กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่389 ฉันทำคนเดียวก็ได้
มอบลูกสาวให้จงจิ่งห้าว
ยังคลอดลูกชายและลูกสาวให้จงจิ่งห้าวอีก
จวงจื่อจิ่นเด็กกว่าเฉินยู่ซิ่ว แต่ดูแล้ว เธอจะดูแก่กว่าเยอะเลย จวงจื่อจิ่นตอนเป็นสาวไม่ได้หาบ้านที่ดี ต้องทุกข์ ต่อมากลับมา เธอเลือกที่จะเดินทางที่ผิด
เฉินยู่ตอนสาว ก็ไม่ได้ราบรื่น แต่ว่าหลังจากที่แต่งงานกับจงฉีเฟิง อย่างน้อยก็ถูกดูแลเป็นอย่างดี
เทียบกับจวงจื่อจิ่นแล้วเธอถือว่าโชคดีแล้ว
ตอนนี้มีลูกชายมีครอบครัวแล้ว มีลูกสาวและลูกชาย ชีวิตที่เหลือของเธอก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว
“รีบเข้าไปเถอะ พวกเขาจะรอไม่ไหว” เฉินยู่ซิ่วพูดอย่างอ่อนโยน
จวงจื่อจิ่นในตอนนี้น่าจะอยากเจอหลานทั้งสองคนเร็วๆ แล้ว
หลินซินเหยียนพูดตามหลัง “แม่ พวกเราเข้าไปเถอะ”
จวงจื่อจิ่นพยักหน้า
เฉินยู่ซิ่วไม่ได้ตามเข้าไป แต่เดินออกไปข้างนอกคนเดียว จวงจื่อจิ่นเจอหลานทั้งสองคนครั้งหนึ่ง คิดแล้วก็ไม่ง่าย เพราะสถานะของเธอในตอนนี้ไม่อิสระ
นี่เป็นครั้งแรกที่จงจิ่งห้าวมองเฉินยู่ซิ่วจากด้านหน้า
เธอเองก็ไม่ใช่ว่าไม่มีดีอะไรเลย
เธอผิด ผิดก็ผิดที่ไม่ควรแต่งงานกับจงฉีเฟิง ในเวลาที่ไม่เหมาะสม
เขาดึงสายตากลับมา
ประตูเปิดออก เด็กทั้งสองคนรออยู่ที่ห้องรับแขก เฉินยู่ซิ่วน่าจะได้บอกเด็กทั้งสองคนแล้วว่าจวงจื่อจิ่นจะมาเยี่ยมพวกเขา ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาคอยอยู่
เห็นจวงจื่อจิ่นปรากฏตัว เด็กทั้งสองคนก็พุ่งเข้าไปหาพร้อมกันเลย
“ยาย ผมคิดถึงยายจังเลย” เด็กทั้งสองคน คนหนึ่งกอดขาของเธอไว้ข้างหนึ่ง เอาหน้าถูที่ขาของเธอ
จวงจื่อจิ่นตาเปียก เธอก้มหน้ามองเด็กสองคน ขยี้หัวของพวกเขา “ยายเองก็คิดถึงพวกเธอ”
เด็กทั้งสองคนถูกเลี้ยงดูดีมาก พวกเขาเหมือนจะสูงขึ้นอีกแล้ว โดยเฉพาะหน้าของหลินซีเฉินยิ่งเหมือนจงจิ่งห้าวเข้าไปใหญ่ หล่อมาก
ส่วนหลินลุ่ยซีก็จะเหมือนหลินซินเหยียนเล็กน้อย
เธออยากจะอุ้มเด็กทั้งสองคนขึ้น แต่เห็นว่าพวกเขาโตกันหมดแล้ว เธออุ้มไม่ไหวแล้ว
หลินซีเฉินดึงมือของเธอไว้ “ยายรีบเข้ามาสิ”
หลินลุ่ยซีกลับบบ่น “ยายทำไมถึงไม่มาเยี่ยมพวกหนูนานขนาดนี้ ลืมพวกหนูไปแล้วหรอ?”
