กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่432 ยังไม่อยากตาย
หมอมาตรวจอาการของหลินซินเหน้ำผึ้งยน อยู่ในโรงพยาบาลมาหลายวันนี้ เธอไม่มีอาการเจ็บท้อง และไม่มีเลือดไหล อาการคลื่นไส้ก็ดีขึ้น “สามารถกลับไปพักฟื้นได้ ก็ยังเป็นคำนั้น จะให้ดีที่สุดคือก่อนสามเดือนห้ามลงพื้นเดินรอให้ครรภ์มั่นคงก่อน ค่อยกลับไปใช้ชีวิตที่ปกติ แต่ก็ต้องระวัง เพราะเคยมีสัญญาณของการแท้งมาก่อน ทุกครึ่งเดือนมาทำการตรวจหนึ่งครั้ง ถ้าฟื้นฟูได้ดี ก็สามารถลงพื้นทำกิจกรรมต่างๆ ได้ก่อนกำหนด
วันนี้ที่โรงพยาบาลคนมาเยอะมาก เรื่องก็แพร่ออกไปนานแล้ว รู้เรื่องของหลินซินเหยียนไม่มากก็น้อย เพราะก่อนหน้านี้บนเว็บก็ได้มีการแชร์ไปทั่ว น่าจะเป็นจงจิ่งเหยียนที่จัดการทิ้งไปหมด ตอนนี้เรื่องก็เลยเงียบลง
แต่ว่าน่าจะยังจัดการไม่หมด ไม่อย่างนั้นวันนี้คนก็ไม่มาเยอะขนาดนี้
แต่ว่าคนในโรงพยาบาลก็ไม่มีใครกล้ามาพูด เพราะสถานะของจงจิ่งห้าววางอยู่ตรงนี้แล้ว กลัวว่าจะไปเข้าหูของเขา
หลังจากที่หมอไปแล้วป้าหยูถึงจะรีบมา วันนี้รถที่ส่งเธอมาโรงพยาบาลเสียกลางทาง เธอต้องการรีบมาโรงพยาบาล ก็เลยเรียกรถแท็กซี่ แต่ดันมาเจอชั่วโมงเร่งด่วนของช่วงเช้า ติดอยู่บนถนน
ก็เลยมาสาย
“หิวแล้วใช่ไหม” หยูมาพูดอย่างรู้สึกผิด
ไม่รู้ว่าก่อนที่เธอมาถึงเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เห็นแค่ประตูเปิดไว้ เธอเอากล่องข้าววางไว้บนโต๊ะ กำลังจะเอาของกินข้างในนั้นออกมา หลินซินเหยียนพูดขึ้นมาว่า “ป้าหยูไม่ต้องเอาแล้ว หนูไม่หิว”
เธอไม่มีความอยากเลยแม้แต่น้อย อารมณ์หนักหน่วงเล็กน้อย
“ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว จะไม่หิวได้ยังไง อีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่ใช่ตัวคนเดียว เพราะว่าป้ามาสายไปหรอ ก็เลยไม่หิว?”
จงจิ่งห้าวเดินมา “ป้าเก็บของหน่อย วันนี้ออกโรงพยาบาล”
ป้าหยูแปลกใจ “สังเกตการณ์ยังไม่ครบหนึ่งอาทิตย์เลย ตอนนี้สามารถออกโรงพยาบาลได้แล้วหรอ?”
“อื้ม ป้าเก็บทำความสะอาดหน่อย” จงจิ่งห้าวไม่แสดงสีหน้าอะไรทั้งนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่อยากพูดอะไรมาก ป้าหยูเองก็เข้าใจสีหน้าของเขา ไม่ได้พูดอะไรต่อ ไปเก็บของใช้ชีวิตประจำวันของหลินซินเหยียนที่ตู้เก็บของ
จงจิ่งห้าวเอาอาหารในกล่องข้าวออกมา กล่องข้าวสามารถเก็บความร้อนได้ กับข้าวข้างในยังร้อนๆ อยู่เลย เขาเอากับข้าวไปวางไว้บนตู้ที่หัวเตียง ที่มือยังจับถ้วยโจ๊กไว้ ตักออกมาแล้วเอามาวางไว้ที่ริมฝีปากเพื่อลองอุณหภูมิ ไม่ร้อนแล้วถึงจะยื่นไปตรงปากหลินซินเหยียน
หลินซินเหยียนไม่ได้อ้าปาก เอาแต่มองเขาไว้
จงจิ่งห้าวยื่นไปต่อ ช้อนทับบนริมฝีปากล้างของเธอไว้ “เธอไม่หิว ลูกชายเธอไม่หิวหรอ?”
