กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่409 ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณ
ไป๋ยิ่นหนิงเงยหน้าขึ้น พอเห็นหลี่จ้าน ก็นิ่งสงบ ซ่อนอารมณ์ไว้
ตอนที่เขาตรวจสอบเหวินชิง รู้ว่าเหวินชิงมีลูกชายหนึ่งคน เป็นดาราดัง ตอนนั้นเขาประหลาดใจมาก นึกไม่ถึงเลยว่าลูกชายของเหวินชิงจะเป็นดาราดัง
“ฉันเป็นเพื่อนของคุณหลิน”ไป๋ยิ่นหนิงพูดเบาๆ
หลี่จ้านพยักหน้า ที่แท้เขาเป็นรู้จักของหลินซินเหยียน คงเป็นเพราะเห็นข่าวเข้าเลยตั้งใจมาเยี่ยมเธอล่ะมั้ง?
ถ้าอย่างนี้ พวกเขาก็ถือว่าเป็นคนคุ้นเคยกัน
“พวกคุณไปรายงานเถอะ บอกว่าหลี่จ้านและ…..คุณชื่ออะไร?” หลี่จ้านถาม
“ไป๋ยิ่นหนิง”
คนเฝ้าประตูไม่ไปรายงาน และก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาเข้าไป
“ พวกคุณหมายความว่ายังไง?” หลี่จ้านไม่พอใจอย่างมาก
“ข้างบนรับสั่งไว้ ใครก็เข้าไปไม่ได้”
หลี่จ้าน “……”
เดิมทีเขาไม่อยากให้จงจิ่งห้าวรู้ว่าตัวเองมาหาหลินซินเหยียน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ถ้าไม่โทรหาเขา ตัวเองก็จะเข้าไปไม่ได้
เขาค่อนข้างสับสน
ไป๋ยิ่นหนิงเข้าไม่ได้แน่นอน แต่ตอนนี้มีหลี่จ้านอยู่ เขาก็มีโอกาสที่จะตามหลี่จ้านเข้าไปด้วยได้ เขาเงยหน้ามองหลี่จ้าน “คุณเองก็เข้าไปไม่ได้หรอ?”
หลี่จ้านไม่ตอบ
ไม่ใช่เข้าไปไม่ได้ แต่ไม่รู้จะพูดกับจงจิ่งห้าวอย่างไร เรื่องที่เขาให้ทำก็ทำไม่สำเร็จ ตอนนี้ยังมาโรงพยาบาลโดยที่เขาไม่รู้อีก เขาจะต้องไม่พอใจเป็นแน่
“มาก็มาแล้ว ไม่ลองดูหน่อยหรอ น่าเสียดาย?” ไป๋ยิ่นหนิงแสดงความกล้าหาญโทรหาจงจิ่งห้าวให้หลี่จ้านเห็น ช่วงชิงโอกาสที่จะได้เข้าเยี่ยม
หลี่จ้านคิดสักพัก ก็จริงอย่างที่พูด ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ถ้าจะกลับไปเลยก็รู้สึกค้างคาใจ
ด้วยเหตุนี้เขาหยิบโทรศัพท์โทรไปหาจงจิ่งห้าว เขาเดินไปอีกฝั่ง
โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ หลี่จ้านขมวดคิ้ว ได้แต่วางสายไปก่อน เตรียมโทรไปอีกครั้ง
แต่ทว่าเขายังไม่ทันโทรไปนั้น โทรศัพท์ของจงจิ่งห้าวก็โทรเข้ามาแล้ว เมื่อกี้เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับเสิ่นเผยซวน คุยว่าหลี่จ้านยังล่อเฉินชือหานออกมาไม่ได้
โทรศัพท์โทรติดแล้ว หลี่จ้านรีบตะโกนขึ้นว่า “พี่…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลี่จ้านอ้าปาก จะพูดว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ก็ต้องกลืนน้ำลายลงไป
