กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่383 พระที่ระงับความโลภ
หลินซินเหยียนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ถึงแม้ว่านายไม่ตกลงที่จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้ฉัน ฉันก็เข้าไปกับนายไม่ได้”
หลี่จ้านยกมือ “คุณคิดว่าตัวเองมีทางเลือกอื่นไหม?”
หลินซินเหยียน “……..”
“ฉันไม่สน ไม่ว่ายังไง ฉันก็ไม่มีทางเข้าไปกับคุณ” หลินซินเหยียนเด็ดเดี่ยวมาก
หลี่จ้านสงสัย เขาไม่ได้จะให้เธอไปทำอะไรที่ขัดกับมโนธรรมหรือสิ่งผิดกฎหมายซะหน่อย แค่ไปเจอคนคนหนึ่ง ทำไมถึงต่อต้านขนาดนี้
“ข้างในนี้มีคนที่คุณรู้จัก?” หลี่จ้านถามอย่างทดสอบ “มีคนที่คุณไม่อยากเจอ?”
กับเขาก็แค่คนรู้จัก มิตรภาพก็ไม่ได้ลึกมาก ไม่อยากพูดเรื่องของตัวเองให้เขาฟัง
เธอหลบสายตาที่หลี่จ้านมองมา “ฉันแค่ไม่อยากไปปรากฏอยู่ในสายตาคนอื่นทั้งๆ ที่ใส่กุญแจมือไว้ คนที่ไม่รู้ เขาอาจจะคิดว่าฉันไปทำอะไรผิดมา ?”
หลี่จ้านอึ้งไปสักพัก ก้มหน้ามองกุญแจมือที่มือของตัวเอง ขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกคนเล่นงาน
แต่ว่าเป็นแบบนี้แล้ว เขาเองก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน
ถึงแม้ว่าจะไปปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนแบบนี้มันน่าอาย จนกระทั่งจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด
“คนนี้สำคัญต่อผมมาก ถ้าคุณไม่ไป ผมจะทำยังไง?” หลี่จ้านก็รู้สึกหมดหนทาง
เขาคิดขึ้นมาได้ “คุณไม่อยากเจอคน ผมเอาอุปกรณ์ของผมให้คุณ”
พูดไปเขาก็เอาแว่นยื่นให้หลินซินเหยียน ยังให้คุณไจแอ้นเอาผ้าปิดปากให้หลินซินเหยียน
หลินซินเหยียน” …….”
“ช่วยไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเจอคนนี้” ท่าทางของเขาแน่วแน่มาก เหมือนกับว่าถ้าหลินซินเหยียนไม่ตกลง เขาก็จะลากเธอขึ้นไปเลย
ช่วยไม่ได้ หลินซินเหยียนทำได้เพียงตกลง
ใส่ผ้าปิดปากแว่นตา ส่องกระจกมองหลังทีหนึ่ง มั่นใจว่ามองไม่เห็นหน้าแล้วถึงจะสบายใจ
เธอมองไปทางกรรมพันธุ์ “เรื่องที่คุณบอกว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้ฉันฟรีๆ จริงใช่ไหม?”
ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์เป็นเงินก้อนที่ไม่น้อยเลยจริงๆ ไม่ใช่ว่าเธองก อยากจะเอาเปรียบเขา เขาเป็นคนพูดเอง
เธอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้เลย พอถึงเวลาก็จะให้เล็กน้อย ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นถึงดาราแนวหน้า ค่าตัวออกงานไม่น้อย ทำการโปรโมทให้ตัวเอง จะปฏิบัติไม่ดีไม่ได้
หลี่จ้านมองเธอไว้อย่างจริงจัง “ขอแค่คุณเข้าไปกับผม ผมก็จะเป็นพรีเซนเตอร์ให้คุณฟรีๆ เชื่อผมได้ไหม?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “ฉันไม่เอาเปรียบคุณ ฉันเช็คมาก่อนแล้วว่าค่าตัวดาราอย่างพวกคุณอย่างน้อยก็เริ่มด้วยหนึ่งล้าน พวกเราคิดตามราคาเริ่มแล้วกัน ถือซะว่านายหักส่วนลดให้ฉัน ฉันรับน้ำใจของคุณด้วย”
หลี่จ้านยิ้ม “คิดละเอียดขนาดนั้นเลย?”