หลินซินเหยียนจับมือของเขาไว้ “ฉันอยากเจอเช็กว่าวินชิง”
“กินให้เสร็จก่อนค่อยว่า อ้าปาก” จงจิ่งห้าวไม่อยากให้เธอไปเจอเหวินชิง สภาพร่างกายในตอนนี้ ถ้าถูกกระตุ้นอะไรขึ้นมา ผลที่จะตามมาเขาเองก็ไม่กล้าคิด เขาจะเสี่ยงไม่ได้
หลินซินเหยียนก็ยังไม่อ้าปากกินข้าว “นายสัญญากับฉันไหม?”
เธอรู้สึกว่าเธอต้องคุยกับเหวินชิงดีๆ
“ขู่ฉัน?”
หลินซินเหยียนเงียบ เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เธอไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกไหม เธอไม่ได้กลัว แต่เป็นห่วงเขา
“นายรู้ไหม?ใจของฉันทรมานมาก พอเห็นนาย ฉันไม่กล้า ฉันกลัวว่านายจะมีภาระ ฉันเกลียดตัวของฉันในตอนนี้มาก ถ้าไม่มีเด็กคนนี้…….”
เธอยังไม่ทันพูดจบ อยู่ๆ ก็ถูกจงจิ่งห้าวปิดปาก ไม่ใช่จูบ แต่เป็นการกัดอย่างรุนแรง หลินซินเหยียนขมวดคิ้วแต่ไม่ส่งเสียง
ฝ่ามือของเขาวางไว้บนหน้าท้องที่แบนเรียบของเธอ เห็นได้ชัดว่าข้างในมีชีวิตอยู่ชีวิตหนึ่ง กลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย แต่เขาสามารถรู้สึกได้ว่าข้างในมีหัวใจเต้นอยู่
นั้นเป็นลูกของเขากำลังเจริญเติบโตอยู่ข้างใน
“ไม่ว่าเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องพูดแบบนี้ เขาได้ยินแล้วจะเสียใจมาก สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ คือต้องกินให้ดีและนอนให้ดี อย่างอื่นไม่ต้องสนใจ”
“นายละ ?จะมีอันตรายไหมน้ำผึ้ง” ตอนที่เขาจับปืน เธอตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะพกปืน
กำลังจะไปทำอะไรที่อันตรายใช่ไหม?
เธอยุ่งเหยิงไปหมด
จงจิ่งห้าวค่อยๆ เช็ดน้ำตาออกจากหางตาของเธอ ปลายนิ้วข้ามตาของเธแล้วไปที่หน้า “ไม่มี ฉันยังอยากแก่เฒ่าไปกับเธออยู่ ยังไม่อยากตาย เด็กดีนะ ไม่ต้องคิดอะไรไปเรื่อย กินอะไรหน่อย เดี๋ยวกวนจิ้นมาพวกเราก็ไปเลย”
หลินซินเหยียนกอดคอของเขาไว้ ซบหน้าลงตรงคอของเขา สะอื้นเล็กน้อย “จำคำพูดที่นายพูดไว้ ถ้านายกล้ามีอะไร ฉันก็จะพาลูกของนายไปแต่งงานใหม่ ให้ลูกของนายใช้นามสกูลของผู้ชายคนอื่น สวมเขาอันใหญ่ๆ ให้นาย”
จงจิ่งห้าวกัดติ่งหูของเธอ น่าจะเป็นเพราะว่าเจ็บแล้ว หลินซินเหยียนกระตุกทีหนึ่ง เขาก็ลดแรงในการกัดเล็กน้อย แต่คำพูดที่พูดออกมากลับดุร้ายมาก “เธอกล้าหา ฉันก็จะสับชู้ของเธอแล้วให้หมากินซะ”
หลินซินเหยียนยิ้มแล้ว
จงจิ้งห้าวลูบหน้าผากของเธอ “ภรรยาของฉันไม่น่าเกลียด ตอนที่ยิ้มนี่สวยมาก”
“กินข้าว” จงจิ่งห้าวเอาถ้วยขึ้นมา ยังไม่เย็น หลินซินเหยียนยื่นมือมารับ “ฉันกินเอง”
จงจิ่งห้าวไม่ให้ ตักโจ๊กขึ้นมาแล้วยื่นไปที่ปากของเธอ “ฉันป้อน ฉันรับใช้เธอเอง ไม่อย่างนั้นเธอจะเอาแต่สวมเขาเขาให้ฉันอยู่นั่นแหละ”
“ใครสวมเขาให้นาย?” ซูจ้านเดินมาที่หน้าประตูก็ได้ยินเสียงของจงจิ่งห้าว
จงจิ่งห้าวมองเขาด้วยหน้าที่ไร้อารมณ์ ซูจ้านเบะปากแล้วเงียบ
เห็นแค่เขาคนเดียว จงจิ่งห้าวถาม “กวนจิ้นล่ะ?”