“ตอนแรกเกือบจะสำเร็จแล้ว ดันเจอเข้ากับเฉินชิง เขาเลยพาเฉินชือหานกลับไปอีก” หลี่จ้านพูดสั้นๆ
เขาไม่ได้บอกไปว่าตัวเองรู้แล้วว่าเรื่องนี้เหวินชิงมีส่วนร่วมด้วย
จงจิ่งห้าวยืนอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร เขายืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่าง และมองเห็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองแห่งนี้
“ขอโทษ……” ในใจของหลี่จ้านรู้สึกเสียใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรดี ควรจะช่วยจงจิ่งห้าวรับมือกับเหวินชิง หรือจะช่วยเหวินชิงรับมือกับจงจิ่งห้าว
ไม่ว่าอันไหน เขาก็ไม่ยินดี
แต่ตอนนี้เหวินชิงและจงจิ่งห้าวก็เป็นตายเท่ากัน
เขาไม่รู้ว่าเดินมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร
ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร
เขารู้สึกขัดแย้งมาก หวาดกลัวมาก
และสับสนเป็นอย่างมาก
เส้นเลือดบนใบหน้าจงจิ่งห้าวปรากฏขึ้น
เฉินชิงความคิดรอบคอบ หลี่จ้านไม่ได้พาเฉินชือหานออกมาถือเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าแบบนี้ เขาก็ไม่มีหมากแล้ว เรื่องของหลินซินเหยียน เขาได้แต่ยืนอยู่ฝ่ายผู้ถูกกระทำเท่านั้น
ก็ไม่ใช่จะไม่มีโอกาส เพียงแค่……
เขาค่อยๆหลับตาลง ควบคุมอารมณ์ทั้งหมด
“พี่ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันอยากพบพี่สะใภ้ ได้ไหม?” หลี่จ้านถามอย่างระมัดระวัง
จงจิ่งห้าวเบิกตากว้าง ทำไมเขาถึงไปโรงพยาบาลได้?
“ฉันจะไม่รบกวนเธอ แค่ไปดูเธอแทนเสี่ยวซีครู่หนึ่ง” หลี่จ้านตอบอย่างรวดเร็ว ใช้หลินซีเฉินมาเป็นโล่ ไม่อย่างนั้นเขากลัวจงจิ่งห้าวจะโกรธ ถึงยังไงเขาก็มาโรงพยาบาลโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากจงจิ่งห้าว
“อย่าอยู่นาน เธอสุขภาพไม่ดี” จงจิ่งห้าวสั่ง
หลี่จ้านพูด “ฉันรู้แล้ว ดูแปปเดียว ก็กลับ”
หลี่จ้านเอาโทรศัพท์ให้การ์ดที่เฝ้าหน้าห้อง ได้ยินเขาพูดว่าทราบแล้ว และเอาโทรศัพท์ส่งคืนให้แก่หลี่จ้าน หน้าจอโทรศัพท์แสดงคำว่าการสนทนาสิ้นสุด
“คุณเข้าไปเถอะ” การ์ดหลีกทางให้
ไป๋ยิ่นหนิงก็ตามหลี่จ้านเข้าไปข้างใน แต่กลับถูกกีดกันอีกครั้ง
“คุณเข้าไปไม่ได้”
ไป๋ยิ่นหนิงไม่สะทกสะท้านอะไร “พวกเรามาด้วยกัน ทำไมจะต้องให้ฉันโทรหาจงจิ่งห้าวอีกรอบด้วย แบบนั้นถึงจะได้ใช่ไหม?”
การ์ดหน้าประตูลังเลเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าคนคนนี้จะกล้าเรียกชื่อจงจิ่งห้าว
หลี่จ้านหันหน้ากลับไปมองไป๋ยิ่นหนิง “คุณรู้จักพี่สะใภ้ของฉันจริงๆหรอ?”
