กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่422 ลูกมีความมั่นใจกับเธอเท่าไหร่
หลี่จ้านก้มหน้าอย่างผิดหวัง
หลี่จิ้งนึกว่าเพราะเฉินชือหาน เขาถึงได้ล้มแล้วลุกขึ้นมาไม่ได้
เพื่อปลอบใจลูกชาย หลี่จิ้งกอดลูกชายไว้ “ถึงแม้เรื่องมันซับซ้อน แต่แม่จะพยายามช่วยลูกไขว่คว้าอย่างแน่นอน”
หลี่จ้านหันหน้ามามองหลี่จิ้ง สายตาเคร่งขรึมสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
หลี่จิ้งคิดซ้ายตรองขวา เธอรู้ดีแก่ใจว่าเหวินชิงดื้อดึงแค่ไหน แคร์น้องสาวที่ตายไปแล้วแค่ไหน อยากให้เหวินชิงอ่อนข้อ เกรงว่าคงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้คงต้องลงมือจากตัวเฉินชือหานกับคุณนายเฉินแล้ว
หลี่จิ้งคิดๆแล้วได้มองหน้าลูกชายอย่างจริงจัง “ถ้าให้ลูกเจอหน้าเฉินชือหาน ลูกมีความมั่นใจกับเธอเท่าไหร่?”
ความมั่นใจ?
เขาไม่สนใจเฉินชือหานเลย จะไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
ถ้าเขาสนใจเธอจริงๆก็สำเร็จไปตั้งนานแล้ว ยังจะรอถึงตอนนี้เหรอ?
แต่เขาพูดแบบนี้กับหลี่จิ้งไม่ได้ ไม่งั้นจะเผยพิรุธออกมาได้ เขาแสร้งทำเป็นไม่มีความมั่นใจเลยลังเล “ก็มีความมั่นใจประมาณครึ่งนึงมั้งครับ”
หลี่จิ้งตัดสินใจในทันที “มีโอกาสครึ่งนึงก็พอแล้ว เราไปที่ตระกูลเฉินตอนนี้เลย ล่อเฉินชือหานมาที่บ้านเรา”
แบบนี้หลี่จ้านก็มีโอกาสสารภาพรักกับเธอแล้ว
ถ้าหลี่จ้านสามารถได้อยู่กับเฉินชือหาน เหวินชิงก็ไม่สามารถบีบบังคับให้จงจิ่งห้าวแต่งงานกับเฉินชือหานแล้ว เธอเห็นชัดเจนกว่าเหวินชิง จงจิ่งห้าวไม่แต่งงานกับเฉินชือหานหรอก ถึงจะรับปากแต่งงานเพื่อหลินซินเหยียน สุดท้ายก็ไม่มีผลลัพธ์ที่ดีหรอก
ที่จริงหลี่จิ้งไม่อยากปิดบังลูกชาย แต่ยังไงก็มีความกังวลอยู่ไม่มากก็น้อย สุดท้ายเธอไม่ได้พูดอะไร แค่ลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ออกจากบ้านเลย
ในฐานะคนเป็นแม่เธอมีความเห็นแก่ตัวอยู่
บ้านเธอกับบ้านตระกูลเฉินอยู่หมู่บ้านเดียวกัน ไม่นานหลี่จิ้งก็ถึงหน้าบ้านของตระกูลเฉินแล้ว ตอนที่เธอกำลังจะเดินไปเคาะประตู มือถือในกระเป๋าได้ดังขึ้น
เธอหยิบมือถือขึ้นมารับสาย
เสียงร้อนรนใจของเฉินชิงก้องมา “หลี่จิ้งหรือเปล่า?”
หลี่จิ้งฟังเสียงของเฉินชิงออก “ฉันเองค่ะ”
“คุณรีบมาที่โรงพยาบาลประชาชนที่สองเดี๋ยวนี้เลย เหวินชิงหมดสติไป ตอนนี้เพิ่งส่งตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน……”
สมองของหลี่จิ้งดังหึ่งๆ เหวินชิงเป็นลมหมดสติไป? ตอนนี้อยู่ห้องฉุกเฉิน? เธอลนลานจนไม่รู้ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง มือถือที่อยู่ในมือยังไม่ได้ตัดสายทิ้ง
“หลี่จิ้ง คุณฟังผมพูดอยู่หรือเปล่า?”
หลี่จิ้งดึงสติกลับมาแล้วพูดว่า “ได้ยินๆ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
เป็นสามีภรรยามาครึ่งค่อนชีวิต หลี่จิ้งมีความรักให้เหวินชิงอยู่ เหวินชิงนอกจากจะดื้อด้าน อ่อนโยนไม่เป็น และโรแมนติกไม่เป็นแล้ว เขาถือเป็นผู้ชายที่มีคุณสมบัติคนนึง เขาจริงจังและจริงใจกับความรัก
เขาเป็นชายชาติทหาร ร่างกายแข็งแรงกำยำ ตรวจเช็คร่างกายปีละสองครั้ง ร่างกายแข็งแรงดีออกไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลย ทำไมถึงหมดสติเข้าโรงพยาบาลกะทันหันได้?
