กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่321 ชุดที่อบอุ่นที่สุดที่เธอเคยใส่
ถือถุงแล้วเดินออกประตูไป พวกเธอเดินช้อปปิ้งกันต่อ หลินซินเหยียนซื้อโค้ทขนสัตว์ตัวหนึ่งให้เฉิงยู่ซิ่ว เธอเห็นโค้ทขนแกะตัวหนึ่ง สีดำไม่ยาวมาก เหมาะกับป้าหยูมาก เธอให้พนักงานหยิบลงมาให้ป้าหยูลองสวมดู
ป้าหยูพอได้ยินว่าให้ตนเองลองสวมดู ก็รีบโบกมือทันที “ป้าไม่เอาค่ะ ป้ามีชุดของตัวเอง ไม่ต้องเอามาค่ะ ป้าไม่ลองค่ะ”
“ลูกสาวคุณสินะคะ ซื้อของให้คุณถือว่ากตัญญูค่ะ ให้คุณลองสวมดู คุณก็ลองสวมเถอะนะคะ เสื้อผ้าดีเวลาสวมก็จะทำให้ดูสาวด้วยนะคะ” พนักงานดูจากอายุของป้าหยู น่าจะอายุประมาณแม่ของหลินซินเหยียน ตามปกติแล้ว ลูกสะใภ้พาแม่ย่ามาซื้อเสื้อผ้ามีน้อยมาก 1ปีแทบจะมีแค่ไม่กี่คน ส่วนมาก จะเป็นลูกสาวซื้อให้คุณแม่
เพราะงั้นพนักงานก็เลยพูดออกไปแบบนี้
ป้าหยูหน้าซีด แล้วตำหนิพนักงาน “เธอพูดอะไรน่ะ นี่เป็นคุณผู้หญิงของบ้าน ป้าเป็นแค่ป้าที่คอยดูแลรับใช้เท่านั้น เธอพูดแบบนี้ จะทำให้ป้าลำบากใจหรือไง?”
หลินซินเหยียนตบบ่าป้าหยูเบาๆ “อย่าคิดมากค่ะ ไม่เป็นไร ป้าก็อายุพอๆกับแม่ฉันจริงๆแหละ”
“ขอโทษค่ะ”พนักงานตกใจไปพักหนึ่ง แล้วรีบขอโทษ เธอเพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก เจ้านายให้ของแก่คนใช้ในบ้าน ซื้อเสื้อผ้าที่ดีขนาดนี้
คิดในใจ บนโลกนี้มีคนที่ทั้งรวย แล้วก็ใจดีขนาดนี้ด้วยหรอ?
วันนี้ เธอได้เห็นกับตาแล้ว
“เจอคนที่ดีขนาดนี้ คุณก็ควรจะยอมรับมันนะคะ จะมีสักกี่คนที่โชคดีแบบคุณอย่างนี้กันคะ?” พนักงานต้องการทำหน้าที่ของตน หวังอย่างมากให้ป้าหยูลองสวมดู จากนั้นซื้อมันด้วย
“ลองสวมเถอะค่ะ” หลินซินเหยียนยิ้ม
“แต่ว่า…”
“มาลองที่ห้องลองชุดเลยค่ะ”พนักงานรีบดึงเธอเข้าไปที่ห้องลองชุด
ป้าหยูเป็นคนตัวไม่ค่อยสูง แบบสั้นเหมาะกับเธออย่างมาก
“ดูสิเหมาะมากเลย” พนักงานพูดชม
“งั้นเอาตัวนี้แหละ”
“ป้ามีชุดใส่แล้วจริงๆนะคะ” ป้าหยูจับพนักงานไว้ไม่ยอมให้เก็บใส่ถุง
หลินซินเหยียนตั้งใจพูดขึ้นมาว่า “ชุดนี้ฉันไม่ได้ซื้อให้เปล่าๆเสียหน่อย ต่อไปเสี่ยวซีกับลุ่ยซี ยังต้องรบกวนให้ป้าดูแลนี่คะ”
“ดูแลพวกเขาเป็นหน้าที่ป้าอยู่แล้วค่ะ” ป้าหยูกล่าว “อีกอย่างป้าก็ไม่ได้ไม่เอาเงินเดือนนี่ค่ะ”
จงจิ่งห้าวแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยละเลยเธอเลย บัตรในมือของเธอ ล้วนเป็นแบบไม่จำกัดวงเงิน
เห็นได้ว่า เธอได้รับความเชื่อใจขนาดไหน
“คุณโชคดีจริงๆเลยนะคะ ฉันยังไม่เคยเจอเจ้านายที่ดีขนาดนี้เลย น่าอิจฉาจริงๆค่ะ”พนักงานตั้งใจพูดขบขัน “ให้ฉันไปทำหน้าที่แทนคุณดีมั้ยคะ?”
