกมาเท่านั้น คำที่พูดมาไม่มีพยางค์เลยทำให้ฟังไม่รู้เรื่องว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่?
ซูจ้านตบมือปลอบโยนเธอ เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เธอต้องการสื่อ จึงถามไปว่า “คุณย่าถามถึงฉินยาใช่มั้ยครับ?”
ท่านย่าพยักหน้า
ซูจ้านให้เธอมองไปที่โซฟา ท่านย่าชะโงกหน้าขึ้นมา ก็เห็นฉินยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ที่โซฟา ยังดีที่ยังไม่ไป ท่านย่าโล่งอกไปที แต่แล้วก็ต้องร้อนรนขึ้นมาทันที
กลัวซูจ้านจะต้องเสียฉินยาไปเพราะหลิวเฟยเฟย
“ฮือฮือ……” เธออยากจะพูดว่าหลิวเฟยเฟยนั้นไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เห็นภายนอก จะบอกให้เขาห้ามตกหลุมพรางของหลิวเฟยเฟยเด็ดขาด
แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถพูดมันออกมาได้ เธอพยายามจนหน้าแดงไปหมดแล้ว
“คุณย่าใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” ซูจ้านพูดให้เธอสบายใจ “ย่าไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่มีทางปล่อยให้ฉินยาจากไปแน่นอนครับ ตอนนี้คุณย่าจะตื่นเต้นไม่ได้นะครับ”
ท่านย่ากำมือของซูจ้านไว้แน่นๆ หวังว่าเขาจะทำตามที่พูดได้และไม่ทำเรื่องชั่วๆ อีก
ตอนเช้าหมอเข้ามาดูอาการ สถานการณ์ของท่านย่าก็คือต้องค่อยๆ รักษากันไป ค่อยเป็นค่อยไป หลังการผ่าตัด อาการทุกอย่างที่ปรากฏตอนนี้ก็ถือว่ายังอยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็น
บอกให้ซูจ้านดูแลเธอให้ดี
หลังจากที่หมอออกไป ซูจ้านก็ยกอาหารเช้าที่เพิ่งซื้อมาให้ “น่าจะหิวแล้วมั้งครับ?”
ท่านย่าพยักหน้า
ซูจ้านปรับหัวเตียงให้สูงขึ้น เอาเบาะไปรองไว้ที่หลังของท่านย่า เพื่อให้เธอหนุนได้อย่างสบาย จากนั้นก็ยกชามขึ้นมา แล้วป้อนโจ๊กให้เธอทีละคำทีละคำอย่างช้าๆ
ท่านย่าหลับตาลงอย่างลึกซึ้ง เพิ่งผ่านการผ่าตัดมา ร่างกายยังไม่ค่อยมีแรง ซูจ้านพยุงเธอให้นอนลง “ผมจะเฝ้าอยู่ตรงนี้ คุณย่าพักผ่อนอย่างสบายใจได้เลยครับ”
ฉินยาก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย
ซูจ้านให้พยาบาลช่วยดูสถานการณ์ในห้องให้ เขาอยากกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนค่อยกลับมา
บนตัวเขายังมีกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ยังไม่จางหาย เสื้อผ้ายับยู่ยี่ เขาที่ดมกลิ่นบนร่างกายของตัวเองยังรู้สึกว่าไม่น่าดมเลย
จากท่าทางของฉินยาดูแล้วก็น่าจะไม่ตื่นมาในเร็วๆนี้ เขารีบไปรีบกลับ ใช้เวลาไปแค่ไม่นาน
อีกด้านหนึ่ง ช่วงเช้าจงจิ่งห้าวไม่ได้กินข้าวเช้า ‘เกี๊ยวซ่า’ ที่กินไปเมื่อคืนก็ทรมานเขาทั้งคืน หลินซินเหยียนเห็นเขาแต่งตัวเรียบร้อย ยืนพิงอยู่ที่ประตูแล้วมองมาที่เขา “วันนี้จะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”
บริษัทต่างก็หยุดงานแล้ว จึงไม่ต้องเข้าบริษัท หลินซินเหยียนนึกว่าเขาจะแต่งตัวสบายๆ อยู่บ้านซะอีก
มีเวลาว่างทั้งที
จงจิ่งห้าวยืนอยู่หน้ากระจกแต่งตัว
ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นดูเคร่งขรึมและสงบ มือที่กำลังกัดกระดุมของเขาหยุดลง เหลือบมองขึ้นบนอย่างช้าๆ มองดูหลินซินเหยียนที่ยืนอยู่ข้างประตูจากทางกระจก “เดี๋ยว ผมจะพาคุณไปเจอคนคนหนึ่งครับ”
หลินซินเหยียนยืดตัวตรงขึ้น “เจอใครเหรอคะ?”
เธอแอบทายอยู่ในใจ
ทางนั้นเป็นญาติห่างๆ ของจงจิ่งห้าว ถึงแม้เหวินเสียนจะตายไปหลายปีแล้ว จงฉีเฟิงยังหมดสติอยู่ แต่ตอนนี้ปีใหม่แล้ว ก็ต้องมีการเคลื่อนไหวกันบ้าง
“ถ้าไปถึงคุณก็จะรู้เองครับ” จงจิ่งห้าวหมุนตัวพร้อมรอยยิ้ม มองมาที่เธอ “ทำไมผมรู้สึกว่าคุณกำลังตื่นเต้นอยู่ใช่มั้ยครับ?”
หลินซินเหยนียนตั้งใจทำตัวสบายๆ “ฉันตื่นเต้นตรงไหนคะ?”
จงจิ่งห้าวเดินเข้ามา สายตาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเธอหนึ่งนาที ดวงตาสีดำลึกซึ้ง ยื่นมือมาบีบคางเธอไว้ ขยี้ปลายนิ้ว “เมื่อคืนผมเสียใจมากเลยรู้มั้ย?”
หลินซินเหยียนอึ้งไป จากนั้นก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเขาพูดถึงอะไร เพื่อที่จะได้ ‘ระบาย’ แทนเฉิงยู่ซิ่ว เธอก็ตักเกี๊ยวซ่าให้เขาไปถ้วยใหญ่เลย
เพื่อไม่ทำให้เด็กๆ ทั้งสองต้องผิดหวัง เขาก็ฝืนกินมันจนหมด
หลินซินเหยียนกัดริมฝีปาก “ถ้าคุณยอมอ่อนข้อ ฉันก็คงไม่……”
“ต่อไปเรื่องระหว่างเรา คุณไม่ต้องมาสนใจ” จงจิ่งห้าวจิกลงไปบนริมฝีปากของเธอเบาๆ “ถ้ายังมีครั้งต่อไปอีก……”
เขาหัวเราะออกมาเบาๆ “ผมจะลงโทษคุณ”