จวงจื่อจิ่นยิ้มแล้วจับแก้มของหลินลุ่ยซี “ยายจะไปลืมหลานได้ยังไงกัน?ตอนหลานยังเด็กยายเป็นคนอุ้มหลานจนโตนะ ตอนที่หลานพึ่งคลอด ตัวแค่เนี้ย” จวงจื่อจิ่นใช้มือในการเปรียบเทียบ “เหมือนกับแมวตัวน้อยเลย ตอนนี้โตแล้ว ยายเองก็อุ้มไม่ไหวแล้ว”
หลินลุ่ยซียิ้มแฉ่ง เกาะติดจวงจื่อจิ่นไว้ “ยายชอบทำแต่ของที่หนูชอบกินให้กินตลอด ดูสิอ้วนขึ้นเยอะเลย”
เธอบีบแก้มตัวเองเหมือนกับผู้ใหญ่
จวงจื่อจิ่นมองหน้าของหลินลุ่ยซี ผิวพรรณที่เหมือนดั่งตุ๊กตาพอร์ชเลน อ้วนๆ จนมีผิวสัมผัสที่ดี ตาคู่ที่ทั้งโตและสว่าง ดูน่ารักมาก
ดูออกเลยว่าพวกเขาถูกเลี้ยงดูและเป็นห่วงเป็นใยอย่างดีมาก
เธอมองเด็กทั้งสองคนอย่างลึกซึ้ง “เห็นพวกเธอมีชีวิตที่ดีขนาดนี้ ยายเองก็มีความมากแล้ว”
หลินลุ่ยซีนอนไว้ที่อ้อมอกของเธอ “ที่นี่ใหญ่มาก ยายเองก็มาอยู่กับพวกเราเถอะ”
หัวใจของจวงจื่อจิ่นหยุดชะงัด ขณะนั้นหัวใจได้เต้นช้าลง
ถ้าเธอไม่ถูกความเกลียดชังทำให้เสียสติไป ตอนนี้เธอก็สามารถใช้ชีวิตร่วมกับลูกๆ และมองดูพวกเขาเติบโตได้
เห็นหลินซินเหยียนร้องไห้เธอยังไม่เสียใจเท่านี้เลย
แต่ว่าเห็นเด็กสองคนนี้ เธอเสียใจที่ตัวเองวู่วามเกินไป
เธอเอาหลินลุ่ยซีกอดเข้าอ้อมกอด เธออยากจะอยู่กับพวกเขาแค่ไหน อยากจะมองดูพวกเขาเติบโต
“ยาย อันนี้ให้ยายกิน” หลินซีเฉินรู้ว่าจวงจื่อจิ่นชอบกินกล้วย ปอกเสร็จหนึ่งอันแล้วยื่นมา
จวงจื่อจิ่นรับมา แล้วก็กอดหลินซีเฉินเข้าอ้อมกอดด้วยเช่นกัน
เธอเสียใจมาก แต่ก็พยายามอดกลั้น ไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าเด็กๆ
หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าทางเดินไม่ขยับ เธอมองจวงจื่อจิ่นและเด็กทั้งสอง กลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมาก
จงจิ่งห้าวกอดเธอไว้ ลูปแขนเธอเพื่อปลอบเบาๆ “ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
ตอนนั้นตัดสินว่าเป็นการไม่ได้ตั้งใจ ก็เลยโดนไม่กี่ปี ตอนนั้นเรื่องนี้กำลังดังมาก จวงจื่อจิ่นไม่เข้าไปก็ไม่ได้แล้ว รอผ่านไปสักระยะ ให้ข้ออ้างว่าพฤติกรรมดีก็เลยลดหย่อน แค่1-2ปีก็ได้ออกมาแล้ว
หลินซินเหยียนรู้ เธอแค่หวังว่าจวงจื่อจิ่นออกจากเรือนจำด้วยสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เวลาที่เหลือยังมีอีกเยอะ
เธฮพิงไว้ที่อกของจงจิ่งห้าว หน้าแนบกับอกของเขา กอดเอวของเขาไว้ “ฉันชอบนายจริงๆ”
นี่เป็นครั้งแรก ที่เธอแสดงความในใจออกมาตรงๆ แบบนี้
จงจิ่งห้าวก้มหน้าลง จูบไปที่หน้าผากของเธอ แล้วถูที่หน้าผากของเธอ
เธอหลับตา เพลิดเพลินไปกับความอ่อนโยนของช่วงเวลานี้
จวงจื่อจิ่นมองจากกระเบื้องโปร่งแสง เห็นเงาสองคนที่ยืนกอดกันตรงทางเข้า เธอยิ้ม
เธอดีใจกับหลินซินเหยียน
จงจิ่งห้าวมีความเป็นผู้ใหญ่และมีจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง การงานก็ประสบผลสำเร็จ ดีต่อหลินซินเหยียนด้วย หลินซินเหยียนอยู่กับเขาเธอวางใจ
จวงจื่อจิ่นอยู่กับเด็กทั้งสองคนเป็นเวลา 2 ชม. หลินซินเหยียนดูเวลา ถ้าสายกว่านี้โรงพยาบาลจะเลิกงานแล้ว วันนี้ก็จะไม่ทัน เพราะฉะนั้นเธอก็เลยเดินไปขัดจวงจื่อจิ่นและเด็กทั้งสองคน “วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ”
หลินซีเฉินมองหลินซินเหยียน “ยายจะไปอยู่หรอ?”
หลินซินเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร จวงจื่อจิ่นก็แย่งพูดก่อน “ยายจะไปที่ไกลๆ ใช้เวลานาน วันนี้มาเยี่ยมพวกเธอ ก็คือมาบอกลาพวกเธอ”
“ยายไม่ไปได้ไหม?” หลินลุ่ยซีดึงปลายเสื้อของจวงจื่อจิ่น
จวงจื่อจิ่นก้มหน้ามองหลินลุ่ยซี จับหน้าของเธอขึ้นมาแล้วจูบหน้าผากของเธอ “ยายก็จะคิดถึงหลาน แต่ว่า ยายไม่ไปไม่ได้ เหมือนกับที่เสี่ยวลุ่ยก็ใกล้จะไปเรียนแล้ว มันเป็นเรื่องจำเป็น”
หลินลุ่ยซีเองก็ไม่เข้าใจหมายความว่าอะไร ก็แค่ไม่อยากจากจวงจื่อจิ่นเท่านั้น กลัวว่าจะไม่เจอเธออีก
ตอนเด็กถุกจวงจื่อจิ่นอุ้มเยอะ ก็เลยสนิทมาก
“เสี่ยวลุ่ย เสี่ยวเฉินต่อไปต้องฟังคำพูดของหม่ามี๋นะ” จวงจื่อจิ่นมองเด็กทั้งสองคนไว้
หลินซีเฉินพยักหน้า “พวกผมจะดูแลหม่ามี๋ให้ดีๆ เอง ยายไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ รอผมโตแล้ว ไม่ใช่แค่เลี้ยงหม่ามี๊ ก็จะเลี้ยงดูยายด้วยครับ”
จวงจื่อจิ่นยิ้ม หลินซีเฉินยังคงเป็นผู้ใหญ่เหมือนเดิม
เธอลุกขึ้นยืน ถึงจะไม่อยากจากยังไง แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วเธอก็ต้องจากไปอยู่ดี ยิ่งอยู่ยิ่งอึดอัด
“ยายไปแล้วนะ”
หลินลุ่ยซียืนอยู่หน้าโซฟา จ้องมองด้วยตาโตๆ “ยาย อยายลืมกลับมาเยี่ยมหนูกับพี่ด้วยนะ”
จวงจื่อจิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “ได้สิ”
ที่บ้านไม่มีคน หลินซินเหยียนให้จงจิ่งห้าวอยู่ไว้ “ฉันคนเดียวก็ได้แล้ว”
จงจิ่งห้าวเอากุญแจรถยื่นให้เธอ “มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉัน”
หลินซินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่าได้ เธอเอาโทรศัพท์แล้วเดินออกไปพร้อมกับจวงจื่อจิ่น
หลังจากที่ขึ้นรถ จวงจื่อฉินมองลูกสาวไว้ “แม่ไม่อยากโรงพยาบาล”
มือที่กำลังคาดเข็มขัดของหลินซินเหยียนชะงัด แล้วพูดอย่างห้ามปฏิเสธว่า “ไม่ได้ ต้องไป หนูดูสีหน้าของแม่แล้วผิดปกติ ไม่ไปหนูไม่วางใจ ถ้าไม่มีโรคอะไรยิ่งดี ถ้ามี ก็ต้องตรวจสอบให้ทันเวลา จะได้ไม่ทำให้การรักษาล่าช้า
จวงจื่อจิ่นโอบไหล่ของหลินซินเหยียนแล้วพูดว่า “แม่มีความสุขมากที่มีลูกสาวอย่างลูก”
หลินซินเหยียนหันหน้า ไม่ให้จวงจื่อจิ่นเห็นขอบตาที่เปียกของเธอ
เธอกดปุ่มสตาร์ท
ขับรถออกไป “ดังนั้นแม่จะต้องมีร่างกายที่ดี แบบนี้ถึงจะมีเวลาอยู่กับหนูได้นานๆ”
จวงจื่อจิ่นไม่ได้พูดอะไรต่อ
หลินซินเหยียนขับรถไปถึงโรงพยาบาล พอเธอจอดรถก็มีคนเดินมาทางนี้