กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่319 หลินกั๋วอันตายแล้ว
“นิดหน่อยครับ” ผู้จัดการใหญ่หลายคนของบริษัทดื่มอวยพรเขา เขาไม่ดื่มไม่ได้
เขาใกล้เข้ามาอีก ไออุ่นจากปากเขากระทบเข้าที่ใบหน้าเธอ มันคันยุกยิก หลินซินเหยียนเบือนหน้าหนีเล็กน้อย จงจิ่งห้าวจับแก้มของเธอไว้ ปรับให้ตรง ให้เธอมองมาที่เขา แล้วถามไปว่า “มันเหม็นเหรอครับ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “มีแต่กลิ่นเหล้า คุณคิดว่าไงล่ะ?”
“งั้นผมไปอาบน้ำก่อน” เขาอมยิ้ม “หรือเราไปอาบด้วยกันดีมั้ยครับ?”
หลินซิเหยียนอายจนหน้าแดงไปหมด ผลักเขาทีหนึ่ง “คุณไม่ต้องมากวนเลย”
พอเห็นเธอหน้าแดง เขาก็ยิ้มหนักกว่าเดิม ยืนขึ้นจากข้างเตียง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
ไม่นานเสียงซู่ซ่าก็ดังออกมาจากในห้องน้ำ
หลินซินเหยียนม้วนผ้าห่มไว้แน่น รู้สึกตื่นเต้นอยากน่าประหลาดใจ
ไม่นาน เสียงทุ้มลึกก็ดังออกมาจากห้องน้ำ “ช่วยหยิบเสื้อผ้าให้ผมหน่อยครับ”
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้น มองไปยังประตูกระจกของห้องน้ำ นึกถึงตอนที่เธออาบน้ำ ใส่ชุดคลุมอาบน้ำแค่ชุดเดียว ข้างในไม่มีอะไรแล้ว
เธอเอามือกุมขมับ ลืมเอาเข้าไปอีกชุด
เธอลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินไปหยิบชุดใหม่ที่อยู่ในตู้มาชุดหนึ่ง ตอนที่ย้ายเข้ามา เธอได้เตรียมของใช้พวกนี้มาด้วยเธอแกะป้ายออก เดินไปหน้าห้องน้ำ แล้วเคาะประตู “นี่ค่ะ”
ไม่นาน ประตูห้องน้ำก็เปิดออก มีมือยื่นออกมาจับข้อมือของเธอไว้ ในขณะที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกดึงเข้าไปข้างในแล้ว เธอถูกดันเข้าไปพิงอยู่ที่กำแพง
เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ไอ้น้ำลอยฟุ้งเต็มห้องไปหมด ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา หยดน้ำระยิบระยับเกาะเต็มไปหมด
“คุณคิดจะทำอะไร……อุ๊บ……”
เธอยังไม่ทันได้ถามเสร็จ ก็ถูกจูบเข้าไปแล้ว แล้วทุกอย่างตกอยู่ในความเร่าร้อนของเขา
……
ประตูกระจกตรงห้องน้ำ มีเงาคู่หนึ่งกำลังเคลื่อนไหว
เร่าร้อนแต่เนิ่นนาน
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าเขาจะถึงจุดสุดยอดเมื่อไหร่ สุดท้ายเธอก็หมดแรง ต้องอาศัยให้เขาช่วยอุ้มเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงล้มลงไปแล้ว
ในความงุนงงนั้น เธอก็ถูกอุ้มมาที่เตียง ซุกเข้าไปในผ้าห่ม เธอเหนื่อยอย่างถึงที่สุด แต่ยังมีคนที่ก่อความวุ่นวายอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ เธอใช้แรงทั้งหมดที่มี กัดเข้าไป จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว จากนั้นมันก็คลายออก แล้วถามอย่างขัดใจว่า “ยังอยากต่อใช่มั้ย?”
