กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่458 คุณบอกว่าจะอยู่กับผมไปจนแก่เฒ่า
สายตามองไปที่เขาแทบจะพร้อมกัน
“เมื่อกี้บอดี้การ์ดพึ่งจะโทรมา พวกเขาเกิดเรื่องขึ้นแล้ว……ตอนนี้กำลังส่งไปที่โรงพยาบาล……”
เห็นเพียงแค่เงาดำผ่านไป มีลมพัดมาทำให้ผมเผ้ายุ่งเหยิง จงจิ่งห้าวได้หายไปต่อหน้าต่อตา
เสิ่นเผยซวนหลังจากตอบสนอง ก็หันหลังวิ่งออกไป
“พวกเราก็ไปกัน” จงฉีเฟิงก็รีบตามไป
จงจิ่งห้าวขับรถ เสิ่นเผยซวนนั่งข้างคนขับ มือของเขากำเข็มขัดนิรภัยแน่น กลางวันฟ้าสว่าง เป็นช่วงเร่งด่วนของการขับรถยนต์ เขากล้าขับในเมืองความเร็วหนึ่งร้อย
เขาคิดในใจ พวกเขาอาจจะไปไม่ถึงโรงพยาบาล ตัวเองก็ตายบนถนนก่อน?
“คุณขับรถเร็วขนาดนี้ อันตรายเกินไป……”
เอี๊ยด—
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็เบรกรถอย่างกะทันหัน หน้าต่างรถที่กั้นอยู่ เขาราวกับว่าจะได้กลิ่นยางรถยนต์ไหม้
ใจของเสิ่นเผยซวนเต้นตุบๆ ไม่กล้าที่จะมองไปข้างหน้า รถอยู่ระหว่างกลางรถอีกสองคันเคลื่อนไปมา จนเกือบจะชนกับคันอื่นตั้งหลายครั้ง วิญญาณแทบจะออกจากร่าง
เวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีบนถนนสายนี้ เสิ่นเผยซวนรู้สึกว่าตัวเองผ่านครึ่งชีวิตมาตั้งนานแล้ว ตื่นเต้นเกินไป ตื่นเต้นกว่าเกมส์ที่มันอันตรายเสียอีก
รถหยุดลงที่ประตูของโรงพยาบาล จงจิ่งห้าวเดินลงจากรถ มีรปภ.เดินเข้ามา “รถจอดตรงนี้ไม่ได้นะครับ”
เสิ่นเผยซวนเอากุญแจรถให้รปภ. แล้วรีบเดินตามไป
ตอนที่หลินซินเหยียนถูกช่วยชีวิตออกมานั้นเธอสลบไป เฉิงยู่ซิ่วอยู่ที่ห้องฉุกเฉิน
เด็กสองคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ มีเพียงแค่หลินลุ่ยซีที่ตกใจกลัว ทั่วทั้งร่างสั่นเทา ซุกอยู่ที่อ้อมอกป้าหยู
เห็นคนที่เดินมาตรงระเบียงทางเดิน หลินลุ่ยซีที่ข่มความกลัวมาตลอด ร้องไห้เสียงดังออกมา จากที่ที่เงียบสนิทก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นมา
จงจิ่งห้าวอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด กดหัวเล็กๆของเธอเข้าไปในอกของเขา ปลอบเธอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เสี่ยวลุ่ยไม่ต้องกลัว พ่ออยู่นี่” ตอนที่พูดปลอบอยู่นั้นสายตาของเขาก็มองไปที่บอดี้การ์ด เสียงของเขาเฉียบคม “เธอล่ะอยู่ที่ไหน?”
“อยู่ที่ห้องพัก หมอกำลังตรวจอยู่ครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแค่……”
มือกุมหัวใจ ในที่สุดก็ล้มลงกับพื้น เขาโอบรับตัวหลินซีเฉินที่เงียบสงบเหมือนผู้ใหญ่ไว้ แล้วดึงเข้ามาในอ้อมกอด
โชคดีมาก ที่พวกเขาไม่ได้เป็นอะไร
เสียงของเขาทุ้มต่ำ “ป่ะ พวกเราไปหาหม่ามี๊”
หลินซีเฉินไม่ขยับ รอบดวงตาแดงก่ำ “คุณย่ายังอยู่ข้างใน ผมจะรอเธอ”
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว เฉิงยู่ซิ่วก็อยู่?
เขามองไปที่บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างกำแพงราวกับถามคำถาม เกิดอะไรขึ้น?
