กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่387 ฉันกับเธอแค่คนเดียว
“นายควรกลับบ้านแล้ว”
หลี่จ้านคิดว่าจงจิ่งห้าวจะด่าเขา สุดท้ายแค่บอกว่าให้เขากลับบ้าน
รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเป็นอย่างมาก
“ได้ ได้ครับ” หลี่จ้านยิ้มออกมาอย่างจริงใจ
เขาไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วจริงๆ ควรกลับไปดูหน่อยแล้ว
ไม่ว่ายังไงเหวินชิงก็เป็นพ่อของเขา และเขากควรกลับไปเยี่ยมหลี่จิ้งแล้ว
หลี่จ้านมองหลินซินเหยียนไว้ลังเลที่จะพูดหรือไม่พูด อยากจะอธิบายคำพูดที่พูดตอนที่อยู่ในลิฟต์ แต่จงจิ่งห้าวอยู่ เขาก็ไม่ดีที่จะอธิบาย คิดแล้วก็ช่างเถอะ ต่อไปยังมีโอกาสอยู่
ยังดีที่เขาตกลงจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้หลินซินเหยียน และยังไม่เอาค่าตัวในการออกงานอีกด้วย ไม่อย่างนั้นจะยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่
เขาพูดในใจ โลกนี่ช่างเล็กเหลือเกิน
หลินซินเหยียนกับจงจิ่งห้าว?
หลี่จ้านยิ้มแล้วเดินเข้าลิฟต์ บังเอิญแค่ไหนได้พบผู้ชายคนนั้นที่เขาเจอตอนที่มา
เขาเห็นหลี่จ้านตัวคนเดียว ก็เลยถาม “แฟนสาวของนายละ ?”
หลี่จ้านจ้องเขาเขม็ง “นายใช้ตาข้างไหนเห็นว่าฉันมีแฟน?”
“เห็นด้วยตาทั้งสองข้างของฉันนี่แหละ พวกนายยังจับมือกันเลย ท่าทางเหมือนความสัมพันธ์จะดีมากด้วย” ชายคนนั้นพูดโดยไม่คิด
สีหน้าของหลี่จ้านยิ่งดุร้ายขึ้นมา “ถ้านายยังพูดมั่ว ฉันก็จะควักตาของนายซะ”
ชายคนนั้นตกใจ เขาคิดว่าที่หลี่จ้านโกรธคือล้อเล่น แต่ความโหดร้ายในตอนนี้ ไม่เหมือนกับว่าแกล้งเลย ทำไมคนคนนี้ถึงเปลี่ยนหน้าเร็วขนาดนี้?
หลี่จ้านกลัวว่าจะเกิดความเข้าใจผิด แล้วคนนี้ก็ไปแพร่กระจายทั่วในบริษัท
เพราะว่าฐานะของหลินซินเหยียน……..
ก่อนหน้านี้ที่เขาพูดอะไรตามอำเภอใจเพราะว่าเขาไม่รู้ แต่ตอนนี้จะพูดเล่นแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว
คุณไจแอ้นเห็นหลี่จ้านกลับมาคนเดียว กะพริบตา “ทำไมถึงมีแค่คุณคนเดียว?”
กุญแจมือเปิดได้ยังไง?
หลี่จ้านไม่ได้อธิบาย เปิดประตูรถแล้วนั่งขึ้นไป ‘กลับบ้าน”
คุณไจแอ้นรู้ว่าความสัมพันธ์ของหลี่จ้านและเหวินชิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าที่เขาพูดว่ากลับบ้านนี่หมายความว่าอะไร เขาก็เลยถามอย่างระมัดระวังว่า “กลับตระกูลเหวิน?”
หลี่จ้านลืมตาขึ้น ใบหน้าที่หล่อเหลาเผยสีหน้าที่ดุร้าย “ฉันมีกี่บ้าน หือ?”
คุณไจแอ้นรู้จักนิศัยของเขาดี ก็เลยไม่ได้ว่าหรือเถียงอะไรเขา สตาร์ทรถแล้วขับออกไป
กลับตระกูลเหวิน เขาแค่ขับรถไปทางบ้านเหวินก็พอ
ช่วยเขาแบ่งเบาภาระได้หน่อย เขาจะได้ไม่ต้องกลัวพวกนักข่าวปาปารัสซี่แล้ว
ชุมชนที่ตระกูลเหวินอยู่ คนนอกเข้าไม่ได้ ปลอดภัยมากจะบอกให้
อีกด้านหนึ่ง จงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนกลับเข้าไปในห้องทำงาน เลขาเอาน้ำเข้ามาเสิรฟ์ให้ หลินซินเหยียนยกแก้วหนึ่งในนั้นขึ้นมา จิบไปคำหนึ่ง “หลี่จ้านเป็นลูกของเหวินชิง?”