“คนชั่ว!” หลินซินเหยียนตำหนิออกมา ทั้งๆ ที่ถูกกระทำจนไม่มีแรงเหลือแล้ว แต่น้ำเสียงที่พูดออกมายังมีความขี้อ้อนอยู่
บนตัวของเธอมีรอยเต็มไปหมด เขารู้ดี ว่าเธอเหนื่อยมากแล้วจริงๆ จึงไม่ได้ทำอะไรเธอต่อ นอนกอดเธอ ปลอบเธอพร้อมกับตบหลังเบาๆ “ผมมันชั่ว ผมมันชั่ว……”
ครั้งนี้หลินซินเหยียนนอนหลับไปลึกมาก ตอนที่ตื่นมาคนข้างๆ ก็ไม่อยู่แล้ว
เธอลุกขึ้นมาหยิบมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะมาดูเวลา ใกล้จะบ่ายโมงแล้ว เธอเบิ่งตาโต นี่เธอนอนไปครึ่งวันแล้วเหรอเนี่ย?
ที่นี่ไม่ได้มีแค่จงจิ่งห้าว ยังมีเฉิงยู่ซิ่วกับจงฉีเฟิง เธอนอนตื่นสายมันจะเป็นยังไง?
คนอื่นเขาจะคิดยังไง?
เธอรีบเปิดผ้าห่มแล้วลงจากเตียง ไม่รู้ว่าเธอเร่งรีบเกินไป หรือเป็นเพราะการ ‘ทรมาน’ จากจงจิ่งห้าวเมื่อคืน ขาทั้งสองข้างของเธออ่อนแรง จนเกือบล้มลงพื้น ยังดีที่เธอไปคว้าหัวเตียงไว้อย่างได้ทัน จึงทรงตัวไว้ได้ก่อน เธอยืนตั้งหลังแปบหนึ่งถึงกล้าเดินต่อ เธอเดินไปอาบน้ำ ทันใดนั้น เธอก็เพิ่งสังเกตเห็นร่องรอยที่อยู่ตามตัว คิ้วของเธอขมวดเป็นปม นี่จะให้เธอออกไปเจอคนอื่นได้ยังไงเนี่ย?
แล้วเธอก็ด่าจงจิ่งห้าวในใจไปอีกหนึ่งพันรอบ
อาบน้ำเสร็จ เธอก็ไปหยิบเสื้อกันหนาวคอสูงตัวหนึ่งมาใส่ร่วมกับกระโปรงลายสก๊อต แต่งตัวเสร็จค่อยลงไปข้างล่าง
พอไม่เจอเฉิงยู่ซิ่วกับจงฉีเฟิงที่ห้องรับแขกเธอก็แอบโล่งอกไปบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอต้องอายมากแน่ๆ
“ตื่นแล้วเหรอคะ?” วันนี้เป็นวันสิ้นปี ทางวิลล่าไม่มีคน จึงได้เรียกเธอมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน พอเห็นหลินซินเหยียนตื่นแล้วเธอจึงรีบเข้ามาทักทาย
หลินซินเหยียนจับผมของตัวเองเพื่อปกปิดความผิดปกติของเธอ เธอไม่ได้มองตาของป้าหยู แค่ตอบค่ะไปเบาๆ
พอได้ยินเสียงของหลินซินเหยียน จงจิ่งห้าวก็พับโน๊ตบุ๊คลง เขากำลังดูรายงานประจำปีอยู่ ตอนนี้เขาก็ตัดสินใจไม่ดูแล้ว ลุกขึ้นจากโซฟา มองมาที่เธอ “น่าจะหิวแล้วมั้งครับ?”
