กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่364 ตรวจสอบเหวินชิง
หน้าห้องมีหญิงสาวหน้าตาสวยงามยืนอยู่คนนึง
เธอเห็นจงจิ่งห้าวแล้วไม่รู้สึกทึ่งเลยสักนิด เหมือนกับรู้ว่าคนที่มาคือเขา
ถ้าไม่ใช่เขาสิถึงแปลก
“คุณมาเอาของใช่มั้ยคะ?” ผู้หญิงถามด้วยรอยยิ้ม
ภายใต้แสงไฟสาดส่อง ใบหน้าผู้หญิงงดงามขาวผ่องดั่งหยกน้ำงาม เวลาพูดจาดวงตาทั้งคู่สว่างดั่งดวงจันทร์ สวยหยาดเยิ้ม สวยจนไม่มีอะไรมาเทียบได้
แต่อยู่ในสายตาจงจิ่งห้าว ไม่มีอะไรที่โดดเด่นมากเป็นพิเศษ ก็แค่ผู้หญิงคนนึงเท่านั้น
กับผู้หญิงที่หน้าตาสวยงามอย่างนี้คนนึง สีหน้าเชาไม่หวั่นไหวเลยสักเลย แม้แต่น้ำเสียงก็เย็นชาห่างเหินมาก “อืม”
ผู้หญิงหลีกทางให้ด้วยรอยยิ้ม “เข้ามาข้างในเลยค่ะ”
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจเกิดความสงสัย
เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้โผล่ที่ข้างกายเหวินชิงมาก่อนเลย
อีกอย่าง เหวินชิงเอาของมาฝากไว้กับผู้หญิงที่ยังเยาว์วัยขนาดนี้ได้ยังไง?
“พ่อฉันกับลุงเหวินเป็นเพื่อนเก่าแก่มานานหลายปี เอกสารการฝึกซ้อมของบุคลากรเพิ่งเลื่อนขั้นที่ค่อนข้างโดดเด่นอยู่ที่พ่อฉัน ลุงเหวินจะดู แต่ว่าพ่อของฉันไม่ว่าง ก็เลยให้ฉันมาที่นี่ค่ะ……” ผู้หญิงได้อธิบาย “ฉันชื่อเฉินชือหาน ถ้าคุณมีข้อข้องใจก็โทรถามลุงเหวินดีกว่าค่ะ”
เฉินชือหานพูดได้ชัดเจนขนาดนี้ จงจิ่งห้าวกลับไม่สะดวกที่จะพูดอะไรแล้ว เขาก้าวเท้าเดินเข้ามา
เฉินชือหานปิดประตู และหันไปหยิบเอกสารบนโต๊ะยื่นให้กับเขา
ตอนที่จงจิ่งห้าวรับเอกสาร เฉินชือหานไม่ได้ปล่อยมือ
เธอมองจงจิ่งห้าว “คุณไม่แปลกใจเหรอคะว่าทำไมลุงเหวินถึงได้ให้ฉันมาส่งเอกสารให้คุณ? คุณลองคิดดู ระดับของพ่อฉันกับลุงเหวินข้างกายมีอารักขาอยู่ อีกอย่างอยู่หน่วยงานเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากเลยด้วยซ้ำ ใช้ฉันกับคุณเจอหน้ากันมาส่งมอบเอกสารฉบับนี้”
จงจิ่งห้าวสงบเยือกเย็น ความข้องใจตั้งแต่แรกของเขาก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ “อ๋อ? คุณรู้?”
“ฉันก็ต้องรู้อยู่แล้วค่ะ ก่อนที่พ่อจะให้ฉันมา ฉันได้ยินพวกท่านคุยสายกันค่ะ” เฉินชือหานนั่งลงที่โซฟาอย่างชิวๆ
เธอรู้ว่าจงจิ่งห้าวสนใจที่จะฟังเธอพูดต่อแน่นอน
จวจิ่งห้าวพยักหน้าเล็กน้อย เขาไม่ได้อยากรู้ว่าพวกท่านคุยอะไรกัน เขาอยากรู้แค่ว่าเหวินชิงทำแบบนี้ทำไม
รอยยิ้มเธอเบิกบานเหมือนดอกไม้ “คุณอยากให้ฉันบอกคุณมั้ยคะ?”
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากพูดแต่โดยดี
จงจิ่งห้าวเป็นคนที่เย่อหยิ่งมากแค่ไหน มีหรือที่จะปล่อยให้ผู้หญิงคนนึงมาควบคุม?