ถึงจะเป็นประโยคคำถาม แต่กลับเป็นน้ำเสียงที่ยืนยัน
จงจิ่งห้าวตอบอื้มเบาๆ
หลินซินเหยียน นี่มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว
“คิดไม่ถึงจริงๆ ครูของเสี่ยวเฉินจะมีความสัมพันธ์แบบนี้กับนาย” หลินซินเหยียนรู้สึกว่าโลกนี้ช่างเล็กเหลือเกิน
ไปๆ มาๆ ก็เป็นคนในกลุ่มเดียวกัน
จงจิ่งห้าวกอดเธอแล้วพูดว่า “มันบอกอะไรกับเธอ?”
ดุจากท่าทางของหลี่จ้านแล้วร้อนตัวแน่ ตอนที่ไม่รู้ตัวตนของหลินซินเหยียน ต้องพูดอะไรไปแน่ๆ
หลินซินเหยียนหันไปมองเขา จงจิ่งห้าวอยู่ใกล้เธอมาก ตอนที่เธอหันหน้าไปขนตาของเธอขุดโดนหน้าของเขา รู้สึกคันเล็กน้อย เขาแนบข้างหูของเธอแล้วพูดว่า “ว่าอะไรฉัน?”
หลินซินเหยียนคิดสักพัก ตั้งใจพูดว่า “เขาบอกว่านายหลายใจมาก”
“พูดเหลวไหล”
หลินซินเหยียนยิ้ม เพราะเรื่องของจวงจื่อจิ่นทำให้อารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย “เขาพูดผิดหรอ?”
เขาค้องเอวของเธอไว้ ตัวของหลินซินเหยียนกระแทกเข้าอกของเขา เธอถูกกระแทกจนปวดหน้าอก ผลักเขาแต่เสียดายที่เขาแรงเยอะเกินไป ร่างกายแข็งดั่งภูเขาที่ไม่สั่นคลอน
สายตาของเขาเร้าร้อน รักใคร่พัวพันกันอย่างแยกออกมาไม่ได้ “ฉันอยากนอนเธอแค่คนเดียว”
หลินซินเหยียน “………”
หน้าของเธอร้อนขึ้นมา คนนี้……….
จงจิ่งห้าวยิ้ม ก้มหน้าลงไปจูบปากของเธอ “รู้ไหม เห็นเธอหน้าแดง จิตใจของฉันมันก็ฟุ้งซ่านไปหมด”
หลินซินเหยียน “……..”
“ไม่เชื่อ เธอจับดู” จงจิ่งห้าวจับมือของเธอไว้ แล้วเอาไปวางบนจุดอ่อนไหวของตัวเอง
หลินซินเหยียนวุ่นวายไปหมด คนนี้ไร้ยางอายโดยไม่แยกแยะสถานที่เลย
หลี่จ้านบอกว่าอะไร บอกว่าเขาไม่ชอบผู้หญิง
เหลวไหลสิ้นดี
นี่ก็จะกลายเป็นโรคจิตแล้ว
หลินซินเหยียนดันหน้าของเขา “นายยังมีหน้าอยู่ไหมเนี่ย?”
จงจิ่งห้าวยิ้มเบายิ้งกว่าเดิม ปนกับเสียงที่แหบ “ชีวิตของฉันก็ให้เธอไปแล้ว ยังจะเอาหน้าอีกทำไม?”
หัวใจของหลินซินเหยียนเต้นเร็วขึ้น หน้าและหูแดงไปหมด
จงจิ่งห้าวจูบคอของเธอ “พวกเรามาลองทำกันในห้องทำงานสักครั้งไหม?”