หลินซินเหยียนไม่ได้สนใจเขา เธองอนแล้ว
เธอเดินลงจากบันไดแล้วตรงไปที่ห้องอาหาร
ป้าหยูยิ้มแย้ม “ที่ห้องครัวกำลังอุ่นให้คุณอยู่เลย เดี๋ยวฉันไปยกมาให้นะคะ”
หลินซินเหยียนดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงไป ป้าหยูยกอาหารที่อุ่นเสร็จแล้วมาให้เธอ พอเห็นจงจิ่งห้าวเข้ามา ก็เดินออกไปอย่างรู้หน้าที่ “ข้างนอกหิมะตกแล้ว ฉันขอออกไปดูหิมะก่อนนะคะ”
จงจิ่งห้าวปกคลุมเธอมาจากทางด้านหลัง มือทั้งสองวางอยู่สองข้างของเธอ ริมฝีปากโน้มเข้ามาที่หูเธอ “คุณโกรธเหรอครับ?”
หลินซินเหยียนก้มลงไป สองมือยกถ้วยเอาไว้ ซดน้ำซุปร้อนๆ ไปคำหนึ่ง
ทำเหมือนกับจงจิ่งห้าวเป็นอากาศ
จงจิ่งห้าวหอมแก้มเธอ หลินซินเหยียนก็ยิ่งไม่สนใจเขา เขายิ่งหนักข้อเข้าไปอีก สอดมือเข้าไปในเสื้อกันหนาวของเธอจากทางชายเสื้อ
“จงจิ่งห้าว!” ถูกยุจนโกรธแล้ว ลุกพรวดขึ้นมาจ้องหน้าเขา “นี่คุณยังมียางอายอยู่มั้ย? ถ้าเกิดมีใครมาเห็นเข้า คุณไม่คิดจะไปเจอใครอีกแล้วใช่มั้ย?”
พอเห็นใบหน้าที่บึ้งของเธอ เขากลับรู้สึกว่ามันน่ารักดี เขาขำออกมาเบาๆ “ในบ้านไม่มีใครอยู่ครับ”
เฉิงยู่ซิ่วกับจงฉีเฟิงได้พาเด็กๆ ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว บอกว่าจะกลับมาอีกทีตอนกลางคืน
ในบ้านไม่มีใครอยู่
“เมื่อเช้าทำไมถึงไม่ปลุกฉัน? ที่นี่ไม่ได้มีคุณแค่คนเดียว มีคนอยู่เต็มบ้านเลยนะคะ ทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กๆ ต่างก็ตื่นกันหมดแล้ว มีฉันคนเดียวที่นอนตื่นสาย คุณคิดว่าผู้ใหญ่จะมองฉันยังไง? คุณเคยคิดถึงฉันบ้างมั้ย?”
“ผมเห็นคุณง่วงมาก” เมื่อคืนตอนที่เขากลับมามันก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว แล้วเขายัง……กว่าเธอจะได้นอนก็แทบเช้าแล้ว ด้วยเหตุนี้เธอจึงหลับลึกมาก แล้วเขาจะทำใจปลุกเธอขึ้นมาได้ยังไงล่ะ
จงจิ่งห้าวเดินเข้ามากอดเธอ หลินซินเหยียนปัดมือเขาออก
เธอรู้สึกไม่พอใจในตัวจงจิ่งห้าวแล้ว จงจิ่งห้าวไม่สนใจการต่อต้านของเธอ ใช้กำลังกอดเธอเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้เธอขัดขืน เอามือของเธอไขว้ไว้ที่หน้าอก หน้าอกที่แข็งแรง แนบชิดไปที่แผ่นหลังอันเรียวบางของเธอ กัดหูของเธอแล้วถามไปว่า “เมื่อคืน ผมทำให้คุณเจ็บใช่มั้ยครับ?”
หลินซินเหยียนมองต่ำลง ดวงตามีน้ำไหลรินออกมา เธออ้อนวอนไปหลายครั้ง เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตรงนั้นยังระบมอยู่เลย
จงจิ่งห้าวซุกหน้าเข้าไปที่ซอกคอของเขา ในตอนที่ได้เธอมา เขาก็ศูนย์เสียการควบคุมที่เคยมีไป ต้องการแค่เธอ จนอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
ให้เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
“ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้” เสียงของเขาดังอู้อี้เข้าไปในหูเธอ
เขามีชีวิตมาสามสิบกว่าปีแล้ว เขาอดกลั้นมานานเกินไป พอได้ปลดปล่อย มันจึงเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก
เขาเงยหน้าขึ้นจากซอกคอของเธอ ใช้ใบหน้าสีเธอ “ต่อไปผมจะเบากว่านี้ครับ”
หลินซินเหยียนบิดตัวไปมา และถ่วงเวลา “ฉะ ฉันปฏิเสธได้มั้ยคะ?”