“เตรียมที่อยู่ ฉันมารับพวกนาย” เขาไปหาจงจิ่งห้าวที่บริษัท เสิ่นเผยซวนก็พาคนไปที่บริษัทพอดี ให้กวนจิ้นไปจัดเตรียม
เขาได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มาจากเสิ่นเผยซวน เรื่องที่เกิดขึ้นบนอินเทอร์เน็ตก็จัดการเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว เสิ่นเผยซวนยุ่งกว่าเขาอีก กวนจิ้งยังต้องจัดเตรียมที่พักอาศัย ก็เลยรับหน้าที่รับคนมา
เขายืนอยู่บนหัวเตียง นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นจงจิ่งห้าวดูแลคน ภาพนี้หาดูได้ยากจริงๆ เขาต้องชื่นชมมันให้ดีๆ
จงจิ่งห้าวมองเขา แล้วถามป้าหยูว่า “มีของที่ต้องเอาไหม?”
ป้าหยูเก็บกวาดเสร็จหมดแล้ว ก็ไม่มีของอะไรเหลือ ก็แค่เสื้อผ้าของหลินซินเหยียนและจงจิ่งห้าว กับพวกของใช้ชีวิตประจำวันเท่านั้น ได้เก็บจนหมดแล้ว ข้างในกระเป๋าใบใหญ่เป็นเสื้อผ้า ข้างในกระเป๋าใบเล็กเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน
“ให้เขาถือหมดเลย”
ซูจ้าน “………..”
เขาดึงกระเป๋ามา มองไปทางหลินซินเหยียน “พี่สะใภ้เห็นไหม?ไร้มนุษยธรรมแบบนี้แหละ”
หลินซินเหยียนหัวเราะ
ซูจ้านเอาของทุกอย่างหมดแล้ว ป้าหยูเอาช่อดอกไม้ที่อยู่บนโต๊ะไว้
โจ๊กถ้วยนั้นหลินซินเหยียนกินจนหมดแล้ว ยังกินผักไปเล็กน้อย ที่เหลือกินไม่หมดแล้วจริงๆ
“กินอิ่มแล้ว?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า กลัวว่าเขาจะบังคับตัวเอง ก็เลยรีบพูดขึ้นมาว่า “กินเยอะไปจะไม่สบาย”
จงจิ่งห้าววางถ้วยกับช้อนลง ไปล้างมือ ตอนที่ออกมาป้าหยูได้เก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือข้างหนึ่งถือแจกันดอกไม้ไว้ อีกข้างหิ้วกล่องขนมไว้
เขาเดินมาก้มตัวลงอุ้มหลินซินเหยียนขึ้นมา “พวกเราไปเถอะ”
เธอผอม จงจิ่งห้าวออกแรงเพียง20เปอร์เซ็นต์ ก็อุ้มเธฮขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย หลินซินเหยียนกอดคอของเขาไว้
ป้าหยูตามหลังเขาไป
ขึ้นลิฟต์ ไม่นานก็ถึงชั้นหนึ่ง จงจิ่งห้าวอุ้มเธอออกจากโรงพยาบาล ซูจ้านขับรถมาจอดไว้ข้างทาง เขาเปิดประตูรถ เพื่อสะดวกแก่จงจิ่งห้าวที่อุ้มหลินซินเหยียนไว้นั่งลงไป
ตอนที่จงจิ่งห้าวกำลังจะอุ้มหลินซินเหยียนเข้าไปนั่งในเบาะหลัง…….
“ประธานจง”
ก็มีเสียงดังมาจากข้างหลัง