ความร้อนแผดเผาจากหน้าไหลลงไปบนคอ เธอพูดกดเสียงว่า “ถ้านายยังเล่น ฉันจะโกรธจริงๆ นะ”
หัวใจของเธอสั่นระรัว แต่ว่าสติที่เหลือของเธอทำให้เธอรับไม่ได้ กลางวันแสกๆ ทำเรื่องแบบนั้น และยังอยู่ในห้องทำงานของเขาอีก
“แม่ฉันไม่สบาย เดี๋ยวฉันจะไปเยี่ยมท่าน” เธอตั้งใจพูดเรื่องอื่น เพื่อขัดจังหวะบรรยากาศที่มีเสน่ห์นี้
ถ้าปล่อยให้ดำเนินต่อไป ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้
อย่างที่คิดเลย หลังจากคำพูดเดียวของหลินซินเหยียน ทำให้บรรยากาศลดลงไปหลายองศาทันที
จงจิ่งห้าวขยี้ผมของเธอ “เมื่อกี้อารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องนี้?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
จงจิ่งห้าวกอดเธอไว้แล้วปลอบ “ไม่ต้องห่วง มีฉันอยู่ทั้งคน ฉันจะหาหมอที่ดีที่สุดให้ท่านเอง”
หลินซินเหยียนพิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา
อยากจะร้องไห้ โตขนาดนี้ ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยมีใครเคยบอกกับเธอว่า ‘ยังมีฉันอยู่ทั้งคน’
จริงด้วย ยังมีเขาอยู่ ความอ่อนโยนที่เขามีให้เธอ ได้ทำให้เธอจมหรือติดนานแล้ว
เธอชอบผู้ชายคนนี้จังเลย
ครือ ครือ……..
โทรศัพท์ของหลินซินเหยียนที่อยู่ในกระเป๋าสั่น
เธอยื่นมือไปเอาโทรศัพท์ออกมา เห็นเบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ของเสิ่นเผยซวน
ทั้งสองคนสบตากัน รู้เลยว่าที่เขาโทรมาเวลานี้ต้องเป็นเพราะว่าจัดเตรียมเรื่องของจวงจื่อจิ่นเรียบร้อยหมดแล้ว
หลินซินเหยียนรับสาย ตามคาด “ผมได้เตรียมเสร็จหมดแล้ว คุณมาได้เลย”
หลินซินเหยียนบอกว่าได้
วางสาย เธอยังไม่ทันพูดอะไร จงจิ่งห้าวก็พูดขึ้นมาก่อนแล้ว “ฉันส่งเธอไป”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
จงจิ่งห้าวช่วยเธอจัดคอเสื้อที่ถูกเขากอดจนยับ ไม่มีอะไรที่ไม่ดี จงจิ่งห้าวโอบเธอเดินออกมาจากห้องทำงาน
หลังจากจงจิ่งห้าวประกาศฐานะของหลินซินเหยียน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวในบริษัท
เมื่อก่อนที่ไม่รู้ตัวตนของเธอ ก็เลยสงสัยในตัวของเธอมากกว่า
ตอนนี้ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ นี่เป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ถึงได้ให้จงจิ่งห้าวชอบขนาดนั้น?
ผู้หญิงที่สามารถปรับจงจิ่งห้าวได้ไม่ธรรมดาแน่นอน
ตอนที่ทุกคนเห็นจงจิ่งห้าวกอดเธอออกมา ในขณะที่เคารพก็สำรวจไปตามด้วย
“คุณผู้หญิง” รู้ตัวตนของเธอแล้ว จะเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว
จะแสดงความเคารพก็ต้องทักทาย
หลินซินเหยียนยิ้มกลับให้ ไม่ถ่อมตัวหรือเสแสร้ง ใจกว้าง
มีคนพูดขึ้นมาอย่างใจกล้าว่า “ประธานจง งกจังเลยครับ ไม่ให้ขนมแต่งงานพวกผมกินเลย”
จงจิ่งห้าวยิ้มแล้วพูด “ครั้งหน้านะ”
เขากอดหลินซินเหยียนเดินเข้าลิฟต์
เดินออกจากลิฟต์ จงจิ่งห้าวขับรถ หลินซินเหยียนนั่งข้างคนชับ เธอพิงเก้าอี้ไว้ จับสร้อยบนคอที่จวงจื่อจิ่นให้จงจิ่งห้าวใส่ให้เธอ
จงจิ่งห้าวใช้มือเดียวในการจับพวงมาลัย เว้นมืออีกข้างออกมาจับมือของเธอไว้
หลินซินเหยียนหันหน้ามองมา