หลี่จิ้งได้โบกรถแท็กซี่ที่หน้าหมู่บ้านไปยังโรงพยาบาล และได้ทิ้งเรื่องที่รับปากหลี่จ้านไปด้านหลังหมดเลย
ตอนนี้ในหัวเต็มไปด้วยเหวินชิง
กลัวเขาจะเกิดเรื่องอะไรที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เพราะยังไงซะเขาที่ร่างกายแข็งแรงเข้าโรงพยาบาลฉับพลัน มันเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป มีแรงโจมตีเกินไป
ไม่นานรถแท็กซี่ก็ได้จอดลงที่หน้าโรงพยาบาล หลี่จิ้งลนลานจนเปิดประตูก็ลงจากรถไปเลย คนขับได้เรียกเธอไว้ “คุณครับ คุณยังไม่ได้จ่ายตังค์เลย”
ทีนี้หลี่จิ้งถึงนึกได้ เธอหันหลังเดินกลับมาควักหนึ่งร้อยหยวนให้กับคนขับ “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันมีเรื่องเร่งด่วนเลยลืมค่ะ”
คนขับแท็กซี่ก็เป็นคนพูดจาง่ายดี เขาได้พูดด้วยรอยยิ้ม “เข้าใจครับ”
มาโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
คนขับยื่นเงินทอนออกมาจากกระจกรถ หลี่จิ้งบอกว่า “ไม่ต้องทอนแล้วค่ะ”จากนั้นก็ได้เดินเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ
คนขับมองเงินในมือแล้วยิ้มแย้ม จากนั้นได้เก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วสตาร์ทรถจากไป
ตอนที่หลี่จิ้งเดินมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เหวินชิงยังไม่ออกมาเลย เฉินชิงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ยาวคนเดียว
หลี่จิ้งเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น คนยังไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนเลย “นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ? ร่างกายเขาแข็งแรงมาโดยตลอด ทำไมถึงเป็นลมหมดสติไปได้?”
เฉินชิงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ยาว มองหลี่จิ้งที่ร้อนรนใจแล้วพูดปลอบใจ “คุณอย่าเพิ่งร้อนรนใจ”
“ฉันจะไม่ร้อนรนใจได้ยังไง?” หลี่จิ้งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ นี่มันถึงขั้นถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินเลย เธอจะไม่ร้อนรนใจได้ยังไง?
“คุณบอกฉันหน่อยว่าเขาหมดสติยังไงกันแน่? ที่ผ่านมาร่างกายเขาแข็งแรงดีมากมาโดยตลอดเลย”
เรื่องนี้ปิดไม่มิดเลยด้วยซ้ำ ช้าเร็วหลี่จิ้งก็ต้องรู้ เฉินชิงก็ไม่ได้ปิดบัง “วันนี้ผมกับเหวินชิงไปเจอจงจิ่งห้าว เขาไปเรื่องของชือหาน จงจิ่งห้าวตอบตกลงแล้ว แต่จะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลเหวิน เหวินชิงร้อนรนใจนี่ถึงได้หมดสติไป”
เหวินชิงแคร์จงจิ่งห้าวมากแค่ไหนหลี่จิ้งรู้ดี ตอนนี้จงจิ่งห้าวจะตัดขาดความสัมพันธ์ เหวินชิงเลยรับไม่ได้ อันนี้เธอสามารถเข้าใจได้ แต่……จงจิ่งห้าวตกลงจะแต่งงานกับเฉินชือหานแล้วเหรอ?
นาทีนี้หลี่จิ้งเพิ่งมานึกถึงเรื่องที่เธอรับปากหลี่จ้าน
ตอนนี้จะทำยังไงดี?
เธอล้วงมือถือออกมาโทรหาลูกชาย หลี่จ้านไม่ยอมติดต่อกับที่บ้าน หลี่จิ้งไม่มีเบอร์มือถือของเขาเลย เบอร์ที่เธอโทรคือโทรศัพท์ของที่บ้าน
โทรหน่ะโทรติดแล้วแต่ไม่มีคนรับสายเลย
หลี่จ้านรอหลี่จิ้งอยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นท่านกลับมาสักที จึงได้ไปที่ตระกูลเฉินเอง เขาไม่เจอหลี่จิ้งอยู่ที่ตระกูลเฉินเลย
“แม่นายไม่ได้มาหนิ หรือไม่นายลองโทรหาเธอดู?” คุณนายเฉินพูดตามความจริง
หลี่จ้านยิ้ม “ที่จริงผมหาแม่ผมก็ไม่ได้มีเรื่องเร่งด่วนอะไรครับ อ้อใช่ ชือหานอยู่บ้านหรือเปล่าครับ?”
คุณนายเฉินพูด “อยู่จ้า”
เธอหลีกทางให้หลี่จ้านเข้ามา คุณนายเฉินชอบหลี่จ้านอยู่ รู้สึกเขากับเฉินชือหานอายุไล่เลี่ยกัน ครอบครัวก็ดี แถมทั้งสองยังโตมาด้วยกัน ต่างก็รู้นิสัยใจคอกัน
เธอมองหน้าหลี่จ้าน “เสี่ยวจี้นายบอกน้ามาว่านายชอบชือหานใช่หรือเปล่า?”
ช่วงนี้เขามาที่บ้านค่อนข้างบ่อย ทุกครั้งล้วนมาหาเฉินชือหานทั้งนั้น ครั้งนี้เขาบอกว่ามาหาหลี่จิ้ง แต่สุดท้ายก็ยังถามถึงเฉินชือหานอยู่ดี อยู่ในสายตาคุณนายเฉินเขาบอกมาหาหลี่จิ้งที่จริงเป็นแค่ข้ออ้างเฉยๆ จุดประสงค์หลักคืออยากใกล้ชิดเฉินชือหาน
หลี่จ้านอึ้งไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจู่ๆคุณนายเฉินจะถามคำถามนี้