ป้าหยูรีบโบกมือทันที “ไม่ได้หรอกค่ะ”
ไม่ใช่ว่าเธอเสียดายเงินหรือว่างานดีๆแบบนี้ แต่เป็นเพราะ เธอกลัวว่าคนอื่นจะดูแลได้ไม่ดี
ถือโอกาสที่ป้าหยูผ่อนแรงลง พนักงานก็นำชุดมาแพ็คใส่ถุง
แบบนี้ป้าหยูก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว หลินซินเหยียนจ่ายเงิน แล้วหิ้วถุงเดินออกประตูไป
ผ่านไป3ชั่วโมง ถุงเล็กถุงใหญ่ พวกเธอถือจนเต็มมือทั้งสองข้างแล้ว
ในเวลาต่อมา หลินซินเหยียนเห็นร้านเสื้อขนเป็ดร้านหนึ่งแบรนด์AQ เธอหยุดฝีเท้าลง เมื่อก่อนตอนที่อยู่ประเทศA ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก จวงจื่อจิ่นก็มีเงินไม่มาก ทุกครั้งเมื่อถึงฤดูหนาวจะหนาวเป็นพิเศษ ตอนนั้น เธอกลัวช่วงฤดูหนาวที่สุด
เธอจำได้ว่าตอนเธอ12ขวบ จวงจื่อจิ่นใช้เงินเดือนทั้งเดือน ซื้อเสื้อขนเป็ดทรงสลิมเข้ารูปให้เธอตัวหนึ่ง ก็คือแบรนด์นี้
นั่นเป็น ชุดที่อบอุ่นที่สุดที่เธอเคยใส่
เธอหันข้างไปทางป้าหยู “ป้าไปรอฉันในรถก่อนนะ”
ป้าหยูพยักหน้า หิ้วของเดินจากไปก่อน
หลินซินเหยียนเดินเข้าไปในร้าน
พนักงานเข้ามาต้อนรับ “ด้านนี้เป็นสินค้าใหม่ เชิญดูก่อนได้เลยค่ะ”
หลินซินเหยียนไม่ได้ไปตามโซนที่พนักงานแนะนำ แต่เดินไปอีกโซนหนึ่งแทน
เธอหาชุดนั้นไม่เจออีกแล้ว คิดดูแล้วรุ่นนั้นคงจะโดนล้างสต๊อกไปแล้วล่ะ
มันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วนี่นา
พนักงานเดินตามมาแนะนำ “ด้านนี้เหมาะสำหรับวัยกลางคน คุณใส่เอง หรือว่าซื้อไปให้คนอื่นคะ?”
หลินซินเหยียนเห็นเสื้อโค้ทขนเป็ดสีเทาทรงยาวเลยเข่ามีฮู้ดขนเฟอร์ชุดหนึ่ง เธอจำได้ว่าจวงจื่อจิ่นจะปวดข้อเข่าเมื่ออากาศหนาว เป็นมาตั้งแต่ตอนอยู่ประเทศA ดังนั้นเธอเลยชอบเสื้อโค้ทขนเป็ดทรงยาว เธอบอกว่าเวลาใส่มันช่วยปกป้องเข่าได้
อีกอย่างจวงจื่อจิ่นสูงราว165 เวลายืนขึ้น ใส่ทรงยาวก็ยังคงดูดี
หลินซินเหยียนจับดูเนื้อผ้าที่ละเอียดของเสื้อโค้ทขนเป็ด ก็หวนกลับไปนึกถึงเรื่องราวมากมายตอนอยู่กับจวงจื่อจิ่น “ตัวนี้ ยังมีไซส์Mอีกมั้ยคะ?”
พนักงานส่ายหน้า “มีแต่ไซส์L XL XXLค่ะ ถ้าหากว่าคุณต้องการ ฉันให้สำนักงานใหญ่ส่งมาให้ได้ค่ะ ถ้าหากว่าคุณไม่อยากเข้ามาเอาเอง เรามีบริการส่งให้ค่ะ”
หลินซีเหยียนคิดอยู่พักหนึ่ง “งั้นช่วยส่งมาให้ฉันหน่อย1ตัวค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณจะเข้ามาเอาเอง หรือว่าให้เราส่งไปให้คะ?”