“ไม่ได้!” เขาสามารถตามใจเธอได้ทุกอย่าง ยอมได้ทุกอย่าง แต่เรื่องนี้ไม่ได้
เขาปลอบโยนเธอ ไม่กล้าทำให้เธอกลัวจนต้องหนีไป “ผมเป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง ถ้าอั้นไว้นานเกิดไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ วันละสามครั้งนะครับ?”
สำหรับจงจิ่งห้าวแล้ว มันก็เป็นเหมือนคืนแห่งการเข้าหอเลย เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่ในสภาพที่มีสติ ดื่มด่ำกับรสชาติของเธอ ครั้งแรก ที่เขาได้เป็นผู้ชายอย่างมีสติครบถ้วน
หลินซินเหยียน “……”
เธอทนไม่ไหวแล้ว “ครั้งเดียว”
“ไม่ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว” หลินซินเหยียนดื้อดึง
จงจิ่งห้าวกะพริบตาปริบๆ ขนตาที่แน่นหนาของเขาเลื่อนผ่านหางตาของเธอ มันจั๊กจี้ เธอเอนหัว จงจิ่งห้าวนึกว่าเธอโกรธแล้ว จึงได้ถอนหายใจออกมาในใจ
“ตามที่คุณว่าก็ได้ครับ ครั้งเดียว” ครั้งเดียวก็ครั้งเดียว อย่างน้อยก็ทำครั้งละนานๆ ก็ได้
ความจริงมันก็ไม่ได้ขาดทุนมากมายอะไร
เขาจูบลงที่หางตาของเขา แก้ม แล้วจูบลงไปที่คอของเธออย่างช้าๆ
หลินซินเหยียนพูดออกมาอย่างสิ้นหวังว่า “ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลยนะคะ”
การกระทำของจงจิ่งห้าวหยุดชะงักลง และได้ปล่อยเธอออก เธอผอมขนาดนี้แล้ว ถ้ายังกินไม่อิ่มอีก เอวบางๆ นั่นจะไม่ถูกหักเอาอย่างนั้นเหรอ?
ในตอนนั้นเอง มือถือที่จงจิ่งห้าวโยนไว้ที่โซฟาก็ดังขึ้น
หลินซินเหยียนจึงใช้ข้ออ้างนี้ผละออกจากเขา “รีบไปรับสายสิคะ”
จงจิ่งห้าวจัดเก้าอี้ให้เธอ “คุณนั่งลงก่อน”
หลินซิงเหยียนนั่งลงอย่างว่าง่าย เธอที่ทำตัวน่ารักขนาดนี้ จงจิ่งห้าวจึงจูบลงที่หน้าผากของเธอ “กินให้เยอะๆ นะครับ คุณผอมเกินไปแล้ว”
หลินซินเหยียนไม่พูดอะไร แล้วเอาของกินยัดเข้าปากไป
จงจิ่งห้าวยิ้ม แล้วเดินไปหยิบมือถือที่ดังไม่ยอมหยุด
เขากดรับสาย เสียงของเสิ่นเผยซวนดังออกมาจากทางนั้น
“จิ่งห้าวใช่มั้ย?” เขากลัวว่าคนที่รับสายจะไม่ใช่จงจิ่งห้าว จึงได้ถามเพื่อความมั่นใจ
น้ำเสียงของเขาฟังดูร้อนรนมาก
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว “ผมเอง”
ครั้งนี้เสิ่นเผยซวนถึงได้กล้าพูดออกมาอย่างสบายใจ “หลินกั๋วอันตายแล้ว”