“โบราณว่า พี่น้องแท้ๆ ยังคิดตามจริง ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณเอาเปรียบด้วย” หลินซินเหยียนพูดอย่างตรงไปตรงมา
มิตรภาพเป็นมิตรภาพ ธุรกิจคือธุรกิจเอามาพูดรวมกันไม่ได้
และยิ่งเอาเปรียบเพราะเป็นคนรู้จักก็ไม่ได้ มิตรภาพไม่ได้คบหากันแบบนี้
เธอเองก็ไม่ใช่คนที่ชอบเอาเปรียบ
หนึ่งก็คือหนึ่ง สองก็คือสอง พูดให้ชัดเจนพูดให้ละเอียดก็จะไม่เกิดการเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น ต่อไปเจอหน้ากันก็จะไม่อึดอัด
หลี่จ้านพูด “ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราลงรถกันเถอะ” เขาใช้มือข้างเดียวในการเปิดประตู หลินซินเหยียนตามลงไป
กุญแจมือที่สะบัดไปน่าเกลียดเกินไปจริงๆ
หลี่จ้านให้คุณไจแอ้นถอดเสื้อคลุมแล้วเอามาคลุมไว้ที่มือ “นายรอฉันอยู่ที่รถ”
คุณไจแอ้นพยักหน้า
ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ใครหน้าไหนก็จะเข้าไปได้ หลี่จ้านก็ไม่กลัวว่าจะถูกคนอื่นมองออกเลย
เขาคุ้นเคยกับที่นี่มาก พาหลินซินเหยียนไปนั่งลิฟต์ หลังจากขึ้นลิฟต์ หลินซินเหยียนก็เห็นชั้นที่เขากด ขมวดคิ้ว คนที่เขาจะไปพบเป็นใครนะ?
“พี่ชายผมเอง”
“เป็นผู้บริหารของว่านเยว่กรุ๊ป?” หลินซินเหยียนถาม
หลี่จ้านหันมามองเธอ “เคยได้ยินชื่อจงจิ่งห้าวไหม?”
หลินซินเหยียนหายใจเข้าลึกๆ เธอเงยหน้ามองหลี่จ้าน ขอบตากระตุกอย่างไม่ได้ตั้งใจ “คุณหมายความว่า เขาเป็นพี่ชายของคุณ?”
หลี่จ้านถอนหายใจ ท่าทางเหมือนทำอะไรไม่ได้เลย “คุณเคยได้ยินชื่อเขาไหม?”
หลินซินเหยียนยังไม่ทันตั้งใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เขาคือใคร?
หลี่จ้าน?
“จงจิ่งห้าวคุณน่าจะเคยเห็นเขาบนนิตยสารการเงินแล้ว ผู้ชายแก่ๆ ที่อายุ30กว่าใกล้จะเข้า40แล้ว วันๆ เอาแต่ทำสีหน้าเย็นชา ผมมักจะคิดว่าเขาไม่ปกติอยู่ตลอดเวลา คุณว่าผู้ชายที่ปกติคนหนึ่ง อายุขนาดนี้ต้องแต่งงานมีลูกแล้วใช่ไหม?ถึงแม้ว่าจะไม่แต่งงาน ตามค่าตัวของเขา ข้างกายเขาน่าจะควรมีคนรักหลายคนอะไรอย่างนี้ใช่ไหม แต่เขากลับทำตัวเหมือนพระที่ระงับความโลภเลย”
หลี่จ้านรู้แค่ว่าจงจิ่งห้าวคบกับเหอรุ่ยหลิน ต่อมาตอนที่ยกเลิกสัญญาแต่งงานเขาเองก็ตะลึงเหมือนกัน เขาคิดว่าจงแค่ไหนห้าวรับตั้งหน้าตั้งตาหอรุ่ยหลินมาก เพราะเคยยอมรับแค่ผู้หญิงคนนี้คนเดียว ต่อมายกเลิกสัญญาแต่งงาน เขาถึงรู้ว่าจงจิ่งห้าวอาจจะไม่ได้รักเธอเลย
ถ้ารักผู้หญิงคนหนึ่งจริงๆ ไม่มีทางที่ประกาศเรื่องหมั้นไปแล้ว ค่อยไปยกเลิกหรอก
หลังจากที่ยกเลิกสัญญาการหมั้น ข้างกายของเขาก็ไม่มีคนอื่นเลย
เขายุ่งมาก เวลาครึ่งหนึ่งเอาแต่บินไปมา เพื่อถ่ายงานและเข้าร่วมรายการ รับโฆษณา เวลาอีกครึ่งหนึ่งก็อยู่เมืองนอก ตอนที่ไม่รับงานอะไรก็หลบอยู่ในโรงเรียน ใส่แว่น หวีผมลงมา เป็นอาจารย์ที่มหาลัยสบายๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างเหวินชิงก็ไม่ดี เขาไม่ชอบกลับบ้าน โทรหาหลี่จิ้งก็แค่ถามเรื่องสุขภาพ แล้วก็บอกว่าตัวเองอยู่ดีเป็นสุข ไม่เคยไปถามถึงเรื่องของจงจิ่งห้าวเลย
ในสายตาของเขา จงจิ่งห้าวก็เหมือนเดิม นอกจากหาเงินเป็น กับมีหน้าตาที่ดีแล้ว เป็นคนที่ไม่มีความสุขในชีวิตเลย
หลินซินเหยียน “…….”
“ในสายตาคุณ เขาเป็นคนแบบนี้ ?”
หลี่จ้านคิดสักพัก พยักหน้าอย่างจริงจัง “เขาเป็นคนที่ไม่มีความสนุกกับชีวิตเลย คุณบอกสิ หาเงินเยอะแยะขนาดนั้นแล้วมีประโยชน์อะไร?”
เศรษฐีคนไหนไม่เลี้ยงสาวสวยๆ ไว้เล่นบ้าง?