หนึ่งในบอดี้การ์ดก้มหัวลง “วันนี้คุณนายกับคุณผู้หญิงพาเด็กสองคนออกไป พวกเราขับรถไปสามคัน พวกเธอนั่งที่รถคันกลาง โดนที่มีพวกเราสี่คนประกบหน้าหลัง ตอนที่ผ่านถนนเฟยเซี๋ยนั้น เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ฝั่งตรงข้ามจำนวนคนเยอะมาก และดูเหมือนจะวางแผนมาอย่างดีสกัดพวกเราไว้ พวกมันฉวยโอกาสจะพาคุณนายออกไป พวกเราเข้าช่วยไว้ทันเวลา แต่ไม่ทันสังเกตเห็นว่าคุณผู้หญิงก็ถูกพวกมันบังคับเหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยของคุณผู้หญิง คุณนายยินยอมที่จะไปกับพวกมัน แต่ว่าพวกมันกลับไม่ได้ปล่อยคุณผู้หญิง……พวกมันขับรถออกจากตรงนั้นไป ผมกับอะเจี๋ยขับตามไป รถของพวกมันเกิดอุบัติเหตุ ตอนที่พวกเรารีบเข้าไปช่วยคนไว้นั้น คุณผู้หญิงสลบไป ส่วนคุณนาย…… ”
บอดี้การ์ดคนนั้นยิ่งก้มหน้าลงไปอีก ตอนที่เข้าไปช่วยเฉิงยู่ซิ่วออกมาจากรถนั้น เกือบทั้งร่างของเธอมีแต่เลือด ทั้งแผ่นหลังเต็มไปด้วยเลือดและเนื้อคลุมเครือ สภาพของเธอหายใจรวยริน……
จงจิ่งห้าวหลี่ตามองไปที่เขา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนจากผ่อนคลายกลายเป็นแข็งดั่งเหล็ก แล้วก็เกิดความตึงเครียดผิดปกติขึ้น เหมือนเป็นอารมณ์โกรธที่รุนแรงมาก กดดันจนเขาหายใจไม่ออก ประกายไฟแผ่ออกมาจากดวงตาของเขา พุ่งเข้าใส่บอดี้การ์ดคนนั้น “พูด!”
การ์ดคนนั้นตัวสั่น ร่างกายสั่นสะท้านโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ขณะนั้นเอง ไฟด้านบนประตูห้องผ่าตัดที่เดิมทีเป็นไฟสีเขียวก็เปลี่ยนเป็นไฟสีแดง ประตูบานเลื่อนถูกเปิดออก แพทย์ที่สวมเสื้อสีฟ้าเดินออกมา เขาสวมหน้ากากอนามัย โค้งคำนับสมาชิกครอบครัวที่อยู่ตรงหน้า “เสียใจด้วยจริงๆ พวกเราทำเต็มที่แล้ว ตอนที่ผู้ป่วยถูกส่งมาที่โรงพยาบาลเธอก็ไม่หายใจแล้ว พวกเราช่วยกันปั๊มหัวใจขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถปั๊มกลับมาได้ ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บหนักมาก—เสียใจด้วยครับ ”
จงฉีเฟิงที่พึ่งจะมาถึงประตูห้องผ่าตัด พอฟังที่หมอพูดจบ ร่างกายก็สั่นสะท้าน เฉิงยู่เวินที่อยู่ข้างๆพยุงเขาไว้ เขาถึงไม่ล้มลงไป
หลินซีเฉินกอดที่ขาของจงจิ่งห้าว ร้องไห้เบาๆ ไหล่สั่นขึ้นเรื่อยๆ ทั่วทั้งร่างเล็กๆสั่นไม่หยุด
เขาเข้าใจที่คุณหมอพูด
ก็เพราะว่าเข้าใจ ถึงได้เสียใจมากขนาดนี้
จงจิ่งห้าวกดดันไปทั้งร่าง ถึงขนาดลืมกอดหลินซีเฉินที่เกาะขาเขาอยู่ รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอที่อยู่ตรงหน้า ดึงคอเสื้อของเขา เส้นเลือดฝอยนัยน์ตารวมตัวกัน “คุณพูดอีกครั้งสิ!”
เสิ่นเผยซวนเข้าไปรับตัวหลินซีเฉินที่เกือบจะล้มลง แล้วส่งเขาให้ป้าหยู แล้วเดินเข้าปลอบว่า “จิ่งห้าว คุณใจเย็นหน่อย”
คุณหมอตกใจหน้าซีด แต่ยังแกล้งทำเป็นใจเย็น ทุกครั้งที่มาประกาศเรื่องการเสียชีวิต มักจะพบกับครอบครัวที่ยังตั้งสติและความคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เสมอ
“พวกเราทำเต็มที่แล้วครับ” คุณหมอพูดออกมาจากลำคอ
จงจิ่งห้าวกำคุณหมอแน่นไม่ยอมปล่อย และยังแน่นยิ่งขึ้น เส้นเลือดที่หลังมือปรากฏชัดเจน ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “ผมขอสั่งคุณ ช่วยเขากลับมาให้ได้!”