“ฉันเอาที่อยู่ให้ค่ะ พวกคุณช่วยส่งไปให้ฉันหน่อยนะคะ” เธอกลัวว่าถ้าตนเองเจอกับจวงจื่อจิ่น ก็จะทำให้เขาโกรธอีก ดังนั้น เลยตัดสินใจให้คนจากร้านเสื้อผ้าส่งให้ดีกว่า
“งั้นก็ได้ค่ะ คุณทิ้งที่อยู่เอาไว้นะคะ” พนักงานยื่นกระดาษกับปากกาให้เธอ “เบอร์ติดต่อของคุณก็ทิ้งเอาไว้ด้วยนะคะ หลังจากเราส่งของให้แล้ว จะแจ้งให้ทราบค่ะ”
หลินซินเหยียนตอบอืม ทิ้งที่อยู่ของตระกูลหลินไว้ จากนั้นก็ทิ้งเบอร์ติดต่อของตนไว้ จ่ายเงิน แล้วก็ออกจากร้านไป
ตระกูลหลินในขณะนั้น
ถูกสั่งปิดพื้นที่ คนใช้และจวงจื่อจิ่นถูกนำตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ หลินกั๋วอันเสียชีวิตอยู่บนเตียง ตอนนี้หมอนิติเวชกำลังชันสูตรศพ
“ห้องนอนไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ จากปากคำของคนใช้ หลังจากที่จวงจื่อจิ่นเข้ามาอาศัย ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินกั๋วอัน จวงจื่อจิ่นทำอาหารให้หลินกั๋วอันทานทุกวัน ทั้งสองคนแทบจะตัวติดกันตลอด ไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม”
ตอนแรกเสิ่นเผยซวนก็สงสัยว่าจวงจื่อจิ่นเป็นคนฆ่าหรือไม่ ยังไงเมื่อก่อนหลินกั๋วอันก็เลวมาก
แต่ว่าหลังจากมาถึงที่เกิดเหตุ หลักฐานที่ใช้ฆ่าเขาสักชิ้นก็ไม่มี
จงจิ่งห้าวลืมตาขึ้นมองไปยังเสิ่นเผยซวน “ถ้าหากเป็นนาย นายจะยอมยกโทษให้กับคนที่หักหลังนาย ตามด้วยทำร้ายลูกนายจนตาย และไม่สนใจไยดีนายนานหลายปีมั้ย?”
เสิ่นเผยซวนคิดสักพักก็ส่ายหน้า “ไม่ ฉันไม่ได้บ้าสักหน่อย…”
เสิ่นเผยซวนเข้าใจความหมายของเขาอย่างรวดเร็ว “นายกำลังสงสัย…”
“ไม่ใช่สงสัย”เขาแน่ใจ ตอนนั้นจวงจื่อจิ่นยืนยันหนักแน่นที่จะแต่งงานอีกครั้งกับหลินกั๋วอัน แต่งงานอีกรอบได้ไม่นาน หลินกั๋วอันก็เกิดเรื่องขึ้น เขาไม่คิดว่านี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญแน่ๆ
ตอนนี้เองที่หมอนิติเวชเดินลงมาจากบนตึก
เสิ่นเผยซวนรีบเดินเข้าไปหา “มีเบาะแสอะไรมั้ย?”
หมอนิติเวชพยักหน้า “มี”
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้ว “พบอะไร?”
“ตอนนี้ผมเองก็ยังสรุปอะไรไม่ได้ คำตอบที่แน่นอน รอผมกลับไปตรวจสอบทางเคมีก่อนถึงจะสามารถบอกได้”หมอนิติเวชตอบ
เสิ่นเผยซวนถาม “เมื่อไหร่ถึงจะรู้ผล?”
“อย่างช้าที่สุด วันมะรืนนี้” หมอนิติเวชตอบ
“ผมเข้าใจแล้ว พาเขากลับเข้าไปเถอะ” เสิ่นเผยซวนสั่งลูกน้อง
เขาเดินมาข้างจงจิ่งห้าว “นี่ถ้าหากว่าเป็นจวงจื่อจิ่นจริงๆ…”
ประโยคถัดไปเขาไม่ได้พูดมันออกมา หากว่าเป็นจวงจื่อจิ่นจริง ฆ่าคนถือว่าผิดกฎหมาย ต้องรับผิดทางอาญา เช่นนั้นหลินซินเหยียนจะทำยังไง?
“นายพยายามเก็บเงียบเอาไว้ อย่าได้แพร่งพรายออกไป”ตอนนี้ยังไม่เลวร้ายที่สุด ยังดีที่ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าจวงจื่อจิ่นเป็นคนฆ่า