“ไม่งั้น ฉันจะมาที่นี่ทำไม? อีกอย่าง ขาของฉันเป็นแบบนี้ จะทำร้ายอะไรเธอได้?” ไป๋ยิ่นหนิงแสร้งทำเป็นน้อยใจและก็โกรธ
“ให้เขาเข้ามากับฉันเถอะ พวกเราเข้าไปแปปเดียวก็ไปแล้ว” หลี่จ้านมองการ์ดที่อยู่หน้าประตูแล้วพูดขึ้น
การ์ดนั้นดูลังเล แต่สุดท้ายก็ปล่อยเข้าไป “เข้าไปสิ”
ไป๋ยิ่นหนิงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาหันเก้าอี้วิลแชร์แล้วตามหลี่จ้านไป
เดินผ่านระเบียงทางเดิน ชั้นนี้ทั้งชั้นถูกซื้อไว้หมดแล้ว เงียบมากและไม่มีใครเข้าออก ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงด้านในสุด ถึงห้องผู้ป่วยของหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนยังคงนอนอยู่บนเตียง บนมือมีสายวิตามินที่คุณหมอฉีดให้ ป้าหยูมองดูเธอ กลัวว่าถ้าป้าหยูไม่ระมัดระวัง หลินซินเหยียนก็จะมีภัย
หลินซินเหยียนพูดหลายครั้งแล้ว ให้เธออย่าระมัดระวังมากเกินไป แต่ว่าเธอไม่ฟัง ยังพูดอีกว่า “ตอนนี้คุณไม่ใช่คนเดียวอีกต่อไป คุณผู้ชายให้ฉันมาดูแลคุณ นั่นแสดงว่าเขาเชื่อใจฉัน ฉันจะไม่ให้คุณเกิดอะไรขึ้นเลย”
หลินซินเหยียนหมดหนทาง ก็ปล่อยให้ป้าหยูเป็นเหมือนเด็กไปที่จ้องมองเธออยู่ตลอด
ก๊อกก๊อก……
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ป้าหยูตื่นเต้น เธอมองไปที่หลินซินเหยียน “หรือจะเป็นคุณผู้ชายมา?”
หลินซินเหยียนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนเธอสะลึมสะลือ ยังไม่ทันได้เห็นสีหน้าของเขา
เธอตั้งหน้าตั้งตารอที่จะตั้งครรภ์ เธอหวังว่าจงจิ่งห้าวจะได้เห็นลูกที่เกิดจากพวกเขาเองกับตา ให้เขาได้รู้สึก ให้เขาได้ชดเชยข้อบกพร่องของเขาต่อหลินซีเฉินและหลินลุ่ยซี
เธอวางมือไว้ที่ผ้าห่ม แล้วกำเตียงแน่น ตามองที่ประตู
ป้าหยูเปิดประตู กำลังจะพูดขึ้น เมื่อเห็นหลี่จ้านและผู้ชายที่นั่งเก้าอี้วีลแชร์อีกคน คิ้วก็เริ่มขมวดทันที หลี่จ้านเธอรู้จัก แต่คนที่นั่งเก้าอี้วีลแชร์นั้นคือใคร?
“พี่สะใภ้ฉันล่ะ?” หลี่จ้านเริ่มเอ่ยปาก
ป้าหยูลังเลเล็กน้อย “คนนี้คือ……”
“เพื่อนพี่สะใภ้ฉันเอง ตั้งใจมาเยี่ยมเธอ” หลี่จ้านพูด
ไป๋ยิ่นหนิงมองเข้าไปในห้อง ห้องผู้ป่วยใหญ่มาก กว้างมาก หน้าต่างเบย์ทั้งกำแพง ทำให้ในห้องมีแสงสว่างเพียงพอ เขามองเห็นแค่ปลายเตียงเท่านั้น แต่ไม่เห็นหลินซินเหยียน
“เอาเถอะ” ปล่อยให้เข้ามาทั้งหมดแล้ว ก็น่าจะรู้จัก ป้าหยูปล่อยพวกเขาให้เดินเข้าไป
หลินซินเหยียนได้ยินเสียงที่ประตู ก็รู้ว่าไม่ใช่จงจิ่งห้าว ถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่
เธอยังคิดไม่ออกว่าจะรู้สึกยังไงเมื่อเผชิญหน้ากับจงจิ่งห้าว
“พี่สะใภ้” หลี่จ้านเรียกเสียงเคร่งขรึม
หลินซินเหยียนเผยรอยยิ้ม “เข้ามาสิ”
หลี่จ้านหยิบเก้าอี้มานั่งข้างเตียง เขาเงียบไปนานมาก เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผมจะยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับคุณแน่นอน” เขาจะไม่ยอมให้เหวินชิงทำตามอำเภอใจ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม ใส่ร้ายหลินซินเหยียนว่าฆ่าคน ทำแบบนี้มันโหดร้ายเกินไป
หากถลำลึกเข้าไป ทั้งชีวิตคงมัวหมอง อนาคตหลินซีเฉินและหลินลุ่ยซีคงโดนคนล้อเลียน บอกว่าพวกเขาสองคนมีแม่เป็นนักโทษฆ่าคน