“นายใจเย็นๆหน่อย นายทำแบบนี้ทำให้เสี่ยวลุ่ยตกใจ ตอนนี้เราควรจะไปตรวจสอบให้ชัดเจนว่าใครเป็นคนทำ” เสิ่นเผยซวนจับมือของเขา
สายตาของเขาค่อยๆหันกลับมา
เสิ่นเผยซวนยังคงโน้มน้าวต่อไป “นายทำให้หมอตาย มีประโยชน์งั้นหรอ?”
“แด๊ดดี้คะ” หลินลุ่ยซีเกาะคอของเขาไว้แน่น ร้องไห้เบาๆออกมา “หนูกลัว แด๊ดดี้อย่าโกรธเลยนะคะ”
จงจิ่งห้าวหลับตา สันกรามแน่นตึง เย็นชาอย่างถึงที่สุด
“แด๊ดดี้”เสียงแหบเล็กๆพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเล็กน้อย ใบหน้ายังซุกอยู่ที่คอของเขา “หนูกลัวค่ะ”
ไม่มีเสียงใดๆ ค่อยๆปล่อยมือออก แล้วลูบหลังลูกสาวเบาๆ “ไม่กลัวนะ”
เสิ่นเผยซวนให้คุณหมอรีบเดินออกไป
เขาลองอุ้มหลินลุ่ยซีออกมาจากอ้อมแขนของเขา “ต่อไป พวกเราน่าจะมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องทำ ฉันจะให้คนส่งเด็กสองคนนี้กลับบ้านก่อน มีบอดี้การ์ดและป้าหยูดูแล”
หลินลุ่ยซีไม่ยอมปล่อยมือ เธอต้องการคุณพ่อ
“เสี่ยวลุ่ยเป็นเด็กดีนะ แด๊ดดี้ยังมีเรื่องให้จัดการ เดี๋ยวจัดการเสร็จแล้วจะรีบกลับไปดูลูกนะ” หลินลุ่ยซีร้องไห้ทั้งตาและจมูกแดงไปหมด เสียงแหบแห้ง “แด๊ดดี้จะรีบกลับไปดูแลหนูใช่มั้ยคะ?”
เธอพูดไปสะอื้นไป
เสียงของจงจิ่งห้าวเองก็แหบแห้ง “แน่นอน”
พอฟังที่คุณพ่อพูดแล้ว หลินลุ่ยซีถึงปล่อยมือ เสิ่นเผยซวนอุ้มเธอส่งให้บอดี้การ์ด และสั่งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ดูแลให้ดีดี!”
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น บอดี้การ์ดก็รู้สึกโทษตัวเอง “ครับ”
เด็กทั้งสองคนถูกส่งกลับวิลล่า โดยมีป้าหยูเป็นคนดูแล เสิ่นเผยซวนไม่วางใจ จึงโทรหาซูจ้าน ให้เขาไปที่วิลล่าดูแลอีกคน
ในโทรศัพท์ก็พูดไม่ละเอียด จึงได้แค่อธิบายเหตุการณ์คร่าวๆให้ฟัง “ฉันไม่ค่อยวางใจ นายไปดูแลหน่อยนะ”
ซูจ้านบอกเขาวางใจได้ เสิ่นเผยซวนวางโทรศัพท์
ศพของเฉิงยู่ซิ่วยังไม่ถูกส่งไปที่ห้องเก็บศพ แต่ถูกจัดไว้ในห้องผู้ป่วยชั่วคราว
ศพถูกคลุมด้วยผ้าขาว จงฉีเฟิงคุกเข่าอยู่ข้างเตียง กุมมือเย็นๆนั้นไว้
เขาคิดมากไป ว่าจะทำให้ร่างที่เย็นเฉียบนี้กลับมาอุ่นขึ้นอีกครั้ง
น้ำตาไหลออกมาโดยไม่มีเสียงใดๆ
“คุณบอกว่าจะอยู่กับผมไปจนแก่เฒ่า ทำไมถึงทิ้งผมไปแบบนี้ แม้แต่คำล่ำลาก็ไม่มี…… ”
เสียงของเขาทุ่มต่ำและเล็กมาก ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเจ็บปวด