เขาชายตามองเธออย่างเรียบเฉยแว๊บนึง ก็ได้เดินออกไปจากห้อง
ผู้หญิงคิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่ตื๊อถามเลย พอเธอลุกขึ้นเดินมา จวจิ่งห้าวก็ได้ขึ้นลิฟต์ไปแล้ว
เธอยืนอยู่หน้าห้อง จู่ๆได้หัวเราะขึ้นมา “สมกับเป็นจงจิ่งห้าวจริงๆ”
เป็นมหาเศรษฐีที่หนุ่มและไฟแรงที่สุด ไม่เพียงมีเงินทองที่นับไม่ถ้วน ยิ่งมีใบหน้าที่เพียงพอให้ผู้หญิงมากมายหลงใหลเหมือนต้องมนต์สะกด
เธอชักจะตั้งตารอแล้ว ว่าต่อจากนี้พ่อของเธอกับเหวินชิงจะจับคู่เธอกับจงจิ่งห้าวยังไง
ก่อนหน้านี้เธอรู้แค่ว่าจงจิ่งห้าวรวยมากและหน้าตาดี วันนี้พอปุ๊บเห็น ที่แท้บนตัวของคนที่ครอบครองสิ่งเหล่านี้ จะเผยความมั่นใจและความหนักแน่นที่แทรกซึมอยู่ในจิตวิญญาณออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ช่างดึงดูดคนอะไรปานนั้น
จงจิ่งห้าวขึ้นรถ เอาของกลับบริษัท คำพูดของเฉินชือหานได้ทิ้งเครื่องหมายคำถามอยู่ในใจของเขา
การกระทำวันนี้ของเหวินชิงแปลกประหลาดจริงๆ
รถได้จอดที่โรงรถของใต้ตึกบริษัท ตอนที่เขาลงจากรถ เห็นซองเอกสารโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เลยถือโอกาสเอาลงมาแล้วเดินเข้าลิฟต์ไป
“ดิ๊ง”เสียงนึง ลิฟต์ได้เปิดออก
เขาออกมาจากลิฟต์ ตอนที่เดินผ่านเคาน์เตอร์ของเลขา ได้สั่งการว่า “ให้กวนจิ้งมาหาผมที่ออฟฟิศ”
พอพูดจบเขาได้ผลักประตูของออฟฟิศเดินเข้าไป จากนั้นได้เอาซองเอกสารวางไว้บนโต๊ะ และดึงเนคไทออก ขณะนี้กวนจิ้งได้เดินเข้ามาพอดี
เขาชี้เอกสารบนโต๊ะ ให้เขาส่งไปให้เหวินชิง
กวนจิ้งบอกว่าโอเค ตอนที่กวนจิ้งถือเอกสารเดินมาถึงหน้าห้อง จงจิ่งห้าวได้เรียกเขาไว้ “เดี๋ยว”
กวนจิ้งหยุดฝีเท้ายืนอยู่ที่หน้าห้อง และมองหน้าจงจิ่งห้าว รอคำพูดถัดไปของเขา
จงจิ่งห้าวพึมพำไปครู่นึง “นายไปตรวจสอบดูว่าช่วงนี้ตระกูลเหวินมีอะไรผิดสังเกตหรือเปล่า”
กวนจิ้งรู้ความสัมพันธ์ของจงจิ่งห้าวกับทางโน้นอยู่
ทำไมจู่ๆจะตรวจสอบตระกูลเหวิน?
กวนจิ้งถามหยั่งเชิงอย่างระมัดระวัง “ตรวจสอบเหวินชิงเหรอครับ?”
จงจิ่งห้าวยกมือปลดกระดุมของแขนเสื้อ “ฉันพูดไม่ชัดเจนพอ? หรือว่านายอยากรู้อะไร?”
“เปล่าครับๆ” กวนจิ้งฝืนยิ้มแล้วรีบไปจากออฟฟิศ
กวนจิ้งปิดประตูออฟฟิศแล้วยืนอยู่หน้าห้อง มองดูเอกสารในมือแว๊บนึง และเงยหน้ามองประตูที่ปิดสนิทแล้ว ทำไมเขาพบว่าจงจิ่งห้าวของวันนี้เหมือนจะอารมณ์ไม่ค่อยดี
เขายักไหล่ทีนึง เรื่องพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะกังวล รีบทำเรื่องที่จงจิ่งห้าวมอบหมายให้เสร็จโดยเร็วดีกว่า
เขาโทรศัพท์ไปด้วย และถือเอกสารเดินเข้าลิฟต์ไปด้วย
อีกฝั่งนึง หลินซินเหยียนมาถึงในร้าน ก็ได้เรียกบุคลากรทั้งหมดในร้านมาเปิดประชุม
เธอออกแบบเสื้อผ้าที่โดเด่นออกมาก็ไม่มีประโยชน์ ว่ากันว่าของดีก็กลัวคนจะตามเสาะหาไม่เจอ
จะต้องมีคนที่มีชื่อเสียงใส่ ถึงมีผลของการโฆษณา
ไอรอนเอามือท้าวคาง รู้สึกเรื่องนี้ง่ายมาก “ฉันรู้สึกประธานจงเหมาะสมมากเลย”
คนมีชื่อเสียง
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว เสื้อผ้าของจงจิ่งห้าวล้วนเป็นทางการมาก อีกอย่าง ให้เขาเที่ยวพูดกับคนอื่นไปทั่วว่าเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่สั่งตัดมาจากที่เธองั้นเหรอ?
พอคิดๆดูแล้ว ฐานะของเขาคือช่วยโฆษณาเสื้อผ้าน่ะเหรอ ตลกจะตายไป
อีกอย่าง เธอไม่อยากพึ่งจงจิ่งห้าว
“ไม่ได้” เธอปฏิเสธอย่างเฉียบขาด
ไอรอนแซวเล่น “หวงใช่มั้ยล่ะ”
หลินซินเหยียนหัวเราะ เธอก็ไม่ได้โกรธ เธอพอใจกับสถานะของตอนนี้มาก และความสัมพันธ์กับจงจิ่งห้าว
“คนที่สามารถทำให้โฆษณาเกิดผลก็ต้องเป็นดาราที่กำลังโด่งดังในขณะนี้อยู่แล้ว” ไอรอนพูด
หลินซินเหยียนก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่า เธอไม่อยากหาดาราหญิง
ที่ผ่านมาดีไซน์ของพวกเธอมุ่งเน้นไปที่ตลาดของผู้หญิงมาโดยตลอด น้อยมากที่จะออกแบบเสื้อผ้าผู้ชาย ครั้งนี้ เธออยากบุกเบิกเสื้อผ้าผู้ชาย
“หลี่จ้านหนุ่มน้อยที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ แต่ว่า ค่าพรีเซ็นเตอร์ค่าออกงานของเขาก็ไม่ต่ำเลย” ไอรอนพูด
ปกติหลินซินเหยียนไม่ติดตามดาราเลยไม่รู้เรื่องพวกนี้ อีกอย่างดาราที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้ก็ไม่อาจถูกใจเธอเสมอไป ขอแค่บุคลิกจะต้องตรงตามตำแหน่งของเธอ จะเอาแค่บุคลิกที่สอดคล้องกับความต้องการของเธอเท่านั้น
“ไอรอน เราสองคนดีไซน์คนละสองแบบ สุดท้ายตัดสินใจเลือกออกมาหนึ่งคอลเลคชั่น ส่วนเรื่องพรีเซ็นเตอร์ ฉันมาเลือกเอง”
ไอรอนบอก “โอเค”
“ช่วงนี้ทุกคนอาจจะต้องลำบากหน่อยนะ” ดีไซน์ออกมาบวกกับผลิต แถมคุณภาพยังต้องผ่าน คงจะต้องทำโอทีแน่นอน
ทุกคนไม่มีบ่นอะไรเลย ผลประโยชน์ในร้านดี รายได้ของพวกเขาก็จะสามารถกระเตื้องขึ้นมาด้วย เลยสมัครใจที่จะทำโอทีอยู่แล้ว
เสร็จสิ้นการประชุม หลินซินเหยียนขังตัวเองอยู่ในออฟฟิศ เธอมีความคิดตั้งนานแล้ว เพราะฉะนั้นเลยมีการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า
เธอได้วาดภาพดีไซน์ออกมาแล้วใบนึง ตอนนี้เธอจะต้องคัดเลือกดาราชายที่ตรงตามบุคลิกของในใจเธอ
แน่นอนถ้าเอาดาราที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ค่าตัวออกงานอีเว้นท์สูง ประสิทธิผลในการโฆษณาก็สูงขึ้นเช่นกัน
เธอคิดได้ยาวไกล ดาราชายโฆษณาหลักๆคือจะบุกเบิกเสื้อผ้าผู้ชาย แต่แฟนคลับของดาราชายส่วนมากล้วนเป็นผู้หญิง แบบนี้จะสามารถพาลูกค้าใหม่ๆมาเพิ่มจากเหตุนี้ได้
เธอเข้าไปค้นหาข้อมูลของดาราชายเหล่านั้นจากในเน็ต ไม่นึกเลยว่าคนที่แสดงผลคนแรกจะเป็นหลี่จ้านที่ไอรอนพูดถึง
ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชาย โครงหน้าเหมือนหนุ่มหล่อที่ล่ำลือกันในตำนานเทพเจ้ากรีกโบราณ เพอร์เฟคเหมือนNarcissus เขามีดวงตาคู่นึงที่ลุ่มลึกและลึกลับเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน
หลินซินเหยียนชักจะเกิดความสนใจในตัวเขาขึ้นมาแล้ว
จึงได้เริ่มอ่านดูประวัติส่วนตัวของเขาขึ้นมา